28 พฤศจิกายน 2547 21:15 น.
CHOKDEE
กลอนศรย้อน
ย้อนสง่าปรากฏประกาศศักดิ์
ขนดกนักชอุ่มแม่นแม้นสิงขร
จั๊กแร้พาดฟ้าคลุมอัมพร
เหงื่อหยดย้อยชโลธรที่หลั่งริน
ขนหยาบกร้านสะท้านภพกลบไตยภาค
น้ำเหงื่อหลากเป็นเกลียวคลื่นกระทบหิน
ท่วมสวรรค์ล้นวจีทะลักดิน
สัมผัสขนดังเสียงพิณก้องกังวาล
จั๊กแร้ดั่งดอกบัวบานสะพรั่ง
สะบัดดังพนาราบโลกัณฑ์ผลาญ
ปฐพีสมุทรแยกอลังการ
ไร้เทียมทานดุจพระเจ้าเหล่าเทพี
ครั้นสยายขนแผ่ไกลไม่รู้จบ
กลืนดาราเอกภพฤกษ์ราศี
สุริยาจันทิมายังยอมพลี
รักแร้ดกมโหรีดุจไพรดง
ยามยกแขนกลิ่นโรยโชยเป็นสาย
ธรณียุบทลายกลายเป็นผง
รักแร้ดั่งมะนาวกรดสุดทะนง
วาตภัยยังทรงมิกล้าเกรง
ขนรักแร้แผ่อำนาจสะบัดว่อน
เลื้อยไชชอนดั่งงูพิษเยี่ยงมะเส็ง
งูมะโรงฤทธิ์กล้ายังต้องเกรง
ประกายเปล่งรัศมีดุจจันทรา
อัสนีวารีพนาลัย
นภาไฟพฤกษาชาติหินภูผา
อัสรินเหล็กแร่ลมลาวา
ทั่วโลกาสยบแยบแทบมลาย
ความคงทนดุจแร่เพชรมรกต
เลื้อยเลี้ยวลดคดเคี้ยวเบี้ยวเป็นสาย
ตวัดครั้งพังพินาศล่มละลาย
ชีพวอดวายมลายสิ้นปลิดชีวี
ครั้นโกรธาแกร่งกล้าบุกห้าวหาญ
สยายบานศักดิ์สิทธิ์ยิ่งหยิ่งศักดิ์ศรี
ร่อนเฉวียนเวียนวนชนไพรรี
ใครหือรือหรือลองดีดับชีวา
อิทธิฤทธิ์มนตราอำนาจขลัง
ปลดปล่อยครั้งสะเทือนดังเคลื่อนเวหา
คำรามก้องบันลือลั่นอวดเดชา
เสียงสนั่นสั่นโลการะบือไกล
หากผู้ใดไม่เกรงขามหยามลบหลู่
ล้ำล่วงเกรียติอันเชิดชูกว่าสิ่งไหน
ขนรักแร้ฆ่าอาฆาตแผดบรรลัย
สะบัดชัยหาผู้ใดมาต่อกร
รักแร้ฉายสายแสงรุ้งพุ่งแพรวพราว
แสงแวววาวราวนวลจันทร์ต้องอัปสร
สว่างใสไสวจ้าสาดขจร
งามสลอนส่องอมรงอนงนเงา
รักแร้ร้อนเรืองรองรกรุงรัง
พิภพพังพั่งพูนเพิ่มพันแผดเผา
เทิดทูนไท้ทวยเทพเทียบแท้เท่า
เปลื้องปัดเป่าปราดเปรียวเปรื่องโปรยปราน
กรดกัดกร่อนเกรียติเกริกก้องเกรียงไกล
เขรอะขี้ไคลครื้นเครงคล้อยขับขาน
ย้วยยาวย้อยยืดหยุ่นใหญ่หย่อนยาน
ช่องเชี่ยวชาญชดช้อยเฉี่ยวไชชอน
ว่อนเวียนวนแวววาววับว่องไว
สวยสดใสสาดแสงโสสาปศร
งอกงดงองอมงามเงางนงอน
ดำเด่นดั่งดินดรดกดุจดง
หากผู้ใดคิดทำลายมุ่งอาฆาต
ขนสยาดสาดขยายเยี่ยงปีกหงส์
ตัดไม่ขาดบาดบิ่นสิ้นดำรงค์
แม้เพชรปาดยังทรงคงรูปเดิม
ครั้นจะตัดตวัดครั้งพระขรรค์บิ่น
ครั้นจะสาวดึงให้สิ้นก็ยิ่งเสริม
ครั้นกระชากรากยิ่งยืดยาวเพิ่มเติม
หากขนขาดก็เริ่มเพิ่มเยิ้มเป็นทาง
