26 เมษายน 2547 10:38 น.

ความลับ-ความรัก

~Dream Maker~

ความลับ... ได้ยินว่ามักเป็นสีดำ 
ความรัก... จำได้ว่าเป็นสีชมพู 

ความลับ... ได้ยินว่ามักเป็นสีดำ 
ความรัก... จำได้ว่าเป็นสีชมพู 

ความลับ... ต้องกระซิบข้างข้างหู 
ความรัก... อาจรับรู้ได้ด้วยหัวใจ 

ความลับ... ต้องมีการวางแผน 
ความรัก... จะกี่หมื่นแสนก็ยังยิ่งใหญ่ 

ความลับ... ถ้าบอกจะไม่ลับอีกต่อไป 
ความรัก... ได้ฟังเมื่อไหร่ก็ยังคงงดงาม 

ความลับ... ฟังแล้วอาจสงสัย 
ความรัก... มักไม่ต้องมีคำถาม 

ความลับ... ต้องเก็บให้ดีคือคำนิยาม 
ความรัก... อาจไม่ต้องให้คำจำกัดความมาปะปน 

ความลับ... จะไม่บอกให้ใครรู้ 
ความรัก... อยากให้ได้ฟังอยู่...ก็สุขล้น 

ความลับ... เข้าไปมากจะวกวน 
ความรัก... แค่อยู่ในใจใครสักคน...ก็เพียงพอ				
26 มีนาคม 2547 10:23 น.

ผมรักแม่ แต่ผมทำได้แค่นี้จริง ๆ

~Dream Maker~

มีครอบครัวหนึ่งอยู่กันมาอย่างรักใคร่กันเป็นที่สุดซึ่งเพื่อนบ้านต่างอิจฉากับความรักใคร่กันของครอบครัวนี้ 


ครอบครัวนี้มีด้วยกัน 4 คน มีแม่ และลูก ๆ อีก 3 คน วันหนึ่ง แม่ ก็เกิดเป็นโรคร้ายแรงขึ้นมานั่นก็คือ เป็นโรคหัวใจร้ายแรง 
จำเป็นต้องผ่าดัดเปลี่ยนหัวใจโดยด่วน 
ลูกชายทั้ง 3 รักแม่มาก 
และรู้ว่าตนเองนั้นต้องทำอะไรซักอย่างให้กับแม่บังเกิดเกล้าของเขา 


คนโตเป็นนักธุรกิจพันล้านมีธุรกิจใหญ่โต 
ได้รับผิดชอบในเรื่องของค่าใช้จ่ายในทุก ๆ ด้าน โดนยอมสละเวลาในการเซ็นสัญญาเพื่อมาคอยเฝ้าไข้คุณแม่ 


คนรองเป็นนายแพทย์ชั้นนำของโลก รับผิดชอบในการรักษาคุณแม่ และทำการเรียกประชุมสมาคมแพทย์ทั่วโลกเพื่อหาวิธีรักษาคุณแม่ของเขา 


คนเล็กนั้น ยังไม่มีงานทำ 
เนื่องจากตนนั้นมิได้มีความเฉลียวฉลาดเหมือนกับพวกพ! ี่ ๆ เขา และก็สำนึกตัวอยู่ตลอดว่าตนเองนั้นคงไม่มีกำลังพอที่จะช่วยแม่ที่เขา 
เทิดทูนได้อย่างที่พี่ ๆ ทั้ง 2 ทำได้ 
แต่เขารู้ว่าตนเองต้องทำอะไรซักอย่างเพื่อแม่ของเขา 
 
หนึ่งอาทิตย์ต่อมา การผ่าตัดหัวใจเป็นไปได้ด้วยดี และคุณแม่ก็ฟื้นขึ้นมาหลังจากหลับไปนานถึง 4 วันทีเดียว คุณแม่ได้พบหน้าลูกทั้งสองคน คือคนโตและคนรอง 


