เธอไม่เคยเลยนะ...จะหยุดนิ่ง พาฉันวิ่งพล่านไปไม่หยุดหย่อน เธอยิ่งรีบเร่งรุดไม่หยุดจร จนฉันอ่อนล้าเกินจะเดินตามทิ้งฉันไว้ตรงนี้เถอะที่รัก ฉันขอพักผ่อนใจที่ไหวหวาม หยุดทะยานอยากใคร่ในรูปนาม ปล่อยใจชมความงามในยามเย็นดูตะวันตกดินสิ้นกำแหง มอบสีแสงสุดท้ายก่อนวายเว้น ฉันจะจูงหัวใจที่ไหวเอน ไปเดินเล่นเพื่อยลแสงสนธยาผืนฟ้าเริ่มหมองคลำ้ดำมืดมิด ไม่มืดเท่าดวงจิตแห่งมิจฉา ฉันจะหลับเพื่อตื่นจากอัตตา ทิ้งเบื้องหน้าเบื้องหลังที่ฝังใจเธอผู้ยังรีบรุดไม่หยุดวิ่ง ฉันจะนิ่งมองเธอมิเผลอไผล เพียรเฝ้าดูรู้ละทุกขณะไป เพราะสุขใดไหนเล่า...เท่าปล่อยวาง
... ล่วงคืนค่ำฉ่ำฝนจนฟ้าสาง ขอบฟ้ากว้างเรืืืองรองแสงทองฉาย ต้องไอหมอกหยอกล้อทอประกาย ความหนาวคลายอวลกรุ่นด้วยอุ่นไอ บุปผาแย้มผลิบานกว่ากาลก่อน สลัดกลีบเกสรซึ่งอ่อนไหว ชูช่องามตามวันคืนสูงขึ้นไป ดังจะไขดวงจิตที่ติดตรึง แม้อยู่คนละฝั่งของฟากฟ้า มิเกินกว่าพลังรักจักแผ่ถึง อกกำซาบอาบร่ำทุกคำนึง ร่วมน้ำหนึ่งมีรักเป็นมรรคา ฝนสร่างซาฟ้าใสใจสว่าง หอมมิจางรวยรินกลิ่นบุปผา ชูช่องามความดีที่ศรัทธา ทรงคุณค่าสูงขึ้นไป...ที่ใจเรา
... ด้วยรักและปรารถนาดีอย่างที่สุด แต่มนุษย์บางครั้งอาจพลั้งผิด ปากเคราะห์หามยามร้ายทำลายมิตร เธอมีสิทธิ์...ถือโทษโกรธฉันนะ มิเคยคิดดูหมิ่นให้สิ้นศักดิ์ เพราะใจนี้มีรักเป็นตรรกะ มิใช่เหยื่อชิ้นโตอันโอชะ ให้เขาประณามหยัน...ลืมมันเถอะ หวังอันใดในฝันอันงามงด มิพ้นกฎเกิดดับ...จับเป็นเลอะ เพียงสัมพันธ์ฉันท์เพื่อนอย่าเปื้อนเปรอะ ดีกันเนอะคนดี...พี่ขอโทษ
... บทสรุปโจรกระจอกก็กระจ่าง แค่พวกวางระเบิดบังเกิดผล ต้องล้มหายตายจากมากเหลือทน บึ้มร้อยหนพันครั้ง...ก็ยังกระจอก แต่มีโจรอีกจำพวกปลวกต้องหลบ แทะทึ้งงบครบโควต้า...มาเป็นครอก ผียังแย่แพ้วิชา...สับขาหลอก โจรเสื้อนอกจอมโกหกชอบหมกเม็ด หากคิดโค่นโจรร้ายต้องหมายมั่น รุมประณามหยามหยันให้มันเข็ด บริภาษด่าทอจนคอเคล็ด รอน้ำท่วมหลังเป็ด...มันเสร็จแน่!!
... "ฉันรักเธอ"...ย้ำไว้ให้ประจักษ์ ขอพิงพักฝากใจไม่แปรผัน รักด้วยใจบริสุทธิ์ผุดผ่องพรรณ บนศรัทธาคงมั่นจวบวันตาย เธอดั่งแสงใสสว่างผุดกลางจิต จากน้อยนิด...หนุนเนื่องจนเรืองฉาย แผ่ไล่ความมืดดำที่กล้ำกราย ฉุดฉันขึ้นจากอบายทั้งกายใจ เธอผู้เป็นมิ่งมิตร...มุ่งคิดชอบ คือคำตอบของวิถีที่สดใส คือความดีงามยิ่งเหนือสิ่งใด ขอเธอจงสถิตย์ใน...ใจทุกคน