23 พฤศจิกายน 2546 19:00 น.
doctorchira
@ระเริงรื่นชื่นชวนชมพงไพรพฤกษ์
อึกทึกเสียงนกกาพาแว่วหวาน
เสียงสายลมไล้กิ่งไม้ใสกังวาล
นทีขานขับลำนำฟังแสนเพลิน
ตะวันแดงแรงแสงกล้าฟ้าสว่าง
โลมไล้ร่างพสุธาพาให้เขิน
มวลแมกไม้กางใบป้องกันหยอกเอิน
คลุมทางเดินเข้าสู่ไพรให้ร่มเงา
@พฤกษ์พนามีมากมายล้วนหลายหลาก
ต้นไม้หมากกล้วยไม้ไทยใบไม้เถา
กุหลาบสีบัวพุดเข็มแดงสะเดา
แคกันเกราการเวกอัญชลี
ไผ่สายหยุดพุทธชาติราชพฤกษ์
จวงผลึกบุญนาคหีบเพลงสี
เต็งแต้วแก้วศรีมาลาสารพี
พุดสามสีพิกุลจิกพวงศจี
@สายน้ำผึ้งพวงหยกกกรกฟ้า
พวงพกาชลูดช้างแพรสาหรี่
แก้วเจ้าจอมลำดวนดงราชาวดี
หลิวทิวาราตรีประยงค์ดง
เต่าพวงครามจันทร์กระพ้อค้อสาวหลง
ประดู่ยงโมกกระจับตีบกาหลง
แย้มปีนังมะลิวัลย์แก้วลืมดง
กำยานปรงปาล์มสาละยอตระเบา
@โพธิ์จันผาไทรโมกสุกรมป่า
กระทิงบ้าฟ้าลั่นตันหยงเสร้า
สนคัดเค้าจามจุรีจากขี้เมา
กรวยตับเต่าโศกชวนชมมัลลิกา
สารพัดชื่นชมได้ในพงป่า
กลิ่นบุหงารัญจวนใจให้ไฝ่หา
หวลถวิลถึงกลิ่นแก้มเจ้ากานดา
ต้องออกมามุ่งสู่ถิ่นกลิ่นของนาง
http://www.thummada.com/cgi-bin/iB3/ikonboard.cgi?s=3dc2767c2a86ffff;act=ST;f=9;t=135#
สวนของผมเองไม่ใช่ป่าที่ไหน จึงมีทั้งไม้ไทยไม้นอกมั่วไปหมด
23 พฤศจิกายน 2546 07:11 น.
doctorchira
@พเนจรท่องเที่ยวไปในไพรพฤกษ์
ความรู้สึกเหมือนหนึ่งได้ไปสวรรค์
รื่นรมย์อยู่กับพฤกษานานาพันธ์
เหมือนร่มกั้นแผ่นฟ้าที่ทาดิน
ลมระริกลู่ละริ้วพริ้วระลอก
สัพยอกแกว่งไกวใบไม้ดิ้น
ใบเหลืองเหลืองปลิดโรยร่วงหล่นสู่ดิน
เหมือนปลายลิ้นของตะวันถูกบั่นลง
@มวลบุปผาบานส่งกลิ่นประทินป่า
กลิ่นบุหงามาลัยอบไพรสนฑ์
หอมอบอวลกลิ่นฟุ้งรสสุคนธ์
เคลิ้มใจคนให้ถวิลถึงกลิ่นนาง
เสียงนทีที่สาดสายพรายน้ำใส
กระซิบไล่ฝั่งนทีที่มาขวาง
เสียงนกน้อยจากพงพฤกษ์เหมือนเสียงนาง
ร้องเบิกทางพรานพนาเข้ามาชม
22 พฤศจิกายน 2546 19:38 น.