จั๊กแร้แค่สะกิดชีวิตดับ
สะท้อนแสงแรงระยับมิอาจถาง
กลิ่นเหม็นเปรี้ยวเฉี่ยวครั้งแรงมิจาง
เส้นสวยบางเรือนรางพันมิคลาย
จั๊กแร้ดุจแส้สายฟ้าฟาด
อัสรินเป่าพินาศแรงเหลือหลาย
ไฟโลกัณฑ์แผดเผาพันทำลาย
เพชรสลายพลอยสาแหรกแตกกระเจิง
ขนงอกยาวยึกยักหยิกหยักศก
กลืนสวรรค์พันนรกหมกยุ่งเหยิง
รกรุงรังเรี่ยราดขนกระเซิง
แผ่เตลิดเปิดเปิงน่าดูชม
ขนกระฉ่อนลือนามงามวิจิตร
แผ่ทุกทิศคลุมปิดมิดทับถม
พันขยุ้มรุมรัดอัดเป็นปม
ฤทธิ์เดชล้ำพญายมน่าเชิดชู
ขนรักแร้รูปร่างบางเบาเบาะ
เสียงไพเราะฟังเสนาะระรื่นหู
เจาะเหล็กแร่แค่เสี้ยววิฯกลวงเป็นรู
ปลายเรียวแหลมมิเคยทู่ดูเยือกเย็น
แม้เกราะเพชรยังคงมิอาจต้าน
เพียงพัดผ่านมลายพลันทันตาเห็น
บดเป็นผงป่นละเอียดเสียดกระเด็น
สาดกระเซ็นแผ่มิดปิดดารา
จั๊กแร้แกร่งกล้าน่าสรรเสริญ
พริ้วเป็นเนินเหาะเหินดุจหงสา
กระพือเหยียดเฉียดครั้งตระการตา
สวยสง่าหาผู้เทียบเปรียบความงาม
จั๊กแร้แก่กล้าอาคมเลิศ
แสนบรรเจิดประเสริฐยิ่งน่าเกรงขาม
เปียกชะอุ่มชุ่มแฉะอยู่ทุกยาม
บิดครั้งสามน้ำเอ่อล้นท้นโลกัณฑ์
พันดั่งอวนม้วนรัดมัดแน่นเหนียว
เฉือนดั่งเคียวเงี้ยวง้างช่างรังสรรค์
เงาดั่งธารวารีต้องแสงจันทร์
ขนดกมันพันธนาระย้ายาว
ยามลมพัดขนโอนอ่อนงามพริ้วไหว
เปล่งประกายสายแสงสีนวลขาว
ครั้นตบครั้งพังทลายตายระนาว
เหงื่อไหลยาวราวสายฝนหล่นสู่ดิน
ยามดีดขนเป็นเพลงบรรเลงพริ้ว
พันเป็นริ้วปลิวโปรยปานถวิล
เสียงสนั่นลั่นนรกยังได้ยิน
ราวดุจเทพบรรเลงพิณบินเวียนวน
ครั้นพิโรธโกรธลั่นสนั่นทั่ว
ขนม้วนตัวระรัวลั่นพันไพรสนณ์
ครอบจันทรคลอนวิมานเผาผลาญรน
มอดไหม้จนแผดเผาเถ้าธุลี
ปลายรักแร้เรียวแหลมดุจคมดาบ
ปัดครั้งราบโล่งเตียนเลี่ยนวิถี
อำนาจล้ำสูงศักดิ์เหนือวจี
เทพนอบน้อมสดุดีทั่วโลกา
จั๊กแร้สูงเสียดเบียดสวรรค์
ล้อมวิมานผลาญพันดันถลา
กลืนจันทรอเวจีบี้โลกา
มัดทั่วหล้าม้วนรัดชัชวาล
ขนรักแร้ดกยาวสาวเป็นริ้ว
ลมพัดหวิวขนพันกันประสาน
คลายมิออกลอกเช่นไรไม่สะท้าน
ยาวยั้วเยี้ยพันสังหารผลาญโลกัย
หากยามใดเกรี้ยวกราดองอาจแท้
ขนรักแร้เหนียวหนึบเสมือนไหม
ถอนมิออกถักทอเป็นเส้นใย
ร้อนดั่งไฟพิษร้ายม้วนเกลียวกลม
จั๊กแร้ชดชะม้อยคล้อยปลิวสวย
ยาวสลวยพริ้วพร้านพันเส้นผม
ลายลีลาล้ำเลิศลอยลู่ลม
นี่แหละสมกับรักแร้ศรย้อนเอย
By : C&J
27 พฤศจิกายน 2547 20:43 น.
