13 กรกฎาคม 2551 19:57 น.
Darkness_Hero
เมื่อวางโทรศัพท์ไปครั้งนี้
ก็รู้ดีว่าคือเสียงเธอครั้งสุดท้าย
เรื่องราวต่างๆยังค้างคาอีกมากมาย
ยังไม่ได้บอกเธอเลยสักที
ฉันยังอยากบอกรักเธอในทุกวัน
แต่ก็คงได้หยุดเพียงแค่นี้
ทุกคืนฉันอยากบอกว่า "ฝันดี"
แต่ตอนนี้ทำได้เพียงร้องออกมา
เมื่อเธอเลือกที่จะทำอย่างนี้
ฉันก็ไม่มีสิทธิ์เรียกร้องหรอกหนา
ขอเพียงแค่บอกรักเธออีกสักครา
คงไม่ว่าฉันใช่ไหม...นะคนดี
ฉันขอเธออีกสักเรื่องจะได้ไหม
ขออย่าให้เธอลืมฉันคนนี้
อย่าทุกถ้อยคำสำเนียงเรียงวจี
อีกฤดีที่รักเธอตลอดมา
อย่าลืมฉันอย่าลืมเราอย่าลืมกัน
อย่าลืมวันอย่าลืมคืนอย่าลืมหนา
อย่าลืมรักลืมหัวใจลืมช่วงเวลา
อย่าลืมว่า...อย่าลืมว่า..."ฉันรักเธอ"
13 กรกฎาคม 2551 19:09 น.
Darkness_Hero
ทุกชีวิตและหยาดเลือดที่รินไหล
ของบรรพบุรุษไทยในกาลก่อน
ทำให้วันนี้เรามีที่ซุกหัวนอน
ไม่ทุกร้อนลำบากดังชาติใด
การศึกสงครามในครานั้น
ไทยประจันเอาเลือดแลกเอาไว้
มิยอมให้ผู้ใดมาย่ำยีไทย
แม้ตัวตายยอมสละให้ผืนดินไทย
เคยเสียผืนแผ่นดินไปก็มาก
น้ำไหลพรากจากนัยตาเคยรินไหล
สิบสามครั้งที่เคยเสียผืนดินไทย
มาวันนี้คนจังไรยังประเคน
เรื่องของเขาพระวิหารช่างบาดลึก
จิตสำนึกชาติไทยไม่เคยเห็น
ยังยิ้มร่าเมินเฉยดังเคยเป็น
ประเทศชาติเป็นเช่นไรมิรู้ที
นักศึกษามหาลัยที่ควรตื่น
ควรหยัดยืนร่วมปกป้องกับน้องพี่
กลับไม่รู้เรื่องใดใดในธานี
ในตอนนี้รู้เพียงบ้าตามดารา
บ้างเล่นเกมพนันบอลตามสนุก
มิได้ทุกข์หรือได้ร้อนดังว่า
ที่เขาลุกเขาสู้ตลอดมา
โอ้..ไม่น่าเลยอนาคตของชาติไทย
บางคนว่ามันชาติแสนน่าเบื่อ
ก็ไม่มีเยื่อใดใดใดแล้วใช่ไหม
เราสูญเสียพี้นที่ของคนไทย
มันไม่ใช่แค่เรื่องเกมการเมือง
จงร่ำร้องออกมาเถิอดทหารกล้า
จงออกมาแสดงจุดยืนให้รู้เรื่อง
ท่านคือทหารควรที่จะปกป้องเมือง
มันคือเรื่องหน้าที่คุณไม่ใช่หรือไง
ประชาชนเอ๋ยจงสำแดงพลังเถิอด
อย่าให้เกิดเรื่องนี้อีกซ้ำสองได้
ดังบรรพบุรุษที่เคยสู้ปกป้องไทย
จงอย่าให้คนชั่วช้าขายแผ่นดิน
นักการเมืองชั่วช้าต้องกำจัด
ต้องประหัดประหารให้แดดิ้น
ให้สาสมกับที่มันขายผืนแผ่นดิน
พวกกังฉินต้องสิ้นไปจากสังคม
12 กรกฎาคม 2551 15:34 น.
Darkness_Hero
ไม่ขอแต่งกลอนในเรื่องนี้ ขอแต่เพียงนำเสนอสิ่งนี้....
