22 พฤศจิกายน 2546 19:38 น.
doctorchira
@ท่องไปเหนือนชลธีที่กว้างใหญ่ ล่องเรือไปสุดสายตาขอบฟ้าขาว
แสงอาทิตย์ส่องนทีงามวับวาว เหมือนหนึ่งราวมรรคาสู่บาดาล
มองเกลียวคลื่นที่โถมตัวรัวสะบัด เหมือนป้องปัดขวางทางเรือไม่เกื้อสาน
เสียงคำรามจากเกลียวคลื่นก้องกังวาล เหมือนทัดทานผู้ที่กล้ามาฝ่าชล
@หมู่ปักษาถลาร่อนลงผิวน้ำ ที่คราคร่ำมวลหมู่ปลามาเป็นฝูง
วัฎจักร์แห่งสัตว์โลกล้วนชักจูง ผู้อยู่สูงต้องพิฆาตผู้ราบดิน
แสงอาทิตย์อัสดงค่ำลงแล้ว ไม่เห็นแนวพื้นแผ่นดินทางคืนถิ่น
เห็นขอบฟ้าและสายน้ำเป็นอาจินต์ ความถวิลคือคืนบ้าน....พรานทะเล
19 พฤศจิกายน 2546 22:48 น.
doctorchira
@นั่งชื่นชมชลาลัยใสสะอาด น้ำซัดสาดริมชายฝั่งสั่นสยิว
สายนทีฟุ้งฟ่องกระจายปลิว ลมพัดฉิวหอบละอองมาต้องกาย
น้ำไหลเอื่อยเฉื่อยฉ่ำตามธารน้ำ ระริ้วย่ำระลอกไล่แล้วคลายหาย
เสียงกระซิบจากนทีพลันมลาย ความวุ่นวายก็ผ่อนคลายไร้สำเนียง
@ละอองน้ำปลิวต้องกายใจแทบขาด เหมือนฟ้าฟาดต้องดวงใจไห้โหยหวน
สายน้ำและกาลเวลาเมื่อใคร่ครวญ มิเคยหวลย้อนคืนกลับล้วนลับลา
ที่ชื่นชมรมณีย์กับชีวิต ที่สมคิดที่วาดหวังผ่านไปหนา
เหลือแต่คราบความช้ำและน้ำตา หลั่งออกมาถมนทีไม่มีเต็ม
@จะขอหยุดจิตกายเป็นเช่นสายน้ำ ไหลเฉื่อยฉ่ำผ่อนแผ่วไปแล้วโรยหาย
ตั้งใจเลิกไม่มุ่งหวังให้กลับกลาย ตามสบายไหลผ่านไปไม่หวลคืน
จะขอทิ้งคราบความช้ำไว้ข้างหลัง ไม่ขอรั้งอดีตกาลที่เฝ้าขืน
จะปล่อยสิ้นแล้วตั้งมั่นลุกขึ้นยืน คว้าความชื่นให้ชีวิตอีกสักครา
17 พฤศจิกายน 2546 21:03 น.
doctorchira
@จะหักใจไม่ขอคิดคนึงถึง ว่าครั้งหนึ่งเรามีรักสมัครสมาน
เพื่อนคู่คิดมิตรคู่เรือนเคียงสำราญ ผู้ขัดเกลาสันดานตัวของเรา
เคยชื่นชู้คู่สมสุขสนุกนัก ครองคู่รักครองคู่สุขให้คลายเหงา
คอยดูแลทุกข์และสุขทั้งหนักเบา เธอคอยเฝ้าเติมความหวังกำลังใจ
@คอยห่วงใยคอยเติมฝันคอยพันผูก คอยปูฟูกคอยวางหมอนนอนเคียงใกล้
คอยปลอบขวัญคอยถามไถ่ความในใจ คอยเอาใจดูแลให้เรื่องอยู่กิน
คอยจัดหาสารพัดคอยคัดสรร คอยป้องกันเรื่องร้อนร้ายให้ไปสิ้น
คอยแก้ต่างให้ตัวเราไร้มนทิน คอยยลยินระวังภัยให้ตัวเรา
@ณ.วันนี้เธอล่วงลับไม่กลับแล้ว ไร้วี่แววที่จะฟื้นคืนมาหา
ทิ้งไว้แต่คุณความดีที่ตรึงตรา แนบอุราของตัวเราตราบนิรันดร์
ต่อไปนี้คงสิ้นแล้วทางสุขสันต์ ต้องฝ่าฟันไปเดียวดายไร้คู่ฝัน
อย่าเพิ่งไปจุตินะยอดชีวัน ไม่นานวันพี่จะตามไปพบเธอ
17 พฤศจิกายน 2546 00:26 น.
