21 เมษายน 2555 17:08 น.
din
ฟังฟังถ้อยร้อยรักสลักมั่น
หวิวหวิวหวั่นพรั่นจิตด้วยคิดถึง
รินรินถ้อยร้อยรจพจน์รำพึง
ซ่านซ่านซึ้งถึงอยู่มิรู้เลือน
ร่ำร่ำร้องโหยหาอาลัยนัก
เกรงเกรงจักร้าวใจใครจะเหมือน
คิดคิดถึงแก้วขวัญจนฟั่นเฟือน
จารจารเตือนจ่อจดจนหมดใจ
หวั่นหวั่นเกรงรักลาน้ำตาตก
ฟูมฟูมฟกอกพรั่นถึงหวั่นไหว
พร่ำพร่ำเพ้อแม้ห่างหนทางไกล
เรียงเรียงร้อยหัวใจไว้ใกล้กัน
15 เมษายน 2555 12:30 น.
din
ได้รับข่าวร้ายของเพื่อนรุ่นน้องคนหนึ่ง
ซึ่งกลับไปเยี่ยมบ้านเมื่อสงกรานต์
แต่ขณะเดินทาง มีรถมอเตอร์ไซด็แซงขึ้นมา
แล้วปาดหน้าเพื่อจะเข้าเส้นทางอย่างกระทันหัน
รถที่สามีเพื่อนขับจึงหักหลบ
รถตกไหล่ทาง และพลิกคว่ำ
สามีเพื่อนได้รับบาดเจ็บสาหัส
ขณะนี้ยังอยู่ในเอ.ซี.ยู
เพื่อนกระดูกไหปลาร้า และขาหัก
แต่ลูกสาวเสียชีวิตทันทีในที่เกิดเหตุ
ส่วนรถไม่ต้องพูดถึง พังยับไม่เหลือชิ้นดี
ขณะที่เขียนอยู่นี้ยังไม่ได้พบเพื่อน
เพราะยังอยู่โรงพยาบาลที่ต่างจังหวัด
ทราบเพียงว่าสามีของเพื่อนอาการยังไม่ดี
และจนป่านนี้ก็ยังไม่ทราบว่า
ลูกสาวคนเดียวเสียชีวิตไปแล้ว
เพื่อนเป็นคนที่เลี้ยงลูกผูกพันใกล้ชิด
นัวเนียอยู่กับตัวเองตลอด
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเพื่อนนั้น
ทำให้คิดถึงคำว่า "ปิ่มว่าหัวใจสลาย"
เมื่อสงกรานต์เวียนมาอีกคราหนึ่ง
แม่ยังหวนทวนคะนึงถึงความหลัง
เจ้าถือปืนฉีดน้ำฉ่ำชื่นจัง
วิ่งตึงตัง...เสียงลูก...ที่ผูกพัน
รับส่งเจ้าเข้าโรงเรียนขีดเขียนอ่าน
เล่านิทานให้หลับไปกับฝัน
เคยอาบน้ำป้อนข้าวเจ้าชีวัน
ยามโศกศัลย์...โลมลูบ...จูบเจ้าจอม
เคยฟังเจ้าฉอเลาะออเซาะแม่
หลอกตุ๊กแกยื่นหน้ามาให้หอม
เมื่อเนื้อเย็นเล่นซนจนแมมมอม
แม่ยังเอารักห้อมเจ้าจอมใจ
มาสงกรานต์ปีนี้ผิดปีก่อน
แม่อยากย้อนเยือนเรือนเคยอาศัย
พ่อเห็นด้วยช่วยขับรถกลับไป
สู่ปักษ์ใต้บ้านเราเก่าก่อนมา
ลูกยิ้มย่องร้องหาตายายลั่น
เคยผูกพันวันเก่าเจ้าโหยหา
อยากขี่ม้ากั๊บกั๊บกับหลังตา
กินต้มปลารสดีฝีมือยาย
แต่แล้วโอ้อนิจจาฟ้ากำหนด
โศกสลดรถคว่ำคะมำหงาย
แม่บอบช้ำร้าวรวดปวดทั้งกาย
เมื่อความตายมาพรากลูกจากไป
วันนี้พ่อ...ยังไม่รู้...อยู่หรือรอด
แม่ต้องทอดถอนข่มอารมณ์ไหว
กับแข้งขาที่หักไม่หนักใจ
เท่ากับความอาลัยในแก้วตา
แม่จะฝืนอยู่ไปทำไมเล่า
เมื่อไร้เจ้าซอกซอนเล่นซ่อนหา
สงกรานต์นี้แม่หนาวร้าวอุรา
ปิ่มปิ่มว่าดวงใจได้ขาดรอน
7 เมษายน 2555 13:58 น.
