ไม่ได้ห่างหายไปไหน แต่ว่ามีงานโน้น นี่ นั่นรัดตัว แต่ไม่รัดหัวใจสักกะทีชีพจรลงเท้า เพิ่งจะหมดคิวเดินสาย วิ่งเช้า ก็วันนี้นี่เองช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมามีคิวไปพัทยา นอนมาสามคืน ชวนเพียงพลิ้วมานอนเมาด้วยกันแต่เพียงพลิ้วรู้งาน มาหกโมงเย็น ไปสองโมงเช้า มากินมานอนจริงๆเลย บ่นๆๆๆๆไปพัทยากันได้ที่พักตรงข้ามที่ทำงานเพียงพลิ้วพอดิบพอดีเลยไปทริปนี้ได้เล่นน้ำทะเลสมใจ ได้ไปพิพิธภัณฑ์หมีเท็ดดี้ เด็กๆและคนแก่ชอบมว้ากเจ้าค่ะถ่ายรูปกันเพลินเลย เพียงพลิ้วแนะนำให้ไปหาดนางรำสมชื่อจริงๆเลย รำไรอยู่นั่นแหละไปติดมาสักสามชั่วโมงได้กว่าจะออกมาได้เลยวกกลับมาหาดดงตาลในค่ายทหาร ทหารเพียบเลยง่ะ คริๆๆเพียงพลิ้วท่าทางเคร่งเครียดน่าดู อิอิ...เพียงพลิ้วมาคิดเลขด้วยสิ งานนี้ชีทั้งเมาทั้งมันส์จากพัทยา ต่อไปคิวงานบวช งานแต่ง เยอะไปหมด ใกล้ๆไม่เท่าไรแต่ทริปนี้เราเหมารถตู้ไปงานแต่ง เราเป็นฝ่ายญาติเจ้าสาวทางนั้นเหมาที่พักไว้ให้เป็นรีสอร์ทอยู่แถวเขายายเที่ยงงานแต่งอยู่ที่ริมตะคอง เฌอก็สนุกสนานกั้นประตูทองได้ซองมาตามเคยเด่วนี้เขาแต่งกันทีไม่ใช่สิบหมื่น กลายเป้นสิบแสน โอ แม่เจ้าโว้ยยยข้าพเจ้าไม่เรียกสินสอดใดๆแถมข้าวสารให้อีกสิบกระสอบยังไม่มีใครมาขอเบย ง่ะจบงานลำตะคอง ก็ไปงานบวชญาติที่พิจิตรต่อ เราหาที่พักข้างหน้าได้ที่พักก็โอเคดี เช้าก็ไปวัดเลย งานนี้พี่สาวรำหน้านาคตามเคยเฌอก็รำบ้าง เดินบ้าง เสร็จพิธีก่อนกลับเราก็แวะวัดบางคลาน เฌอเช่าหลวงพ่อเงินมาบูชา และมาฝากหลานๆด้วยพอเว้นได้สักสองสามวันเฌอก็ขึ้นบ้านใหม่เพื่อนที่ชัยนาทอีกวันก็พาลุกน้องไปนอนแพเมืองกาญฯเนื่องในวันแรงงาน ตกปลา ปิ้ง ย่างบาบีคิว เล่นผู้ดี กินเหล้าอาบเหล้า เบียร์ไปเป็นลังๆ ชมภาพอาจไม่ตามลำดับ เพราะว่าเริ่มมึนกับทริปตัวเองค่ะเว้นวันก็ไปงานแต่งที่ร้อยเอ็ดต่อ ครานี้เป็นญาติฝ่ายเจ้าบ่าวบ้างไปขอเขาราคาสิบแสนอีกแระ โอวมายก๊อด อิจฉาเว้ยเฮ้ย เฮ่ออออออกรถไปกัน 5 คน แวะตามข้างทางเรื่อยเปื่อย แวะไทรงาม ที่พิมายแวะกินไก่ย่างส้มตำบ้านไผ่ แซ่บหลายแท้น๊อ พอไปถึงร้อยเอ็ด ก็เข้าหาที่พักก่อนเบยทางฝ่ายเจ้าสาวก็จองโรงแรมที่พักให้เรา ต้อนรับเราอย่างดีมากๆเลยประทับใจอีกแระเรา จัดงานให้อลังการมาก เจ้าบ่าวร้องเพลงด้วยง่ะ "แค่คุณ""...ขอสัญญาว่าจะรักเพียงคุณ ว่าจะรักแค่คุณ ว่าจะรักแค่คุณ เท่านั้นนานแสนนานก็จะรักเพียงคุณ ก็จะรักแค่คุณ อยากจะมีแค่คุณคนเดียว..."