CHOKDEE
กลอนศรย้อน
ย้อนสง่าปรากฏประกาศศักดิ์
ขนดกนักชอุ่มแม่นแม้นสิงขร
จั๊กแร้พาดฟ้าคลุมอัมพร
เหงื่อหยดย้อยชโลธรที่หลั่งริน
ขนหยาบกร้านสะท้านภพกลบไตยภาค
น้ำเหงื่อหลากเป็นเกลียวคลื่นกระทบหิน
ท่วมสวรรค์ล้นวจีทะลักดิน
สัมผัสขนดังเสียงพิณก้องกังวาล
จั๊กแร้ดั่งดอกบัวบานสะพรั่ง
สะบัดดังพนาราบโลกัณฑ์ผลาญ
ปฐพีสมุทรแยกอลังการ
ไร้เทียมทานดุจพระเจ้าเหล่าเทพี
ครั้นสยายขนแผ่ไกลไม่รู้จบ
กลืนดาราเอกภพฤกษ์ราศี
สุริยาจันทิมายังยอมพลี
รักแร้ดกมโหรีดุจไพรดง
ยามยกแขนกลิ่นโรยโชยเป็นสาย
ธรณียุบทลายกลายเป็นผง
รักแร้ดั่งมะนาวกรดสุดทะนง
วาตภัยยังทรงมิกล้าเกรง
ขนรักแร้แผ่อำนาจสะบัดว่อน
เลื้อยไชชอนดั่งงูพิษเยี่ยงมะเส็ง
งูมะโรงฤทธิ์กล้ายังต้องเกรง
ประกายเปล่งรัศมีดุจจันทรา
อัสนีวารีพนาลัย
นภาไฟพฤกษาชาติหินภูผา
อัสรินเหล็กแร่ลมลาวา
ทั่วโลกาสยบแยบแทบมลาย
ความคงทนดุจแร่เพชรมรกต
เลื้อยเลี้ยวลดคดเคี้ยวเบี้ยวเป็นสาย
ตวัดครั้งพังพินาศล่มละลาย
ชีพวอดวายมลายสิ้นปลิดชีวี
ครั้นโกรธาแกร่งกล้าบุกห้าวหาญ
สยายบานศักดิ์สิทธิ์ยิ่งหยิ่งศักดิ์ศรี
ร่อนเฉวียนเวียนวนชนไพรรี
ใครหือรือหรือลองดีดับชีวา
อิทธิฤทธิ์มนตราอำนาจขลัง
ปลดปล่อยครั้งสะเทือนดังเคลื่อนเวหา
คำรามก้องบันลือลั่นอวดเดชา
เสียงสนั่นสั่นโลการะบือไกล
หากผู้ใดไม่เกรงขามหยามลบหลู่
ล้ำล่วงเกรียติอันเชิดชูกว่าสิ่งไหน
ขนรักแร้ฆ่าอาฆาตแผดบรรลัย
สะบัดชัยหาผู้ใดมาต่อกร
รักแร้ฉายสายแสงรุ้งพุ่งแพรวพราว
แสงแวววาวราวนวลจันทร์ต้องอัปสร
สว่างใสไสวจ้าสาดขจร
งามสลอนส่องอมรงอนงนเงา
รักแร้ร้อนเรืองรองรกรุงรัง
พิภพพังพั่งพูนเพิ่มพันแผดเผา
เทิดทูนไท้ทวยเทพเทียบแท้เท่า
เปลื้องปัดเป่าปราดเปรียวเปรื่องโปรยปราน
กรดกัดกร่อนเกรียติเกริกก้องเกรียงไกล
เขรอะขี้ไคลครื้นเครงคล้อยขับขาน
ย้วยยาวย้อยยืดหยุ่นใหญ่หย่อนยาน
ช่องเชี่ยวชาญชดช้อยเฉี่ยวไชชอน
ว่อนเวียนวนแวววาววับว่องไว
สวยสดใสสาดแสงโสสาปศร
งอกงดงองอมงามเงางนงอน
ดำเด่นดั่งดินดรดกดุจดง
หากผู้ใดคิดทำลายมุ่งอาฆาต
ขนสยาดสาดขยายเยี่ยงปีกหงส์
ตัดไม่ขาดบาดบิ่นสิ้นดำรงค์
แม้เพชรปาดยังทรงคงรูปเดิม
ครั้นจะตัดตวัดครั้งพระขรรค์บิ่น
ครั้นจะสาวดึงให้สิ้นก็ยิ่งเสริม
ครั้นกระชากรากยิ่งยืดยาวเพิ่มเติม
หากขนขาดก็เริ่มเพิ่มเยิ้มเป็นทาง
จั๊กแร้แค่สะกิดชีวิตดับ
