16 มิถุนายน 2548 22:36 น.
dark side of mind
***ถึงคืนค่อนนอนไม่หลับกระสับกระส่าย
ไร้น้องแนบเกยก่ายให้หายเหงา
สุดหม่นหมองน้องพรากจากอกเรา
แสนโศกเศร้าขื่นขมตรมอุรา
เคลิ้มหลับไปใจหวนถึงนวลน้อง
เห็นว่าเจ้าลอยล่องย่องมาหา
สารภาพบาปกรรมที่ทำมา
หลั่งน้ำตาหน่วงหนักซบตักเรา
ลืมตาตื่นตกใจอะไรนี่
โอ้เราฉี่ใช่น้ำตาน่าโง่เขลา
สู้อุตส่าห์ยกโทษไม่โกรธเจ้า
ยังลวงหลอกเหมือนเก่า..มาเข้าฝัน***
14 มิถุนายน 2548 22:59 น.
dark side of mind
***ความโดดเดี่ยวแต่งบรรเลงถ้อยเพลงเศร้า
ความเงียบเหงาเรียบเรียงเสียงประสาน
ความอ้างว้างสร้างทำนองก้องกังวาน
จิตวิญญาณขานพจน์เอื้อนบทเพลง
สังคีตเสียงเรียงร่ายฉายภาพพจน์
ให้ลิ้มรสขื่นขมเหมือนข่มเหง
ทุกคืนค่ำย้ำซ้ำร่ำบรรเลง
รุมเร้าเร่งร้าวรอนมิผ่อนคลาย
ประวัติศาสตร์พลาดซ้ำรอยช้ำเก่า
ความโง่เขลาทำโทษอย่างโหดร้าย
ความซื่อสัตย์กัดลิ้นสิ้นใจตาย
ฉุดความรักล้มละลายตายตามกัน
ดนตรีใจไหลรินไม่สิ้นเสียง
ส่งสำเนียงเช่นเคยอย่างเย้ยหยัน
เหมือนเสียงสาปหฤโหดลงโทษทัณฑ์
สาปส่งลงโลกันตร์นิรันดร์กาล***
8 พฤษภาคม 2548 15:28 น.
dark side of mind
...วจีทุจริตซ่อนไว้ ใจพาล
สืบรากจากสันดาน ด่างพร้อย
ยกหางอึ่งข่มท่าน แทงทิ่ม
ใจคับแคบต่ำต้อย รากเหง้าเผ่าสถุล
นักบุญใจหยาบช้า กาลี
แค่ปากคาบคัมภีร์ พล่อยไว้
วางท่าดั่งราชสีห์ สร้างภาพ
เหมือนนกขนขาดไร้ ยากแท้บินสูง
26 เมษายน 2548 20:20 น.
dark side of mind
แหงนดูดาวพราวผ่องบนท้องฟ้า
ละลานตาระยับยิบกระพริบไหว
เห็นดาวตกสว่างวับแล้วดับไป
ดั่งดวงจิตมอดไหม้ใกล้ละลาย
ซากอดีตกรีดกร่อนจนอ่อนล้า
หยาดน้ำตาหลั่งรินมิสิ้นสาย
ใจย่อยยับคับแค้นแสนบรรยาย
อยู่เหมือนตายบนซากใจไร้วิญญาณ์
พลีชีวิตชดใช้กรรมที่ทำไว้
พลีหัวใจเซ่นเล่ห์เสน่หา
หลีกหนีคาวโลกีย์ที่ตำตา
ปรารถนาเพียงพ้นทุกข์ล้นใจ
ขอตั้งจิตอธิษฐานสาบานว่า
ชั่วชีวาจะมิมีสตรีไหน
ขอชูธงธรรมะสะบัดชัย
ปักกลางใจให้มั่นนิรันดร์กาล
25 เมษายน 2548 18:42 น.
dark side of mind
๐๐มองดูใจไขว่คว้า ความจริง
ผัสสะละทุกสิ่ง สติรู้
ความเพียรอย่างยอดยิ่ง ทันเท่า กระทบเฮย
สติแกร่งอาวุธสู้ สุดสิ้นดับกระแส๐๐