• ตื่นขึ้นมา เศร้าใจ ให้เปลี่ยวเปล่า เปิดหม้อข้าว เปล่าว่าง ช่างโหยหิว ตักน้ำเปล่า เปิดโอ่งมา เจอปลาซิว ผัดซีอิ๊ว เปล่าเปล่า คงเข้ากัน • เราคนจน ทั่วร่าง ตัวว่างเปล่า เครื่องเพชรทอง แวววาว ก็เปล่าสิ้น รู้รึเปล่า ใครใคร เขาไม่ชิน เลยไม่จิ้น กับเรา ให้เปล่าดาย • อาหารว่าง ตามร้าน คือจานเปล่า ออร์เดิร์ฟเอา น้ำเปล่าไง..หรือไม่ขาย สตางค์เกลี้ยง กระเป๋าเปล่า เหงาเดียวดาย มาเร่ขาย กลอนเปล่า เอาไหมคุณ...
♥ แซม ♥
เพลงกระบี่ทู่-ทู่ พอดูได้ แต่เพลงรักจากใจไยฝาดเฝื่อน เพลงกลอนกานท์ก็จางแสนลางเลือน จะเอ่ยเอื้อน ขัดใจไร้ทำนอง หรือหัวใจชาชินจนสิ้นหวัง พื้นที่รักหักพังพาหม่นหมอง เพียรเยียวยาหวังจะประคับประคอง ทุกครั้งต้องแพ้พ่าย..หน่ายชีวิต เพลงกระบี่ร่ายรำ..จดจำท่า เพลงวาจา สิลืมหลงพะวงจิต ดอกไมตรีห่างหายกลายเป็นพิษ ฤๅ หมดสิทธิ์ที่จะฝันในวันนี้ โอ้เจ้าดวงดอกกวีที่สุดสอย เฝ้าแต่คอยเกินไขว่ใช่ไหมนี่ ให้ทดท้อทอดถอนอ่อนฤดี ถึงจุดที่ อำลา..หรือว่าไร ~ แซม ~
เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา แซมไปดูละคร” เชคสเปียร์ใต้ดวงดาว..”
เป็นโรงละครที่อยู่กลางแจ้ง ไม่มีหลังคา..
แซมนึกถึงโรงละครเร่ ที่เที่ยวย้ายไปแสดงในที่ต่างๆเลยค่ะ..
นอกจากจะได้ทำอะไรแปลกๆ..ได้ความสนุกสนาน..
แซมยังได้อิ่มในอารมณ์...
ท่ามแสงดาว.. ลมเย็นพัดผ่านในคืนกลางฤดูร้อน..
บรรยากาสสุดแสนจะโรแมนติค
อยากมีใครสักคนที่รู้ใจมานั่งข้างๆ ใครที่ทำให้แซมได้รู้สึกอบอุ่น
ไม่รำคาญที่แซมจะงี่เง่าบ้างในบางครั้ง..
และเอาใจปลอบโยนในยามที่แซมงอแงในบางคราว..
ช่วงพักครึ่ง แซมมองดูรอบๆโรงละคร..
ดูเหมือนรังนกยักษ์ที่วางอยู่บนลานข้างตึกใหญ่..ด้านในมีที่นั่งเป็นแถววนๆขึ้นไป จากแถวที่ต้องนั่งกับพื้น ไปจนชั้นบนสุด (ทีเห็นดาวะยิบระยับ..)
กลุ่มแซมไปกัน 5 คน.. เรานั่งวงที่อยู่ชั้นบนสุดนี่แหละค่ะ..
สถานที่..เป็นลานกว้างในมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ใกล้ๆ บ้านแซม..
จุผู้ดูได้ประมาณ 120 คนค่ะ..
แซมบอกเพื่อนๆ ว่า นี่เหมือนกับคนไทยไปดูลิเกตามงานวัด..
เมื่อเทียบกับละคร หรือโชว์ที่เคยไปดูในโรงละครใหญ่ๆหรูๆ..
แซมกลับชอบงานคืนนี้...
รู้สึกเป็นคนบ้านนอกมากๆเลยค่ะ..
อบอุ่น และรักตัวเองจัง...
♥ ♥ ♥
หอมละมุนกรุ่นกลิ่น..ลมรินผ่าน
หอมชื่นมานไอดิน..หอมกลิ่นหญ้า
หอมน้ำค้างกลางโพยมโสมส่องมา
หอมเวหา..หอมหมอก..หอมดอกไม้
คิดถึงทุ่งท้องถิ่นน้ำรินเอื่อย
คิดถึงเฟือย กอ-กกปรกน้ำใส
คิดถึงยามย่ำค่ำแสงรำไร
คิดถึงไผ่ลู่ปลิวพลิ้วลมพลิ้ว
อุ่นหัวใจยามฝัน..วันคืนถิ่น
อุ่นห้วงจินต์ซึ้งซาบไหววาบหวิว
อุ่นช่อรักดอกใบ..ไกวปลิดปลิว
อุ่นรุ้งริ้วห่อห้อม..กล่อมคีตกานท์
• แซม •
09/01/2013
เหม็นกลิ่นดอกหลอกลวง..เจ้าพวงเหม็น
กลิ่นเยือกเย็นจนหนาว..เจ้าชาเฉย
เจ้าโรยกลิ่นโชยกรุ่นอย่างคุ้นเคย
คล้ายจะเย้ยมวลหมู่ ผู้ดมดอม
เหม็นกลิ่นดอกรักเร่เจ้าเหหัน
รักผกผันหลายใจ..ไม่ถนอม
ผลิกิ่งก้านกลิ้งกลอกหนอดอกพยอม
ยามเขาพร้อม เจ้าผละ..ละจากไป
เหม็นกลิ่นดอกคำสร้อย..คนร้อยเล่ห์
พร่ำถ่ายเท..ยากนัก จักฝันใฝ่
เจ้าหว่านเมล็ดผลิกอแตกหน่อใจ
แล้วผลักไสคืนคำ..ลำนำลวง
เหม็นซะจัง น้ำใจ..ใครช่างเหม็น
เปิดประเด็นนุ่มนวล..ชวนห่วงหวง
ขึ้นต้นเป็นมะลิซ้อนฉะอ้อนทรวง
ปลายกลับร่วงโรยรา..เหม็นหน้าจัง !!
แสนไกลได้พบสบเพียงฝัน
โปรดทราบใจนั้นยังหวั่นไหว
เก็บดาวสอดสร้อยร้อยมาลัย
รอใคร หมายปอง..อาจต้องการ
ใช้สิทธิ์..คิดถึง ซึ้งประจักษ์
มาลัยรักพวงนี้แสนหวาน
จากจินต์ถวิลหารักมานาน
แม้พบพานขอให้..ใจเดียว
เกรงเดินทางฝันพลันไหลหลง
สะดุดหยุดลงคงเปล่าเปลี่ยว
คิดก่อสัมพันธ์ผูกควั่นเกลียว
อย่าเหลียวแลอื่นให้ขื่นทรวง
จะตอบหัวใจให้รู้แน่
ดวงแดคนไกล ใช่..ยังห่วง
เอ่ยคำสัญญามาถามทวง
วันล่วงห้วงใจไม่หยุดรัก
♥ ♥ ♥
แซม