15 พฤศจิกายน 2549 00:25 น.
เฌอมาลย์
อยู่ในโลกความเหงาร่วมเงาหมอง
ตามครรลองวิปโยคโศกวิถี
เพียงคนเดียวเปลี่ยวเหงาเศร้าชีวี
เกินหลีกลี้หนีโลกโชคชะตา
เพียงคนเดียวสับสนระคนเหงา
มีเพียงเงาเหมือนมิตรสนิทหนา
อยู่ลำพังวังเวงเคว้งทุกครา
หลอนชีวาเกินขืนชื่นอารมณ์
ห้องสี่เหลี่ยมเงียบเหงาร่วมเงาโศก
ดุจดังโลกหมองหม่นคนขื่นขม
ที่คับแคบมืดมิดชิดระทม
ทุกข์ทับถมซมซานรานฤดี
นั่งเหม่อมองท้องฟ้านภาไสว
ต่างกับใจของตนหม่นหมองศรี
ฟ้าหลังฝนสดชื่นรื่นชีวี
แต่ฉันนี้หลังวิโยคโศกไม่คลาย
13 พฤศจิกายน 2549 11:33 น.
เฌอมาลย์
ต่อแต่นี้ไม่เหลือเยื่อใยแล้ว
ต่อแต่นี้ดวงแก้วแวววาวใส
ต่อแต่นี้ที่เห็นและเป็นไป
ต่อแต่นี้สิ้นไร้แม้นไมตรี
เมื่อสัมพันธ์วันวานสิ้นหวานแล้ว
เมื่อสัมพันธ์วาวแววหม่นราศรี
เมื่อสัมพันธ์ลาร้างหมางชีวี
เมื่อสัมพันธ์ร้างที่วิถีใจ
รู้ทุกอย่างทางใจไม่หวนกลับ
รู้ทุกอย่างลาลับรักขับไส
รู้ทุกอย่างสิ้นเยื่อมิเหลือใย
รู้ทุกอย่างสิ้นไร้อาลัยครวญ
เธอกับฉันจบกันในวันนี้
เธอกับฉันฤดีไม่มีหวน
เธอกับฉันรักจบเลิกทบทวน
เธอกับฉันปลดตรวนชนวนใจ
2 พฤศจิกายน 2549 07:34 น.
เฌอมาลย์
ขอขอบคุณสิ่งดลใจให้รู้จัก
ค่าความรักงดงามดังความฝัน
ขอร่วมเรียงเคียงข้างทางชีวัน
ตราบนิรันดร์มั่นรักภักดิ์หทัย
บุญบันดาลคุณมาคราสับสน
ยามกมลหม่นหมองสิ้นผ่องใส
คุณเคียงขวัญวันเหงาอย่างเข้าใจ
ที่หวั่นไหวสลายคลายร้าวราน
พรหมลิขิตขีดชะตาคุณมาพบ
มาประสพความรักสมัครสมาน
รักคุณแล้วคงมั่นนิรันดร์กาล
รักจดจารดวงจิตสถิตคง
ขอขอบคุณทุกอย่างบนทางรัก
หมายฟูมฟักรักงามตามประสงค์
เพียงมีคุณครองคู่อยู่ดำรง
รักยืนยงชั่วกาลอวสานใจ