แต่กลับไม่ได้พบหน้าลูกคนเล็ก คุณแม่จึงถามลูก ๆ ทั้งสองว่า 
น้องไปไหน 


แต่คนโตกลับบ่ายเบี่ยงไปว่าคุณแม่พึ่งฟื้น ให้ทานอาหารก่อน 
แล้วเขาก็ออกไปนำอาหารมาให้คุณแม่ 
คุณแม่ถามคนรอง แต่คนรองก็บอกกับคุณแม่ว่า ผมต้องไปนำยามาให้แม่ทานหลังอาหาร และก็จากไป คุณแม่สงสัย เพราะอาการของลูกทั้งสองนั้นไม่ธรรมดาเลย 
เมื่อทุกคนอยู่พร้อมกันคุณแม่จึงถามขึ้นมาอีกครั้ง 


น้องอยู่ไหน 
ทั้งสองอ้ำอึ้ง และไม่มีใครที่อยากจะตอบคำถามแม่ของเขาเลย 


คุณแม่ย้ำ 
บอกมานะ น้องอยู่ที่ไหนกัน 
คนโตตอบคุณแม่ด้วยน้ำตาคลอเบ้า 


น้องอยู่ในหัวใจคุณแม่ครับ 


คุณแม่จังุงงงกับคำตอบของลูกชายคนโตมาก 
! ;จึงหันหน้าไปถามคนรองซึ่งกำลังร้องไห้อยู่เหมือนกัน หมายความว่าไงลูก 
คนรองตอบด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ 
ดวงตาเอ่อล้นด้วยหยดน้ำที่ยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุดหย่อน 
พวกเราสามคน พอรู้เรื่องว่าแม่ไม่สบาย ก็กระวนกระวายใจเป็นอย่างยิ่ง 
ผมและพี่ ได้ทำในสิ่งที่ตนเองทำได้และควรกระทำแล้ว และน้องก็ได้ทำสิ่งที่พวกผมไม่มีความกล้าพอที่จะทำได้ให้กับแม่ 


แม่ไม่เข้าใจ ลูก 
วันนั้นเป็นเวรของน้องที่จะมาเฝ้าไข้แม่ 
โดยที่พวกผมจะมาเปลี่ยนเวรกันในตอนเช้า 6 โมง เมื่อผมเข้ามาถึง 
กลับไม่เห็นน้องอยู่ในห้องของแม่ แต่มีโน๊ตเขียนไว้ตรงเตียงแม่ว่า 


พี่รอง ผมอยู่ในห้องน้ำ และไม่ต้องตกใจสิ่งใดทั้งสิ้น 
ผมก็เดินไปที่ห้องน้ำ ปรากฏว่า 
น้องได้ทำการฆ่าตัวตายโดนใช้มีดที่นำมา   ปลอกผลไม้ กรีดที่ข้อมือตัวเองในอ่างน้ำ โดนให้เลือดไหล ช้า ๆ เพื่อที่หัวใจจะยังสามารถทำงานและยังจะสามารถนำมาช่วยแม่ได้ 
น้องเขียนจดหมายไว้ในห้องน้ำว่า 
นำหัวใจผมไปช่วยแม่ ผมรักแม่ แต่ผมทำได้แค่นี้ น้องเสียแล้วเพราะเลือดไหลมากเกินไป และผมก็ได้นำหัวใจของน้องมาช่วยแม่ครับ 


! ไม่จริงใช่ไหมลูก น้องออกไปหางานทำเท่านั้นใช่ไหม อย่ามาหลอกแม่เลย 
ลูกคนโตปลอบโยนคุณแม่ที่ทำท่าปฏิเสธทั้งน้ำตาว่า 
แม่ครับ พวกผมสองคน ให้แม่ยังไม่ได้ครึ่งของน้องเลยครับ 
เราสามคนรักแม่มาก และผมก็เข้าใจน้องดีครับ แม่ทำใจนะครับ 
พวกเรา จะยังคงอยู่ด้วยกัน 4 คนเหมือนเดิม ไม่มีวันใดที่พวกเราจะแยกจากกันหรอกครับ 
แม่สะอื้น แต่เริ่มทำใจได้แล้ว 
แม่รักลูก รักลูกทุกคน และลูกทุกคน จะอยู่กับแม่เสมอ และตลอดไป 
ทั้ง 3 คน ร้องไห้ และพร่ำเรียกหาน้องคนเล็ก 
แม้เขาจะไม่มีโอกาสได้ยินเสียงของแม่และพี่ชายทั้งสองคนอีกครั้งก็ตาม 