งานนี้เจ้าบ่าวร้องไห้ด้วยอ่ะ น่าร๊ากซะไม่มีเสร็จพิธี แกงค์เมืองลิงก็ซิ่งตระเวนต่อขึ้นขอนแก่น พี่สาวบอกไม่เคยไปเขื่อนอุบลรัตน์เฌอเลยจัดให้ นำทางไปจนถึงถามหาที่พักในเขื่อน ก็เต็ม เพราะตรงวันหยุดพอดีเลยหาในเนทดู ได้ที่พักวารีวัลเลย์ ติดลำน้ำพอง บรรยากาศสวยงามสงบร่มรื่นแต่พอเราเข้าไปความสงบที่เคยมีก็หายวั๊บไปกับตาเพราะเราขอห้องคาราโอเกะ ร้องดังลั่นแม่น้ำจนแขกอื่นๆที่มานั่งชิลๆริมน้ำ ต่างย้ายโตีะ ย้ายเก้าอี้ไปไกลห่างห้องเราที่โอเกะ อิอิรุ่งเช้าเราก็เดินทางไปนมัสการหลวงพ่อคูณ แต่ไม่เจอท่านเพราะท่านพักผ่อนหรือจำวัดนั่นเองไปครั้งนี้รู้สึกถึงความเป็นพุทธพาณิชย์ขึ้นมาไงไม่รุ พี่สาวเข้าห้องน้ำ ต้องให้บัตรสมาร์ทการ์ดรุดก่อนเข้าโอ็วแม่เจ้า อารายกันหว่า คนละสิบบาท เมื่อก่อนวัดวาเข้าฟรี เด่วนี้คิดเงินหมดเลยอ่ะตั้งแต่ท่านอาพาท ลูกศิษย์ลุกหาทำตัวเป็นธุรกิจหมดเลยอะไรก็เงินๆๆคงไม่ไปอีกแล้วละเฌอมาลย์ แบบว่าเยอะเกินอ้อ ก่อนถึงวัดบ้านไร่ เราต้องผ่านหลายที่ เจอชาวบ้านขายไข่มดแดง (เอามายำ กับทำไข่เจียว) ขายหม่ำแวะซื้อแวะเหมากันน่าดู ยำแม่เป้งก็ซื้อมาห่อละ25บาท พี่สาวอุดหนุนไปสองห่อมาแกล้มเหล้าบนรถ แปปเดียวเกลี้ยงเบย กลับถึงลพบุรีฝนตกหนักเราก็ งง ไปทัวร์มารอบประเทศไม่เจอฝน ดันมาเจอที่จะถึงบ้าน ..แต่เราก็ถึงห้องนอนโดยสวัสดิภาพทุกคน ขอบคุณที่อ่านจนจบ 555ไม่มีสาระอะไรเลยเนาะ ปล.ถึงคิวจะแน่นเอี๊ยด แต่เฌอก็ยังมีเวลาปลีกตัวไปหาลุงกำนันนะจ๊ะ คริๆ..
อีกแล้วครับท่าน ได้เวลาชีพจรลงเท้าอีกหนแระ รื้อฟื้นฟามหลังตามรอย ทัวร์นกขมิ้น6-12 ตค.55......................................................................................................................................................................................พี่สาวจะมาจากเมืองผู้ดีอังกฤษ 26 ธค.56แต่เผอิญคืนคริสมาสตร์ พวกเราจัดหนักไปหน่อย ตื่นแทบไม่ทันรถตู้มารับเลยเรานัดรถตู้มารับ ตี 4 กว่าจะพร้อมเพรียงปาไปตีห้า เครื่องลง 6.00 น.แต่ก็เป็นเรื่องที่ชินกันแล้ว ก็ไม่มีปัญหา หลังจากรับพี่สาวแล้ว เราก็เดินสายหาอะไรรองท้องกันด้วยการไปกินกันที่ชะอำ แวะถ่ายรูปนิดหน่อย แล้วก็กลับลพบุรี................................. ................................... ........................................ .....................................พี่สาวกลับมาพักผ่อนเที่ยวนี้ เกือบเดือนได้ คิวแน่นเอี๊ยดเลยง่ะ คริๆพอวันปีใหม่ เราก็ไปนอนบนแพกันตามธรรมเนียมของตระกูลเรา 8 ศรีพี่น้อง ไปนอนสุมหัวกัน 3 คืนมีกิจกรรมเดิมๆคือ กินเหล้า เลขคณิตคิดไว ตกปลา เล่นน้ำ เดิมๆแต่ปีนี้ขอบอกว่าหนาวมาก ไม่ได้ลงเล่นน้ำเลยอ่ะ 555ให้คนอื่นเขาลงกันแล้วกัน ข้าพเจ้าหนาวฝุดๆ ได้แต่ร่ำสุราแก้หนาว หนุกหนานมากมายค่ะ ................. .............................. .............................. ..............................หลังจากปีใหม่ เราก็มีงานอีก แต่ไม่ใช่งานของเรา แต่เป็น...