27 มิถุนายน 2551 21:46 น.
Darkness_Hero
เปิดตำราร่ำเรียนวิชาเวทย์
หวังฤทธิ์เดชเพิ่มพูนพลังประสาน
มือซ้ายอัดพลังวิชาปราณ
มือขวาทัดทาานด้วยพลังตรงข้ามกัน
ระเบิดเข้าไปพลังในตัวข้า
ร่ายวาจามนตราแห่งความฝัน
ร้อนเย็นจงประสานเข้าหากัน
เลื่อนลั่นทั้งแผ่นฟ้าปฐพี
อันมือซ้ายเตโชจงลุกไหม้
มือขวาไซร้จงอาโปรวมที่นี้
ร่ายรำวิชาแห่งศาสตร์ปฐพี
วาโยที่บังเกิดรวมกำลัง
สี่ธาตุประสานหนึ่งให้ยิ่งใหญ่
ผนึกในเคล็ดวิชาลงมนต์ขลัง
อันธิกาและรัศมีเร่งพลัง
ประกบหน้าหลังด้วยวิถีแห่งหัวใจ
รักโลภโกรธหลงอัตตาและทิฐิ
ความปิติปลื้มปลาบความสดใส
หม่นหม่องแข็งกร้าวกำลังใจ
ความอ่อนไหวอาจหาญประสานกัน
บังเกิดเป็นพลังที่แปลกประหลาด
ในขณะวาดมือร่ายผกผัน
เหนือใต้ออกตกร่วมประจัน
วิชาแห่งฝันจึงสำเร็จเคล็ดวิชา
25 มิถุนายน 2551 02:01 น.
Darkness_Hero
อันน้ำมันก็โดนขายปั่นราคา
อันราชาก็ถูกหมิ่นยังร่วมด้วย
สิ่งต่างต่างแพงขึ้นแต่บางคนรวย
คนจนซวยอยู่ไม่ได้แทบอดตาย
พระวิหารก็ยกให้กัมพูชา
กติกาควรจะใช้ก็คิดสลาย
ทำปากหมาปากมันอย่างท้าทาย
ฆ่าฉันไปก็ไม่เลิกปกป้องไทย
เขามาช่วยทวงคืนประเทศชาติ
ไม่ขี้ขลาดยังสู้แม้เหนื่อยเพียงไหน
ช่วยปกป้องสิทธิชนชาวไทย
รักษาไว้ให้ลูกหลาน"แผ่นดินทอง"
"มันวุ่นวาย" "มันทำร้าย" ประเทศชาติ
ผิด*กฏหมาย*ในการกระทำในทั้งผอง
ตามเกมที่ นปก. วางประลอง
บ้างอ้างขาดความปรองดองเป็น "กาลี"
ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร
คุณก็ยกประเทศให้มันก็ได้นี่
แล้วก็รอดูมันโกงอีกสี่ปี
แล้วทีนี้ประเทศไทยคงได้ดี
ก็กราบตีนทักษิณแล้วใช่ไหม
"ประเทศไทยน้องรักยกให้พี่"
ข้ามศพคนรักชาติก่อนนะไอ้คนดี
อย่างน้อยๆข้าคนนี้ไม่มียอม
-----------------
มาตรา ๔๔ : บุคคลย่อมมีเสรีภาพในการชุมนุมโดยสงบและปราศจากอาวุธ โดยปราศจากการแทรกแซงและได้รับการคุ้มครองจากรัฐ การจำกัดเสรีภาพตามวรรคหนึ่งจะกระทำมิได้
25 มิถุนายน 2551 01:53 น.
Darkness_Hero
.....
