21 กุมภาพันธ์ 2548 16:30 น.
dark side of mind
มากำเนิด เกิดดับ อย่างซับซ้อน
ถึงบทตอน มรสุม รุมกระหน่ำ
ถูกตอกลิ่ม ทิ่มแทง ด้วยแรงกรรม
จนล้มคว่ำ ทอดกาย แทบตายไป
หัวใจพ่าย กายก็ล้า ไม่กล้าแกร่ง
ความกลัวแฝง บีบคั้น สุดหวั่นไหว
ความท้อแท้ ท่วมท้น หลั่งล้นใจ
จากยิ่งใหญ่ เป็นไร้ค่า หาจีรัง
วันปีเดือน เลื่อนไหล ไปเบื้องหน้า
แต่ชีวา ล่องลอย ถดถอยหลัง
ประหนึ่งนก หกเหิน เพลินหลงรัง
จึงไร้หวัง วังเวง ลอยเคว้งคว้าง
ใจระส่ำ ต่ำตก นรกทุกข์
ดั่งเพลิงลุก รุมเร้า แผดเผาร่าง
จิตวิญญาณ ผ่านแผ่ว แว่วเลือนราง
จงปล่อยวาง สรรพสิ่ง อย่างจริงจัง
กลไกใจ ต้องไขลาน ทำงานหนัก
ปลดเปลื้องปลัก ยึดมั่น อันเหนี่ยวรั้ง
ปลดปล่อยใจ ให้อิสระ คือพลัง
ปลุกความหวัง เพื่อตั้งต้น บนความจริง
11 กุมภาพันธ์ 2548 17:19 น.
dark side of mind
กรรมอดีต ขีดรัก ฉันหักเห
ไร้บุพเพ ร่วมจิต อธิษฐาน
รักสะดุด หยุดพลัน นิรันดร์กาล
จากลิ้มหวาน มาพาลขม ล่มกลางคัน
ฉับพลันเธอ เอ่ยมา ว่า..ลาก่อน
นี่คือตอน วิกฤต ชีวิตฉัน
เหมือนฟ้าสาป บาปลาม ติดตามทัน
ฉากสวรรค์ ก็ถล่ม จมกลางใจ
เราพบเพื่อ พลัดพราก จำจากร้าง
บนหนทาง รักเผื่อเลือก เธอเสือกไส
ฉันจึงเป็น แมลงเม่า บินเข้าไฟ
รักมอดไหม้ ฉากฝัน ก็อันตรธาน
วันเวลา ผ่านไป ไม่สิ้นสุด
แต่กลับหยุด ความรัก อย่างหักหาญ
ที่ไม่สุด คือโศกล้น เกินทนทาน
เป็นสายธาร รันทด หลั่งรดทรวง
รักร้างลา พร่าฝัน ฉันหมองคล้ำ
ถูกจองจำ ตรวนรัก อันหนักหน่วง
ขังใจเหงา เศร้าโศก ในโลกลวง
มิหาญทวง อิสรภาพ ตราบสิ้นลม...