29 มีนาคม 2547 01:11 น.
Completely
เคยสงสัยกันไหม ... สิ่งที่เราเห็น มันมีอยู่จริงหรือเปล่า ?
ฉันเคยเห็นผู้ชายคนหนึ่งนั่งอยู่หน้าห้องน้ำในห้างสรรพสินค้าแห่
งหนึ่งในกรุงเทพ ... ความรู้สึกแปลกๆเกิดขึ้นในใจทันที
ฉันรู้สึกว่าเขาไม่น่ามีอยู่จริง ... คุณนึกออกไหม ผีในหนังจีน มักจะเป็นคนที่มีหน้าสีม่วงๆเป็นรัศมีออกมา ... นี่ก็เหมือนกัน ...
ฉันท่าจะเพี้ยนไปแล้ว ... เห็นๆอยู่ว่านี่มันคนชัดๆ ... แต่ฉันก็มองเขา มองแล้วมองอีก ... เขาไม่เหมือนคนอย่างเราๆเลยจริงๆนะ ไม่เหมือนอย่างผีในหนังจีนนั่นเลยแหละ ... แต่เขาไม่มีหน้าม่วงๆซะหน่อยนี่
ฉันตัดความคิดไว้แค่นั้น ... ก่อนที่เดินให้พ้นจากวิถีที่เขานั่งอยู่ ... แน่ะ! กลัวล่ะสิแก ... เห็นไหม แกยังไม่ได้ตัดความคิดเพี้ยนๆนี่ซะหน่อย ...
แต่ผู้ชายคนนี้ ... ก็ยังเทียบไม่ได้กับภาพอีกภาพที่ฉันได้เห็น
คุณเคยเห็นเทศบาลจับหมาไหม? ... ถ้าเคยเห็น แล้วคุณรู้สึกยังไงกันบ้าง ... นั่นแหละ
ถ้าคุณไม่เคยเห็น ... ฉันจะบอกให้
เขาจะมีไม้ยาวเป็นเครื่องมือ ตรงปลายไม้มีตะขออันโค้งๆยาวๆติดอยู่ ... เขาเอาไว้จับหมา ...
ตะขอนั่นจะเกี่ยวเข้าที่หัวหมา ... คุณอ่านไม่ผิดหรอก ... เกี่ยวเข้าที่ ... ใช่เลยล่ะ
คุณเคยได้ยินหมาร้องอยู่แล้วแหละ ... อย่างน้อยก็ตอนที่มันหอน หรือตอนที่มันกัดกัน ... แต่มันเทียบกันไม่ได้เลย กับเสียงเวลาหมาถูกเทศบาลลากคอ
ฉันบอกไม่ถูกหรอกว่ามันเป็นยังไง ... รู้แต่ว่ามันโหยหวนที่สุดมากกว่าเสียงใดๆที่ฉันเคยได้ยินมาทุกเสียงเลย ...
ถ้าคุณไม่เคยได้ยินก็ดีแล้วล่ะ ... ดีแล้วจริงๆ เพราะมันจะฝังอยู่ในหัวคุณ เหมือนอย่างที่มันยังก้องอยู่ในหัวฉัน จนฉันหยิบเอาเรื่องนี้มาเขียนให้คุณอ่านได้ ... คิดดูแล้วกัน
ที่ฉันเล่าเรื่องหมาถูกเทศบาลจับนี่ ... ไม่ได้จะเรียกร้องสิทธิสัตวชน หรือรณรงค์ใดๆทั้งสิ้น ... มันไม่ใช่ประเด็นที่ฉันจะนำเสนอในวันนี้ ... เรื่องคุณธรรมอะไรพวกนั้น ใครๆก็รู้ ... ใครๆก็คิด ... ใครๆก็พูดได้ ... และคนมากมายก็ทำอยู่แค่นั้น
ไม่ต้อง ... ไม่ต้องชะงัก ทำหน้าย่น หรือก่นด่าฉันอยู่ เพราะฉันกำลังจะบอกว่า ... ฉันเองก็เป็นหนึ่งในคนที่อัปยศกับเรื่องนี้เหมือนกัน ... เหมือนคุณน่ะแหละ ไม่ต้องเหลียวไปมองหาใครหรอก ... ใครๆเขาก็หันหน้าหนีกันหมดแล้ว ... จะมีกี่คนเชียวที่กล้าเดินออกมาแล้วบอกว่า ... ฉันละอายแก่ใจเหลือเกิน ... เฮอะ
นอกเรื่องไปมากแล้ว ... ฉันจะบอกว่า ครั้งแรกที่ฉันเห็นภาพหมาถูกเกี่ยวหนังหัวน่ะ ... ฉันแทบช็อคไปเลย
มันไม่น่ามีอยู่จริง ... ภาพนี้มันไม่เป็นจริง ... เรื่องนี้มันไม่จริง ... ... ฉันเฝ้าหลอกตัวเองซ้ำๆอยู่เป็นวันๆ ... ทั้งที่นั่นก็ไม่ใช่หมาฉันซะหน่อย
เรื่องแบบนี้ ... การกระทำ --- ภาพแบบนี้ ... จะเกิดขึ้นในเมืองไทยได้ยังไง ... เมืองไทยที่คนหัวเก่าทั้งหลายพร่ำบอกอย่างงมงายว่า เมืองไทยเป็นเมืองพุทธ ... เมืองพุทธที่มีคดีฆ่าข่มขืน พี่น้องฆ่ากันเองขึ้นหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์ทุกวันน่ะสิไม่ว่า ... ฉันศรัทธาในเมืองพุทธของเราแย่แล้ว ... ... อย่าว่าแต่ไม่น่าเกิดขึ้นในเมืองไทยเลย ... มันไม่น่าจะมีในโลกด้วยซ้ำ
ไม่ใช่แค่ภาพนี้หรอกที่ทำให้ฉันต้องคิดดีๆไม่รู้กี่ทีว่า ... ไอ้สิ่งที่เพิ่งผ่านเข้ามาในลูกตาของฉันนี่มันจริงหรือเปล่า ... ขอทาน --- เด็กขอทาน --- แม่อุ้มลูกขอทาน --- คนพิการขอทาน --- คนแก่หมอบพื้นมีหมาอยู่ข้างๆขอทาน ... ...