สะท้อนแสงแรงระยับมิอาจถาง
กลิ่นเหม็นเปรี้ยวเฉี่ยวครั้งแรงมิจาง
เส้นสวยบางเรือนรางพันมิคลาย
จั๊กแร้ดุจแส้สายฟ้าฟาด
อัสรินเป่าพินาศแรงเหลือหลาย
ไฟโลกัณฑ์แผดเผาพันทำลาย
เพชรสลายพลอยสาแหรกแตกกระเจิง
ขนงอกยาวยึกยักหยิกหยักศก
กลืนสวรรค์พันนรกหมกยุ่งเหยิง
รกรุงรังเรี่ยราดขนกระเซิง
แผ่เตลิดเปิดเปิงน่าดูชม
ขนกระฉ่อนลือนามงามวิจิตร
แผ่ทุกทิศคลุมปิดมิดทับถม
พันขยุ้มรุมรัดอัดเป็นปม
ฤทธิ์เดชล้ำพญายมน่าเชิดชู
ขนรักแร้รูปร่างบางเบาเบาะ
เสียงไพเราะฟังเสนาะระรื่นหู
เจาะเหล็กแร่แค่เสี้ยววิฯกลวงเป็นรู
ปลายเรียวแหลมมิเคยทู่ดูเยือกเย็น
แม้เกราะเพชรยังคงมิอาจต้าน
เพียงพัดผ่านมลายพลันทันตาเห็น
บดเป็นผงป่นละเอียดเสียดกระเด็น
สาดกระเซ็นแผ่มิดปิดดารา
จั๊กแร้แกร่งกล้าน่าสรรเสริญ
พริ้วเป็นเนินเหาะเหินดุจหงสา
กระพือเหยียดเฉียดครั้งตระการตา
สวยสง่าหาผู้เทียบเปรียบความงาม
จั๊กแร้แก่กล้าอาคมเลิศ
แสนบรรเจิดประเสริฐยิ่งน่าเกรงขาม
เปียกชะอุ่มชุ่มแฉะอยู่ทุกยาม
บิดครั้งสามน้ำเอ่อล้นท้นโลกัณฑ์
พันดั่งอวนม้วนรัดมัดแน่นเหนียว
เฉือนดั่งเคียวเงี้ยวง้างช่างรังสรรค์
เงาดั่งธารวารีต้องแสงจันทร์
ขนดกมันพันธนาระย้ายาว
ยามลมพัดขนโอนอ่อนงามพริ้วไหว
เปล่งประกายสายแสงสีนวลขาว
ครั้นตบครั้งพังทลายตายระนาว
เหงื่อไหลยาวราวสายฝนหล่นสู่ดิน
ยามดีดขนเป็นเพลงบรรเลงพริ้ว
พันเป็นริ้วปลิวโปรยปานถวิล
เสียงสนั่นลั่นนรกยังได้ยิน
ราวดุจเทพบรรเลงพิณบินเวียนวน
ครั้นพิโรธโกรธลั่นสนั่นทั่ว
ขนม้วนตัวระรัวลั่นพันไพรสนณ์
ครอบจันทรคลอนวิมานเผาผลาญรน
มอดไหม้จนแผดเผาเถ้าธุลี
ปลายรักแร้เรียวแหลมดุจคมดาบ
ปัดครั้งราบโล่งเตียนเลี่ยนวิถี
อำนาจล้ำสูงศักดิ์เหนือวจี
เทพนอบน้อมสดุดีทั่วโลกา
จั๊กแร้สูงเสียดเบียดสวรรค์
ล้อมวิมานผลาญพันดันถลา
กลืนจันทรอเวจีบี้โลกา
มัดทั่วหล้าม้วนรัดชัชวาล
ขนรักแร้ดกยาวสาวเป็นริ้ว
ลมพัดหวิวขนพันกันประสาน
คลายมิออกลอกเช่นไรไม่สะท้าน
ยาวยั้วเยี้ยพันสังหารผลาญโลกัย
หากยามใดเกรี้ยวกราดองอาจแท้
ขนรักแร้เหนียวหนึบเสมือนไหม
ถอนมิออกถักทอเป็นเส้นใย
ร้อนดั่งไฟพิษร้ายม้วนเกลียวกลม
จั๊กแร้ชดชะม้อยคล้อยปลิวสวย
ยาวสลวยพริ้วพร้านพันเส้นผม
ลายลีลาล้ำเลิศลอยลู่ลม
นี่แหละสมกับรักแร้ศรย้อนเอย
By : C&J
26 พฤศจิกายน 2547 10:18 น.