งานแต่งที่ใดเป็นได้แค่แขกรับเชิญ อยากแต่งกับเขาเหลือเกิน ขัดเขินที่ยังไร้คู่5555 บ้านน๊อก บ้านนอก นิ ......เจ้าสาวคนนี้ได้แฟนเป็นหนุ่มอเมริกา อิจฉาจริงๆเลย อยากได้แบบนี้สักคนอ่ะ ทั้งหล่อ ทั้งนิสัยดี คริๆๆงานนี้พี่สาวเฌอกั้นประตูด้วยผ้าพันคอ ได้มาหลายดอลล่าร์อยู่ คริๆๆหนุกหนานมากตอนแห่ขันหมาก มีรำไทยด้วย ..............พอผ่านงานแต่งมาได้สามวัน เราก็ไปลั้ลล้ากันต่อเอ้า ฮุยเลฮุย พี่สาวคนนี้อยากไปหาน้าสาวที่มุกดาหารกับอุบลฯ เพราะเห็นเฌอไปมาเมื่อปี 55เลยขอให้จัดทริปนี้ให้ที งานนี้เราไปกัน 5 คน คือพี่เขยคนขับ กับพี่สาว อีก 3 รวมเฌอก็เป็น 5คน กำลังดีสัมภาระเต็มห้องโดยสาร เพราะมีของไปฝาก รวมทั้งเสบียงกรังระหว่างทางด้วย อิอิเราออกเดินทางกั น 7.00 น.ครั้งนี้เราออกเดินทางไวกว่าทริปก่อนมุ่งหน้าสู่มุกดาหารกันก่อนอีกแล้วครับท่านแต่ครั้งนี้เราทันสมัยขึ้น เพราะเรามี จีพีเอส ไปด้วย 555 เลยไม่กลัวหลงค่ะไปถึงมุกดาหาร 16.00 น.ได้ เราก็ไปเยี่ยมน้ากันก่อนเลยพูดคุยสารทุกข์สุกดิบ จนเกือบจะตีกันเรื่องสีเสื้อ 555 เลยรีบเปลี่ยนเรื่องคุยเรามอบของสวัสดีปีใหม่พร้อมพ็อกเก็ตมันนี่ให้น้า แล้วรับพรเรียบร้อย เราก็ร่ำลาว่าโอกาสหน้าจะมาหาใหม่แล้วเราก็ขับรถเข้าตัวเมืองมุกดาหารหาที่พักเป็นโรงแรมโรงแรมริเวอร์ฟร้อนท์ติดริมน้ำโขง สวยมาก(อาหารเช้าอร่อยฝุดๆเบย)...มื้อค่ำเราก็ไปนั่งร้านอาหารนัดพบริมโขงตามคำแนะนำของพนักงานโรงแรมแต่วันที่เราไปอะไรๆก็หมด ได้สั่งไข่ต้มประทังชีวิต ทั้งร้านมีไข่ 2 ใบ โอ้ ชีวิต อิอิวันรุ่งขึ้นได้เวลาออกเดินทางจุดหมายคืออุบลราชธานี...ครั้งนี้เราตั้งเป้าว่าจะไปสามพันโบกให้ได้ แต่พี่สาวคนรองบอกไม่เห็นมีอะไรเลย ไปโขงเจียมเลยดีกว่าอ้าว ตามใจแล้วกัน พอขับไปสักพักเจอ ม๋าต๋า เรียกแต่เราโดนค่าผ่านทางมาจากแถวโคราชไปแล้ว 200 บาทเลยอนุโลมให้เห็นกับฟามสวยน่ารักของเฌอ เขาเลยแนะนำว่าไปสามพันโบกให้ได้ สวยมากครับไม่รู้ว่าชมเฌอ หรือชมสามพันโบกแน่ อิอิ เราเลยได้ไปสมใจซักที เพราะที่อื่นเฌอไปมาหมดแระ คริๆครั้งนี้ทางดีกว่าครั้งก่อนมาก เลยไม่เสียเวลาเยอะ ออกจากสามพันโบกเราไปแม่น้ำสองสีต่อ แล้วเราก็ไปแก่งสะพือ ไปรำลึกฟามหลังกันพี่สาวมาเพื่อกินกุ้งเต้นโดยเฉพาะ เลยฟาดไปสี่จาน เฉพาะกุ้งเต้นเราโทรตามน้าที่อยู่อุบลฯให้มาร่วมจิ้มข้าวเหนียวด้วยกัน น้าก็ตามมาพร้อมด้วยลูกชายคืนนี้เราพักที่รีสอร์ทของลุกชายน้า ครั้งที่แล้วเราไม่ได้พักเพราะเกรงใจและยังทำไม่เสร็จดีปีนี้เสร็จเรียบร้อย เราเลยได้พักแบบสบาย ร้องคาราโอเกะกันสนั่นทุ่งจนตีสองได้แล้วแยกย้ายกันไปสลบ..อ้อ..เฌอชวนเพื่อนที่อยู่อุบลฯมาแจมกันอีก สองคน ไม่ได้เจอกันเกือบสองปีทักทายกัน ร้องเพลงร่วมกันหนุกหนานฝุดๆค่ะ...ทริปนี้มีแต่หนุกหนานๆๆ..............................