จะให้ฉันทำใจเชื่อว่ามันเป็นเรื่องจริงได้ยังไง ... คุณคิดดูสิ ... ภาพที่เห็นกันอยู่ทุกวันนี่มันเรื่องจริง ... จริงๆเหรอ
บ้าที่สุด ... ฉันต้องยอมรับมัน ว่านี่เป็นเรื่องจริง เกิดขึ้นในสังคมจริงๆ
สิ่งที่ไม่น่ามีอยู่จริง ... กลับเป็นจริง
23 มีนาคม 2547 00:26 น.
Completely
" ฟังจากที่แกเล่า ฉันว่ามันมีอะไรแปลกๆอยู่นะ "
" อะไรเหรอ ที่ว่าแปลกน่ะ "
" ก็อย่างการกระทำหลายอย่างที่เขาทำกับแก เพื่อนกันเขาไม่ทำกันแบบนี้หรอกนะ "
" พุธเขาก็ใจดีอย่างนี้มาตั้งนานแล้ว "
" แล้วที่เขา " ทำซึ้ง " กับแกล่ะ "
" ฉันไม่รู้ "
" .... แกเองก็ไม่น่าไปดื้อกับเขาแบบนั้น "
" ฉันก็แค่อยากให้เขาเข้ามานอน ข้างนอกนั่นลมแรงจะตาย "
" แล้วตั้งแต่กลับมานี่เป็นยังไงกันบ้าง "
" ก็ไม่เป็นไง ... ไม่ได้เจอเขามาสองสามวันแล้ว "
" ฉันว่าแกกับเขาน่าจะห่างๆกันบ้งนะ เผื่อว่า การที่ไม่ได้เจอกันเลย อาจทำให้แกมีเวลาอยู่กับตัวเองมากขึ้น ... เผื่ออะไรจะดีขึ้น แล้วแกอาจจะหายจากจากโรคพุธลิซึ่มซะที "
" ... "
" ดาว แกกับเขายังเป็นแค่เพื่อนบ้านกันนะ ไม่ต้องไปใส่ใจเขานักหรอก "
" แต่ฉันรักเขาไปแล้วนี่ แกก็รู้ "
" เออ ... ฉันรู้ แต่ก็น่าจะลองปล่อยๆไปบ้างก็ดีนะ "
" แกจะให้ฉันปล่อยอะไรล่ะ "
" ปล่อยวางไงแก ... เปิดโอกาสให้ตัวเองได้มองคนอื่นบ้าง "
" ฉันก็เคยคิดนะ แต่พอจะทำแล้วมันทำไม่ได้เลย ... ทุกครั้งที่ฉันลองมองคนอื่นๆดู แกรู้ไหม ... ฉันเห็นแต่หน้าพุธเต็มไปหมดเลย "
" แกเป็นเอามากแล้วล่ะ ... ฉันไม่รู้เหมือนกันว่าจะช่วยแกยังไงดี เอาเป็นว่า แกต้องพยายามนึกถึงเขาให้น้อยที่สุดนะ หาอะไรทำให้ยุ่งๆดู ... แกไม่ได้จับพู่กันให้มันเป็นเรื่องเป็นราวมานานแค่ไหนแล้ว "
" ก็ไม่นานนะ ... ที่ไปทะเลกับพุธ ฉันก็เพิ่งวาดรูปทะเลที่นั่นไป "
" แล้วแกวาดเสร็จรึยัง "
" ยัง "
" ดี ... ไปวาดให้เสร็จ เสร็จเมื่อไหร่ เอารูปไปเข้าแกลลอรี่ได้แล้ว ... ยัยแก้วแว่นหนาคงบ่นถึงแกตายชักล่ะ แกเล่นไม่เอางานไปส่งเลย ... ยัยนี่ยิ่งงกๆอยู่ด้วย "
" พิน แกก็พูดเกินไป "
" อ้าว ... ก็มันจริงนี่ ขาดรูปแกไป ร้านยัยแว่นนี่จะมีลูกค้าเข้าร้านสักเท่าไรเชียว ชั้นว่า ยัยแว่นแก้วคงขาดรายได้ไปโขล่ะ ... รู้ไหม รีบๆปั่นงานซะบ้าง เดี๋ยวก็กินแกลบหรอก "
" เออ ... รู้แล้วน่า แค่นี้แล้วกัน แกไปทำงานต่อเถอะ เอาเวลางานมาคุยโทรศัพท์ ถ้าเจ้านายแกมาเห็นเข้า เดี๋ยวก็ถูกตัดเงินเดือนหรอก "
" โอ๊ย ... ชั้นไม่กลัวหรอก ให้รู้ไปสิว่าจะกล้าตัดเงินเดือนเลขาสาวสวยแถมเก่งเจ๋งอย่างชั้น "
" พูดดีไป เดี๋ยวจะรู้สึก ... แค่เนี้ยแหละ ไปทำงานต่อได้แล้ว "
" อือ ก็ได้ ... แกอย่าคิดมากล่ะ "
" รู้แล้ว ... "
" คิดถึงแกนะ ดาว "
" เออ ชั้นก็คิดถึงแกเหมือนกัน "
" มีอะไรก็โทรมาหาชั้นได้นะ ถ้าจะกินเหล้าก็โทรมาชวนบ้าง อย่าบ้าไปคนเดียวล่ะ แกยิ่งเพี้ยนๆอยู่ "
" เออ รู้แล้ว แค่นี้แหละนะ "
ฉันวางสายเพื่อนไปก็เท่านั้น ... ฉันอัดอั้นจะตายอยู่แล้ว ความรักที่ฉันมีต่อพุธมันช่างมากมายเหลือเกิน ... มากจนฉันคิดว่า มันคงเป็นไปไม่ได้หรอก ที่ฉันจะหยุดรักเขาได้ ฉันคงติดอยู่ในบ่วงนี้ไปตลอดชีวิต
บ้าจริงๆ ... ทำไมฉันถึงบ้าขนาดนี้นะ รู้ทั้งรู้ว่า ถ้ารักแล้วต้องเจ็บปวด แต่ก็ยังโง่รักเขาอยู่อีก ...