อีเมล์นี้ผมได้จากเพื่อนส่งต่อมาให้อ่านแล้วผมประทับมากเลยครับเลยนำมาให้เพื่อนๆได้อ่านกัน				
26 มีนาคม 2547 10:17 น.

อ๋อหรอคะ

~Dream Maker~

>>>>>คนนั่งอยู่ด้านหน้า ต่างคนต่างมา
>>>>>คนด้านซ้ายมือแต่งตัวเหมือนคุณหญิงใส่เพชรใส่ทองมากมาย
>>>>>คนด้านขวาแต่งตัวเรียบ ๆ  แล้วผู้หญิง 2 คนก็เริ่มคุยกัน
>>>>>
>>>>>
>>>>>สาวเปรี้ยว        :  
สวัสดีค่ะมาเที่ยวคนเดียวเหมือนกันเหรอคะ
>>>>>
>>>>>สาวเรียบร้อย   :    ค่ะมาคนเดียว
>>>>>
>>>>>สาวเปรี้ยว        :    เนี่ย เดี๊ยน
ไม่ได้มาเที่ยวอย่างเดียวหรอกคะ
>>>>>กะว่าจะมาดูรถไปให้ลูกใช้ซัก 2 คัน
>>>>>
>>>>>สาวเรียบร้อย     : อ๋อเหรอคะ
>>>>>
>>>>>สาวเปรี้ยว         :   ตอนสมัยอยู่ฝรั่งเศส ก็ขับจากัวร์
>>>>>กับเฟอร์รารี่เจ้าคุณพ่อซื้อให้ค่ะเงินสดนะคะ
>>>>>
>>>>>สาวเรียบร้อย      : อ๋อเหรอคะ
>>>>>
>>>>>สาวเปรี้ยว          :   มานี่จะซื้อของขวัญให้ตัวเองซะหน่อย
>>>>>กะว่าจะซื้อเพชรกลับเมืองไทยซัก 50 กะรัต
>>>>>สาวเรียบร้อย      : อ๋อเหรอคะ
>>>>>
>>>>>สาวเปรี้ยว           : แล้วคุณน้องหล่ะคะ ชีวิตเป็นไงบ้างค่ะ
>>>>>
>>>>>สาวเรียบร้อย      :  ก็ไม่มีอะไรคะ ชีวิตเรียบง่าย
สมัยเรียนพ่อให้ไป
>เรียนในวัง
>>>>>ได้แต่เย็บปักถักร้อย ร้อยพวงมาลัย ทำขนม ครูห้ามพูดคำหยาบ
>>>>>ครูบอกว่าถ้าจะด่าใคร อีตอแหล ให้พูดว่า อ๋อเหรอคะ
>
				
26 มีนาคม 2547 10:12 น.

คุ๊กกี้

~Dream Maker~

ที่สนามบินนานาชาติระดับโลก มีนักธุรกิจหญิงแต่งตัวดี
>จำเป็นต้องรอเวลาถึง 3 ชั่วโมงในการเปลี่ยนเครื่องบินเพื่อไปจุดหมายปลายทาง 
>เธอจึงตัดสินใจเดินไปซื้อหนังสือ 1 เล่ม และคุ๊กกี้ 1 ห่อ 
>และเตรียมหาที่นั่งเพื่ออ่านและกิน ฆ่าเวลาไปพลาง ๆ เธอสอดส่ายมองหาที่นั่งได้