จะกล่าวถึงกรุงศรีอยุธยา
เป็นกรุงรัตนราชพระศาสนา
มหาดิเรกอันเลิศล้น
เป็นที่ปรากฏรจนา
สรรเสริญอยุธยาทุกแห่งหน
ทุกบุรีสีมามณฑล
จบสกลลูกค้าวาณิช
ทุกประเทศสิบสองภาษา
ย่อมมาพึ่งกรุงศรีอยุธยาเป็นอัครนิตย์
ประชาราษฎร์ปราศจากภัยพิษ
ทั้งความพิกลจริตแลความทุกข์
ฝ่ายองค์พระบรมราชา
ครองขัณฑสีมาเป็นสุข
ด้วยพระกฤษฎีกาทำนุก
จึ่งอยู่เย็นเป็นสุขสวัสดี
เป็นที่อาศัยแก่มนุษย์ในใต้หล้า
เป็นที่อาศัยแก่เทวาทุกราศี
ทุกนิกรนรชนมนตรี
คหบดีชีพราหมณพฤฒา
ประดุจดั่งศาลาอาศัย
ดั่งหนึ่งร่มพระไทรอันสาขา
ประดุจหนึ่งแม่น้ำพระคงคา
เป็นที่สิเน่หาเมื่อกันดาน
ด้วยพระเดชเดชาอานุภาพ
อาจปราบไพรีทุกทิศาน
ทุกประเทศเขตขัณฑ์บันดาล
แต่งเครื่องบรรณาการมานอบนบ
กรุงศรีอยุธยานั้นสมบูรณ์
เพิ่มพูนด้วยพระเกียรติขจรจบ
อุดมบรมสุขทั้งแผ่นพิภพ
จนคำรบศักราชได้สองพัน
คราทีนั้นฝูงสัตว์ทั้งหลาย
จะเกิดความอันตรายเป็นแม่นมั่น
ด้วยพระมหากษัตริย์มิได้ทรงทศพิธราชธรรม์
จึงเกิดเข็ญเป็นมหัศจรรย์สิบหกประการ
คือเดือนดาวดินฟ้าจะอาเพศ
อุบัติเหตุเกิดทั่วทุกทิศาน
มหาเมฆจะลุกเป็นเพลิงกาฬ
เกิดนิมิตพิศดารทุกบ้านเมือง
พระคงคาจะแดงเดือดดั่งเลือดนก
อกแผ่นดินเป็นบ้าฟ้าจะเหลือง
ผีป่าก็จะวิ่งเข้าสิงเมือง
ผีเมืองนั้นจะออกไปอยู่ไพร
พระเสื้อเมืองจะเอาตัวหนี
พระกาฬกุลีจะเข้ามาเป็นไส้
พระธรณีจะตีอกไห้
อกพระกาฬจะไหม้อยู่เกรียมกรม
ในลักษณ์ทำนายไว้บ่ห่อนผิด
เมื่อวินิศพิศดูก็เห็นสม
มิใช่เทศกาลร้อนก็ร้อนระงม
มิใช่เทศกาลลมลมก็พัด
มิใช่เทศกาลหนาวก็หนาวพ้น
มิใช่เทศกาลฝนฝนก็อุบัติ
ทุกต้นไม้หย่อมหญ้าสาระพัด
เกิดวิบัตินานาทั่วสากล
เทวดาซึ่งรักษาพระศาสนา
จะรักษาแต่คนฝ่ายอกุศล
สัปบุรุษจะแพ้แก่ทรชน
มิตรตนจะฆ่าซึ่งความรัก
ภรรยาจะฆ่าซึ่งคุณผัว
คนชั่วจะมล้างผู้มีศักดิ์
ลูกศิษย์จะสู้ครูพัก
จะหาญหักผู้ใหญ่ให้เป็นน้อย
ผู้มีศีลจะเสียซึ่งอำนาจ
นักปราชญ์จะตกต่ำต้อย
กระเบื้องจะเฟื่องฟูลอย
น้ำเต้าอันลอยนั้นจะถอยจม
ผู้มีตระกูลจะสูญเผ่า
เพราะจันฑาลมันเข้ามาเสพสม
ผู้มีศีลนั้นจะเสียซึ่งอารมณ์
เพราะสมัครสมาคมด้วยมารยา
พระมหากระษัตริย์จะเสื่อมสิงหนาท
ประเทศราชจะเสื่อมซึ่งยศถา
อาสัตย์จะเลื่องลือชา
พระธรรมาจะตกลึกลับ
ผู้กล้าจะเสื่อมใจหาญ
จะสาบสูญวิชาการทั้งปวงสรรพ
ผู้มีสินจะถอยจากทรัพย์
สัปบุรุษจะอับซึ่งน้ำใจ
ทั้งอายุศม์จะถอยเคลื่อนจากเดือนปี
ประเวณีจะแปรปรวนตามวิสัย
ทั้งพืชแผ่นดินจะผ่อนไป
ผลหมากรากไม้จะถอยรส
ทั้งแพทยพรรณว่านยาก็อาเพศ
เคยเป็นคุณวิเศษก็เสื่อมหมด
จวงจันทน์พรรณไม้อันหอมรส