doctorchira
@ท่องไปเหนือนชลธีที่กว้างใหญ่ ล่องเรือไปสุดสายตาขอบฟ้าขาว
แสงอาทิตย์ส่องนทีงามวับวาว เหมือนหนึ่งราวมรรคาสู่บาดาล
มองเกลียวคลื่นที่โถมตัวรัวสะบัด เหมือนป้องปัดขวางทางเรือไม่เกื้อสาน
เสียงคำรามจากเกลียวคลื่นก้องกังวาล เหมือนทัดทานผู้ที่กล้ามาฝ่าชล
@หมู่ปักษาถลาร่อนลงผิวน้ำ ที่คราคร่ำมวลหมู่ปลามาเป็นฝูง
วัฎจักร์แห่งสัตว์โลกล้วนชักจูง ผู้อยู่สูงต้องพิฆาตผู้ราบดิน
แสงอาทิตย์อัสดงค่ำลงแล้ว ไม่เห็นแนวพื้นแผ่นดินทางคืนถิ่น
เห็นขอบฟ้าและสายน้ำเป็นอาจินต์ ความถวิลคือคืนบ้าน....พรานทะเล
19 พฤศจิกายน 2546 22:48 น.
doctorchira
@นั่งชื่นชมชลาลัยใสสะอาด น้ำซัดสาดริมชายฝั่งสั่นสยิว
สายนทีฟุ้งฟ่องกระจายปลิว ลมพัดฉิวหอบละอองมาต้องกาย
น้ำไหลเอื่อยเฉื่อยฉ่ำตามธารน้ำ ระริ้วย่ำระลอกไล่แล้วคลายหาย
เสียงกระซิบจากนทีพลันมลาย ความวุ่นวายก็ผ่อนคลายไร้สำเนียง
@ละอองน้ำปลิวต้องกายใจแทบขาด เหมือนฟ้าฟาดต้องดวงใจไห้โหยหวน
สายน้ำและกาลเวลาเมื่อใคร่ครวญ มิเคยหวลย้อนคืนกลับล้วนลับลา
ที่ชื่นชมรมณีย์กับชีวิต ที่สมคิดที่วาดหวังผ่านไปหนา
เหลือแต่คราบความช้ำและน้ำตา หลั่งออกมาถมนทีไม่มีเต็ม
@จะขอหยุดจิตกายเป็นเช่นสายน้ำ ไหลเฉื่อยฉ่ำผ่อนแผ่วไปแล้วโรยหาย
ตั้งใจเลิกไม่มุ่งหวังให้กลับกลาย ตามสบายไหลผ่านไปไม่หวลคืน
จะขอทิ้งคราบความช้ำไว้ข้างหลัง ไม่ขอรั้งอดีตกาลที่เฝ้าขืน
จะปล่อยสิ้นแล้วตั้งมั่นลุกขึ้นยืน คว้าความชื่นให้ชีวิตอีกสักครา
17 พฤศจิกายน 2546 21:03 น.
doctorchira
@จะหักใจไม่ขอคิดคนึงถึง ว่าครั้งหนึ่งเรามีรักสมัครสมาน
เพื่อนคู่คิดมิตรคู่เรือนเคียงสำราญ ผู้ขัดเกลาสันดานตัวของเรา
เคยชื่นชู้คู่สมสุขสนุกนัก ครองคู่รักครองคู่สุขให้คลายเหงา
คอยดูแลทุกข์และสุขทั้งหนักเบา เธอคอยเฝ้าเติมความหวังกำลังใจ
@คอยห่วงใยคอยเติมฝันคอยพันผูก คอยปูฟูกคอยวางหมอนนอนเคียงใกล้
คอยปลอบขวัญคอยถามไถ่ความในใจ คอยเอาใจดูแลให้เรื่องอยู่กิน
คอยจัดหาสารพัดคอยคัดสรร คอยป้องกันเรื่องร้อนร้ายให้ไปสิ้น
คอยแก้ต่างให้ตัวเราไร้มนทิน คอยยลยินระวังภัยให้ตัวเรา
@ณ.วันนี้เธอล่วงลับไม่กลับแล้ว ไร้วี่แววที่จะฟื้นคืนมาหา
ทิ้งไว้แต่คุณความดีที่ตรึงตรา แนบอุราของตัวเราตราบนิรันดร์
ต่อไปนี้คงสิ้นแล้วทางสุขสันต์ ต้องฝ่าฟันไปเดียวดายไร้คู่ฝัน
อย่าเพิ่งไปจุตินะยอดชีวัน ไม่นานวันพี่จะตามไปพบเธอ