14 กุมภาพันธ์ 2550 00:04 น.
เฌอมาลย์
11 กุมภาพันธ์ 2550 17:50 น.
เฌอมาลย์
ร่างกำยำสมส่วนชวนคลั่งไคล้
ถิ่นอาศัยในพนาน่าเกรงขาม
ลายพาดกลอนสีสันนั้นงดงาม
ชวนครั่นคร้ามน่าสะพรึงตะลึงลาน...(เสือใหญ่)
เปรียบผู้ร้ายคล้ายเสือล่าเหยื่อโหย
กลิ่นสาปโชยที่ไหนได้สังหาร
จ้องตะปบขบกินสิ้นวิญญาณ
ชนกล่าวขานนักล่าเหยื่อคือเสือจริง..(เสือบุก)
เห็นสาวสวยรวยเสน่ห์ใช้เล่ห์เหลี่ยม
แสร้งเสงี่ยมแท้ซ่อนภาพคราบสมิง
เหยื่อตายใจถูกลวงแล้วช่วงชิง
เสือผู้หญิงกลายร่างอย่างช่ำชอง..(เสือลุย)
ครั้นชราคราเฒ่าเจ้าเสือแก่
เริ่มพ่ายแพ้สังขารพานหม่นหมอง
หมดเขี้ยวเล็บฟันหลุดหยุดคะนอง
เลิกลำพองหมดลายตายลำพัง..(เสือถอย)
อุปมาว่าชายร้ายดั่งเสือ
เรื่องล่าเหยื่อชำนาญชาญฉมัง
เสือซ่อนลายร้ายลึกให้นึกชัง
เจอจังจัง..จำไว้..ควรใจดี..
( เห็นเขาว่าไว้..ให้ทำใจดีสู้เสือ..อ่ะค่ะ)
8 กุมภาพันธ์ 2550 15:32 น.
เฌอมาลย์
วันสูญเสียครั้งใหญ่ในชีวิต
ประกาศิตมัจจุราชประกาศผล
เมื่อพ่อสิ้นลมหายใจวางวายชนม์
น้ำตาหล่นนองหน้าโศกาลัย
วันสูญเสียพ่อไปไม่หวนกลับ
พ่อลาลับชีวาอายุขัย
แปดกุมภาพันธ์วันพรากจากลูกไป
แสนเสียใจอาดูรสูญบิดา
รำลึกนับได้สี่ปีแล้วนี่หนอ
วันที่พ่อชีพสิ้นถวิลหา
ลูกทุกคนพร้อมมั่นกตัญญุตา
ด้วยศรัทธาคำสอนบิดรตน
ขอให้พ่อสู่สุคติมิต้องห่วง
จงโชติช่วงดุจดาวพราวเวหน
สถิตมั่นเมืองแมนแคว้นเบื้องบน
ลูกทุกคนพร้อมจิตอุทิศใจ
รวมพี่น้องน้อมนำทำกุศล
ธรรมะดลหนทางกระจ่างใส
บุญศีลทานภาวนาพาวิไล
อธิษฐานให้พ่อของลูกทุกเวลา
6 กุมภาพันธ์ 2550 15:35 น.
เฌอมาลย์
ยามอ่อนแอแพ้พ่ายหน่ายชีวิต
ทั่วทุกทิศมืดหม่นก่นแสลง
เพียงหนึ่งมือมิตรภาพทาบแสดง
บรรเจิดแจ้งแจ่มชัดในบัดดล
ยามท้อแท้ถดถอยคอยปลอบขวัญ
ชุบชีวันที่อดสูสู้อีกหน
เติมความหวังกำลังใจให้อดทน
จะผจญเคียงข้างมิร้างลา
ยิ่งกว่ามิตรมิ่งขวัญกัลยาณมิตร
ตรึงตราจิตดวงกมลเกินค้นหา
เพียงมีเธอเคียงข้างทางชีวา
พร้อมฟันฝ่า..ขวากหนามมิคร้ามเลย
มิตรเรือนใจ คำนี้มีความหมาย
แทนใจกายมิตรแท้แลเฉลย
ยามทุกข์ท้นเคียงข้างเหมือนดั่งเคย
สมคำเอ่ยเพื่อนสนิท.. มิตรเรือนใจ
16 มกราคม 2550 06:27 น.
เฌอมาลย์
วันเวลาผันผ่านชั่วกาลหนึ่ง
อย่ารำพึงร่ำไห้ฤทัยหมอง
ความผิดหวังมีมากหากจะมอง
อย่าร่ำร้องโศกาอาดูรเลย
สารพันปัญหาอย่าท้อถอย
เป็นเพียงรอยอาลัยใคร่เฉลย
ให้มันแล้วแล้วไปให้คุ้นเคย
ดั่งสายลมรำเพยพัดเลยไป
อย่ายึดติดปัญหาพาโศกศัลย์
ให้วารวันช่วยแก้แลขานไข
ทุกปัญหามีทางออกบอกกับใจ
วินิจฉัยด้วยปัญญานำพาทาง
ใช้สติตรึกตรองจะมองเห็น
ความลำเค็ญที่ข้องหม่นหมองหมาง
ดั่งขวากหนามกีดกั้นคั่นระวาง
เพียรถากถางด้วยวิริยะชนะภัย
รู้อดทนอดกลั้นคำหยันหยาม
อย่าครั่นคร้ามเรื่องเลวแลเหลวไหล
รู้สติตรึกตรองมองการณ์ไกล
พร้อมน้ำใจให้กันมิผันแปร