เช้ามากินกาแฟ ข้าวต้ม ร่ำลาเตรียมออกเดินทางต่อจังหวัดละคืน อิอิหลังจากโด่ไปมุกดาหารแล้วมาลงอุบลฯ เราก็มุ่งหน้าโด่ขึ้นเหนืออีกเพราะเราคือแกงค์ตะลอนทัวร์เป้าหมายนี้พี่สาวเลือกจะไป สวนหินผางาม หรือในนาม คุนหมิงเมืองเลย..(ได้ไปจีนด้วยแฮะ)เราก็ปุเลงๆไปตามจีพีเอสมันบอก ระหว่างนั่งก็จิบไปร้องเพลงไป หนุกหนานจนหนวกหู อิอิเราทำเวลาดีอีกแล้วครับจากอุบลฯไปเลย เราไปถึงมีเวลาขึ้นเขาด้วยการนั่งรถแบบอีแต๋นสกายแลปแล้วให้เดินขึ้นเขาต่ออีก 100 เมตรเป็นขั้นบันไดไป พอขึ้นไปแล้วขานี้สั่นเชียว สูงอ่ะแต่สวยมาก เห็นทิวทัศน์งดงาม ที่กล้องบันทึกมาไม่งามเท่าตาเห็น มีต้นจันทร์ผาเยอะมากที่สุดอ่ะไม่เสียทีที่ได้มา ความจริงเฌออยากไปภูเรือ แต่พี่สาวบอกไปที่ๆไม่เคยไปบ้างเลยได้มาเห็นสิ่งมหัศจรรย์ที่ธรรมชาติสรรค์สร้างไว้ให้ งดงามจริงๆเลยคืนนี้เราหารีสอร์ทนอนแถวสวนหินผางาม เพราะมืดแล้วหมดสิทธิเลือกจะพักไหนแต่ที่พักก็มีอาหารอร่อยให้เราทาน อร่อยอีกแล้วครับท่านที่ศิลามณีรีสอร์ท................................เช้ามาเรามีเวลาเหลือเฟือจะเก็บตกที่เที่ยวละแวกนี้ ก่อนจะไปนอนที่เขาค้อ เพชรบูรณ์อีกสักคืนบอกแล้วไงคืนละจังหวัด คริๆ เราถามคนแถวนั้น แนะนำให้เราไปฟูจิ เมืองเลย เราก็ไปตามคำแนะนำโอ้โห ฝุดๆอ่ะ.... ครั้งนี้เราต้องนั่งรถแบบรถไถขึ้นอ่ะ นั่งหน้าสองคน หลังสามคนมีไกด์คอยนำทางเราอีกคน ที่จะไปแนะนำ และถ่ายรูปให้เราด้วย อ้อ คนขับอีกคนด้วยกว่าจะถึงปลายทาง ตื่นเต้นฝุดๆ ทางลาดชันหวาดเสียว แต่ก็หนุกหนานพอไปถึงแต่ละจุด เท่านั้น สมที่นั่งโขยกเขยกมา สวยเกินคำบรรยาย ...ว้าว ว้าว ว้าว เรามาถึงญี่ปุ่นแว้ววว..เฌอว่าพูจิ สวยมากๆเลยอ่ะ แต่ว่าเรามาสายไปหน่อย ส่วนมากเขาจะมาดูตอนตะวันขึ้น กับตะวันลงกันมีทั้งหมด 4 จุด เราไปแค่ 3จุดเท่าที่รถขึ้นได้ จุดที่ 4 ขี้เกียจปีนเขาอีกแต่ครั้งหน้าเราไปแน่นอน จุดที่ 4 ฝากไว้ก่อนเถิด เพราะเมื่อวานปีนไปดูคุนหมิงมา ขายังระบมอยู่ 555ออกจากฟูจิแแล้ว เรามุ่งหน้าสู่เขาค้อ ผ่านน้ำหนาว แวะทานอาหารร้านป้าแดง ขอบอกว่าอร่อยมากมายแล้วเรามุ่งหน้าต่อผ่านสะพานพ่อขุนผาเมืองที่มีตอม่อสูงที่สุดในประเทศไทยโชเฟอร์จอดให้ไปดูรถทัวร์ที่ตกลงไปตามข่าวว่า 29 ศพ หรือสามสิบไม่แน่ใจเฌอก็กลัวทั้งรถที่วิ่งมาด้วยความเร็ว และกลัวสะพานสูงมาก ได้แต่ภาวนาในใจให้ทุกดวงวิญญาณไปสู่สุขคติเถิด พุทโธๆๆและจะให้เฌอชะโงกหน้าลงไปใครจะกล้าแต่พี่สาวถ่ายรูปซากรถทัวร์มาพร้อมเลขหมายเลขมาด้วย 637-20.