คำต่อคำ จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ นายกรัฐมนตรีของไทย ใน พ.ศ.2505 ที่ได้กล่าวปราศรัยผ่านสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย แสดงความรู้สึกต่อการสูญเสียปราสาทพระวิหาร และยืนยันสิทธิ์ที่จะทวงคืนปราสาทพระวิหารในอนาคต ดังนี้
พี่น้องร่วมชาติ และมิตรร่วมชีวิตที่รักของข้าพเจ้าทั้งหลาย ตามที่ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ หรือที่เรียกว่า ศาลโลก ได้วินิจฉัยชี้ขาดเมื่อวันที่ 15 มิถุนายน พ.ศ.2505 ให้ปราสาทเขาพระวิหารตกเป็นของกัมพูชา และทางรัฐบาลได้ออกแถลงให้พี่น้องทั้งหลายได้ทราบเป็นลำดับนั้น รัฐบาลของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวโดยเฉพาะตัวของข้าพเจ้า ถือว่าเรื่องนี้มีความสำคัญยิ่ง เพราะเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับผลได้ผลเสียของชาติ อันเป็นเรื่องของแผ่นดินไทย ซึ่งเป็นมรดกที่บรรพบุรุษของเราสู้มาอุตส่าห์ฝ่าคมอาวุธรักษาไว้และตกทอดมาถึงรุ่นเรา เนื่องจากในคำปราศรัยนี้เป็นเรื่องที่สะเทือนใจพี่น้องทั้งหลาย ข้าพเจ้าทราบดีว่า ในส่วนลึกและหัวใจแล้ว คนไทยผู้รักชาติทุกคนมีความเศร้าสลดและมีความข่มขืนใจเพียงใด แสดงออกถึงของประชาชนในการเดินขบวนทั่วประเทศเพื่อคัดค้านคำพิพากษาของศาลโลกเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เป็นสิ่งที่เห็นกันอยู่อย่างชัดเจนแล้ว ทั้งนี้มิใช่ว่าพวกเราจะนั่งนิ่งเฉยหรือท้อแท้ใจ ชาติไทยยอมท้อแท้ทอดอาลัยไม่ได้ เราเคยสูญเสียดินแดนแก่ประเทศมหาอำนาจที่ล่าอาณานิคมมาแล้วหลายครั้ง หากบรรพบุรุษของเรายอมท้อแท้ เราจะเอาแผ่นดินที่ไหนมาอยู่กันได้จนถึงทุกวันนี้ เราจะต้องหาวิธีการสู้ต่อไป
สำหรับกรณีเขาพระวิหารซึ่งศาลโลกได้วินิจฉัยชี้ขาดไปแล้วนั้น ข้าพเจ้าขอทบทวนเข้าใจกับเพื่อนร่วมชาติทั้งหลายว่า รัฐบาลและประชาชนชาวไทยไม่ได้เห็นด้วยกับคำตัดสินของศาลโลกทั้งในข้อเท็จจริงกฎหมายระหว่างประเทศและหลักความยุติธรรม เมื่อเป็นดังนี้ แม้นรัฐบาลและปวงชนชาวไทยจะได้มีความรู้สึกสลดใจและขมขื่นเพียงใด ในฐานะที่ประเทศไทยเป็นสมาชิกของสหประชาชาติ ก็ต้องปฏิบัติตามพันธกรณีในกฎบัตรสหประชาชาติ กล่าวคือ ต้องยอมให้กัมพูชามีอธิปไตยเหนือเขาพระวิหารตามพันธกรณีแห่งกฎบัตรสหประชาชาติ แต่รัฐบาลขอตั้งประท้วงและขอสงวนสิทธิ์อันชอบธรรมของประเทศไทยในเรื่องนี้ไว้ เพื่อสงวนสิทธิ์ที่จะดำเนินทางกฎหมายที่จำเป็น ซึ่งอาจจะมีขึ้นในภายภาคหน้า ให้กรรมสิทธิ์นี้กลับคืนมาในโอกาสอันสมควร
