13 ธันวาคม 2549 21:54 น.
เฌอมาลย์
รอวันพี่คืนถิ่นดินแดนเกิด
พร้อมจะเปิดใจรับประทับขวัญ
เฝ้ารอพี่หวนคืนรื่นชีวัน
สานสัมพันธ์ สายรักถักทอใจ
มิเคยคิดนอกใจมีใครอื่น
ผ่านวันคืนมั่นคงอสงไขย
น้องรักเดียวแน่วแน่แท้หทัย
อย่าหวั่นไหวในรักเฝ้าภักดี
พร้อมจะส่งแรงใจเพื่อไปหา
ทุกเวลายามท้อต่อวิถี
ไกลแค่ทางมิห่างร้างไมตรี
ขอเพียงพี่เชื่อมั่นอย่าหวั่นใจ
ทำหน้าที่..ต่อไปไม่ต่องห่วง
แม้กาลล่วง..เนิ่นนานมิหวั่นไหว
ยังคนึงถึงพี่มิคลาไคล
นานเท่าใด..ก็จะรอมิท้อเลย
10 ธันวาคม 2549 23:20 น.
เฌอมาลย์
คืนเหงาเหงาใครเล่าอยู่เคียงข้าง
แสนอ้างว้างร้าวใจใครจะเหมือน
ฟ้ามืดมิดสิ้นแสงแห่งดาวเดือน
เหมือนย้ำเตือนใจฉันอันมืดมน
จะคืนนั้น คืนนี้ หรือคืนไหน
ขาดเงาใจมืดดับแสนสับสน
ร้างหนทางสิ้นแสงแรงกมล
เมื่อไร้คนเคียงข้างอย่างเคยมี
อยากปล่อยวางว่างใจคงไร้ทุกข์
พบความสุขเจิดจรัสด้วยรัศมี
เหมือนแสงจันทร์สว่างกลางราตรี
ทอแสงสีเจิดจ้านำพาใจ
ยามมีคุณอุ่นในฤทัยนัก
ได้พิงพักอุราคราหวั่นไหว
เมื่อขาดคุณเคว้งคว้างหนทางไป
ร้าวฤทัยความหลังยังฝังรอย
อยากระบายความในใจให้ใครรู้
ทุกวันอยู่อย่างคนรอที่ท้อถอย
หมดสิ้นแรงใจเหงาเฝ้ารอคอย
คืนวันคล้อยมานานร้าวรานเกิน
หมอกและควันกั้นทางหว่างความเหงา
กั้นรักเราทั้งสองต้องห่างเหิน
กีดเส้นขวางทางใจให้ดำเนิน
จะเผชิญเดินไปอย่างไรกัน...
4 ธันวาคม 2549 13:36 น.
เฌอมาลย์
หวลรำลึกถึงอ้อมแขนแสนอบอุ่น
คอยค้ำจุนปกปักแลรักษา
เฝ้าคุ้มครองมิห่างฤาร้างลา
ดุจแก้วตาดวงใจในบิดร
เป็นทั้งพ่อและแม่ดูแลลูก
เฝ้าฝังปลูกคุณธรรมทุกคำสอน
ยามเจ็บป่วยพ่อเราเฝ้าอาทร
หยูกยาป้อนหายไข้ได้ทุเลา
พระคุณพ่อล้ำค่าหาใดเปรียบ
มิอาจเทียบพระคุณยิ่งขุนเขา
ยิ่งกว่าน้ำล้ำกว่าฟ้าวนาเนา
มิอาจเท่าเทียมทันอันพระคุณ
มาวันนี้รู้ได้เมื่อสายแล้ว
ไร้ดวงแก้วโอบเอื้อแลเกื้อหนุน
ไร้ร่มโพธิ์ร่มไทรพึ่งใบบุญ
คอยการุญอาทรดังก่อนมา
เมื่อไร้พ่อเป็นหลักประจักษ์จิต
เหมือนหลงทิศทางใจให้ผวา
ไร้คนปลอบยามล้มตรมน้ำตา
ชุบชีวาปลอบขวัญวันท้อใจ
หวลรำลึกถึงคำพ่อพร่ำสอน
ดั่งคำพรนำทางกระจ่างใส
พระคุณพ่อค่ายิ่งเหนือสิ่งใด
รับรู้ได้ด้วยใจในพระคุณ