17 พฤศจิกายน 2553 17:09 น.
din
***********
หลงรูป สุดสวย รวยเสน่ห์
หลงเล่ห์ รักลวง ทรวงผวา
หลงคิด ผิดแล้ว นะแก้วตา
หลงคว้า อากาศ อนาถใจ
13 พฤศจิกายน 2553 16:43 น.
din
*****
หากมีม่าน อันใด บังใจอยู่
โปรดรับรู้ ตรงนี้ ยังมีฉัน
ท่ามความร้อน แสงจ้า แห่งตาวัน
ใช่โศกศัลย์ เหงาอยู่ แต่ผู้เดียว
หากมีม่าน อันใด บังใจอยู่
โปรดรับรู้ มีคน ที่แลเหลียว
ท่ามลมกราว หนาวพัด สะบัดเกรียว
ใช่โดดเดี่ยว เปลี่ยวคว้าง ร้างรักลา
หากมีม่าน อันใด บังใจอยู่
โปรดรับรู้ ยังมี คนห่วงหา
ท่ามสายฝน โปรยฉ่ำ ดั่งน้ำตา
อย่าโศกา ชาชิน จนสิ้นแรง
หากมีม่าน อันใด บังใจอยู่
โปรดรับรู้ ที่นี่ ยังมีแสง
สาดโลมไล้ ปลอบผู้ ที่อ่อนแรง
ให้แข็งแกร่ง สู้โลก โชคชตา
โปรดเปิดม่าน บังใจ เพื่อรับรู้
ในสนาม นักสู้ ผู้หาญกล้า
ต้องเรียนรู้ เล่ห์กล มนต์มายา
เพื่อฟันฝ่า ถึงฝัน อย่างมั่นใจ
*****************************************
9 พฤศจิกายน 2553 14:57 น.
din
>>>>
เพราะไม่รู้ สักนิด ถึงพิษรัก
จึงจมปลัก ปล่อยกมล จนตรมไหม้
ต้องขมขื่น ร้าวรวด ปวดดวงใจ
ดุจเปลวไฟ แผดผลาญ รานชีวี
เมื่อบทเพลง สุดท้าย คือตายจาก
เหลือเพียงซาก รักร้าง กลางวิถี
หลงระเริง เหลิงใน ไฟโลกีย์
จึงชีวี มอดดับ กับไฟลวง
5 พฤศจิกายน 2553 18:01 น.
din
ใยบางบาง กางกั้น ความเป็นเพื่อน
มันเลือนเลือน วูบดับ ก่อนลับหาย
ความคิดถึง เธอนั้น มันมากมาย
จึงคลับคล้าย อยู่ระหว่าง ความร้อน-เย็น
ที่ว่าร้อน ร้อนรุ่ม ด้วยกลุ้มจิต
ได้แต่ปิด รักไว้ ไม่ให้เห็น
ความรู้สึก มากมาย หลายประเด็น
เราแค่เป็น เพื่อนกัน เท่านั้นเอง
ที่ว่าเย็น เย็นฉ่ำ ในน้ำจิต
ที่มิ่งมิตร มีให้ ไม่ข่มเหง
ต้องกล้ำกลืน ฝืนกมล บอกตนเอง
ใจเส็งเคร็ง มันไม่ฟัง ทำไงดี?