8 สิงหาคม 2553 22:40 น.
cicada
โอ๊ะ ..แซมมาอีกแล้ว พักนี้ แซมรู้สึกว่า จะตามกระแส ซักหน่อยค่ะ เลยขอ double dose ซะเลยวันนี้ จะเมาไม๊เนี่ยะ.....
ส่วนหนึ่งของกลอนฉบับนี้ (ไม่ทราบจะเรียกอะไร) แซมเคยไปโพสตอบคุณ อ. วรศิลป์ ไว้เมื่อสักสองอาทิตย์ก่อน....
แต่อยากให้เพื่อนๆบางคนที่ยังไม่เห็นได้สนุกด้วยค่ะ...
ทำตัวเป็น มะขิ่น .........
ลงเรือลัด ตัดคลอง สู่ท้องคุ้ง
แนวผักบุ้ง ชูยอด ทอดไสว
เด็ดยอดอ่อน รวมกำ ไม่ร่ำไร
เอาไปให้ แม่ผัด จัดสำรับ
ดอกโสน บานปริ่ม อยู่ริมท่า
เก็บเอามา พอเพียง เรียงสลับ
ผักในสวน กินเพลิน เกินจะนับ
จัดสำหรับ เคียงคำ น้ำพริกปรุง
ทั้งแกงส้ม ดอกแค แม่เคยสอน
แกงปลาช่อน ตัวใหญ่ จากในทุ่ง
เก็บฟักแฟง แตงไท ใส่กระบุง
ช่วยแม่หุง ข้าวไว้ ใส่บาตรพระ
นุ่งผ้าซิ่น ไหมไทย สีไพรแก่
สไบแพร ห่มด้วย ดูสวยสะ
นั่งพับเพียบ เรียบงาม ตามวาระ
กราบแม่จ๊ะ แม่จ๋า หนูมาเยือน
จากแม่ไป ไกลห่าง อีกฝั่งฟ้า
มาดแม้นว่า รักจากใคร ก็ไม่หมือน
ความรักแม่ แผ่ซ่าน ไม่รานเลือน
วันแม่เตือน ฝากมาลัย ไว้บูชา
8 สิงหาคม 2553 14:46 น.
cicada
บ้านแซมเป็นบ้านสวน แต่ละปีก็จะมีหน้าน้ำหลาก คือเป็นฤดูที่น้ำจะพัดท่วมเอ่อมาจากภูเขา น้ำหลากใหม่ๆ จะมีสีแดงขุ่น......
พอน้ำท่วม ชาวสวนก็ทำสวนไม่ได้ ต้องหยุดพักอยู่เปล่าๆ..
แม่ของแซมเป็นคนที่ไม่หยุดนิ่ง แม่จะไปถอนต้นกก เอามาสานเป็นเสื่อกกผืนใหญ่ๆ เพื่อจะไปถวายให้วัด...
แซมเรียนรู้งานฝีมือจากแม่หลายอย่าง และที่สำคัญ แซมเรียนรู้การไม่ปล่อยเวลาว่างให้หมดไปโดยเปล่าประโยชน์.....
ขอบคุณค่ะ ..แม่
ยามน้ำหลาก มากขุ่น ฝุ่นจากเขา
กุ้งปลาเมา กระแสตม ที่ถ่มถา
ทั่วทั้งบาง ทางถ้วน น้ำทวนมา
กระแทกบ่า ไหลท้น บนคันดิน
ยามสงบ เย็นย่ำ น้ำปริ่มฝั่ง
ตะวันยัง อ้อนออด ยอดกระถิน
สายลมหวาน ผ่านกระแส แค่รวยริน
หูแว่วยิน เสียงแม่ แก้โซ่เรือ
เห็นเงาแม่ วุ่นวน ขนต้นกก
ขึ้นลายหก ยกสอดงาน เริ่มสานเสื่อ
แล้วชวนหนู ดูไว้ ได้จุนเจือ
แม่สานเสื่อ เตรียมถวาย ในงานวัด
เป็นชาวสวน นวลนาง ไม่อย่างเอี่ยม
แต่ตระเตรียม งานล้วน เป็นส่วนสัด
เฝ้าสอนสั่ง บอกหนู ดูให้ชัด
รู้บัญญัติ รู้ชีวิต รู้จิตเนา
แม้เหนื่อยล้า แม่ไม่บ่น แม่ทนได้
รักยิ่งใหญ่ สูงสง่า กว่าขุนเขา
เป็นธารน้ำ เป็นสายลม เป็นร่มเงา
วันนี้เหงา นอนกอดเสื่อ เผื่อแม่มา
5 สิงหาคม 2553 10:59 น.
cicada
"มะขิ่น" คือชื่อที่แม่เรียกเด็กดื้อๆ ที่แม่บอกว่า คนเขาทิ้งให้ลอยน้ำมา แล้วแม่เก็บมาเลี้ยง ผิวถึงเป็นสีน้ำผึ้งตากแดด ตาก็ใหญ่เกินกว่าที่จะเป็นเด็กที่มีเชื้อจีนหนึ่งเสี้ยว.....