ในใจฉันมีแต่ภาพเขาเต็มไปหมด
พุธ ... ตอนนี้เขาทำอะไรอยู่นะ ฉันไม่ได้พบเขาเลยตั้งแต่เรากลับมาจากทะเล ... บางทีเขาอาจกำลังนั่งกินกาแฟหรือสูบบุหรี่อยู่นอกชาน ... เมื่อไหร่เขาจะเลิกสูบบุหรี่เสียทีนะ ฉันอยากจะคว้าไอ้แท่งสีขาวๆนั่นออกไปทิ้งทุกครั้งที่เห็นเขาพ่นควันสีขาวขุ่นนั่นออกมา ... ฉันไม่อยากให้เขาลาโลกนี้ไปก่อนวัยอันควร ฉันอยากจะเห็นหน้าเขาไปอย่างนี้ไปอีกนานแสนนาน ... ต่อให้เขาไม่ได้รักฉันเลยก็เถอะ
.......................................................................................................................
" พุธๆ ดาวซื้อไก่ย่างเจ้าโปรดพุธมาฝากแน่ะ " ฉันตะโกนเรียกเขา พลางกดกริ่งติดกันหลายครั้ง
ไม่มีเสียงฝีเท้าวิ่งมาเปิดประตูให้เหมือนเคย
เขาหายไปไหนนะ ฉันนึกสงสัย
" พุธๆ อยู่หรือเปล่า "
ฉันกดโทรศัพท์มือถือโทรหาเขา
... ไม่มีสัญญาณตอบรับจากหมายเลขที่ท่านเรียก ...
ฉันเดินกลับไปที่บ้านแล้วรีบอ้อมไปยังรั้วหลังบ้าน ที่นั่นมีประตูเชื่อมบ้านของฉันกับเขาอยู่ ... มันไม่เคยล็อก
ฉันเดินไปที่หน้าประตูบ้านเขา ... ที่นั่น ฉันพบบางอย่าง
กระดาษโน้ตแผ่นหนึ่งแปะอยู่ที่บานประตู ฉันขยับเข้าไปใกล้ มันเขียนไว้ว่า ...
" พุธไปทะเล ปลายเดือนกลับ ไม่ได้เอามือถือไป ดาวไม่ต้องเป็นห่วง แล้วจะซื้อของมาฝาก ปล. อย่าดื่มช่วงที่พุธไม่อยู่นะ "
เขาไปทะเล ... ไปอีกทำไม เราเพิ่งกลับมาจากที่นั่น
บางที เขาอาจไปทะเลที่อื่นก็เป็นได้
เขาน่าจะแวะมาบอกฉันสักคำ ... เขารีบถึงเพียงนั้นเชียวหรือ
ฉันยืนนิ่งอยู่ตรงนั้นเป็นนาน ท่ามกลางความเงียบอันโหดร้าย
.......................................................................................................................
ฉันเอื้อมมือไปเปิดตู้เย็น มีเครื่องดื่มประเภท น้ำผลไม้ผสมแอลกอฮอล์ล แช่อยู่ข้างใน 3-4 ขวด ฉันเอื้อมมือไปหยิบมัน
... อย่าดื่มช่วงที่พุธไม่อยู่นะ ...
ฉันชะงัก ตัดสินใจว่าจะทำอย่างไรดี เวลาผ่านไปชั่วอึดใจ ฉันปิดตู้เย็น มีขวดน้ำฝรั่งอยู่ในมือ ...
.......................................................................................................................