din
เคยพลาดหวังอย่างนี้แล้วกี่ครั้ง
หมดพลังไร้ค่าสิ้นราศี
เมื่อห่างกันด้วยกาลนานเป็นปี
จะวันนี้...หรือวันไหน...ก็ไกลกัน
ความทุกข์ท้อถาโถมประโคมใส่
ทุกห้องใจอ่อนเพลียและเสียขวัญ
ต้องขมขื่นกลืนกล้ำร่ำจาบัลย์
มีชีวันชอกช้ำอย่างจำทน
เหนื่อยเหลือเกินหัวใจยามไกลห่าง
ทุกทิศทางคว้างไปในทุกหน
ยืนอยู่อย่างโดดเดี่ยวเปลี่ยวกมล
ไร้แม้คนคอยหวงเป็นห่วงใย
ขออย่ามีรักเล่ห์เที่ยวเร่รัก
แล้วจมปลักกับวันอันตรมไหม้
น้ำตาหยาดหยดลงตรงกลางใจ
นานเท่าใดจะเป็นเหมือนเช่นเดิม
28 มีนาคม 2555 17:14 น.
din
ในโลกแห่งความฝันอันไพจิตร
เธอมีสิทธิ์คิดอย่างคนช่างฝัน
โลกความจริงเลือนหายสลายพลัน
เหลือคุณค่าอันใดให้จดจำ
เมื่อความฝันทุกฝันถึงวันจบ
เธอก็พบความซมตรมจนหนำ
ยอมกรีดเลือดจารึกผนึกจำ
ให้รักมันทิ่มตำอย่างจำเป็น
เธอก้าวไปในโลกของคนโศก
วิปโยคเร้ารุกจนทุกข์เข็ญ
น้ำใสไหลจากตาพาลำเค็ญ
คือประเด็นชี้ให้ไกลจากกัน
เมื่อเส้นทางรักเรามันเฉาอับ
จะมัวปรับหัวใจทำไมขวัญ
ปล่อยทุกสิ่งลอยคว้างระหว่างวัน
แล้วลืมมันเสียบ้างไม่คว้างตรม
เราต่างเดินในทางที่ร้างจาก
การพลัดพรากจากกันมันขื่นขม
จารจารึกผนึกถ้อยร้อยอารมณ์
อย่าให้คมพิษสวาทมันบาดใจ
22 มีนาคม 2555 17:21 น.
din
เธอลืมแล้วเรื่องราวแต่หนหลัง
และหยุดยั้งพฤติกรรมทำก่อนหน้า
จะมุ่งเน้นสัตย์ซื่อถือวาจา
มันควรค่าแค่ไหนต้องไตร่ตรอง
การกระทำครั้งก่อนมันหลอนจิต
เพราะชีวิตตรอมตรมระทมหมอง
ต้องทนฝืนกลืนกล้ำน้ำตานอง
จะร่ำร้องหาใครก็ไม่มี
เมื่อช่องว่างถูกเว้นเป็นช่องว่าง
จำก้าวย่างต่อไปในวิถี
ทั้งล้มลุกคลุกคลานมานานปี
ไม่อาจลี้หนีรักที่หักลา
ขณะที่เธอชื่นระรื่นสุข
ฉันซ่อนทุกข์เก็บไว้บนใบหน้า
เธอแย้มยิ้มอิ่มเอมเปรมชีวา
ฉันเหลือค่าสิ่งใดให้จดจำ?
คงอภัยให้กันไม่ได้ดอก
รักมันยอกย้อนจนใจถลำ
ชีวิตเหมือนบรรเลงเป็นเพรงกรรม
ที่ตอกย้ำซ้ำซากให้จากไกล