>1 แห่ง เมื่อนั่งลงก็เตรียมหนังสือและคุ๊กกี้ เพื่ออ่านและกินไปพลาง ๆ 
>เธอสังเกตเห็นว่าข้าง ๆ เธอมีชายหนุ่มซึ่งนั่งเหยียดกายอย่างไม่สนใจใคร 
>ว่าจะมีใครนั่งอยู่ข้าง ๆ เขา สักครู่หนึ่ง ขณะที่เธออ่านหนังสือ 
>ชายหนุ่มก็หยิบขนมคุ๊กกี้ออกจากถุงซึ่งวางอยู่ระหว่างคนทั้งสอง 
>แล้วกินมันอย่างละชิ้น เธอมองด้วยความโกรธ แต่ไม่ต้องการทำเรื่องวุ่นวาย 
>เธอจึงทำเป็นไม่สนใจ 
>เธอเริ่มรู้สึกเบื่อที่จะกินคุ๊กกี้และเฝ้ามองนาฬิกาในขณะที่ชายหนุ่มซึ่งเป็นผู้ขโมยไร้ยางอาย

>กำลังกินมันให้หมดสิ้นไป เธอเริ่มโมโหและคิดในใจว่า 
>ถ้าฉันไม่ใช่ผู้ดีมีการศึกษาแล้วละก็.... ฉันจะชกหน้าเจ้าหมอนี้ให้แหลกไปเลย

>ทุกครั้งที่เธอหยิบกิน 1 ชิ้น ชายหนุ่มก็หยิบมันกิน 1 ชิ้น 
>ทั้งสองส่งสายตามองกัน เมื่อคุ๊กกี้เหลือเพียงชิ้นสุดท้าย 
>เธอหยุดและอยากรู้ว่าชายหนุ่มจะทำอย่างไร ชายหนุ่มค่อย 
>ๆหยิบคุ๊กกี้ชิ้นสุดท้ายแล้วหักออกเป็น 2 
>ชิ้นส่งให้เธอครึ่งชิ้นและกินเองครึ่งชิ้น 
>เธอรับจากชายหนุ่มอย่างรวดเร็วและคิดในใจว่า เขาช่างเป็นคนไร้มารยาทสุดะ ๆ 
>ช่างไร้การศึกษา ไม่มีแม้แต่พูดขอบคุณสักคำธ 
>เธอลุกขึ้นหยิบข้าวของทั้งหมดแล้วตรงไปยังประตูขึ้นเครื่อง 
>ไม่แม้แต่เหลียวหลังกลับมามองหัวขโมยผู้ไร้มารยาทซึ่งยังนั่งอยู่ที่เดิม 
>ภายหลังจากขึ้นเครื่องและนั่งประจำที่อย่างสบายแล้วเธอก็หยิบหนังสือที่อ่านค้างอยู่ขึ้นมาอีกครั้ง

>ในขณะที่หยิบหนังสือจากกระเป๋า ก็พบว่ามีขนมคุ๊กกี้ 1 ห่อ 
>เธอตกใจมากถ้าคุ๊กกี้ของฉันยังอยู่ที่นี่ ก็แปลว่า..... 
>คุ๊กกี้ห่อนั้นเป็นของชายหนุ่มที่แบ่งให้เธอกินเธอลุกขึ้นทันที 
>แล้ววิ่งออกจากเครื่องบินไปยังที่นั่งของชายหนุ่ม 
>แต่คงเหลือแต่ที่นั่งว่างเปล่า มันสายไปเสียแล้วที่จะได้ขอโทษชายหนุ่ม 
>ระหว่างเดินกลับเข้าเครื่อง เธอรู้สึกเจ็บปวดหัวใจ เธอนั่นเองที่ไร้มารยาท 
>เป็นหัวขโมยที่ไร้การศึกษาตัวจริง **มีกี่ครั้งในชีวิตของคนเรา 
>ที่ค้นพบในภายหลังว่า สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นมันไม่ใช่เรื่องจริง 
>มันเป็นการเข้าใจผิด **มีกี่ครั้งในชีวิตที่เราขาดความไว้วางใจผู้อื่น 
>และทำให้เราตัดสินผู้อื่นจากความคิดเย่อหยิ่งของเราเองซึ่งห่างไกลจากความเป็นจริงมากมาย

