23 สิงหาคม 2555 17:47 น.
din
แดดอ่อนรำไรโลมลูบ
ลมวูบจูบแก้มแต้มผิว
แมกไม้ไหวอ่อนโปรยปลิว
ดูทิวสนเจ้าเบิกบาน
ผีเสื้อปีกลายทายทัก
เพลงรักแว่วแว่วแผ่วหวาน
ดอกไม้หลากสีคลี่บาน
ซาบซ่านฤดีปรีดา
ใบไม้หวีดหวิวดังแว่ว
เสียงแจ้วเจื้อยเจื้อยปักษา
ใต้ร่มพรรณไม้นานา
ร่มรื่นชื่นตาพาเพลิน
31 กรกฎาคม 2555 17:36 น.
din
เมื่อน้ำตาจากจินต์ได้รินหยาด
ทุกข์ก็สาดดวงกมลเกินทนไหว
เพียงฝนหมาดขาดฟ้านภาลัย
หยาดน้ำใสจากตาก็บ่าแทน
ในคืนที่ใจร้าวต้องหนาวเหน็บ
ช่างปวดเจ็บอาวรณ์ร้าวรอนแสน
เมื่อครรลองของชีวิตมันผิดแปลน
ปล่อยตามแกนโลกวุ่นที่หมุนวน
ยามเมื่อฝนสั่งฟ้าน้ำตาหลั่ง
ดุจเหมือนดังอาเพศไร้เหตุผล
ระริกสั่นพรั่นพรึงถึงกังวล
จึงร้อนรนปนเศร้าเงียบเหงาใจ
หยาดน้ำตาจากใจที่ไหลหยด
มันรินรดดวงกมลเกินทนไหว
เพียงฝนหมาดขาดฟ้านภาลัย
หยาดน้ำใสจากตาก็บ่าแทน
20 กรกฎาคม 2555 16:23 น.
din
ความเจ็บปวดทางใจเคยได้รับ
มันเกินนับทับท้นกมลหมอง
ในท่ามความชอกช้ำน้ำตานอง
ความเรืองรองแห่งรักก็ทักทาย
แม้ต้องร้าวหนาวเหน็บถึงเจ็บปวด
เหมือนเขาลงแซ่หวดค่ำเช้าสาย
แต่สิ่งเข้าแทรกนั้นเกินบรรยาย
ความเปล่าดาย...ที่หมดจด...และงดงาม
11 กรกฎาคม 2555 16:44 น.
din
เมื่อสิ้นรักสิ้นหวงก็สิ้นห่วง
มิอาจท้วงทักไว้เพราะไร้หวัง
มีแต่ทุกข์ถาโถมโหมประดัง
จนเจียนคลั่งดั่งว่าเหมือนบ้าบอ
จึงเป็นซากซากหนึ่งซึ่งเดินได้
ทุกห้องใจหม่นหมองเกินร้องขอ
เจ็บกว่าเจ็บชอกช้ำน้ำตาคลอ
จมอยู่กับการรอจนท้อใจ
เพียงดอกไม้แหลกรานบนธารฝัน
ทุกสิ่งพลันร้าวรอนราวอ่อนไหว
ที่เคยหอมรวยรื่นชื่นหทัย
กลับหม่นไหม้ขื่นขมระทมทรวง
รอยอาลัยจากใจของใครหนึ่ง
ยังซาบซึ้งด้วยแสนจะแหนหวง
แต่พจน์ถ้อยร้อยร่ำน้ำคำลวง
มันตามท้วงทวงถามความเป็นมา
ทุกฝีเท้าก้าวย่างบนทางโศก
วิปโยคหม่นไหม้ใจผวา
ดุจเพลิงเผาเร่าร้อนรอนชีวา
จึงเจ็บกว่าทุกทีที่ได้เจอ
เพียงร่องรอยอาดูรพูนเทวษ
บนเสี้ยวเศษความช้ำน้ำตาเอ่อ
ความหวานชื่นดุจมนต์เคยปรนเปรอ
ก็เผลอเรอทอดทิ้งมิจริงใจ
กับเสี้ยวเศษความทุกข์ที่รุกโหม
จนทรุดโทรมมานจนทนมิไหว
บนทางเดินเหินห่างแรมร้างไกล
เราโหยไห้ชอกช้ำลำพังเพียง
28 มิถุนายน 2555 18:45 น.
din
ฟังความนัยเร้นซ่อนจากดอนเถื่อน
ในคืนเดือนจืดจางหว่างเวหน
ทุกพจน์ถ้อยร้อยร่ำน้ำคำคน
ดุจดังมนต์ล่ามพ่วงเป็นบ่วงใจ
ความขื่นขมตรมทุกข์รุกดวงจิต
ปานจะปลิดชีพตามความอ่อนไหว
หวาดวิตกอกรอนถอนหทัย
คนปราชัยเป็นฉันหรือว่าเธอ?
ทุกห้องใจไหม้หม่นเมื่อฝนหลั่ง
ดุจเสียงสั่งบอกลาน้ำตาเอ่อ
เหมือนเหมือนใจใกล้ดับกับภาพเบลอ
ที่พร่ำเพ้อยึดมั่นเป็นสัญญา
หากดวงใจใครหนึ่งคิดถึงอยู่
จงรับรู้รักเล่ห์เสน่หา
มันเยินยับอับด้อยน้อยราคา
สิ้นคุณค่าสำหรับประดับใจ
สายลมร่ำคำนึงเข้าตรึงจิต
จะยังคิดถึงกันทุกวันไหม
หรือใจลอยคอยผู้อยู่แดนไกล
จนลืมดอกไม้ไพรในดอนดง
เมื่อสายฝนถาโถมโหมกระหน่ำ
ใจชอกช้ำเปียกยุ่ยเป็นผุยผง
กระซิบถ้อยตอบคำย้ำจำนง
ว่ายังคงรักมั่นนิรันดร์กาล
แม้นสุดสิ้นดินฟ้ามหาสมุทร
ไม่อาจหยุดอาวรณ์ความอ่อนหวาน
เพราะสายใยดังบ่วงถ่วงดวงมาน
จนสายกาล...มิอาจพราก...ให้จากกัน
หนทางอีกยาวไกลไปจากนี้
ดอกไมตรีเบ่งบานเต็มลานฝัน
ตราบเพรงกาลร้อยบ่วงแล้วพ่วงพัน
ยังฝ่าฟันเพื่อพบประสบเธอ
ยังฝ่าฟันเพื่อพบได้สบตา