" แต่ความห่างไกล ไม่เคยห้ามใจ ที่ยังคิดถึง ส่งไปให้ถึงใจเธอ อยากบอกเธอ คิดถึงเธอ ... เหลือเกิน "
สายฝนเริ่มโปรยปรายลงมาอีกครั้ง
พุธ ... ป่านนี้ เขากำลังทำอะไรอยู่นะ นั่งอยู่ข้างนอกนั่นอีกหรือเปล่า ลมแรงออกอย่างนี้
ฉันเปิดม่าน มองฝ่าสายฝนออกไปเบื้องนอก
บ้านของเขามืดสนิท แทบจะกลืนไปกับความมืดมิดแห่งราตรีกาล
คุณรู้บ้างไหม ... ว่าฉันเป็นห่วงคุณเหลือเกิน
ฉันขยับหมอนให้เข้าที่ เอนกายลง จินตนาการถึงวันพรุ่งนี้
ฉันจะเปิดม่าน ... แล้วพบเขายืนล้างรถเหมือนเคย
.......................................................................................................................
17 มีนาคม 2547 23:23 น.
Completely
" แอบรักเธออยู่ในใจ เก็บหัวใจไว้ให้เธอ วันทั้งวันฉันมองเหม่อ คิดถึงเธอทุกเวลา ... "
เขาเลือกเพลงได้ดีจริงๆ ... เขาเปิดให้ฉันหรืออย่างไรกัน
" พุธไปเล่นน้ำนะ "
" เดี๋ยวพุธ ... ดาวขอยืมเจ้าเต่าสีขาวของพุธหน่อยสิ "
" จะไปไหนหรือ " เขาถาม น้ำเสียงห่วงใย
" ไม่ไปไหนไกลหรอก ดาวแค่อยากขับรถเล่นเท่านั้น "
" กุญแจรถอยู่บนโต๊ะ ขับรถดีๆนะดาว อย่าซิ่งนักล่ะ "
" ดาวรู้แล้วน่า ไม่ต้องห่วงหรอก "
แล้วเขาก็เดินออกไป
แดดแรงจัง จำได้ว่าพุธมีที่บังแดดนี่นา อยู่ไหนนะ
ฉันเริ่มค้นหาที่บังแดด ในลิ้นชักรถ ข้างเบาะ จนฉันเอี้ยวตัวไปหลังเบาะคนขับ พลางรื้อของต่างๆ สายตาของฉันก็สะดุดกับบางสิ่ง
มันเป็นกรอบรูปไม้สีน้ำตาล
ฉันค่อยๆหยิบมันขึ้นมา แม้ว่ามันจะถูกสิ่งของมากมายทับอยู่ น่าแปลกที่สภาพของมันกลับสะอาดเอี่ยม เหมือนกับได้รับการดูแลอย่างดี แต่ถูกนำมาซ่อนให้พ้นหูพ้นตาคน
ฉันพลิกดูรูปนั้น แล้วความรู้สึกนานาก็ประดังเข้ามา
มันเป็นภาพของหญิงสาวคนหนึ่ง ... เธอกำลังหลับตาพริมอยู่บนเก้าอี้หวายตัวยาว ท่าทางหลับสบาย มีผ้าห่มสีขาวคลุมตัวเธออยู่ ... ฉันเอง
ฉันในรูปนั้น ผมยังยาวประบ่าอยู่ รูปนี้คงถ่ายเมื่อปีก่อน
เขาถ่ายรูปฉันทำไมนะ เขาไม่เคยเอารูปนี้ให้ฉันดูด้วยซ้ำ
แล้วทำไมมันจึงถูกซุกไว้ที่นี่ ... ในรถคันนี้
ฉันคงจะต้องเอ่ยถามเขาในสักวันหนึ่ง
........................................................................................................................
" เหมาะกับดาวมากเลย " เขายิ้มอย่างดีใจ
" นึกยังไงถึงซื้อมาให้ล่ะเนี่ย " ฉันเอ่ยถามอย่างสงสัย
" ดาวใส่รองเท้าแบบนี้ ดูน่ารักขึ้นเยอะเลย รู้ไหม "
วูบหนึ่ง ฉันรู้สึกขัดเขิน
" ส้นสูงสีแดงคู่นั้นน่ะ พุธไม่ชอบเลย "
" แต่ดาวชอบนี่ "
" ดาวใส่แบบนี้น่ะดีแล้ว ไม่ต้องสูงไปหรอก ตัวเล็กๆเท่านี้ดีกว่านะ "
" มันไม่มีส้นเลยนะ "
" ก็จะมีไปทำไมล่ะ ดาวสูงไล่พุธ เดินด้วยกันจะเหมาะได้ไง ตัวเล็กๆเท่านี้ดีกว่านะ "
ฉันยิ้มเขินๆ เขาพูดอะไรของเขาเนี่ย
" รองเท้าหวายสานแบบนี้ เข้ากับผู้หญิงแบบดาวที่สุดเลย "
" ทำไม ผู้หญิงแบบดาวเป็นยังไง " ฉันเอียงคอถามด้วยความไม่เข้าใจ
" อิสระ ... อ่อนไหว " เขาตอบซื่อๆ
อ่อนไหว ... ใช่สิ โดยเฉพาะกับคุณไงล่ะ ไม่รู้บ้างเลยหรือไง
........................................................................................................................
" ขอให้ค่ำคืนนี้มีแต่เรา ... อยู่เคียงใต้แสงดาว และมีความรักให้กันและกัน ให้เธอเป็นดังเจ้าหญิงในใจฉัน และจะมีเธอเท่านั้น ... "
ความเหมือนอย่างหนึ่งที่ฉันกับเขามีร่วมกันคือ เราฟังเพลงแบบเดียวกัน
เพลงที่เขาเลือกเปิด จึงมักจะกระทบใจฉันเสมอ และช่วยไม่ได้ที่มันจะตรงกับความรู้สึกของฉัน แม้ว่า เขาจะไม่ได้ตั้งใจให้มันเป็นแบบนั้นก็ตาม
ดังเช่นเพลงนี้ ... ในคืนนี้เป็นต้น
แต่ฉันไม่มีทางได้เป็นเจ้าหญิงของเขาหรอก ... มันคงไม่มีวันนั้น
........................................................................................................................
