5 มกราคม 2545 01:12 น.
dokkoon
กุหลาบแดงแฝงรักปักแจกัน
กลิ่นหอมกลั่นกลิ่นฟุ้งคลุ้งกลิ่นหอม
สีแดงสดหมดช่อขอดมดอม
ผึ้งไต่ตอมเพราะหอมหวลชวนสนใจ
เวลาผ่านไม่นานวันพลันหันเห
กุหลาบเทกลีบหล่นหม่นหมองไหม้
กลิ่นเคยหอมชวนดมดอมย่อมหมดไป
เหลือทิ้งไว้ซากกลีบใบไม่ชวนชม
อาจเคยเพ่งพิศคิดชมชื่น
แต่วันคืนผ่านผันพลันขื่นขม
สุขอาจกลับปรับไปกลายเป็นตรม
ความสุขสมไม่คงคู่อยู่ยั่งยืน
ทุกอย่างเปลี่ยนไปตามเกณฑ์กฏ
เหมือนกันหมด เกิด แก่ เจ็บ ตาย ไม่อาจฝืน
กฏธรรมชาติไม่พลาดยังยั่งยืน
ทุกอย่างคืนสู่สามัญที่มันมา
5 มกราคม 2545 00:43 น.
dokkoon
แม้มอบรักหมดใจพี่นี่แล้วน้อง
ยังไม่หวังครอบครองใจน้องได้
ความรักก็คือรักที่อยากให้
ไม่หวังการตอบแทนใดอยากได้มา
จะรักตอบชอบใจหรือไม่นั้น
ปล่อยให้มันเป็นไปตามใจหนา
ไม่บังคับจับจองใจน้องยา
หากแก้วตารับรักไว้คงใจพอง
5 มกราคม 2545 00:14 น.
dokkoon
ยอมรับว่าชะตาฟ้ากำหนด
ชีวิตจะตรงคดกำหนดแล้ว
สวรรค์สรรสร้างวางแนว
เพริศแพร้วหรือต่ำต้อยถูกร้อยเรียง
แต่ชะตาที่ฟ้ามากำหนด
คงไม่หมดทางเปลี่ยนให้เบนเบี่ยง
ชีวิตเราเป็นอย่างไรใช่ขึ้นเพียง
ชะตาที่เหวี่ยงไปให้เป็นตาม
ชีวิตเรายังมีสิทธิ์
จะลิขิตได้เองอย่าเกรงคร้าม
จะสดใส ชั่วดี หรืองดงาม
ล้วนเป็นตาม เราทำหมด กำหนดเอง
3 มกราคม 2545 00:43 น.
dokkoon
ก่อนฝนฟ้าหม่นปนหมองเศร้า
ลมพัดเคล้าฝุ่นฟุ้งให้ยุ่งเหยิง
ฟ้าแลบฟ้าร้องส่องแสงเพลิง
ไม่ร่าเริงเมื่อฟ้าเศร้าเร้าเราเหงา
ฟ้าหลังฝนงามงดหมดฟ้าหมอง
ก่อนฝนฟ้าหม่นฟ้าร้องฟ้าหมองเศร้า
หลังฝนหมดสิ้นเมฆสีดำเทา
ฟ้าใสเคล้าอากาศเย็นเป็นชื่นบาน
ก่อนสำเร็จเสร็จสมใจ
อุปสรรคมากมายได้พบพาน
ก่อนสมหวังก่อนสำราญ
ต้องต้านทานมารผจญ
เหมือนกับอยากเห็นฟ้าใส
ต้องทำใจดูหลังฝน
ไม่เกลียดฟ้าดำคล้ำหม่น
เมื่อฝนหล่นฟ้าใสใสจึงได้มา
2 มกราคม 2545 14:38 น.
dokkoon
ครึ่งฟ้าค่อนแผ่นดินหมื่นหินผา
หรือจักมากั้นรักของสองเราได้
ระยะทางที่ห่างต่างแสนไกล
ไม่อาจห้ามใจให้ห่างไกลกัน
ระยะทางก็เป็นเช่นเครื่องวัด
เป็นบรรทัดวัดใจเธอและฉัน
อยู่ไกลใจเปลี่ยนได้หรือไรกัน
รักจริงนั้นย่อมรอได้แม้ไกล-นาน