แต่เราไม่ได้ซื้อหวย อิอิออกสองตัวท้าย กับสามตัวท้ายรางวัลที่ 1 สองงวดซ้อนเบย30 ธค.56 เลขออก 561072มางวดนี้ ออกสองตัวบน 02 พระเจ้าช่วยกล้วยทอด อิอิมาถึงเขาค้อแล้วรถราแน่นขนัด เราขับหาที่พัก โทรเช็คที่พัก ที่ไหนๆก็เต็มเป็นครั้งแรกที่เฌอเบื่อเที่ยว อยากกลับบ้านแล้วอ่ะ เหนื่อยนั่งรถฝุดๆ แต่พี่สาวคนรองไม่ยอมกลับขับหาที่พักจนได้ แต่คงไม่ได้นั่งกินลมชมหมอก เพราะอยู่คนละโซน ยังดีที่ได้ที่พักสะอาดมากเพราะเพิ่งสร้างเสร็จใหม่ๆ เตียงโต๊ะ มีพลาสติกยังอยู่เลยเจ้าของอัธยาศัยดีมาก อาหารทำเองด้วยอร่อยจุงเบยแล้วเราก็กินที่รีสอร์ทนี้เลย เพชรประดับฟ้า อาหารก็อร่อย กินกันจนดึกแล้วเฌอก็แยกย้ายกลับมาอาบน้ำก่่อน ทุกคืน พี่ๆจะมารวมกินเหล้าต่อในห้องเพราะนานๆทีเจอกัน เลยคุยจนดึก เฌอหลับก่อนสบายๆเช้ามาเราพากันขึ้นไปถ่ายรูปที่ฐานอิทธิ ถ่ายรูปชมวิวชมวีดีทัศน์พอหอมปากหอมคอ จนพี่สาวน้ำตาคลอเลยเชียวเราก็มุ่งหน้ากลับลพบุรี โดยไม่ลืมที่จะแวะกินขนมจีนบ้านคุณตา อร่อยมากขับมาอีกสักพักเราก็แวะกินไก่ย่างข้างทาง ร้านตาแป๊ะ2 แล้วเราก็กลับถึงบ้านโดยสวัสดิภาพแยกย้ายสลายโต๋บ้านไผ บ้านมันกันทริปนี้กินตลอดสาย ขอบอกว่ากลับมา น้ำหนักขึ้น 3 โล 555เฌอมาลย์ ณ ลานกลอนรายงาน +รูปภาพ..........................................................
หลังจากถูกมรสุมทำร้ายซะชีวิตสะบักสะบอมแต่โชคดีที่ยังมีเพื่อนๆคอยเป็นกำลังใจให้จึงได้ผ่านวันร้ายๆไปได้อีกวันนึงๆ ซึ่งตอนนี้ใช่ว่าพายุจะหมดไปแต่การทำใจให้อยู่กับมรสุมให้ได้มันสำคัญกว่าช่วงหลังๆจะอาศัยธรรมะเข้าช่วย ซึ่งทำให้มีสติบ้างแต่บางช่วงก็เสียศูนย์เกือบเสียสติ สิ้นสติทีเดียวซึ่งเพื่อนๆกลุ่มนี้รู้ดีที่สุด รวมทั้ง ยกป.เป็นที่พึ่งทางใจ ได้เป็นอย่างดี..ทุกปีเรามีสัญญาใจกันว่าจะออกไปเที่ยวกันทุกปีเท่าที่พอจำได้ หาดทรายแก้ว- อัมพวา-เกาะเกร็ด-หัวหิน-เกาะเสม็ดและเจอกันบ้างประปราย ตามตะเข็บชายแดน กทม. หรือที่บ้านเฌอมาลย์ นั่นเองปีนี้เราเล็งเกาะล้านกันไว้ ล่วงหน้านานมาก บอกให้จองที่พักล่วงหน้าเลยเดี๋ยวไม่มีที่พักลำบากกานต์ก็ดำเนินหน้าที่หาที่พักจับจองไว้ล่วงหน้าเป็นเดือนๆ หาข้อมูลห้องพัก ที่ไหนสวยๆน่ารักก็มาช่วยๆกันลงมติสุดท้ายเราเลือกจะพักที่บ้านเฉลียงลม ห้องเรือนผกาทีแรกเราตกลงกันว่าจะค้างสองคืน แต่บังเอิญเฌอมีปัญหาก็ขอลดเวลา เหลือ 1คืน ทุกคนก็ตามใจการท่องเที่ยวปีนี้ของเราไม่เหมือนทุกๆปีที่ผ่านมาจะตื่นเต้นกันมากจะใส่ชุดอะไรกันดี ธีมไหน แต่ปีนี้จะถึงวันเดินทางทุกอย่างยังคงเงียบกริบจน แมงกุ๊ดจี่ถามว่า ตกลงจะไปกันไหมกานต์กับแมง ปรึกษาว่า ถ้าไม่มีใครไปเขาสองคนจะไปกันเองนอนคนละห้องหิ้วกิ๊กหล่อๆขนาบข้างไปกัน555+พอถึงวันเดินทาง จอมเบี้ยวยังคงรักษาคอนเซปของตัวเองไว้อย่างแน่นเหนียวเบี้ยวไม่ไปซะงั้น เราบอกต้องปรับสองเท่า หยีต้องจ่ายมาสองพันบาทนี่ฐานกรุณาลดให้ครึ่งนึงนะ แต่เราเป็นคนมีน้ำใจกับมิตรสหายเสมอเราเลยไม่เอาเงินจอมเบี้ยว แต่เราจะให้หยีเลี้ยงเรา 1 มื้อใหญ่ ดีไหมพรรคพวก 555......... ตอนนี้เฌอสะดวกมากขึ้นเวลาไปพัทยา ไม่ต้องเข้าไปขึ้นรถ ที่ กทม. มีรถตู้วิ่ง ลพบุรี-พัทยาเลยแต่มีวันละ ไม่กี่รอบ แต่คำนวนเวลาเดินทางแล้ว ไปขึ้น กทม.