29 กรกฎาคม 2554 17:00 น.
din
ขีดเขียนขานขัดข้อง..........หม่นหมองจิต
คงครุ่นคิดคัดค้น...............จนตรมไหม้
เรียงร้อยรจรินรื่น...............ชื่นทรวงใน
จารจดใจจำจาก................ก่อนพรากลา
วนเวียนว่ายวอนวก............สะทกจิต
ชมเชยชิดชาชิน................จินต์ผวา
ดาวดวงเดิมด่าวดิ้น............สิ้นเมตตา
มองเมียงมามอดหมด.........สลดใจ
ลับแลลอยเลื่อนลา.............น้ำตาตก
วิเวกวกหวิวหวั่น...............จนสั่นไหว
ระรวยรินเรียนรู้................สู้ต่อไป
ปลิวปลดไปปล่อยปลด........หมดราคา
ดุจดุ่มเดินดั้นด้น..............บนทางเปลี่ยว
ไร้แรงเรี่ยวโรยริน............ถวิลหา
เอนอกอิงโอบเอื้อ.............เพื่อแก้วตา
คลอนแคลนค่าคลายคง......ลงที่ใด
ขีดเขียนขานข้องขัด...........ขจัดได้
ถ้าถามไถ่ถ้อยถึง...............จึงสงสัย
เพียงพากเพียรเพ่งพิศ........พินิจนัย
เสริมส่งใส่สืบสาน..............กานท์กวี
.................................
21 กรกฎาคม 2554 18:25 น.
din
ด้วยลีลากินรินจากถิ่นสรวง
ทุกท่าท่วงหลอนใจให้ไหวหวั่น
กลางป่าเปลี่ยวเคว้งคว้างระหว่างวัน
ฉันเริ่มฝันถึงวันในความคิด
จะโผผินบินไปในฟากฟ้า
สร้างอาณาจักรฝันอันไพจิตร
เอาสายรุ้งโยงใยไว้เชยชิด
เนรมิตวิมานบนลานดาว
ประคองแก้วกลางใจที่ใสส่อง
โอบนวลน้องกินรินบินสู่หาว
ชมวิมานลอยฟ้าวะวับวาว
ที่แพรวพราวราวเพชรเกล็ดมณี
จะเก็บดาวร้อยเรียงไว้เคียงขวัญ
เก็บไม้พันธ์หลายหลากมากกลิ่นสี
เพื่อมิให้โผผิน...กินรี
เก็บปีกลี้ซุกซ่อนเกรงร่อนไกล
อนิจจากินรีผู้มีศักดิ์
เธอเร่รักร่อนลงที่ตรงไหน
ถึงไร้ปีกหลีกหลบไม่พบใคร
เรื่องของใจไม่อาจบังคับกัน
จึงไม่มีดอกไม้ในลมหนาว
ทุกเรื่องราวร้างเลือนสะเทือนขวัญ
กินรีหลบหลีกปลีกตัวพลัน
สะอื้นอั้นอำลาน้ำตาริน
***********************
8 กรกฎาคม 2554 17:43 น.
din
เมื่อชีวิตไม่เป็นเช่นภาพฝัน
ทุกสิ่งพลันเลือนดับก่อนลับหาย
อยู่ในโลกโดดเดี่ยวแสนเดียวดาย
ที่ไร้คนปรายตามามองดู
บอกตัวเองหลายหนทนให้ได้
อัปยศหัวใจให้อดสู
ภาพที่เคยฝันไว้ไม่ดำรู
ตายหรืออยู่ของเราคงเท่ากัน
ภาพความหลังครั้งก่อนมันหลอนจิต
เมื่อชีวิตไม่เป็นเช่นที่ฝัน
บนเส้นทางรักร้างระหว่างวัน
จะลบมันให้ดับไปกับตา
โลกอาจหมุนวนไปไม่มีหยุด
แต่อาจสุดสิ้นลงที่ตรงหน้า
ลืมความเศร้าร้าวรานที่ผ่านมา
แล้ววิ่งหาความดีเติมชีวิต
30 มิถุนายน 2554 13:09 น.
din
ถ้าปลายทางเคว้งคว้างและว่างเปล่า
ไม่มีเขาเป็นเพื่อนเหมือนวันก่อน
อย่าจารจดหมองเศร้าให้ร้าวรอน
อย่าอาวรณ์ความหลังที่ฝังใจ
อย่าให้ความเจ็บช้ำมันย่ำจิต
อย่าครุ่นคิดจนกมลต้องหม่นไหม้
รู้ไว้เถอะที่นี่มีบางใคร
คอยห่วงใยคนดีทุกวี่วัน
ถ้าจุดหมายปลายทางยังว่างเปล่า
อาจเงียบเหงาเซาซมระบมขวัญ
แม้โลกสูญสิ้นลับดับตะวัน
ปลายทางนั้นฉันจะอยู่เคียงคู่เธอ
21 มิถุนายน 2554 13:43 น.
din
เพื่อพ่อ(ของแผ่นดิน)
พ่ออาวรณ์อาลัยใจแทบขาด
ร่ำพิลาปหม่นหมองแอบร้องไห้
สิ่งที่ได้รู้เห็นและเป็นไป
ระส่ำในใจแล้วเจ้าแก้วตา
การชุมนุมคุมแค้นแสนสาหัส
ชาติวิบัติอย่างไรไม่ผวา
เปลวไฟผลาญคุลมครอบรอบพารา
อนิจจา...ฤๅจะสิ้น...แผ่นดินไทย
เจ้าพระยาไหลเรื่อยเฉื่อยเฉื่อยฉิว
ระรอกริ้วพลิ้วมาอุราไหว
ขอเถอะขอ...ปรองดอง...พี่น้องไทย
อย่าให้เลือดไหลหยดรดท่วมดิน
วันใดลูกรู้รักสามัคคี
พ่อคงมีความสุขทุกข์หายสิ้น
แว่วเสียงเพลงชาติไทยได้ยลยิน
พ่อแผ่นดินคงยิ้มอย่างอิ่มเอม
**************