" พุธเข้ามาเถอะ วันนี้ลมแรง เดี๋ยวจะไม่สบายเอานะ "
เขานั่งอยู่ที่ระเบียง คงกำลังเขียนเพลง
" ผมผู้ชายนะครับ ไม่เป็นอะไรง่ายๆหรอก ดาวไม่ต้องเป็นห่วง "
" ใครว่าห่วง กลัวไม่มีใครพากลับบ้านต่างหาก "
" ดาวก็ขับรถเป็นนี่ ถ้าพุธเป็นอะไรไปจริงๆ ดาวก็ขับแทนสิ "
" ดาวไม่ชอบขับรถทางไกล "
" พุธพูดเล่น ... พุธไม่เป็นอะไรหรอก พุธต้องอยู่ดูแลดาวนี่ " เขายิ้มอย่างอ่อนโยน
ทำไมเขาชอบพูดแบบนี้กับฉันเรื่อยเลยนะ ... ฉันแกล้งทำเป็นไม่สนใจ
" เข้ามาเถอะพุธ ลมแรง ... เปิดระเบียงไว้แบบนี้ ... ดาวหนาวนะ "
" งั้นเดี๋ยวพุธปิดประตูให้ ดาวห่มผ้าแล้วนอนเถอะ "
ฉันไม่ยอมให้เขานั่งตากลมอยู่ข้างนอกนั่นแน่
" ดาว! ออกมาทำไม " เขามองหน้าฉันอย่างไม่เข้าใจ
" ออกมาหนาวเป็นเพื่อนพุธไง "
เขามองฉัน ... ฉันรู้ว่าเขาห่วงฉัน ... และฉันกำลังจะชนะ ดูแววตานั่นสิ
" งั้นก็ตามใจ "
ฉันคิดผิดงั้นหรือ ...
ฉันนั่งอยู่ตรงนั้น ลมเย็นขึ้นเรื่อยๆ ฉันเริ่มห่อตัวโดยไม่ตั้งใจ เสียงคลื่นซัดกระหน่ำดังก้องไปทั่ว
เขาไม่สนใจฉันเลยหรือไงนะ
เขาเหลือบมองฉัน และฉันก็ไม่รู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่ ฉันรู้แต่ว่า ฉันเริ่มน้อยใจมากขึ้นเรื่อยๆ
เขาไม่ห่วงเลยหรือ ว่าฉันจะเป็นหวัดหรือเปล่า
เขาไม่รู้เลย ... ว่าที่ฉันมาทนหนาวแบบนี้ ... เพียงเพราะอยากให้เขาเข้าไปในห้อง
ฉันห่วงเขา ... เขาล่ะ?
ฝนเริ่มลงเม็ด ทะเลบ้า
" พุธยอมแพ้ดาวแล้ว ... มาเถอะ " เขาลุกขึ้น และดึงมือฉันเข้าไปในห้อง
" หน้าซีดเชียว ... เขาจับแก้มฉัน " หนาวมากไหมดาว "
" ... " ฉันเงียบแทนคำตอบ รู้สึกดวงตาเริ่มร้อน
" เดี๋ยวพุธไปเอาผ้าขนหนูมาให้นะ "
ฉันเบือนหน้าไปอีกทาง น้ำตาอุ่นๆเริ่มไหลออกมา ฉันรีบปัดมันทิ้ง ... ฉันไม่ต้องการให้เขารู้ว่าฉันร้องไห้ เขาคงสงสัยว่าทำไม ...
และคำตอบนั้น ฉันก็คงบอกเขาไม่ได้
******************************************************************************************
" ขอบคุณมากนะ ที่ช่วยไล่งูให้ "
" ไม่เป็นไรหรอกครับ ก็ผมกับคุณเป็นเพื่อนบ้านกันนี่ มีอะไรก็เรียกผมได้นะ "
" ท่อน้ำบ้านดาวมันแตกน่ะ น้ำไหลไม่หยุดเลย สงสัยต้องตามช่างมาซ่อม "
" ไม่ต้องหรอก แค่ท่อแตกเอง เดี๋ยวพุธซ่อมให้ก็ได้ "
" โชคดีนะ ที่ดาวแวะเอาหนังสือมาคืน ไม่งั้นพุธจะทำยังไง "
" จะทำยังไง ... ก็คงนอนกองอยู่ตรงนั้น จนกว่าจะมีใครมาเจอมั้ง "
" ยังจะพูดดีอีก ... กินยาซะเดี๋ยวดาวจะเช็ดตัวให้ "
" พุธโชคดีจัง ที่มีเพื่อนบ้านน่ารักอย่างดาว ... "
******************************************************************************************
" ดาว ... นมอุ่นๆ ดื่มให้หมดนะ "
ฉันรับนมถ้วยนั้นมา ควันสีขาวลอยบางๆเหนือขอบถ้วย
" ดาวไม่น่าดื้อแบบนี้เลยนะ ทีหลังอย่าทำแบบนี้อีก รู้ไหม " เขาทำเสียงดุ
" หลับตาเถิดนะ ... แล้วเราก็จะพบกัน อาจเป็นเพียงฝัน ... ก็พอใจ "
ฉันส่งถ้วยเปล่าคืนให้เขา
" นอนนะครับ ... ดาว ... เด็กดื้อ "
ฉันหลับตาลง เขาค่อยๆห่มผ้าให้
" พุธใจร้าย "
เขาเอื้อมมือมาจับมือฉัน เสียงนั้นกระซิบอยู่ข้างหู
" ผมขอโทษ "
ไออุ่นนั้นยังวนเวียนอยู่ใกล้ๆ กระทั่งฉันเคลิ้มหลับไป
........................................................................................................................
