22 เมษายน 2548 23:56 น.
Chesper
เหมือนกำแพงถูกเขาปล่อยร้าง
เหมือนคนสร้างมิได้ตั้งใจ
ทิ้งให้เราทนเหงาอยู่เรื่อยไป
ฝ่าพายุร้ายไปตามรำพัง
เลือกทางเดินที่คิดและหวัง
หากแม้นต้องพังก็จำยอมทน
ฝืนชะตาที่แสนมืดมน
เก็บฝันเบื้องบนจนกลายเป็นจริง
ตั้งใจทำดั่งหวังวาดไว้
ไม่คิดฝันไปให้ไกลเกินจริง
รู้คุณค่าของคนไม่ทิ้ง
ไขว่คว้าให้จริงฝันคงไม่ไกล
ไม่มีผู้ใดคนไหนจะสน
ท่ามกลางผู้คนสับสนวุ่นวาย
กว่าจะรู้ว่ารักใคร
มันก็สายเกินไขว่คว้า
อยู่เพียงผู้เดียว
เปรี่ยวเหงาสุดอ่อนล้า
บนเส้นทางสุดเวิ้งว้าง
ลอยเคว้งคว้างไปตามลม
มีชีวิตอยู่ทุกวัน
ผ่านผันไปสุดขื่นขม
สุขทุกข์ระทม
แทบจะข่มไม่ไหว
เมื่อน้ำตาไหลริน
หัวใจหินแตกสลาย
ครอบครัวดั่งมลาย
จางหายในสายลม
14 กุมภาพันธ์ 2548 17:05 น.
Chesper
เป็นผู้คนพเนจรไปทั่วหล้า
เที่ยวค้นหาความรู้ทุกแห่งหน
มีที่ใดให้ไขว่คว้าจะดิ้นรน
ไม่ฝืนตนหลุดพ้นในโลกา
ขอเพียงมีคนรู้ใจคู่ชีวิต
เพียงบัณฑิตปริญญาการศึกษา
เมื่อยามเหงาคอยดูแลทุกครั้งครา
จนดอกไม้โรยลาในบั้นปลาย
ณ ที่ใดดวงใจไม่ไหวหวั่น
จะฝ่าฟันอุปสรรคและขวากหนาม
แม้มีทุกข์ประดั่งเท่าภูพาน
สุขสราญก็อยู่ที่ตัวตน
ชีวิตนี้จะยั่งยืนสักแค่ไหน
มีหัวใจแสวงหาความสุขสม
สร้างฐานะการเงินให้มั่นคง
แต่อย่าหลงทางไปในโลกี
13 กุมภาพันธ์ 2548 23:00 น.
Chesper
ยามอาทิตย์ทอแสงแรงกล้า
ย่อมนำพาให้ผู้คนขุ่นมัวหมอง
หยาดเหงื่อไหลรินหลั่งเป็นเรืองรอง
จะกู้ก้องโทสะใส่ผู้ใด
ยามแสงจันทร์ทดแทนทราทิตย์
ย่อมลิขิตดวงดาวสว่างไสว
ยามเมื่อถึงปลายฝั่งที่ตั้งใจ
ไม่นำพาสิ่งใดเป็นอาจิน
ณ ขุนเขาสูงใหญ่จรดขอบฟ้า
แสงทิวาสายนทีกระแสสินธุ์
มวลดอกไม้บานสะพรั่งทั่วธานินทร์
ยินแต่เสียงสกุณาพลิ้วแผ่วมา
มีต้นไม้ทั่วถิ่นหฤเวท
แดนวิเศษเลิศล้ำเสน่ห์หา
บนต้นไม้สูงใหญ่กริตสนา
ไม่นำพาสิ่งใดในโลกี
13 กุมภาพันธ์ 2548 18:50 น.
Chesper
เมื่อถึงวันอำลาขอลาแล้ว
คงลาแล้วลากันไปสู่จุดหมาย
ชั่วชีวิตสุขสมในม.ปลาย
คงสลายมลายสิ้นทุกข์สิ่งอัน
ไม่มีคาบน้ำตาจะรินไหล
คงเหลือไว้เพียงภาพเงาแห่งความหลัง
คงคิดถึงคะนึงหาอยู่ทุกวัน
มิอาจรั้งวันวานให้หวนคืน
13 กุมภาพันธ์ 2548 18:30 น.
Chesper
รักแบบเพื่อนคงอยู่ทุกสถาน
รักสราญคงอยู่ทุกแห่งหน
รักหวานชื่นคงอยู่ยั่งยืนยง
แต่รักคนที่รักชั่งสุขใจ
เมื่อมีรักในใจแสนสดชื่น
แสนระรื่นสุขสมนิยมหมาย
เมื่อไร้รักอกหักชีพมลาย
ใจสลายพลายพลิ้วในสายลม