ตอนเป็นเด็กดี...ไม่ต้องชื่อ มะขิ่น.... แซมจะร้องไห้เสียใจ เวลาถูกเรียกว่า "มะขิ่น"
เวลาแซมมีนัดกับแม่ แซมชอบซื้อผ้าถุงมาฝากแม่ ของแม่เป็นลายสวย ถุงของแซมเป็นแบบสาวชาวสวนเรียบๆ แซมบอกพ่อ ว่า ของแซมลายเฉยๆ ค่ะ
อาทิตย์นี้ หนูจะมา นะแม่นะ
แล้วหนูจะ แวะไป ร้านไชยศรี
ได้ข่าวว่า ผ้าทอใหม่ ลายสวยดี
เดี๋ยวงวดนี้ หนูว่าแม่ ชอบแน่เลย
เอาสีเขียว เกลียวลาย ป้ายเชิงซิ่น
ของมะขิ่น เป็นผ้าฝ้าย ลายเฉยเฉย
หอบผ้าถุง หลายหลาก ฝากทรามเชย
เอ้ยระเหย ลอยมา ถึงท่าน้ำ
แม่นั่งคอย รอยยิ้ม ปริ่มใบหน้า
เตรียมข้าวปลา รอให้ชิม จนอิ่มหนำ
เสร็จเรียบร้อย เร็วรี่ ที่ประจำ
ตกค่ำค่ำ เรียกหา ซิ่นมาลอง
อาทิตย์นี้ หนูจะไป ให้นะคะ
มะขิ่นจะ เตรียมอาหาร พานข้าวของ
แต่งชุดไทย ใส่ซิ่น มะขิ่นลอง
สวดแซ่ซ้อง ถวายพระ สังฆทาน
แม่ไปอยู่ ปลายฟ้า กับย่าปู่
คงเจอครู ที่หนูว่า เขากล้าหาญ
ฝากลำนำ คำรักแม่ แท้เนิ่นนาน
รอถึงกาล หนูจะมา หาอีกที
3 สิงหาคม 2553 14:53 น.
cicada
แซมมาแบ่งปันความสนุกค่ะ...
แต่หัวใจ ไม่แบ่งปัน...
เพราะฉะนั้น ไม่อยากจะได้ ถ้าใจ "ไม่เดียว" ค่ะ
อย่าเฝ้าวอน งอนง้อ ขอเฝ้าหวง
อย่าคิดลวง บ่วงใจ ให้คิดหลง
อย่าลวงล่อ ก่อห้วง เพียงลวงลง
ปล่อยใจหลง ให้ร้าง ห่างใจปอง
จะหยิกหยอก หลอกเล่น เป็นชั่วครู่
เพียงชื่นชู ใจตน ให้พ้นหมอง
ไม่แผ่เผื่อ เหลือล้ำ เข้าจำจอง
เหยียบย่ำห้อง ใจผัน แล้วพลันเมิน
ดวงดาวใส ในนภา เวหาผ่อง
ประกายทอง สาดซ่าน ผ่านเขาเขิน
อย่าเพียงเล่น ลวงให้ พอใจเพลิน
เวหาเหิน ยังรักดาว เขาต้องการ
ไขว่คว้ามา เพียงปลด ลดความเหงา
พอคลายเศร้า ดาวระหก สะทกเหิน
ปล่อยให้ดาว หนาวดับ ใจยับเยิน
รอคนเดิน เหยียบย่ำ ช้ำคาดิน
1 สิงหาคม 2553 12:52 น.
cicada
ที่ชายน้ำวันหนึ่ง แซมได้พบกับเขาโดยบังเอิญ สายตาเราสบกัน อ้อไม่ใช่ค่ะ สายตาแซมสบเข้ากับแว่นดำ
บนใบหน้าที่มีรอยยิ้มที่ทำให้แซมขาสั่น ไรหนวดเขียวครึ้มที่ข้างแก้มและแนวคาง ทำให้แซมทำอะไรไม่ถูก
แอบมองสำรวจเขาอยู่สักพัก กลัวเขาจับได้.แขนเขาดูแข็งแรง ทำให้แซมคิดเลยเถิดไปว่า ถ้าแซมสั่นมากๆจนหกล้มเขาคงช่วยประคองแซมได้....
แอบมองจนเขาคงรู้สึก เลยมาทักแซมจะเป็นหญิงมั่น และ เก่งแค่ไหน แซมก็ยังหวั่น.
แล้วแซม ก็ วิ่งหนีไป..
อุทัยรุ่ง ยามสาง หมอกจางสาย
ลมพริ้วพราย อ่อนริน ถวิลหวน
ริมชายน้ำ ร่ำไร ใจรัญจวน
ทะเลครวญ ทักทาย คล้ายห่วงกัน
ใจเหงาเหงา ดั่งเงาพริ้ว ริ้วระลอก
ห้วงน้ำหยอก เงาหม่น ที่ปนฝัน
มีแต่เรา และเงาอยู่ เคียงคู่กัน
ใต้ตะวัน สีทอง ที่ส่องทบ
เหลียวมองดู เมฆขาว ที่พราวผ่อง
ส่งตามอง ณ จุดนั้น พลันประสบ
รอยยิ้มจุด แววหวาน เมื่อพานพบ
อกกระทบ ทรวงกระทั่ง คลั่งอารมณ์
ริ้วรอยไร ปลายคาง พลางรู้สึก
หวนรำลึก อยากลูบไล้ อดใจข่ม
ให้หวั่นไหว ใจรอน อ่อนระทม
สุดจะข่ม สะเทิ้นสั่น หวั่นเขารู้
แทบจะทรุด หยุดซบ เมื่อพบหน้า
หรือแถนฟ้า ส่งหัวใจ ให้มาอยู่
เพียงสบตา พาครวญ หวนชื่นชู
กลัวเขารู้ ใครแอบฝัน วันแรกเจอ.......