CHOKDEE
กลอนศรย้อน
ย้อนสง่าปรากฏประกาศศักดิ์
ขนดกนักชอุ่มแม่นแม้นสิงขร
จั๊กแร้พาดฟ้าคลุมอัมพร
เหงื่อหยดย้อยชโลธรที่หลั่งริน
ขนหยาบกร้านสะท้านภพกลบไตยภาค
น้ำเหงื่อหลากเป็นเกลียวคลื่นกระทบหิน
ท่วมสวรรค์ล้นวจีทะลักดิน
สัมผัสขนดังเสียงพิณก้องกังวาล
จั๊กแร้ดั่งดอกบัวบานสะพรั่ง
สะบัดดังพนาราบโลกัณฑ์ผลาญ
ปฐพีสมุทรแยกอลังการ
ไร้เทียมทานดุจพระเจ้าเหล่าเทพี
ครั้นสยายขนแผ่ไกลไม่รู้จบ
กลืนดาราเอกภพฤกษ์ราศี
สุริยาจันทิมายังยอมพลี
รักแร้ดกมโหรีดุจไพรดง
ยามยกแขนกลิ่นโรยโชยเป็นสาย
ธรณียุบทลายกลายเป็นผง
รักแร้ดั่งมะนาวกรดสุดทะนง
วาตภัยยังทรงมิกล้าเกรง
ขนรักแร้แผ่อำนาจสะบัดว่อน
เลื้อยไชชอนดั่งงูพิษเยี่ยงมะเส็ง
งูมะโรงฤทธิ์กล้ายังต้องเกรง
ประกายเปล่งรัศมีดุจจันทรา
อัสนีวารีพนาลัย
นภาไฟพฤกษาชาติหินภูผา
อัสรินเหล็กแร่ลมลาวา
ทั่วโลกาสยบแยบแทบมลาย
ความคงทนดุจแร่เพชรมรกต
เลื้อยเลี้ยวลดคดเคี้ยวเบี้ยวเป็นสาย
ตวัดครั้งพังพินาศล่มละลาย
ชีพวอดวายมลายสิ้นปลิดชีวี
ครั้นโกรธาแกร่งกล้าบุกห้าวหาญ
สยายบานศักดิ์สิทธิ์ยิ่งหยิ่งศักดิ์ศรี
ร่อนเฉวียนเวียนวนชนไพรรี
ใครหือรือหรือลองดีดับชีวา
อิทธิฤทธิ์มนตราอำนาจขลัง
ปลดปล่อยครั้งสะเทือนดังเคลื่อนเวหา
คำรามก้องบันลือลั่นอวดเดชา
เสียงสนั่นสั่นโลการะบือไกล
หากผู้ใดไม่เกรงขามหยามลบหลู่
ล้ำล่วงเกรียติอันเชิดชูกว่าสิ่งไหน
ขนรักแร้ฆ่าอาฆาตแผดบรรลัย
สะบัดชัยหาผู้ใดมาต่อกร
รักแร้ฉายสายแสงรุ้งพุ่งแพรวพราว
แสงแวววาวราวนวลจันทร์ต้องอัปสร
สว่างใสไสวจ้าสาดขจร
งามสลอนส่องอมรงอนงนเงา
รักแร้ร้อนเรืองรองรกรุงรัง
พิภพพังพั่งพูนเพิ่มพันแผดเผา
เทิดทูนไท้ทวยเทพเทียบแท้เท่า
เปลื้องปัดเป่าปราดเปรียวเปรื่องโปรยปราน
กรดกัดกร่อนเกรียติเกริกก้องเกรียงไกล
เขรอะขี้ไคลครื้นเครงคล้อยขับขาน
ย้วยยาวย้อยยืดหยุ่นใหญ่หย่อนยาน
ช่องเชี่ยวชาญชดช้อยเฉี่ยวไชชอน
ว่อนเวียนวนแวววาววับว่องไว
สวยสดใสสาดแสงโสสาปศร
งอกงดงองอมงามเงางนงอน
ดำเด่นดั่งดินดรดกดุจดง
หากผู้ใดคิดทำลายมุ่งอาฆาต
ขนสยาดสาดขยายเยี่ยงปีกหงส์
ตัดไม่ขาดบาดบิ่นสิ้นดำรงค์
แม้เพชรปาดยังทรงคงรูปเดิม
ครั้นจะตัดตวัดครั้งพระขรรค์บิ่น
ครั้นจะสาวดึงให้สิ้นก็ยิ่งเสริม
ครั้นกระชากรากยิ่งยืดยาวเพิ่มเติม
หากขนขาดก็เริ่มเพิ่มเยิ้มเป็นทาง
จั๊กแร้แค่สะกิดชีวิตดับ