ดีกร่าไปช้อปปิ้งด้วย คริๆถึงวันนัดหมาย เฌอออกเดินทางไปค้างกับแมงกุ๊ดจี่ก่อน 1 คืนนอนเมาท์มอยกันเกือบเช้า เรานัดคุณรีไว้ที่อนุเสารีย์ 9.00 น.แต่เรากร่าจะยุรยาตรออกจากห้องก็เกือบเวลานัดหมายแล้วเราเรียกแท๊กซี่บึ่งไปทันที แต่แปลก ยิ่งรีบ เหมือนยิ่งช้าไอ้แท๊กซี่บ้านี่คงตะลึงในฟามงามของเราสองคนเป็นแน่แท้ถึงได้ขับเตลิดเลยทางลง ไปลงพระราม9 มั้ง เอาละสิ เวงแระ รถก็ติดแมงก็แอบเหน็บโชเฟอร์เป็นระยะๆ เฌอก็ฉุน บอกแกลงไปฉันขับเองเลยนี่ อิอิแต่เขาลดราคาค่ามิเตอร์เตลิดไป สามสิบกว่าบาทมั้ง เสียเวลาจิงๆเล้ยพอเรารวมตัวครบขึ้นรถบึ่งไปลงที่มิโมซ่าทันทีเลยเพราะเพียงพลิ้วรอที่นั่นอยู่แล้ว วันนี้คุณเพียงเขาใส่หมวกแดงเด่นมาก ชุดเขียว ออร่ามาแต่ไกลเลยค่ะ..งานนี้คุณกานต์เขาเตรียมวอดก้ามาให้คุณรีเมาเต็มที่ด้วยค่ะ ก็สมใจชี ชีว้ากกกกสมใจอยาก อิอิเราก็ทักทาย หาอะไรกิน เดินถ่ายรูปพอหอมปากหอมคอแล้วก็เหมารถไปที่ท่าเรือแหลมบาลีฮายทันทีมุ่งหน้าสู่เกาะสวาทหาดสวรรค์ เราจะมาเติมพลังชีวิตที่นี่พอไปถึงรถของที่พักก็มารับเรา รถเปิดประทุนชั้นดีศรีซาเล้งเขาจะเอาพวกเราไปชั่งกิโลขายหรือป่าวนะ นั่งกันไป กรี๊ดกันไปเพราะ ถนนหนทางบนเกาะนี้แคบมากซิ่งได้ใจลงเนิน เจอแยก เรียกเสียงกรี๊ดของเราได้เป็นระยะป่านนี้คนขับขี้หูแฉะไปแล้วมั้ง อิอิพอเช็คอินเข้าห้องพัก ต่างก็กรี๊ดกันลั่น คว้ากล้องมาถ่ายแชะๆๆกันเป็นมือระวิงห้องสวยมาก บรรยากาศเริ่ด หายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้งเลย เรานอนเกลือกกลิ้งแล้วเราก้ออกลาดตระเวนหาอะไรกินกัน ถ่ายรูปกันวันที่สองไปเที่ยวหาดตาแหวน คนพลุกพล่านมาก แล้วพวกเราก็ถ่ายรุปกระโดดกันจนหาดทรายแทบทรุดครั้งนี้แมงหิ้วขาตั้งกล้องไปด้วยเพราะชีแค้นชีไม่มีรุปกับใครเขาเท่าไรเพราะมัวแต่เป็นตากล้อง555ตอนนี้เฌอบรรลุแล้ว ไม่พกกล้องไปให้หนักอาศัยช่วงชุลมุนเข้ากล้องเขาสบายกว่ากันเยอะเลยว่าไหมจ๊ะคุณรี คริๆๆพอวันที่สอง สาวๆก็ถามเฌอว่าจะกลับเลยไหม หรือจะนอนต่ออีกคืนเฌอก็ติดใจบรรยากาศ ขอนอนต่ออีกสักคืนเถอะ เหนื่อยมาเยอะแล้วก็จะขอพักห้องเดิมต่อ แต่เขาว่าไม่ว่างเราเลยต้องย้ายไปอีกห้องนึง คือห้องชวนชมซึ่งก็สวยงามไม่แพ้กันเลย ห้องเรือนผกาจะแต่งโทนสีฟ้าส่วนห้องชวนชมที่พักออกแนวชมพูสวยเก๋ดีค่ะพอถึงวันกลับ เราทุกคนต่างก็ไม่อยากกลับเลยเบื่อที่ต้องกลับไปเจอชีวิตที่ยุ่งเหยิง วุ่นวายอีกแล้วแต่ชีวิตก็ต้องดำเนินต่อไป เรากลับถึงฝั่งโดยสวัสดิภาพคุณรีกับแมง ซื้อตั๋วรอขึ้นรถที่ท่าเรือเลยได้คิวที่ 8ส่วนเฌอนั้นตอนนี้มีรถตู้วิ่งพัทยา-ลพบุรีแล้วคุณกานต์ก็เลยเหมารถมาส่งที่วินเลย พอมาถึงอยากจะกรี๊ดเขาบอกรถเที่ยวบ่ายสอง วันนี้ไม่วิ่งค่ะ รอห้าโมงเย็นเฌอไม่รอแระ กลับ กทม.