27 กันยายน 2549 23:19 น.
เฌอมาลย์
มองนภาพร่างพราวดาวสดใส
ฝากห่วงใยไปบ้านนาว่าคิดถึง
อยู่คนเดียวเหว่ว้าพารำพึง
ยังคนึงถึงทุ่งทองแลท้องนา
ราตรีนี้มีหนึ่งคนบนความเหงา
อยู่กับเงาทุกวันเพื่อฝันหา
สิ่งที่เคยหวังไว้ในสัญญา
สร้างคุณค่าชีวิตลิขิตเอง
เปรียบดังนกหลงทางกลางเมืองใหญ่
ไปทางไหนไม่พ้นโดนข่มเหง
ความรู้น้อยต้อยต่ำใครยำเกรง
จึงวังเวงเคว้งคว้างบนทางใจ
หนึ่งความฝันคำสัญญาก่อนลาจาก
แม้นลำบากกี่หนยังทนไหว
หวังสักวันฟ้าช่วยอำนวยชัย
สิ่งฝันใฝ่เป็นดังที่หวังปอง
มองนภาพร่างพราวดาวยังใส
ฝากห่วงใยไปบ้านนาว่าอย่าหมอง
อยู่ทางนี้มีเงาเหงาตระกอง
คอยประคองยามเราร้านรานใจ
26 กันยายน 2549 07:34 น.
เฌอมาลย์
จากเมล็ดผ่านพ้นเป็นต้นกล้า
ล่วงเวลาเพาะบ่มสมสมัย
กล้าเติบโตงอกงามท่ามพฤกษ์ไพร
เป็นต้นไม้ให้ร่มรื่นชื่นแผ่นดิน
ผลิกิ่งก้านเจริญวัยเป็นไม้แกร่ง
ผ่านฝน-แล้ง กี่ฤดูรู้ถวิล
คุณค่าธาตุดินน้ำค้ำชีวิน
ผดุงถิ่นค้ำจุนสมดุลกัน
เปรียบดั่งคนจงกล้าที่จะก้าว
หลากเรื่องราวมิเที่ยงแท้มีแปรผัน
เพียงใจแกร่งมิท้อต่อชีวัน
จิตมุ่งมั่น..ก้าวไปในทางดี
บนหนทางดีร้ายหลายทางเลือก
หากมองเปลือกมรรคาว่าสดสี
แต่ภายในอุปสรรคขวากหนามมี
คิดให้ดีก่อนดำเนินเดินหลงไป
ก้าวที่กล้า..กล้าที่ก้าว..ที่ก้าวกล้า
พิจารณาด้วยสติวินิจฉัย
ก้าวทางดีด้วยปัญญาพาวิไล
เป็นก้าวใหม่ให้ชีวันนั้นมั่นคง
ดีหรือร้ายใจเราเท่านั้นรู้
ผิดเป็นครูรู้จำนำประสงค์
ก้าวต่อไปไม่ระย่อด้วยทรนง
ชีพยืนยงยืนหยัดศรัทธาธรรม
24 กันยายน 2549 21:37 น.
เฌอมาลย์
วันเมฆหมอกมรสุมเข้ารุมล้อม
แสนตรมตรอมทุกข์ท้อเรื่องฉ้อฉล
สิ่งสำแดงแสร้งเสร้ายเล่ห์กล
สุดสับสนด้วยม่านหมอกหลอกชีวา
ดั่งพายุถาโถมโหมกระหน่ำ
จิตบอบช้ำซ้ำซากหลากปัญหา
กี่ระลอกสาดซัดพัดเข้ามา
จนอ่อนล้าระโหยโรยราแรง
เหมือนปราการกั้นขวางทางชีวิต
ฟ้าลิขิตกำหนดบทแสลง
ความทุกข์โศกชอกช้ำดั่งกำแพง
ยากแสวงมรรคาเพื่อฝ่าไป
เพียงคุณก้าวเข้าสู่ประตูชีวิต
ที่มืดมิดมัวหมองกลับผ่องใส
ฟ้ากระจ่างสว่างล้ำแสงอำไพ
นำทางใจให้ดำเนินเดินถูกทาง
ขอขอบคุณไมตรีที่หยิบยื่น
โลกสดชื่นแจ่มใสไร้หมองหมาง
ดั่งตะวันจันทร์เพ็ญมิเร้นราง
แสงสล้างเจิดจ้านำพาใจ
งามคืนเพ็ญเด่นดวง ณ ห้วงหาว
สุกสกาวเจิดจ้านภาไสว
ส่องนำทางกลางราตรีที่หทัย
สู่ฟ้าใหม่...ให้ชีวันนี้มั่นคง
14 กันยายน 2549 08:18 น.