doctorchira
@ฟ้าสะท้านดินสะเทือนน้ำสยบ ทั่วพิภพล้วนสงบใต้เท้าข้า
หุบผาลึกภูผาใหญ่ไพรพนา ล้วนเกรงข้าเหยียบย่ำเข้าทำลาย
มหานทีและหมู่เกาะใหญ่และน้อย ถ้าไม่คล้อยเปิดทางข้าต้องราบหาย
เหล่าบรรดาสรรพสัตว์ต้องวอดวาย ต้องล้มตายกลายเป็นพรมรองบาทา
@พิชิตไปทุกเขตคามทั้งสามภพ เที่ยวท้ารบเทวดาและภูติผี
แม้บาดาลขุมนรกอเวจี เมื่อข้าลี้ก็ต้องหลบหมดทุกราย
เทพเจ้าแห่งสงครามผู้ไม่พ่าย แต่มลายเพราะพ่ายรักน่าใจหาย
เทพสงครามผู้มากล้นอันตราย ต้องกลับกลายเป็นเทพเจ้าความระทม
@ศาลเจ้าแห่งความระทมคนเชื่อถือ เสียงเล่าลือขจรไกลกว้างไพศาล
ว่าศักดิ์สิทธิ์ยิ่งนักตามตำนาน ดลบรรดาลสัมฤิทธิ์สุขให้ทุกคน
ผู้ใดที่ทุกข์ระทมไม่สมรัก เกื้อกูลขักเอื้อคู่ให้ได้สุขสม
แต่รู้ไหมตัวของเทพความระทม ไร้หน้ามลมาเป็นคู่อยู่เอกา
11 พฤศจิกายน 2546 01:39 น.
doctorchira
@เดือนสิบสองคืนวันเพ็ญสิบห้าค่ำ เหมือนเตือนย้ำความสนุกครั้งสุขสม
ประเพณีลอยกระทงตามนิยม ดวงจันทร์กลมงามเลิศล้ำสุดรำพัน
เงาจันทร์ทาบบนผิวน้ำปานสร้างสรร เธอและฉันเหมือนเคียงคู่อยู่สวรรค์
กระทงน้อยคล้อยเคียงคู่อยู่นิรันดร์ สุขอนันต์ดังสวรรค์ประทานพร
@ลอยความทุกข์ให้หายไปกับสายน้ำ หลอมความจำครั้งร้อยเรียงเคียงสมร
กรองความหวานกลั่นความชื่นเอื้ออาทร สร้างนุสรณ์แห่งชีวิตติดตรึงใจ
สิบห้าค่ำเดือนสิบสองของปีนี้ น้ำล้นปรี่มีมากมายเกินพิสัย
เพราะน้ำตาที่ล้นร่วงจากดวงใจ มาเติมใส่ให้ล้นหลามฝั่งนที
@ดวงจันทร์เพ็ญเด่นนภาฟ้าสลัว ใจมืดมัวไม่สดใสไร้ราศรี
ไร้กระทงที่ลอยทุกข์เหนือนที เพราะไม่มีนวลนางมาข้างกาย
ยืนระทมอมทุกข์ความสุขหาย อยู่เดียวดายบนตลิ่งสิ้นความหมาย
กายสงบนิ่งสนิทจิตมลาย ช่างวุ่นวายจริงหนอวันลอยกระทง
@จิตสลดรันทดถมจมความทุกข์ มลายสุขที่ตรึงใจใฝ่ไหลหลง
ท้อแท้ทาบจับจิตใจได้แต่ปลง ความทนงในใจกายมลายไป
อยู่คนเดียวเปลี่ยวกายใจไฟเศร้าสุม ความทุกข์รุมร้อนเร่งเร้าเข้าเสือกใส
เปรียบเหมือนนอนบนกองฟอนที่สุมไฟ รอเมื่อไรจะเผาใจให้ละลาย