12 มีนาคม 2547 19:37 น.
Completely
เขาสบตาฉัน ... ดวงตาสีน้ำตาลคู่นั้นกำลังมองลึกลงไปในใจฉัน
หัวใจของฉันไหววูบ
เขาบรรจงสวมแหวนที่นิ้วนางของฉันช้าๆ
น้ำตาใสของฉันไหลหยด ... รู้สึกหายใจไม่ออก ... ความปีติแน่นอยู่ในอก
เขาลูบผมของฉันเบาๆ ... ยิ้มให้ฉันอย่างอ่อนโยน ก่อนที่จะค่อยๆเลื่อนกายเข้ามาโอบกอดฉัน
เขาโอบกอดฉัน ... ฉันหลับตาซบลงบนบ่าของเขา รู้สึกถึงความเย็นของแหวนที่นิ้ว
ฉันได้กลิ่นน้ำหอมของเขาจางๆ ... จาง ... เข้มข้นขึ้น ... แรงขึ้นเรื่อยๆ
ฉุน!
........................................................................................................................
ฉันค่อยๆลืมตา ห้องสีขาวลอยอยู่เต็มไปหมด " กลิ่น " นั้นยังคงอ้อยอิ่งอยู่รอบตัวฉัน ...
เจือจางลง ... เจือจางลง ... อ่อนลง
ฉันหันไปมองข้างๆกาย ผ้าห่มถูกเลิ่กลงไปเกือบครึ่ง ที่หมอนยังมีความอบอุ่นเคล้าคลออยู่
ฉันได้ยินเสียงฝักบัวในห้องน้ำ
ฉันนอนยิ้ม ยกนิ้วนางข้างซ้ายขึ้นมา ลูบไล้แหวนไปมา
ครู่หนึ่ง ... ฉันได้ยินเสียงประตูห้องน้ำเปิด --- ปิดลงในทันที เสียงประตูห้องแต่งตัวเปิด
ฉันลุกออกจากเตียง ถอดชุดนอนออก ... เดินร่างเปลือยเปล่าเข้าไปในห้องน้ำ
ฉันเปิดฝักบัว สายน้ำเย็นฉ่ำพรมลงทั่วกายฉัน ... ฉันปิดฝักบัว ออกจากห้องน้ำตรงไปยังห้องแต่งตัว
ฉันเปิดประตูห้องแต่งตัวเข้าไป
เขากำลังผูกเนกไท ... หันมามองฉันอย่างแปลกใจ
ฉันตรงไปจับมือเขา ดึงเนกไทของเขาออก สายตาของเราประสานกัน
เขายืนนิ่ง ไม่เอ่ยคำใด
ฉันค่อยๆปลดกระดุมเสื้อเชิ้ต ถอดเข็มขัด ... ทำให้กางเกงของเขากองอยู่กับพื้น
เขาลูบไล้ต้นคอของฉันแผ่วเบา ... ฉันโน้มคอเขาลงมา แล้วขบติ่งหูเขา
เราค่อยๆย่อตัวลง ก่อนที่ฉันจะเอนกายแนบลงกับพื้น
แล้วเราก็ร่วมรักกัน
ความสุขถาโถมใส่ฉัน ก่อนที่ฉันจะกรีดร้องด้วยความหฤหรรย์
" ติ๊งหน่อง "
เขาชะงัก ก่อนที่จะค่อยๆเขยับร่างออกจากายฉัน เราจูบกันอย่างดูดดื่ม ... ฉันคว้าเสื้อคลุมมาสวม ก่อนที่เดินออกจากห้อง ตรงไปเปิดประตู
........................................................................................................................
