30 กันยายน 2549 23:24 น.
เฌอมาลย์
คนสองคนบนทางใจไม่คงมั่น
ความสัมพันธ์จึงลางเลือนเหมือนห่างเหิน
จะวันนี้วันหน้ามิกล้าเผชิญ
คงจะเกินคว้าไขว่ไล่ตามทัน
จึงปล่อยฉันเคว้งคว้างในทางรัก
เหมือนถูกผลักหล่นมาแทบอาสัญ
หลงวังวนเวิ้งว้างทางจาบัลย์
เจ็บมหันต์ หวั่นไหวในกมล
เก็บความช้ำหมองหม่นเกินทนไหว
ข่มหัวใจย่อยยับด้วยสับสน
อย่างเดียวดายพ่ายแพ้แก่ใจตน
จะฝืนทนต่อไปเพื่อใครกัน
คนสองคนสองใจไร้ทางออก
เหมือนจนตรอกทางใจให้ผกผัน
จะวันนี้วันไหนไม่สำคัญ
ถึงทางตัน..รักจบเลิกทบทวน
30 กันยายน 2549 00:59 น.
เฌอมาลย์
ตากสายลมชมจันทร์ริมสันเขื่อน
คิดถึงมิตรเรือนใจในกาลก่อน
ร่วมชมดาวพราวนภาด้วยอาทร
ต่างหนุนแขนแทนหมอนนอนนิทรา
แต่คืนนี้ไร้แขนหนุนแทนหมอน
แสนอาวรณ์คนไกลในสมิหลา
ก็เพราะรักคิดถึงจึงพ้อมา
คำสัญญา..ใครเคยเอ่ยฝากกัน
อยู่ห่างไกลคนละทิศยังคิดถึง
เธอคือหนึ่งในทรวงดวงใจฉัน
วอนสายลมพรมใจไปจำนรรจ์
รักนิรันดร์เพียงเธอเสมอมา
สาวลำปาวร้าวฤดีที่สันเขื่อน
คนเคยเยือนคงหลงสาวสงขลา
สาวน้ำดำช้ำทรวงทวงวาจา
รอเธอหวนทวนสัญญาว่า" ไม่ลืม "
29 กันยายน 2549 07:24 น.
เฌอมาลย์
หากเหนื่อยนักพักบ้างวางความคิด
บทชีวิตของคนเราเท่าที่เห็น
ล้วนคละเคล้า ทั้งสุข-ทุกข์ลำเค็ญ
มิละเว้นรวยจนทุกคนมี
ต่างเหตุผลกลไกในวิบาก
บ้างทุกข์ยากบ้างสบายหลายวิถี
หลากชีวิตผิดถูกผูกชีวี
ต่างฤดีต่างประเด็นเป็นสามัญ
อยู่บนทางเลี้ยวลดหลายบทบาท
อาจพลั้งพลาด...บางคราแทบอาสัญ
ชีวิตนี้มิเที่ยงแท้แน่อนันต์
ตราบชีวันไม่สิ้นดิ้นรนไป
หากเหนื่อยล้าชีวินจนสิ้นหวัง
หมดพลังก้าวย่างทางไสว
จึงขอฝากคำเสริมหวังเติมใจ
ยังมีใครคนนี้ที่เคียงเธอ
ตราบตะวันมั่นคงตรงต่อฟ้า
สาดส่องหล้ามั่นคงดำรงเสมอ
หวังไม่สิ้นดิ้นรนค้นให้เจอ
ถึงฝันเก้อมิเห็นจะเป็นไร
หมดวาระหน้าที่หนี้ชีวิต
ประกาศิตปลิดปลงสิ้นสงสัย
ความเหนื่อยหน่ายพ่ายแพ้จะแปรไป
เมื่อสิ้นลมหายใจไร้กังวล
27 กันยายน 2549 23:19 น.
เฌอมาลย์
มองนภาพร่างพราวดาวสดใส
ฝากห่วงใยไปบ้านนาว่าคิดถึง
อยู่คนเดียวเหว่ว้าพารำพึง
ยังคนึงถึงทุ่งทองแลท้องนา
ราตรีนี้มีหนึ่งคนบนความเหงา
อยู่กับเงาทุกวันเพื่อฝันหา
สิ่งที่เคยหวังไว้ในสัญญา
สร้างคุณค่าชีวิตลิขิตเอง
เปรียบดังนกหลงทางกลางเมืองใหญ่
ไปทางไหนไม่พ้นโดนข่มเหง
ความรู้น้อยต้อยต่ำใครยำเกรง
จึงวังเวงเคว้งคว้างบนทางใจ
หนึ่งความฝันคำสัญญาก่อนลาจาก
แม้นลำบากกี่หนยังทนไหว
หวังสักวันฟ้าช่วยอำนวยชัย
สิ่งฝันใฝ่เป็นดังที่หวังปอง
มองนภาพร่างพราวดาวยังใส
ฝากห่วงใยไปบ้านนาว่าอย่าหมอง
อยู่ทางนี้มีเงาเหงาตระกอง
คอยประคองยามเราร้านรานใจ
26 กันยายน 2549 07:34 น.
เฌอมาลย์
จากเมล็ดผ่านพ้นเป็นต้นกล้า
ล่วงเวลาเพาะบ่มสมสมัย
กล้าเติบโตงอกงามท่ามพฤกษ์ไพร
เป็นต้นไม้ให้ร่มรื่นชื่นแผ่นดิน
ผลิกิ่งก้านเจริญวัยเป็นไม้แกร่ง
ผ่านฝน-แล้ง กี่ฤดูรู้ถวิล
คุณค่าธาตุดินน้ำค้ำชีวิน
ผดุงถิ่นค้ำจุนสมดุลกัน
เปรียบดั่งคนจงกล้าที่จะก้าว
หลากเรื่องราวมิเที่ยงแท้มีแปรผัน
เพียงใจแกร่งมิท้อต่อชีวัน
จิตมุ่งมั่น..ก้าวไปในทางดี
บนหนทางดีร้ายหลายทางเลือก
หากมองเปลือกมรรคาว่าสดสี
แต่ภายในอุปสรรคขวากหนามมี
คิดให้ดีก่อนดำเนินเดินหลงไป
ก้าวที่กล้า..กล้าที่ก้าว..ที่ก้าวกล้า
พิจารณาด้วยสติวินิจฉัย
ก้าวทางดีด้วยปัญญาพาวิไล
เป็นก้าวใหม่ให้ชีวันนั้นมั่นคง
ดีหรือร้ายใจเราเท่านั้นรู้
ผิดเป็นครูรู้จำนำประสงค์
ก้าวต่อไปไม่ระย่อด้วยทรนง
ชีพยืนยงยืนหยัดศรัทธาธรรม