เฌอมาลย์
รักครั้งก่อนย้อนจิตให้คิดหนัก
คราแรกรักผักต้มขมยังชมหวาน
เอาใจใส่ทุกห้วงของดวงมาน
มิคิดค้านหาญหักให้รักตรม
ยามชี้นกบอกว่าไม้ไม่เคยท้วง
เกี่ยวแขนควงใกล้ชิดสนิทสนม
เคียงคู่กันวันคืนรื่นอารมณ์
เฝ้าชื่นชมรักเราด้วยเข้าใจ
วันเวลาผ่านผันพลันตระหนัก
คนเคยรักห่างเหินเกินสงสัย
เริ่มไม่ว่างติดธุระอยู่ร่ำไป
ที่ห่วงใยกลับละเลยเป็นเฉยชา
กลับหลบลี้หนีหน้าพาฉงน
ฤากังวลสิ่งใดให้กังขา
ฤามีความในนอกโปรดบอกมา
ปล่อยค้างคาเก็บไว้มันไม่ดี
ทำอะไรให้โกรธโปรดบอกกล่าว
รักเริ่มร้าวเหมือนติดปีกจะหลีกหนี
ฤาเธอมีใครอื่นชื่นชีวี
หมางไมตรีมิมาเยือนเหมือนก่อนเคย
รักครั้งก่อนย้อนใจให้สับสน
เหมือนเล่นกลเอาเถิดยากเปิดเผย
มาบัดนี้ชี้ไม้ให้ภิเปรย
กลับเอื้อยเอ่ยเผยคำให้ช้ำใจ
ไม่เคยเห็นหรืออย่างไรจึงใคร่รู้
สองตาดูก็รู้แจ้งแถลงไข
สิ่งที่เห็นจะเป็นเช่นฉันใด
ถามอยู่ได้..ซ้ำซ้ำ..น่ารำคาญ
ความเปลี่ยนแปลงแจ้งใจในวันนี้
รักที่มีปรากฏหมดความหวาน
ไร้สิ้นแววสุขสันต์เช่นวันวาร
ปิดตำนานรักเราอย่างเข้าใจ
9 กันยายน 2549 08:13 น.
เฌอมาลย์
คำปลอบขวัญจากใจใช่ลวงหลอก
ทุกถ้อยบอกความนัยฤทัยฉัน
เฝ้าห่วงใยไมตรีจิตคิดผูกพัน
ปลุกปลอบขวัญวันท้อทรมาน
ฝันดีนะ...คนดี...ที่คิดถึง
ยังคนึงถึงทุกข์สุขทุกสถาน
มิลวงเล่ห์หลอกใจให้ร้าวราน
ทุกวันวารเคียงข้างสร้างแรงใจ
ยินเสียงฝนตอนไหนให้รับรู้
ฝนพร่างพรูแทนคำความหวามไหว
ทุกหยาดหยดฝนรินถวิลใคร
เธอแน่ไซร้..ที่ฉันนั้นคำนึง
รักเสมอมิสิ้นสุด ณ จุดไหน
จากดวงใจฉันนี้ที่คิดถึง
พัฒนาการล้ำค่ารักตราตรึง
เธอคือหนึ่งมิอยากจำพรากเลย