ผมยืนรอน้องอยู่หน้าประตู เมื่อคืนผมฝันไม่ค่อยดีนัก ... และตื่นขึ้นมาเพราะ " กลิ่นน้ำหอม " ... ผมรู้สึกคุ้นๆกับมันชอบกล
ผมรู้สึกเป็นห่วงน้องอย่างบอกไม่ถูก จึงรีบมาหาเธอแต่เช้า ... น้องผมยังสาวและสวยมาก ... เธออยู่คนเดียว ไม่รู้จะเกิดอะไรขึ้นกับเธอไหม
" แอ๊ด " ประตูบ้านค่อยๆเปิดออก ผมยืนตะลึงอย่างตกใจ
เธออยู่ในเสื้อคลุมสีดำตัวบาง ... เออ ... โปร่งบาง ... บางจนผมเห็นทุกสัดส่วนและผิวขาวเนียนทั่วเรือนร่างของเธอ
ผมรีบเปิดประตู พาตัวเองเข้าไปในบ้าน แล้วรีบปิดประตูทันที
ผมถอดสูทของผมออก แล้วรีบคลุมให้เธอ สายตาของผมมีแต่คำถามและความกังวล
เธอยิ้มอย่างอ่อนหวานให้ผม ... หวานมาก ... เหมือนวันที่เธอแต่งงานเลย ... ผมยังจำได้
" เขาอยู่ข้างบนค่ะพี่ กำลังแต่งตัวไปทำงาน "
ผมตกตะลึงตัวแข็ง ก่อนที่จะกระโจนขึ้นบันได ตรงดิ่งไปยังห้องนอน เปิดมันออก ... ไม่มี
ผมวิ่งไปยังห้องแต่งตัว เปิดประตูออก ... " กลิ่น " ปะทะเข้ามาเต็มหน้า
แต่ไม่มีวี่แววของ " เขา " เลย
สิ่งเดียวที่ผมเห็นคือ เสื้อผ้าของ " เขา " ที่ยังอยู่ทั้งไม้แขวนเสื้อ ... กองอยู่ที่พื้น
ผมขนลุกซู่
น้องเดินมาข้างหลังผม " ยังแต่งตัวไม่เสร็จอีกเหรอคะคุณ เดี๋ยวก็ไปทำงานสายหรอก "
ผมหันไปมองเธอ แต่สายตาของเธอไม่ได้จับจ้องอยู่ที่ผม ... แต่อยู่ที่ ... อยู่ที่ ...
ผมมองตามสายตาของเธอ ... หน้ากระจกเงาบานใหญ่ ... ที่ไม่สะท้อนเงาของใครในนั้น ... นอกจากผมกับเธอ
ผมกอดน้อง ... " ฟังพี่นะ ... เขาตายไปแล้ว รัน ... เขาตายไปแล้ว "
เธอไม่ตอบอะไรผม ยังคงยิ้มแย้มอยู่เช่นเดิม
" รัน ขายบ้านนี้ซะ กลับไปอยู่บ้านเรานะ "
แต่เธอก็ยังคงยิ้ม ... ขณะที่ --- กลิ่นธูป --- รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ
........................................................................................................................
8 มีนาคม 2547 04:20 น.
Completely
หวานเจ้าหวาน หวานเกินใครๆ อยากจะขอเด็ดไว้มาชื่นชม ... เพียงแค่สายลม ... พัดโชยกลิ่นก็ยังตรึงใจ
. แจกันแต่เช้าเชียวนะพุธ เขานั่งอยู่ข้างๆ มองดูฉันที่เพิ่งลืมตาตื่น
อรุณสวัสดิ์" ดาว เขายิ้มให้ฉัน โจ๊กใส่ไข่อยู่บนโต๊ะแน่ะ ล้างหน้าล้างตา แล้วรีบกินซะ เย็นเดี๋ยวจะไม่อร่อย
ไปซื้อโจ๊กมาจากไหนเหรอ " ฉันยังคงอ้อยอิ่งอยู่บนเตียง ซุกตัวในผ้าห่มผืนเย็น
พุธไปตลาดมาเมื่อเช้า มีของกินเยอะแยะเลยนะ ถ้าอยากกินอะไร ไปหาเอาแถวนั้น คงไม่ผิดหวัง
แล้วพุธซื้อโจ๊กใส่ไข่มาให้ดาวทำไม ฉันจ้องหน้าเขา
ไม่ชอบหรือไง
ใส่ตับมาด้วยหรือเปล่า
ไม่ใส่ จะกินหรือไม่กิน
กินสิ เขายิ้มอย่างรู้ทัน อันที่จริง ฉันก็ถามลองใจเขาไปอย่างงั้นเอง ฉันแค่อยากรู้ ว่าเขารู้อะไรเกี่ยวกับตัวฉันมาก น้อยแค่ไหน
โจ๊กอร่อยหอมฉุย
พุธกินอะไรหรือยัง ฉันเอ่ยถามเขา โจ๊กเต็มปาก
กินกาแฟไปแล้วแก้วนึง เขาตอบพลางหยิบสมุดเล่มโปรดของเขาขึ้นมาบนโต๊ะ
แค่นั้น?
แค่นั้นแหละ เขาตอบ พลางเริ่มเหม่อมองออกไปข้างนอก ... ท้องฟ้าสีคราม ปุยเมฆสีขาว
จะไปอิ่มอะไร พุธซื้อโจ๊กมาถุงเดียวเองหรือ
ถุงเดียวสิ ให้ดาวไง
ฉันเดินไปเปิดกระเป๋าใบย่อมของฉัน แล้วหยิบขนมปังส่งให้เขา
ดาวกินเถอะ
ก็ดาวกินโจ๊กอยู่นี่ไง เอาไปกินสิพุธ
เขารับไปวางบนโต๊ะ ขอบใจนะ เดี๋ยวพุธค่อยกินแล้วกัน
มาเที่ยวพักผ่อน ... พุธหอบเอางานมาทำด้วยทำไม ฉันถามเขา เมื่อเห็นว่าเขาเริ่มเขียนบางอย่างลงในสมุด
ก็ไม่ได้หนักหนาอะไร มาทะเลทั้งที ... ดาวจะไม่ให้พุธเก็บบรรยากาศแบบนี้ลงในเสียงเพลงเชียวหรือ
แล้วตอนแรก ทำท่าเหมือนไม่อยากมา ฉันเริ่มหงุดหงิด
ไม่ใช่อย่างนั้น ... ก็เมื่อคืนก่อน ดาวดื่มมาไม่ใช่หรือ พุธก็เลยอยากให้ดาวนอนพักไง
เอาอะไรมาพูดว่าดาวดื่ม ... พูดบ้าๆ
พุธเห็นหน้าดาวตอนเช้าก็รู้แล้ว เขายิ้ม อย่ามาโกหกพุธเลย
ฉันอมยิ้ม เขาดีกับฉันเสียจริง ฉันไม่อยากคิดเลยว่าทำไม
พุธ ...