>นี่แหละที่ทำให้เราต้องคิดซ้ำแล้วซ้ำอีกก่อนตัดสินผู้อื่น หลาย ๆ 
>สิ่งไม่ได้เป็นอย่างที่เห็น ควรมองผู้อื่นในแง่ดี แล้วคอยสังสัยตัวเองว่า 
>"เรามองโลกในแง่ดีพอแล้วหรือยัง?
เราเคยแบ่งปันอะไรแก่คนอื่นบ้างหรือไม่????				
14 มีนาคม 2547 11:22 น.

ทดสอบสิ่งที่คุณให้ความสำคัญ

~Dream Maker~

เริ่มที่ว่ามีคนอยู่ห้าคน ชื่อ L S M B F
 >L(หญิง) เป็นแฟนกับ M(ชาย)
> >ทั้งสองมีเหตุให้ต้อง
> >อยู่ห่างไกลกันมาก
> >โดยที่ L ก็ไม่รู้ว่า M อยู่ที่ไหน
> >L คิดถึง M มาก อยากไปหา M แต่ก็ไม่รู้จะไปอย่างไร
> >B บอกว่า B รู้ว่า M อยู่ที่ไหน จะอาสาพา L ไปหา M
> >แต่ L จะต้องให้เงิน B ก้อนหนึ่งถือเป็นค่าจ้าง
> >B ขอเงินมากพอสมควร
> >L ก็ไม่มีจะให้ แต่ก็อยากไปหา M ...
> >S รู้เรื่องเข้า ก็บอก L ว่า
> >S มีเงินมากพอที่จะให้ L เอาไปให้ B เพื่อให้ B พาไปหา M
> >แต่ L ต้องมีสัมพันธ์สวาท(เซ็นเซอร์)กับ S คืนนี้ก่อนแล้ว S
>จึงจะให้เงิน
> >L
>L ก็ยอมเพราะอยากไปหา M
> >F เป็นเพื่อน M F รู้เรื่องสัมพันธ์สวาทของ L กับ S
> >เข้าก็ไปบอก M พอ M รู้เข้าก็โมโหมาก เลิกกับ L ไปเลย
> >สรุปแล้ว L เจ็บปวดที่สุดเลยเสีย virgin
> >แล้วแฟนยังขอเลิกอีก
> >คำถามมีอยู่ว่า ในเรื่องนี้ใครผิดมากสุด
> >แล้วใครผิดน้อยสุด?
> >
> >อย่าพึ่งแอบดูคำตอบนะ
> >เป็นคำถามทายใจให้คิดก่อน
> >ถ้ายังไม่คิดให้กลับไปอ่านแล้วคิดก่อนนะ
> >
 >ได้คำตอบหรือยัง?
> >
>
>
>
>
>
>
>
>
>
>
>
>
>
>
>
>
>
> >
> >
> >
>
>
 >คำตอบก็คือ
> >
> >ถ้าคิดว่าคนไหนผิดน้อยที่สุดนั่นแสดงว่า
> >คุณให้ความสำคัญกับสิ่งนั้นมากที่สุด
> >
> >และคิดว่าคนไหนผิดมากสุด
> >ก็ให้ความสำคัญกับสิ่งนั้นน้อยที่สุด
> >
> >L=LOVE
> >M=MORAL
> >B=BUSINESS
> >S=SEX
> >F=FRIEND				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟ~Dream Maker~
Lovings  ~Dream Maker~ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟ~Dream Maker~
Lovings  ~Dream Maker~ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟ~Dream Maker~
Lovings  ~Dream Maker~ เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึง~Dream Maker~