17 กุมภาพันธ์ 2554 18:00 น.
din
เหมือนความฝันถึงจุดความสุดสิ้น
เหมือนดวงจินต์แทบแยกแตกสลาย
เหมือนเรือน้อยคล้อยฝั่งอย่างเดียวดาย
เหมือนรักคลายพร้อมอาทิตย์ลาดวง
เหมือนดาวดับลับหายจากปลายฟ้า
เหมือนใบไม้โรยราน้ำตาร่วง
เหมือนลมโกรกโบกย้ำ...ช้ำในทรวง
เหมือนรักลวงหลอนใจให้ระทม
ไหนล่ะวันเรารื่นเคยชื่นสุข
แล้วใยทุกข์หม่นหมองต้องขื่นขม
คลื่นซัดซ่าหาฝั่งดั่งตรอมตรม
จะชื่นชมรักแท้ก็แปรปรวน
เหมือนรุ่งสางเงาฝันอันด่ำดื่ม
เหมือนนกปลื้มอิสระจะผกผวน
เหมือนเมษาพาฝันมันเรรวน
ความรัญจวนลอยลับไม่กลับคืน
9 กุมภาพันธ์ 2554 18:25 น.
din
***
เพราะโลกมันกว้างใหญ่กว่าใจคิด
หากก้าวผิดพลั้งบ้างจะได้ไหม?
เมื่อทุกสิ่งที่เห็นไม่เป็นไป
ตามที่ใจปรารถนาอย่าร้าวราน
เคยล้มลงอย่างนี้แล้วกี่ครั้ง
ชีพก็ยังแกร่งกร้าวและห้าวหาญ
อยากให้เป็นเช่นนี้นานเท่านาน
เพื่อก้าวผ่านอุปสรรคหนักหนักไป
เมื่อโลกมันกว้างใหญ่กว่าใจคิด
จะหันเหชีวิตไปทิศไหน
ขมิ้นน้อยบินคว้างกลางพงไพร
ค่ำที่ไหนนอนนั่นไม่หวั่นกลัว
หลอกตัวเองเรื่อยมาว่าเข้มแข็ง
ฟ้าไร้แสงดำมืดชืดสลัว
อีกคลื่นลมโถมซ้ำกระหน่ำรัว
จึงมืดมัวอับจนหนทางตัน
เมื่อล้มลงเจ็บจุกลุกไม่ไหว
ยังตั้งใจก้าวย่างบนทางฝัน
เส้นชัยของชีวิตคิดฝ่าฟัน
และบากบั่น...ด้วยมือเท้า...ของเราเอง
พฤหัส 3 กุมภาพันธ์ 2554 (21.30 น.)
2 กุมภาพันธ์ 2554 17:39 น.
din
แว่วเสียงคลื่นลมคล้ายใครร้องไห้
ดุจดวงใจร้าวรอนอ่อนระโหย
เหมือนเขาลงแซ่ซ้ำกระหน่ำโบย
ความหวังโรยแรงราแทบบ้าตาย
ในคืนที่ดาวดับอับแสงไข
น้ำตาไหลรินหลั่งพรั่งเป็นสาย
เมื่อสิ่งที่เคยหวังพังทลาย
จึงเหลือเพียงเปล่าดายในสายลม
แว่วเสียงคล้ายหัวใจใครสะอื้น
น้ำตารินสุดฝืนความขื่นขม
ฟังเสียงคลื่นลมคล้ายใจตรอมตรม
ความระทมเป็นเพื่อนที่เหมือนเดิม
เสียงร้องไห้ของใครใยคล้ายฉัน
ความจาบัลย์ทดท้อมาต่อเสริม
เมื่อลมโกรกโบกย้ำเข้าซ้ำเติม
ก็เหมือนเพิ่มทุกข์ให้หัวใจเรา
ฉันแว่วเสียงหัวใจใครสะอื้น
ต้องกล้ำกลืนฝืนข่มอารมณ์เหงา
เพียงสายหมอกหยอกไล้ไอบางเบา
คงบรรเทาเศร้าหายคลายระทม
แว่วแว่วเสียงหัวใจใครร้องไห้
ฟังเสียงคลื่นตื้นใจใครขื่นขม
หรือเพียงเสียงสะอื้นของสายลม
จะจ่อมจมอย่างนี้สักกี่วาร?
30 มกราคม 2554 (01.15 น.)