หืม
แต่งเพลงนี้เสร็จ ร้องให้ดาวฟังคนแรกได้ไหม
เขาเงยหน้าขึ้นมา ... สบตากับฉัน ฉันคิดว่าเขากำลังยิ้มอยู่ แปลกจัง ... ฉันคิดว่าฉันเห็นประกายอยู่ในแววตาของเขาด้วย
ได้สิ แล้วเขาก็ยิ้มออกมา
พุธ ... ดาวเคยบอกพุธไหม ว่าพุธตาสวยจัง ฉันถามเขา พลางมองลึกลงไปในดวงตาสีน้ำตาลคู่นั้น
แล้วพุธเคยบอกดาวหรือยัง ว่า ...
ว่าอะไรหรือจ๊ะ
เปล่า ... ไม่มีอะไรหรอก ดาวกินโจ๊กให้หมดเถอะ เย็นหมดแล้ว เห็นไหม ...
.............................................................................................................
ฉันอยู่ที่ทะเล ... มากับพุธ
แล้วแกจะกลับเมื่อไหร่
ยังไม่รู้เลย อีกซักอาทิตย์นึงมั้ง
อืม ... เที่ยวให้สนุกแล้วกัน ค่อยสบายใจหน่อย ฉันก็สงสัยว่าแกไปกับใคร ถ้ากับพุธ ก็หายห่วง
ขนาดนั้นเชียว
อือ ... แล้วพุธเค้ารู้หรือยัง เรื่องนั้น น่ะ
ยังหรอกมั้ง ก็ฉันเป็นแค่เพื่อนบ้านเขานี่
ปีนึงแล้วนะแก จะปล่อยไว้อีกนานแค่ไหน
ไม่รู้ ... ปล่อยไปเรื่อยๆมั้ง
ไม่เหงาหรือไง อยู่ก็อยู่คนเดียว เพื่อนฝูงก็ทยอยแต่งงานกันไปเกือบหมดแล้ว เพื่อนๆเขารอฟังข่าวดีของแกอยู่นะ
ทำไงได้ล่ะ มันคงเป็นไปไม่ได้หรอก
คนดีๆมีอีกตั้งเยอะ แกยังสวยอยู่นะดาว
ฉันรักเขา
ฉันรู้แล้ว แต่แกก็ไม่เห็นทำอะไรสักทีนี่ แล้วเขาจะรู้ได้ไง
...
ดาว ... เฮ้ย! ยังอยู่หรือเปล่า
แค่นี้แล้วกัน ไว้ถึงกรุงเทพเมื่อไหร่ ฉันจะโทรไปหานะ
อือ ตามใจ ดูแลตัวเองดีๆล่ะ
อือ บาย
บาย
ใครโทรมาหรือดาว
ฉันสะดุ้งเล็กน้อย เขาเข้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่กัน
อ๋อ ... พินน่ะจ๊ะ เขาพยักหน้าน้อยๆ
พินกับดาวนี่แยกกันไม่ออกเลยนะ โทรติดต่อกันตลอดเลย นี่ถ้าใครคนหนึ่งย้ายไปอยู่เมืองนอก อีกคนคงย้ายตาม เขาเย้า
ก็เรียนมาด้วยกันนี่ ไม่ซี้กันได้ไงล่ะ
เขาเงียบไป ฉันสงสัยจัง เขาคิดอะไรอยู่นะ
ดาว ...
อะไรจ๊ะ
...
อะไร อ้ำๆอึ้งๆอยู่นั่นแหละ
พุธไม่รู้ว่าควรจะถามดีไหม
พุธ ... รองจากพิน ก็มีพุธเนี่ยแหละ ที่ดาวสนิทและก็ไว้ใจที่สุด เรายังต้องมีความลับต่อกันอีกหรือจ๊ะ
เขายิ้มเขินๆ
พุธไม่ได้ตั้งใจแอบฟัง คือ ... ดาวมีคนที่รักแล้วหรือ
ฉันชะงักไป ... เขาได้ยิน ... เขาไม่รู้ตัวเลยหรือไงนะ
พุธจะอยากรู้ไปทำไม ฉันจ้องเขา
เออ ... ที่จริง พุธก็ไม่ได้อยากรู้อะไรหรอก มันเป็นเรื่องส่วนตัวของดาว
งั้นถามทำไม ฉันพูดห้วนๆ
ก็แค่เป็นห่วง ว่าเขาเป็นคนดีไหม
ดาวไม่คว้าโจรที่ไหนมาเป็นแฟนหรอกหรอก รับรองได้
ฉันปวดร้าวในใจ เขาคงไม่รู้ตัวเลยจริงๆ เราสองคนคงใกล้กันเกินไป ... ใกล้จนเขามองไม่เห็นความรู้สึกบางอย่าง ที่มันถูกกำแพงที่เรียกว่า เพื่อน กั้นเอาไว้
พุธไม่เขียนเพลงต่อหรือ
เขามองหน้าฉัน "ไม่ล่ะ พุธว่าพุธไปเล่นน้ำดีกว่า "
...........................................................................................................