สะท้อนแสงแรงระยับมิอาจถาง
กลิ่นเหม็นเปรี้ยวเฉี่ยวครั้งแรงมิจาง
เส้นสวยบางเรือนรางพันมิคลาย
จั๊กแร้ดุจแส้สายฟ้าฟาด
อัสรินเป่าพินาศแรงเหลือหลาย
ไฟโลกัณฑ์แผดเผาพันทำลาย
เพชรสลายพลอยสาแหรกแตกกระเจิง
ขนงอกยาวยึกยักหยิกหยักศก
กลืนสวรรค์พันนรกหมกยุ่งเหยิง
รกรุงรังเรี่ยราดขนกระเซิง
แผ่เตลิดเปิดเปิงน่าดูชม
ขนกระฉ่อนลือนามงามวิจิตร
แผ่ทุกทิศคลุมปิดมิดทับถม
พันขยุ้มรุมรัดอัดเป็นปม
ฤทธิ์เดชล้ำพญายมน่าเชิดชู
ขนรักแร้รูปร่างบางเบาเบาะ
เสียงไพเราะฟังเสนาะระรื่นหู
เจาะเหล็กแร่แค่เสี้ยววิฯกลวงเป็นรู
ปลายเรียวแหลมมิเคยทู่ดูเยือกเย็น
แม้เกราะเพชรยังคงมิอาจต้าน
เพียงพัดผ่านมลายพลันทันตาเห็น
บดเป็นผงป่นละเอียดเสียดกระเด็น
สาดกระเซ็นแผ่มิดปิดดารา
จั๊กแร้แกร่งกล้าน่าสรรเสริญ
พริ้วเป็นเนินเหาะเหินดุจหงสา
กระพือเหยียดเฉียดครั้งตระการตา
สวยสง่าหาผู้เทียบเปรียบความงาม
จั๊กแร้แก่กล้าอาคมเลิศ
แสนบรรเจิดประเสริฐยิ่งน่าเกรงขาม
เปียกชะอุ่มชุ่มแฉะอยู่ทุกยาม
บิดครั้งสามน้ำเอ่อล้นท้นโลกัณฑ์
พันดั่งอวนม้วนรัดมัดแน่นเหนียว
เฉือนดั่งเคียวเงี้ยวง้างช่างรังสรรค์
เงาดั่งธารวารีต้องแสงจันทร์
ขนดกมันพันธนาระย้ายาว
ยามลมพัดขนโอนอ่อนงามพริ้วไหว
เปล่งประกายสายแสงสีนวลขาว
ครั้นตบครั้งพังทลายตายระนาว
เหงื่อไหลยาวราวสายฝนหล่นสู่ดิน
ยามดีดขนเป็นเพลงบรรเลงพริ้ว
พันเป็นริ้วปลิวโปรยปานถวิล
เสียงสนั่นลั่นนรกยังได้ยิน
ราวดุจเทพบรรเลงพิณบินเวียนวน
ครั้นพิโรธโกรธลั่นสนั่นทั่ว
ขนม้วนตัวระรัวลั่นพันไพรสนณ์
ครอบจันทรคลอนวิมานเผาผลาญรน
มอดไหม้จนแผดเผาเถ้าธุลี
ปลายรักแร้เรียวแหลมดุจคมดาบ
ปัดครั้งราบโล่งเตียนเลี่ยนวิถี
อำนาจล้ำสูงศักดิ์เหนือวจี
เทพนอบน้อมสดุดีทั่วโลกา
จั๊กแร้สูงเสียดเบียดสวรรค์
ล้อมวิมานผลาญพันดันถลา
กลืนจันทรอเวจีบี้โลกา
มัดทั่วหล้าม้วนรัดชัชวาล
ขนรักแร้ดกยาวสาวเป็นริ้ว
ลมพัดหวิวขนพันกันประสาน
คลายมิออกลอกเช่นไรไม่สะท้าน
ยาวยั้วเยี้ยพันสังหารผลาญโลกัย
หากยามใดเกรี้ยวกราดองอาจแท้
ขนรักแร้เหนียวหนึบเสมือนไหม
ถอนมิออกถักทอเป็นเส้นใย
ร้อนดั่งไฟพิษร้ายม้วนเกลียวกลม
จั๊กแร้ชดชะม้อยคล้อยปลิวสวย
ยาวสลวยพริ้วพร้านพันเส้นผม
ลายลีลาล้ำเลิศลอยลู่ลม
นี่แหละสมกับรักแร้ศรย้อนเอย
By : C&J
25 พฤศจิกายน 2547 20:28 น.
