23 เมษายน 2548 09:39 น.
cottons
ฉันกำลังเดินอยู่บนทางเท้าริมถนนใจกลางเมืองเล็กๆ แห่งหนึ่ง ในค่ำคืนที่เงียบสงัด ราวกับว่าที่นี่คือเมืองร้าง หลอดไฟบนเสาที่อยู่ริมถนนยังคงเปิดสว่างจ้า ส่องแสงสีเหลืองทองให้กับถนนที่ไม่มีแม้แต่ยานพาหนะชนิดใดวิ่งอยู่ ฉันแหงนหน้าขึ้นมองท้องฟ้าเบื้องบน ในคืนเดือนมืดเช่นนี้ดวงดาวช่างเจิดจรัสแสงงดงามยิ่งนัก แสงสว่างสีขาวของดวงดาวพลันทำให้ฉันนึกถึง ความเหงา และ การจากลา ที่จะอุบัติขึ้นในรุ่งเช้าของวันใหม่
ฉันอยากให้ค่ำคืนนี้ยาวนานจริงๆ ฉันยังอยากที่จะดูดดื่มความรู้สึกและภาพของเมืองเล็กๆ แห่งนี้ให้เต็มอิ่ม เพื่อที่จะได้ระลึกถึงมันได้อย่างเต็มที่ ในยามที่ฉันจะต้องจากลาไป ฉันคิดใคร่ครวญท่ามกลางความเงียบสงัดและความเหงา
เด็กสาวคนหนึ่ง ผมเหยียดตรงสีดำยาวประบ่า กำลังนั่งอยู่คนเดียวบนม้านั่งไม้ตรงริมถนน ที่ไม่ค่อยมีใครใคร่สนใจนักในยามปกติ ผิวขาวนวลของเธอสะท้อนกับแสงไฟของถนนเป็นสีเหลืองทอง สายตาของเธอทอดมองไปยังน้ำพุเล็กๆ ที่อยู่ในอ่างน้ำ ตรงหัวมุมถนน
ฉันเดินเข้าไปใกล้ๆ เพื่อที่จะได้เห็นหล่อนได้ชัด สีหน้าของเด็กสาวช่างแน่นิ่ง เปลี่ยวเหงา เสียนี่กระไร ฉันขออนุญาตนั่งเป็นเพื่อนเธอในยามค่ำคืนที่เงียบและอ้างว้างนี้
พรุ่งนี้ฉันต้องจากลา เด็กสาวพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เศร้าและหดหู่ยิ่งนัก
ฉันก็เช่นกัน ฉันตอบ สายตาของเธอยังคงมองน้ำพุอย่างแน่นิ่งราวกับว่าฉันมิได้กล่าวอะไรกับเธอ บางทีเธออาจจะต้องการเก็บความรู้สึกในค่ำคืนนี้เหมือนกับฉันก็ได้
เราสองคนไม่ได้คุยอะไรต่อจากนั้น ต่างนิ่งเงียบ และรับรู้ความเศร้าใจที่ต่างเกิดขึ้นจากใจของเราทั้งสอง
การจากลา ทำให้ฉันนึกถึงกลอน ขั้นตอนแห่งชีวิต ของเฮอร์มันส์ เฮสเส ท่อนหนึ่งที่ว่า
จงก้าวไกลต่อไป อย่างเบิกบาน
อย่าสยบต่ออารมณ์ผูกพันอยู่กับบ้าน
วิญญาณแห่งจักรวาลไม่เคยเหนี่ยวรั้งเรา
หากแต่ยกเราทีละขั้น สู่ห้วงหาวอันไพศาล*
เฮสเสอาจพูดถูก สิ่งที่เขาพูดอาจใช้ได้กับหลายคนเท่านั้น รวมทั้งตัวของเขาเองด้วยที่หนีออกจากโรงเรียน เพื่อที่จะเป็นนักเขียน แต่จิตใจของฉันไม่กล้าแกร่งพอเหมือนกับคนอีกหลายคน
ฉันผูกพันกับที่นี่อย่างไม่มีใครเข้าใจ ทำไมต้องมีการจากลา? มันอาจเป็นธรรมดาของมนุษย์และโลกที่เกิดขึ้นอยู่ทุกวินาทีไม่มีวันจบสิ้น บางทีฉันอาจต้องใช้เวลาในการเข้าใจมัน แต่ไม่ใช่ตอนนี้ มันเร็วเกินไปสำหรับฉัน
เด็กสาวข้างฉันกำลังมีน้ำตารินไหลออกมาเปรอะเปื้อนแก้มสีชมพูของเธอ แต่สีหน้าของเธอยังคงแน่นิ่ง สายตายังคงทอดไปยังน้ำพุ บางทีเธอคงอยากอยู่คนเดียว การจากลาของฉันและของเธอกำลังจะมาถึง ท้องฟ้าเบื้องหน้าเริ่มเป็นสีส้มอมแดง ดวงอาทิตย์กำลังจะพ้นขอบฟ้า แสงของดวงอาทิตย์กระทบกับน้ำในอ่างน้ำพุสะท้อนเป็นเงา
ฉันและเธอคงต้องไปแล้วจริงๆ เรากล่าวคำอำลาต่อกัน และแยกย้ายไปคนละทิศ เธอไปทางทิศเหนือ ส่วนฉันไปทางทิศใต้
ยามรุ่งอรุณย่างเข้ามาเยือน ดวงอาทิตย์พ้นขอบฟ้า การจากลาเกิดขึ้นพร้อมกับความเศร้าและผูกพันต่อที่แห่งนี้ ตรงหัวมุมถนนน้ำพุเล็กๆ ยังคงพวยพุ่งต่อไป