พี่น้องทั้งหลายคงทราบดีว่า ชาติของเราต้องเสียศักดิ์ศรีและเกียรติภูมิไป เนื่องจากเขาพระวิหาร อีกสิบปีอีกกี่ร้อยปี เราก็สามารถสร้างเกียรติภูมิคราวนี้กลับคืนมาได้ ข้าพเจ้าทราบว่าการสูญเสียปราสาทเขาพระวิหารครั้งนี้ เป็นการสูญเสียที่สะเทือนใจของคนไทยทั้งชาติ ฉะนั้น แม้นว่ากัมพูชาจะได้ปราสาทเขาพระวิหารนี้ไป ก็คงไปได้แค่ซากปรักหักพัง และแผ่นดินเฉพาะรองรับเขาพระวิหารเท่านั้น วิญญาณของปราสาทเขาพระวิหารยังคงอยู่กับคนไทยตลอดไป ประชาชนชาวไทยจะระลึกอยู่เสมอว่า ปราสาทเขาพระวิหารของไทยถูกปล้นเอาไป ด้วยอุปเล่ห์เพทุบาย คนที่ไม่มีเกียรติและไม่รับผิดชอบ ไม่รักความเป็นธรรม เมื่อประเทศไทยเราประพฤติปฏิบัติดีในสังคมโลก อันเป็นที่มีศีลธรรม มีสัตย์ ในวันหนึ่งข้างหน้าไม่ช้าก็เร็ว ปราสาทเขาพระวิหารจะต้องกลับมาสู่ดินแดนไทยอีกครั้งหนึ่ง เหตุการณ์เกี่ยวกับเขาพระวิหารครั้งนี้ สลักแน่นอยู่ในความทรงจำของคนไทยสืบไปชั่วลูกชั่วหลาน และเป็นรอยจารึกอยู่ในประวัติศาสตร์ของชาติไปตลอด เสมือนแผลที่อยู่ในใจของคนไทยทั้งชาติ แต่ข้าพเจ้าหวังอยู่เสมอว่า ในที่สุดธรรมะย่อมชนะอธรรม การหัวเราะที่หลังย่อมดังกว่า และนานกว่า
พี่น้องร่วมชาติทุกท่าน ได้โปรดวางใจรัฐบาลซึ่งข้าพเจ้าเป็นนายกรัฐมนตรีอยู่นี้ จะสามารถนำชาติและพี่น้องชาวไทยที่รักก้าวสู่อนาคตอันสุกใสให้ได้ และข้าพเจ้ารับรองแก่ท่านทั้งหลายว่า เมื่อถึงคราวที่ชาติคับขันแล้ว ข้าพเจ้าจะกอดคอร่วมเป็นร่วมตายกับพี่น้องประชาชนชาวไทย เอาเลือดทาแผ่นดิน ไม่เสียดายชีวิตแม้แต่นิดเดียว แต่เราจะทำอย่างไรได้ ข้าพเจ้าเองมีความเจ็บช้ำน้ำใจไม่น้อยไปกว่าเพื่อร่วมชาติทั้งหลาย การที่ข้าพเจ้าต้องมากล่าวถึงเรื่องนี้ ข้าพเจ้าอยากจะกล่าวว่าการมาพูดกับท่านด้วยน้ำตา น้ำตาของข้าพเจ้าเป็นน้ำตาของลูกผู้ชาย ของเลือด ของความคับแค้น และการผูกใจเจ็บชั่วชีวิตชาตินี้และชาติหน้า ต่อดวงวิญญาณของบรรพบุรุษผู้กล้าหาญของชาวไทย
ข้าพเจ้าขอกล่าวคำปฏิญาณด้วยสัตย์วาจาดังนี้ พี่น้องที่รักชาติทั้งหลาย น้ำตาไม่อาจทำให้เราฉลาดขึ้นแต่เราจะต้องได้อะไรคืนมา ในขั้นสุดท้ายชาติไทยจะต้องประสบกับชัยชนะเสมอ เราต้องกล้าสู้ เราต้องกล้ายิ้มรับภัยที่มาถึงตัวเรา ชาติไทยเป็นชาติที่เชื่อมั่นในบริวารพุทธศาสนา ตั้งตนอยู่ในความเป็นธรรมตลอดมา ข้าพเจ้าเชื่อมั่นเสมอว่า ชาติของเราจะไม่อับจนเป็นอันขาด เรื่องนี้เป็นเพียงเรื่องหนึ่งในบรรดาเรื่องใหญ่ทั้งหลายมีความสำคัญมากกว่านี้ ชาติที่รักของเรากำลังพัฒนาไปในสู่วิถีทางที่ดีขึ้น เหตุนี้ไม่ใช่เหตุผลความอับจนของเรา จงหวังและทำในเรื่องชาติที่สำคัญกว่านี้ ข้าพเจ้าเชื่อมั่นเหลือเกินว่าชาติไทยของเรามีอนาคตแจ่มใสและรุ่งโรจน์อย่างแน่นอนและมั่นคงในอนาคตอันใกล้นี้ เราจงมาช่วยกันสร้างชาติที่รักยิ่งของเราต่อไป พี่น้องชาวไทยที่รักทั้งหลาย วันนี้เป็นวันหนึ่งและเป็นในวันข้างหน้า เราจะต้องเอาปราสาทเขาพระวิหารกลับคืนมา ให้เป็นของชาติไทยให้จงได้ สวัสดี
29 มิถุนายน 2551 02:49 น.