CHOKDEE
กลอนศรย้อน
ย้อนสง่าปรากฏประกาศศักดิ์
ขนดกนักชอุ่มแม่นแม้นสิงขร
จั๊กแร้พาดฟ้าคลุมอัมพร
เหงื่อหยดย้อยชโลธรที่หลั่งริน
ขนหยาบกร้านสะท้านภพกลบไตยภาค
น้ำเหงื่อหลากเป็นเกลียวคลื่นกระทบหิน
ท่วมสวรรค์ล้นวจีทะลักดิน
สัมผัสขนดังเสียงพิณก้องกังวาล
จั๊กแร้ดั่งดอกบัวบานสะพรั่ง
สะบัดดังพนาราบโลกัณฑ์ผลาญ
ปฐพีสมุทรแยกอลังการ
ไร้เทียมทานดุจพระเจ้าเหล่าเทพี
ครั้นสยายขนแผ่ไกลไม่รู้จบ
กลืนดาราเอกภพฤกษ์ราศี
สุริยาจันทิมายังยอมพลี
รักแร้ดกมโหรีดุจไพรดง
ยามยกแขนกลิ่นโรยโชยเป็นสาย
ธรณียุบทลายกลายเป็นผง
รักแร้ดั่งมะนาวกรดสุดทะนง
วาตภัยยังทรงมิกล้าเกรง
ขนรักแร้แผ่อำนาจสะบัดว่อน
เลื้อยไชชอนดั่งงูพิษเยี่ยงมะเส็ง
งูมะโรงฤทธิ์กล้ายังต้องเกรง
ประกายเปล่งรัศมีดุจจันทรา
อัสนีวารีพนาลัย
นภาไฟพฤกษาชาติหินภูผา
อัสรินเหล็กแร่ลมลาวา
ทั่วโลกาสยบแยบแทบมลาย
ความคงทนดุจแร่เพชรมรกต
เลื้อยเลี้ยวลดคดเคี้ยวเบี้ยวเป็นสาย
ตวัดครั้งพังพินาศล่มละลาย
ชีพวอดวายมลายสิ้นปลิดชีวี
ครั้นโกรธาแกร่งกล้าบุกห้าวหาญ
สยายบานศักดิ์สิทธิ์ยิ่งหยิ่งศักดิ์ศรี
ร่อนเฉวียนเวียนวนชนไพรรี
ใครหือรือหรือลองดีดับชีวา
อิทธิฤทธิ์มนตราอำนาจขลัง
ปลดปล่อยครั้งสะเทือนดังเคลื่อนเวหา
คำรามก้องบันลือลั่นอวดเดชา
เสียงสนั่นสั่นโลการะบือไกล
หากผู้ใดไม่เกรงขามหยามลบหลู่
ล้ำล่วงเกรียติอันเชิดชูกว่าสิ่งไหน
ขนรักแร้ฆ่าอาฆาตแผดบรรลัย
สะบัดชัยหาผู้ใดมาต่อกร
รักแร้ฉายสายแสงรุ้งพุ่งแพรวพราว
แสงแวววาวราวนวลจันทร์ต้องอัปสร
สว่างใสไสวจ้าสาดขจร
งามสลอนส่องอมรงอนงนเงา
รักแร้ร้อนเรืองรองรกรุงรัง
พิภพพังพั่งพูนเพิ่มพันแผดเผา
เทิดทูนไท้ทวยเทพเทียบแท้เท่า
เปลื้องปัดเป่าปราดเปรียวเปรื่องโปรยปราน
กรดกัดกร่อนเกรียติเกริกก้องเกรียงไกล
เขรอะขี้ไคลครื้นเครงคล้อยขับขาน
ย้วยยาวย้อยยืดหยุ่นใหญ่หย่อนยาน
ช่องเชี่ยวชาญชดช้อยเฉี่ยวไชชอน
ว่อนเวียนวนแวววาววับว่องไว
สวยสดใสสาดแสงโสสาปศร
งอกงดงองอมงามเงางนงอน
ดำเด่นดั่งดินดรดกดุจดง
หากผู้ใดคิดทำลายมุ่งอาฆาต
ขนสยาดสาดขยายเยี่ยงปีกหงส์
ตัดไม่ขาดบาดบิ่นสิ้นดำรงค์
แม้เพชรปาดยังทรงคงรูปเดิม
ครั้นจะตัดตวัดครั้งพระขรรค์บิ่น
ครั้นจะสาวดึงให้สิ้นก็ยิ่งเสริม
ครั้นกระชากรากยิ่งยืดยาวเพิ่มเติม
หากขนขาดก็เริ่มเพิ่มเยิ้มเป็นทาง