จะถอยถดไปตามประเพณี
ทั้งข้าวก็จะยากหมากจะแพง
สาระพันจะแห้งแล้งเป็นถ้วนถี่
จะบังเกิดทรพิษมิคสัญญี
ฝูงผีจะวิ่งเข้าปลอมคน
กรุงประเทศราชธานี
จะเกิดการกุลีทุกแห่งหน
จะอ้างว้างอกใจทั้งไพร่พล
จะสาละวนทั่วโลกทั้งหญิงชาย
จะร้อนอกสมณาประชาราช
จะเกิดเข็ญเป็นอุบาทว์นั้นมากหลาย
จะรบราฆ่าฟันกันวุ่นวาย
ฝูงคนจะล้มตายลงเป็นเบือ
ทางน้ำก็จะแห้งเป็นทางบก
เวียงวังก็จะรกเป็นป่าเสือ
แต่สิงห์สารสัตว์เนื้อเบื้อ
นั้นจะหลงหลอเหลือในแผ่นดิน
ทั้งผู้คนสาระพัดสัตว์ทั้งหลาย
จะสาบสูญล้มตายเสียหมดสิ้น
ด้วยพระกาฬจะมาผลาญแผ่นดิน
จะสูญสิ้นการณรงค์สงคราม
กรุงศรีอยุธยาจะสูญแล้ว
จะลับรัศมีแก้วเจ้าทั้งสาม
ไปจนคำรบปีเดือนคืนยาม
จนสิ้นนามศักราชห้าพัน
กรุงศรีอยุธยาเขษมสุข
แสนสนุกยิ่งล้ำเมืองสวรรค์
จะเป็นแพศยาอาธรรม์
นับวันจะเสื่อมสูญเอยฯ
จบเรื่องพระนารายณ์เป็นเจ้านพบุรีทำนายกรุงแต่เพียงเท่านี้
23 มิถุนายน 2551 09:34 น.
Darkness_Hero
อักษรที่ร้อยเรียง
นั้นก็เพียงเพื่อป้องไทย
ส่งออกจากหัวใจ
มันไม่ใช่ก่อสงคราม
แสดงออกทางความคิด
ใครว่าผิดขอถวงถาม
กระพือให้ลุกลาม
ใคร่ขอถามว่าคือใคร
บางคนอ้างนิ่งหยุด
ด่าเป็นชุดหยุดไม่ได้
ถากถางกันเข้าไป
สนุกไหมขอถามที
นับศพก็นับไป
ไม่มีใครว่า'ไรนี่
แต่งกลอนถ้อยวจี
ใช่ปาหี่ว่ารักไทย
ถ้าอยากจะนับศพ
นับจนครบก็ทำได้
ส่วนหนึ่งของชาติไทย
จารึกไว้ในบทเรียน
สงครามมิได้เกิด
อย่าเตลิดจนปวดเศียร
ไม่รู้อย่านั่งเทียน
อย่านั่งเขียนอย่างหลับตา
แตกต่างคือต้องตาย?
รับไม่ได้ทั้งซ้ายขวา?
อย่ากลางแค่วาจา
ประพฤติมาขอให้กลาง
เราทำถูกกฏหมาย
ก็ไม่วายโดนถากถาง
ไหนเล่าความเป็นกลาง
ใช่ปล่อยวางดังวาจา
เราไล่ไอ้รัฐบาล
เราคัดค้านด้วยภาษา
ตะโกนไล่ด้วยวาจา
รวมถึงด่าด้วยหลักการ
กฏหมายของบ้างเมือง
ก็มีเรื่องอยากขับขาน
รัฐธรรมนูณเป็นพยาน
หยั่งรากฐานถึงมาตรา *
แล้วมาอ้างกฏหมาย
ก็ไม่วายฟัง"มัน"มา
ได้โปรดเปิดตำรา
แล้วค่อยว่ากันอีกที
โปรดรับข่าวรอบด้าน
อย่าพึ่งค้านกันอย่างนี้
ลองมาเองสักที
แล้วพี่พี่จะรู้เอง
เพียงเสี้ยวที่โอนเอียง
ก็มาเถียงว่าตรงเผง
ใช่ว่าผมนักเลง
ใช่ข่มเหงให้เลือกข้าง
ใครกลางกลางให้จริง
ไม่ใช่วิ่งเที่ยวถากถาง
ไหนเล่าความเป็นกลาง
แท้คือขวางทางวาจา
อยากนิ่งก็นิ่งไป
ขออย่าให้เอาเท้ารา
อยากด่าก็จงด่า
ขอให้ด่าอย่างเป็นกลาง
ขอร้องอีกสักครั้ง
ขอให้ฟังในความต่าง
ใช่ว่าคนละทาง
ฟังกันบ้างคงจะดี
-------------------------------