Darkness_Hero
อันตัวข้าโกรธาโกรธกริ้ว
ขอนำทัพริ้วขบวนจงเคลื่อนไหว
ไปร่วมรบฆ่ามันพวกจังไร
ไม่ว่ามันผู้ใดมาย่ำยี
เลือดของข้าจะยอมพลีเพื่อชาติ
แม้ถึงฆาตยอมสละเพื่อไทยนี้
ข้าจะฆ่ามันให้สิ้นถิ่นธานี
ให้สมที่มันอังอาจข่มเหงไทย
แม้เศษเสียวธุลิข้าจะป้อง
แผ่นดินทองแผ่นดินไทยนี้ให้ได้
เลือดของข้าจะหลั่งรินไม่เป็นไร
ขอเพียงไทยอยู่รอดข้ายอมตาย
ไม่มีถอยอ่อนข้อแม้เพียงนิต
อันชีวิตข้าคนนี้ย่อมพลีได้
ขอเพียงให้ยังมีประเทศไทย
มิยอมให้ผู้ใดมาทำลาย
29 มิถุนายน 2551 02:09 น.
Darkness_Hero
คำเตือน : กลอนนี้มีคำสมัยพ่อขุนรามแฝงอยู่ กรุณาใช้วิจารณญาณในการอ่าน
รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีต่างประเทศกัมพูชากล่าวว่าความรู้สึกทางชาตินิยมเกี่ยวกับการจดทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกที่กำลังแผ่ลามในประเทศไทยขณะนี้ อาจจะกระเทือนต่อความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศได้
---------------------
กูรักชาติของกูจะทำไม
ไอ้จังไรใยปากหมาพูดเยี่ยงนี้
ข้ารักชาติข้ารักในธานี
ข้าคนนี้มิยอมยกเสี้ยวผืนไทย
ชาติของกูกูจะรักกูไม่ผิด
ประเทยไทยเจ้าอย่าคิดว่าหมิ่นได้
คิดว่าใหญ่นักหรือไอ้จังไร
มึงรีบไปให้ไกลๆส้นตีนกู
"พระวิหาร" มึงอย่าจะคิดปล้น
คิดหรือว่าชาวสยามจะไม่รู้
มึงอย่าคิดยึดแผ่นดินของพวกกู
อย่างพวกสูอย่าปากดีขู่ทำไม
คิดว่ากูกลัวมึงเช่นนั้นหรือ
ปากของมึงจึงกระพือเยี่ยงนั้นได้
อย่าได้คิดดูแคลนประเทศไทย
สยามนั้นไซร้ยามรบมิขลาดกลัว
--------------------------------
เพลงชาติไทย
-ทำนอง: พระเจนดุริยางค์ (ปิติ วาทยะกร)
-คำร้อง: พันเอก หลวงสารานุประพันธ์ (นวล ปาจิณพยัคฆ์)
ประเทศไทยรวมเลือดเนื้อชาติเชื้อไทย
เป็นประชารัฐผไทของไทยทุกส่วน
อยู่ดำรงคงไว้ได้ทั้งมวล
ด้วยไทยล้วนหมายรักสามัคคี
ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด
เอกราชจะไม่ให้ใครข่มขี่
สละเลือดทุกหยาดเป็นชาติพลี
เถลิงประเทศชาติไทยทวีมีชัย ชโย
-----------------------------------