16 มกราคม 2550 06:27 น.
เฌอมาลย์
วันเวลาผันผ่านชั่วกาลหนึ่ง
อย่ารำพึงร่ำไห้ฤทัยหมอง
ความผิดหวังมีมากหากจะมอง
อย่าร่ำร้องโศกาอาดูรเลย
สารพันปัญหาอย่าท้อถอย
เป็นเพียงรอยอาลัยใคร่เฉลย
ให้มันแล้วแล้วไปให้คุ้นเคย
ดั่งสายลมรำเพยพัดเลยไป
อย่ายึดติดปัญหาพาโศกศัลย์
ให้วารวันช่วยแก้แลขานไข
ทุกปัญหามีทางออกบอกกับใจ
วินิจฉัยด้วยปัญญานำพาทาง
ใช้สติตรึกตรองจะมองเห็น
ความลำเค็ญที่ข้องหม่นหมองหมาง
ดั่งขวากหนามกีดกั้นคั่นระวาง
เพียรถากถางด้วยวิริยะชนะภัย
รู้อดทนอดกลั้นคำหยันหยาม
อย่าครั่นคร้ามเรื่องเลวแลเหลวไหล
รู้สติตรึกตรองมองการณ์ไกล
พร้อมน้ำใจให้กันมิผันแปร
14 มกราคม 2550 09:27 น.
เฌอมาลย์
ท้องทะเลกว้างใหญ่สุดไพศาล
แสนตระการไกลตาพาหวั่นไหว
เรือลำน้อยลอยละล่องท่องทั่วไป
ท่ามโพยภัยดาษดื่นกลางคลื่นลม
อย่างเดียวดายในทะเลแสนเหว่ว้า
ไกลสุดตามหาสมุทรสุดขื่นขม
หลากพายุโถมกระหน่ำย้ำตรอมตรม
ทุกข์ระทมเมื่อมรสุมรุมชีวา
ประคองเรือลำน้อยที่ลอยคว้าง
อยู่ระหว่างชลาศัยหลายปัญหา
รู้ตั้งมั่นด้วยใจเมื่อภัยมา
พร้อมปัญญาดั่งเข็มทิศพิชิตภัย
มองทะเลจรดฟ้าพาใจเหงา
มีเพียงเงาฟ้าครามกับน้ำใส
ต้องระวังตัวตนบนเพรงใจ
อย่าหลงนัยวังวนชลธาร
12 มกราคม 2550 06:44 น.
เฌอมาลย์
เขาค้อ..แห่งนี้มีความหลัง
ทั้งรักชังหวานชื่นและขื่นขม
ทั้งสนุกคลุกเคล้าเศร้าระทม
หลากอารมณ์ผสมผสานในวานวัน
เป็นจุดเริ่มมิตรภาพกำซาบนัก
เป็นจุดหักเหทุกอย่างบนทางฝัน
เป็นจุดแตกที่ต่างระหว่างกัน
เป็นสวรรค์ในอดีตที่กรีดใจ
เป็นความหลังฝังใจไม่หวนกลับ
เป็นความลับเลือนหมดสิ้นสดใส
เป็นจุดจบประสบการณ์รานฤทัย
เป็นอนุสรณ์อาลัยในวันวาน
เขาค้อ..แห่งนี้มีความหลัง
จำใจฝังรอยอาลัยไม่สืบสาน
พบเพื่อพรากจารจำเป็นตำนาน
มิมีงานเลี้ยงใดไม่เลิกลา
9 มกราคม 2550 23:00 น.
เฌอมาลย์
แด่คุณครูผู้เสียสละเพื่อประเทศ
ทั่วคามเขตแดนไทยครูไปถึง
ถิ่นกันดารแค่ไหนไม่คำนึง
เปรียบประหนึ่งแสงโสมโคมส่องทาง
ครูเหน็ดเหนื่อยกายใจใครรู้เห็น
ทุกข์ลำเค็ญลำบากสู้ถากถาง
สั่งสอนศิษย์ให้วิชามิเว้นวาง
กุศลสร้างศิษย์ดีเพราะมีครู
พระคุณนี้ยิ่งใหญ่หาใดเปรียบ
สร้างระเบียบเกณฑ์กฏบทเรียนรู้
พระคุณที่สามล้ำเลิศควรเชิดชู
น้อมกตัญญูบูชาครูอาจารย์
มาวันนี้แสงสิ้นชีวินดับ
ครูลาลับชีวันชั่วกัลปาวสาน
ขอคุณครูสถิตแคว้นแดนพิมาน
น้อมสักการส่งครูสู่สุคติเทอญ
ร่วมไว้อาลัยแด่คุณครูจูหลิง ปงกันมูล
ผู้ช่วยครูโรงเรียนบ้านกูจิงลือปะ
อ.ระแงะ จ.นราธิวาส
8 มกราคม 2550 07:15 น.
เฌอมาลย์
มีนิทานขานกล่าวมาเล่าต่อ
คือเรื่องพ่อผู้รู้รักสมัครสมาน
อยู่กระท่อมปลายนามาช้านาน
มีลูกหลานหลายคนอลเวง
ล้วนกินข้าวหม้อเดียวกลมเกลียวไฉน
ต่างใส่ไคล้ใส่อารมณ์บ้างข่มเหง
ทะเลาะกันวุ่นวายคล้ายนักเลง
ต่างไม่เกรงใจให้กันและกัน
พ่อชราแก่เฒ่านั้นเฝ้าห่วง
กาลเลยล่วงผ่านไปไร้สุขสันต์
เหนื่อยหัวใจทดท้อต่อชีวัน
เหตุลูกนั้นไร้รักสามัคคี
จึงคิดออกอุบายคล้ายสอนสั่ง
ลูกจงฟังคำพ่อต่อวิถี
ลูกหนึ่งคนไผ่หนึ่งลำตามวิธี
เลือกไผ่ดีที่งามตามใจตน
ลูกทุกคนนำไผ่มาให้พ่อ
ดูเถิดหนอไผ่หนึ่งลำทำฉงน
พ่อหักกลางง่ายดายในบัดดล
ลูกทุกคนลองทำตามพ่อดู
ไผ่หนึ่งลำหักง่ายดายไร้แรงต้าน
หลายสะท้านยากทำลายให้อดสู
สามัคคีคือพลังสร้างชื่นชู
แม้ศัตรูกรายกล้ำยากทำลาย
เปรียบปวงชนชาวไทยดั่งไผ่ต้น
แตกกอบน..กิเลสเหตุหลากหลาย
แบ่งพรรคพวกชุลมุนจนวุ่นวาย
ชาติเสียหายเพราะกิเลสเหตุไม่พอ
ฟังนิทานเรื่องเก่าที่เล่าขาน
รู้สืบสานพอเพียงเยี่ยงพ่อหนอ
รู้สมัครสมานสานรักร่วมถักทอ
ร่วมสานต่อสามัคคีพาวิไล
ถ้ารู้จัก เพียงพอ อย่างพ่อกล่าว
เรื่องรานร้าว คงไม่มี แม้นที่ไหน
รู้จักเอื้อ อารี มีน้ำใจ
ชาติเชื้อไทย คงงดงาม ท่ามร่มเย็น