*มาตรา ๔๔ : บุคคลย่อมมีเสรีภาพในการชุมนุมโดยสงบและปราศจากอาวุธ โดยปราศจากการแทรกแซงและได้รับการคุ้มครองจากรัฐ การจำกัดเสรีภาพตามวรรคหนึ่งจะกระทำมิได้
จากเดิมบทบัญญัติตามมาตรานี้มีหลักการสำคัญตรงที่ พลเมืองไทยมีเสรีภาพของการชุมนุมโดยสงบปราศจากอาวุธ แต่ได้มีข้อกำหนดยกเว้นหากเป็นการอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายเฉพาะ ในกรณีการชุมนุมสาธารณะเพื่อคุ้มครองความสะดวกของประชาชนที่จะใช้สาธารณะนำมาสู่ปัญหาในเชิงปฏิบัติ เช่น การชุมนุมของผู้เดือดร้อนที่ต้องอาศัยพื้นผิวถนนสาธารณะอันเป็นเหตุการณ์ปกติของการชุมนุมประท้วงโดยทั่วไป เช่นการเดินขบวนจากสถานที่หนึ่งไปสถานที่หนึ่งการชุมนุมภายในบริเวณที่ทำการของหน่วยงานรัฐ
เช่นการชุมนุมที่หน้าทำเนียบรัฐบาล ทางรัฐบาลมักจะใช้ตำรวจปราบปรามจราจลในการปิดกั้นหรือสกัดกั้นการชุมนุม ในบางกรณีมีการใช้ตำรวจในการสกัดกั้นการเดินทางของผู้ชุมนุมในต่างจังหวัด มีหลายกรณีด้วยกันที่ตำรวจได้ใช้ความรุนแรงกระทำต่อผู้ชุมนุม และตั้งข้อกล่าวหาว่าเป็นการชุมนุมที่เป็นการละเมิดต่อผู้อื่น ทำให้การชุมนุมโดยสงบปราศจากอาวุธ "ไม่สามารถดำเนินการได้" เป็นประเด็นแก้ไขในหมวดที่ ๓ มาตรา ๔๔ ของรัฐธรรมนูญ พ.ศ. ๒๕๔๐
-------------------------------------
ผมไม่รู้กฏหมายหรอกครับ ทำใจให้กลาง(เอาให้"กลางจริงๆ") ตีความและวิเคราะห์กันเอาเองนะครับ ผมว่าสามารถตีความได้หลากหลาย อันนี้ผมยอมรับว่าเอามาจากการวิคราะห์กฏหมายโดยคนอื่นเหมือนกัน
ถ้าคิดว่าตนทำถูกต้อง ลองสูตรผมนะ
ไปชุมนุมพันฯ 1 วัน
แล้วนปก 1วัน
แล้วอยู่นิ่งทั้งๆที่รู้เรื่อง 1 วัน
แล้วก็ไม่ต้องคิดอะไรเลย 1 วัน
แล้วจะรู้เองว่าควรทำอย่างไร หรือเป็นกลางอย่างไร
22 มิถุนายน 2551 02:43 น.
Darkness_Hero
ทำไมกันนะ...คนเราถึงรับในความแตกต่างกันไม่ได้
แตกต่างต้องตาย?
คิดต่างกันคือแตกแยก?
อุดมการณ์ไม่ตรงกันคือไม่สามัคคี?
คนหนึ่งพูดพร่ำร่ำต่อยตี
คนหนึ่งมีใจป้องชาติสันติมั่น
คนหนึ่งนั่งเฉยเฉยก็แล้วกัน
คนหนึ่งนั้นเอาแต่ตำหนิและติเตียน
คนหนึ่งด่าสาดโคลนโดยไม่รู้
คนหนึ่งรู้แต่แกล้งโง่อ้างปวดเศียร
คนหนึ่งท้าทุกคนดังหัวเกรียน
คนหนึ่งเปลี่ยนไปมาไร้จุดยืน
คนหนึ่งบอกว่าฉันเป็นกลาง
คนหนึ่งอ้างสีขาวอย่างทนผืน
คนหนึ่งบอกให้เราทนกล้ำกลืน
คนหนึ่งจะทวงคืนประเทศไทย
คนหนึ่งพยายามปลุกให้คนสู้
คนหนึ่งว่าฉันสู้คงไม่ไหว
คนหนึ่งบอกว่าให้กำลังใจ
คนหนึ่งไซร้"หากมึงไปคือศัตรู"
PS. หัวเกรียน(ศัพย์วัยรุ่น) = บุคคลนิสัยเสีย ชอบหาทุกคนเรื่องไปทั่ว ไม่สนใจผู้ใด ทำตัวกร่าง เป็นที่น่ารังเกียจของสังคมโดยรวม