26 กุมภาพันธ์ 2556 17:12 น.
din
หากว่าลมหายใจของเราสอง
มีอันต้องร่อนเร่ทะเลฝัน
มีเส้นใยกั้นกลางระหว่างกัน
แม้กระทั่งความฝันก็ผันแปร
คอยสายน้ำไหลทวนเพื่อหวนกลับ
เฝ้าแต่นับวันรอจนท้อแท้
ทนให้ความชอกช้ำกระหน่ำแด
เขาลงแส้หวดซ้ำราดน้ำเกลือ
ยังจมปลักกับวันอันว้าเหว่
ฟังคลื่นเห่เรื่องราวของดาวเหนือ
ที่ถูกรักผลักไสให้ลอยเรือ
ผลลัพธ์เพื่อจมหายในสายชล
เมื่อทุกสิ่งจบลงแค่ตรงนี้
จึงริบหรี่ดาวดับพลันสับสน
เหลือไว้เพียง...อุทธาหรณ์...สอนกมล
ให้หลุดพ้นจากบ่วงที่พ่วงพัน
ลมหายใจต่อนี้ที่เหลืออยู่
จะฮึดสู้เคียงข้างมิห่างขวัญ
แต่เส้นใยกั้นกลางระหว่างกัน
กลับผลักดันความใกล้จนไกลเกิน
16 กุมภาพันธ์ 2556 15:01 น.
din
ทางข้างหน้าก้าวไปไม่ยั้งหยุด
ก้าวให้สุดปลายทางที่ฝันใฝ่
บนเส้นทางความหวังซึ่งยังไกล
แม้เส้นชัยไกลลิบสู้ยิบตา
กับรางวัลชีวิตที่คิดหวัง
หากก้าวพลั้งอย่าหวั่นกับปัญหา
เพราะสมองสองมือคือปัญญา
อย่าอ่อนล้าทุกข์ทนจนฟูมฟาย
ทุกฝีเท้าก้าวไปอย่าไหวหวั่น
จงตั้งมั่นให้ถึงซึ่งจุดหมาย
แม้วันเปลี่ยนเวียนลับแล้วกลับกลาย
อย่าแพ้พ่ายต่อโลกโชคชตา
เพราะสมองสองมือคืออาวุธ
อย่ายั้งหยุดมุ่งมาดปรารถนา
หากแม้มีอุปสรรคหนักนานา
ใช้ปัญญาพินิจครุ่นคิดตรอง
จงใคร่ครวญดูเลศของเหตุผล
อย่าหลงกลพาใจให้มัวหมอง
รู้ผิด-ชอบดีงามตามครรลอง
ฟ้าสีทอง...เป็นของเรา...เข้าสักวัน
24 มกราคม 2556 17:32 น.
din
เป็นเพียงแค่กาแฟในถ้วยเก่า
ที่ไม่เร้าเร่งให้ใครคิดถึง
แต่เต็มเปี่ยมด้วยรักปักตราตรึง
และลึกซึ้งอยู่ในถ้วยใบเดิม
คงเป็นแค่กาแฟในถ้วยเก่า
ไม่เทียบเท่าถ้วยใหม่ให้แต่งเสริม
หวานละมุนกรุ่นละไมในถ้วยเดิม
ไม่เหิมเกริมขันแข่งแก่งแย่งใคร
ถึงไม่ใช่กาแฟที่หอมกรุ่น
แต่อบอุ่นดวงกมลจนหลงใหล
เป็นกาแฟถ้วยเก่าที่เร้าใจ
หอมอบอวลอยู่ในหัวใจเดิม
5 ธันวาคม 2555 17:54 น.
din
โลกกว้างหนทางแคบ
อาจปวดแปลบบางเวลา
รอยยิ้มหรือน้ำตา
ช่วยเติมค่าความเป็นคน
อดทนและทนอด
ท้อรันทดอย่าสับสน
อ้างว้างกลางหมู่คน
รู้ใจตนเป็นสำคัญ
ชีวิตมีหลายหลาก
มีลำบากมีสุขสันต์
เรียนรู้ให้เท่าทัน
จะฝ่าฟันถึงดวงดาว
หนทางยาวไกลนัก
จงตระหนักสีดำ-ขาว
หลากหลายแห่งเรื่องราว
ล้วนที่เรา......ต้องเผชิญ
9 พฤศจิกายน 2555 15:43 น.
din
แว่วแว่วเสียงหัวใจใครสะอื้น
ต้องขมขื่นรอคอยอย่างหงอยเหงา
อ้างดินฟ้าให้เห็นเป็นเลาเลา
ดุจความเศร้าเคล้าคลุกมันรุกราน
ยังคงหวนทวนคนึงถึงวันเก่า
ครั้งที่เราเชยชื่นระรื่นหวาน
เป็นความรักความหลังครั้งวันวาน
ดอกแก้วบานเบ่งในหัวใจเรา
วันนี้แก้วร่วงโรยแล้วโปรยหล่น
หัวใจคนหม่นหมองต้องอับเฉา
สักนิดคนปลอบใจไม่เห็นเงา
จึงโศกเศร้ารอคอยอย่างน้อยใจ
กลีบแก้วพราวขาวโพลนอยู่โคนต้น
หัวใจคนหม่นหมองถึงร้องไห้
เพียงสายลมพรมพลิ้วแก้วปลิวไป
กลีบ,ดอก,ใบ...พลัดหาย...จากสายตา
เปรียบหัวใจไหววับไปกับแก้ว
ไมมีแล้วไมตรีที่โหยหา
จบสิ้นทั้งคำมั่นคำสัญญา
แม้ศรัทธาจากใจก็ไม่มี