จั๊กแร้แค่สะกิดชีวิตดับ
สะท้อนแสงแรงระยับมิอาจถาง
กลิ่นเหม็นเปรี้ยวเฉี่ยวครั้งแรงมิจาง
เส้นสวยบางเรือนรางพันมิคลาย
จั๊กแร้ดุจแส้สายฟ้าฟาด
อัสรินเป่าพินาศแรงเหลือหลาย
ไฟโลกัณฑ์แผดเผาพันทำลาย
เพชรสลายพลอยสาแหรกแตกกระเจิง
ขนงอกยาวยึกยักหยิกหยักศก
กลืนสวรรค์พันนรกหมกยุ่งเหยิง
รกรุงรังเรี่ยราดขนกระเซิง
แผ่เตลิดเปิดเปิงน่าดูชม
ขนกระฉ่อนลือนามงามวิจิตร
แผ่ทุกทิศคลุมปิดมิดทับถม
พันขยุ้มรุมรัดอัดเป็นปม
ฤทธิ์เดชล้ำพญายมน่าเชิดชู
ขนรักแร้รูปร่างบางเบาเบาะ
เสียงไพเราะฟังเสนาะระรื่นหู
เจาะเหล็กแร่แค่เสี้ยววิฯกลวงเป็นรู
ปลายเรียวแหลมมิเคยทู่ดูเยือกเย็น
แม้เกราะเพชรยังคงมิอาจต้าน
เพียงพัดผ่านมลายพลันทันตาเห็น
บดเป็นผงป่นละเอียดเสียดกระเด็น
สาดกระเซ็นแผ่มิดปิดดารา
จั๊กแร้แกร่งกล้าน่าสรรเสริญ
พริ้วเป็นเนินเหาะเหินดุจหงสา
กระพือเหยียดเฉียดครั้งตระการตา
สวยสง่าหาผู้เทียบเปรียบความงาม
จั๊กแร้แก่กล้าอาคมเลิศ
แสนบรรเจิดประเสริฐยิ่งน่าเกรงขาม
เปียกชะอุ่มชุ่มแฉะอยู่ทุกยาม
บิดครั้งสามน้ำเอ่อล้นท้นโลกัณฑ์
พันดั่งอวนม้วนรัดมัดแน่นเหนียว
เฉือนดั่งเคียวเงี้ยวง้างช่างรังสรรค์
เงาดั่งธารวารีต้องแสงจันทร์
ขนดกมันพันธนาระย้ายาว
ยามลมพัดขนโอนอ่อนงามพริ้วไหว
เปล่งประกายสายแสงสีนวลขาว
ครั้นตบครั้งพังทลายตายระนาว
เหงื่อไหลยาวราวสายฝนหล่นสู่ดิน
ยามดีดขนเป็นเพลงบรรเลงพริ้ว
พันเป็นริ้วปลิวโปรยปานถวิล
เสียงสนั่นลั่นนรกยังได้ยิน
ราวดุจเทพบรรเลงพิณบินเวียนวน
ครั้นพิโรธโกรธลั่นสนั่นทั่ว
ขนม้วนตัวระรัวลั่นพันไพรสนณ์
ครอบจันทรคลอนวิมานเผาผลาญรน
มอดไหม้จนแผดเผาเถ้าธุลี
ปลายรักแร้เรียวแหลมดุจคมดาบ
ปัดครั้งราบโล่งเตียนเลี่ยนวิถี
อำนาจล้ำสูงศักดิ์เหนือวจี
เทพนอบน้อมสดุดีทั่วโลกา
จั๊กแร้สูงเสียดเบียดสวรรค์
ล้อมวิมานผลาญพันดันถลา
กลืนจันทรอเวจีบี้โลกา
มัดทั่วหล้าม้วนรัดชัชวาล
ขนรักแร้ดกยาวสาวเป็นริ้ว
ลมพัดหวิวขนพันกันประสาน
คลายมิออกลอกเช่นไรไม่สะท้าน
ยาวยั้วเยี้ยพันสังหารผลาญโลกัย
หากยามใดเกรี้ยวกราดองอาจแท้
ขนรักแร้เหนียวหนึบเสมือนไหม
ถอนมิออกถักทอเป็นเส้นใย
ร้อนดั่งไฟพิษร้ายม้วนเกลียวกลม
จั๊กแร้ชดชะม้อยคล้อยปลิวสวย
ยาวสลวยพริ้วพร้านพันเส้นผม
ลายลีลาล้ำเลิศลอยลู่ลม
นี่แหละสมกับรักแร้ศรย้อนเอย
By : C&J