ดีกว่า โบกรถมาลงที่ท่ารถตู้อีกท่านึงคนรอแน่นเอี๊ยดดด แต่ก็ต้องรอแหละทำไงได้ ทุลักทุเลทัวร์จิงๆโชคดีที่อาศัยฟามไว เลือกที่นั่งสบายหลับมาตลอดทางถึง กทม.ลงมาช้อปอีกหน่อย หาก๋วยเตี๋ยวเรือกิน แล้วตีตั๋วกลับลพบุรีเลยส่วนแมงกับคุณรีก็โทรมาว่าเพิ่งถึงอนุเสาวรีย์กำลังแยกย้ายกันกลับบ้านใครบ้านมันเฌอนั่งรถตู้มารถติดมากๆๆๆๆคนขับก็ซิกแซก ออกหมู่บ้านโน้น เข้างานวัดนี้ มั่วไปหมด บอกว่าเป็นทางลัดจนมาถึงลพบุรีโดยสวัสดิภาพเราโทรหากันว่าถึงบ้านแล้วนะ แล้วเราจะพบกันอีก แน่นอนมิตรภาพเป็นสิ่งสวยงาม หล่อเลี้ยงชีวิตที่ท้อแท้ทำให้ชีวิตนี้ไม่ถึงกับมืดมนซะทีเดียวหรอกนะขอบคุณเพื่อนๆทุกคนนะจ๊ะปล.อ้อ มีข่าวท่อน้ำมัน ปตท.รั่ว ที่เกาะเสม็ดเราคิดว่าดีนะที่ปีนี้เราไม่ได้ไปเสม็ด หันมาเกาะล้านแทนเฌอถามกานต์ว่าน้ำมันรั่วมาถึงเกาะล้านไหม กานต์บอกว่ามาไม่ถึงค่ะ...เราเลยโล่งอก นิดนึงคิดกลัวสารปนเปื้อนในอาหาร กลัวเวลาเล่นน้ำปีนี้เราเลยลงเล่นแค่หัวเข่า 555เรากระโดดกัน จนหมดแรง แบบไม่แคร์สายตาชาวไทย และชาวเทศ
สงกรานต์นี้หยุด 13-15 เมษา เราจะไปไหนกันดีเสียงหลานๆบอกอยากจะไปดำน้ำที่เกาะทะลุ (ทั้งที่เคยไปกันมาแล้วแต่ไม่เห็นจะงามเท่าไรเลยอ่ะ)ส่วนพี่สาวบอกจะไประยองส่วนเฌอบอกว่าอยากไปเกาะช้าง เพราะเฌอไม่เคยไปถึงตราดสักครั้งเลยอ่ะทุกคนลงฟามเหงให้เฌอเปงคนหาทำเล หาที่พักซึ่งก็ไม่กี่วันก็จะถึงสงกรานต์แล้วไม่มีเวลาล่ำเวลาจองที่พักล่วงหน้ากับใครเขาเลย..เราจะไปกัน 11 คน ซึ่งมีตั้งแต่เด็ก ถึงวัยชรา อิอิ เป็นวันครอบครัวที่ชื่นมื่นแท้..พอลงมติแล้ว เฌอก็มุ่งหน้าหาที่พักที่เกาะช้าง....หาจอง หาดูตามเวปไปเรื่อยๆจองที่ไหนๆก็เต็มๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆที่ไม่เต็มก็แพงเว่อร์ ไม่ก็ไม่น่าพักเล้ยอ่ะนะสเปคที่พักให้มาก็สูงเหลือเกินเอาเป็นแบบติดชายหาด มีสระว่ายน้ำบ้านเป็นหลัง มีแอร์ ทำอาหารได้ ราคาย่อมเยาว์เอากะเขาสิ อยากได้ดี ราคาถูกในเทศกาลนี่นะ เฮ่อออวันแรกผ่านไป..หาที่พักจนปวดลูกกะตา ก็ยังหาที่พักที่ถูกใจไม่ได้สักทีเลยไปดูเกาะหมาก เกาะกูด ก็เต็มหมดเลยบางเจ้าก็บอกให้เฌอวอล์คอินเข้าไปซึ่งทางบ้านไม่ประสงค์จะไปแบบไร้จุดหมายแบบนั้น...เริ่มเปลี่ยนแผนการ โดยหดเข้ามาอีกนิด ที่ฝั่งตราดก็ได้ฟระ คริ คริก็สายไป เต็มไปหมดแระ เอาไงก็เอา เอาจันทบุรีก็ล่ายหาดเจ้าหลาว...อ้าว เต็มหมดเบย แห้วอีกแระสองวันผ่านไปกะการหาที่พักแบบไร้ทิศทาง ..หดมาถึงระยอง บ้านเพ ก็พอมีเหลือบ้าง แต่เราไม่อยากไปใกล้ๆอ่ะกิจกรรมก็ไม่มีอะไรนอกจากเล่นน้ำทะเลมั้ง..แต่เราก็กั๊ก โต๊ดที่พักไว้ก่อนโดยบอกเขาว่า "พรุ่งนี้จะโอนมัดจำไปให้..แล้วก็ไม่ได้โอน"เฌอก็คลิกไปเรื่อยๆ ย้ายมาฝั่งชะอำ-หัวหินดูก็ล่าย พอจองไปที่ไหนๆก็เต็มๆๆทีเหลือๆก็ไม่ถูกสเปค ไม่อยากอยู่คอนโด ไม่เอาโรงแรม ไม่เอาตึกสูงไม่มีชายหาด ไม่มีสระ วุ่นวายแท้หนอ...จนปวดประสาทแระเออ ใครอยากอยู่ไหนก็หาเอาเอง เหนื่อยว๊อย ปวดตาง่ะไม่ปง ไม่ไปแระ นอนเฝ้าบ้านดีกร่า ประท้วงซะงั้นจนสเปคเริ่มน้อยลง เอาอะไรก็ได้ แต่ขอให้มีสระว่ายน้ำ เพราะเด็กๆชอบเล่นน้ำกันหาไปหามา เฌอก็เจอเนื้อคู่ อยู่แถวชะอำได้บ้านของฝรั่งมา 1 หลังราคาก็ไม่เบา แค่คืนละหมื่นเดียวเองแต่ถูกใจตรงมีสระส่วนตัวหน้าบ้านเลยมีครัว มีห้องแอร์ทุกห้อง ใหม่มาก เลยโอนมัดจำไปให้พอได้ที่พักแล้ว ก็เปลี่ยนประเด็นมาหาที่เที่ยวต่อ ไปสายนั้นมีอะไรบ้างเรากลายเป็นไกด์จำเป็นอีกแล้วเหรอเนี่ย..เฌอก็หาๆดูก็ล๊อคสเปคเที่ยวไว้ว่า1.ไปสวิสชีฟฟาร์ม2.ซานโตรินี่พาร์ค3.ตลาดน้ำสามพันนาม4.ตลาดจั๊กจั่น5.เพลินวาน6.เขาตะเกียบไปนั่งชิว ชิวร้านลาแมร์7.ไปชายหาดสวนสน -ชะอำ-หัวหิน................ก็จบประเด็นสักที มีเวลาเตรียมแพคกระเป๋าสองวันพอ อิอิทริปนี้เราว่ารถตู้เอาไว้ ซึ่งคนที่เคยขับเขาไม่ว่างไป หาคนมาแทนให้ทำให้เราประทับใจจ๊อด ลืมไม่ลงทีเดียว อิอิขับช้า โอเคดี ปลอดภัย แต่คนขับไม่รู้ทางนี่สิ งานใหญ่เลยน่ะนะให้หลานชายนั่งหน้าคอยบอกทาง เราออกเดินทางตี 3 กว่าจะล้อหมุนก็ตี 3 ครึ่งเฌอก็หลับไปตามระเบียบ ง่วงนี่นา ออมแรงด้วยพอตื่นก็กินๆๆ แล้วหลับๆๆๆพอประมาณ 9 โมงเกือบ 10 โมง ก็ถึงเป้าหมายแรก สวิสชีฟฟาร์มก็ทำให้เด็กน้อยได้กรี๊ดกร๊าดบางคนก็วิญญาณนางแบบเข้าสิง โพสท่าจนลืมร้อนเลยล่ะพอได้เวลา โทรไปหาที่พัก เขาบอกให้เราไปหาอะไรกินก่อน เที่ยงๆบ่ายๆค่อยเข้ามาเฌอก็ไปหาร้านอาหารทานกัน เป้นอาหารทะเลมื้อแรก ราคาก็ย่อมเยาว์เพราะเป็นเจ้าประจำกัน คนเยอะมากๆ แย่งกิน แย่งเที่ยว มันเหนื่อย แต่ก็ไม่เหงาดีหลังจากเช็คบิลเราก็ไปที่พักทันทีทันใด พอเข้าที่พักได้เท่านั้นแหละเหมือนผึ้งแตกรัง เด็กเปลี่ยนเสื้อผ้า ลงน้ำกันป๋อมแป๋มผู้ใหญ่อย่างเราก็จะน้อยหน้าหรือ ลงเล่นด้วยสิ ก็มันร้อนนี่นา อิอิหลังจากเปลี่ยนองค์ทรงเครื่องเราก็จะไปไหนต่อกันดี ก็ตกลงจะไปซานโตรินี่พาร์คกันพอไปถึงก็ไม่ผิดหวังเลย สวยงามสนุกมากเด็กๆเล่นม้าหมุน ชิงช้าสวรรค์ เครื่องเล่นผาดโผนบ้านหิมะ แต่มีบางรายหมดสภาพร้องกลับบ้าน กลับห้องพักทั้งที่เฌอกะจะไปหัวหินต่อสักหน่อยจะตระเวนตลาดโต้รุ่งหัวหิน ตลาดจั๊กจั่น อดเบยพอวันที่สองตื่นมาเด็กก็เล่นน้ำกันอีกแล้ว กว่าจะแต่งตัวออกรถไปเขาตะเกียบก็เที่ยงบ่ายวันนี้จะได้สักกี่ที่เที่ยวนะ ออกสายจุงเบย ก็ไปร้านอาหารลาแมร์ชมวิวเขาตะเกียบ สวยงามอาหารอร่อยมีดนตรีฟัง เสร็จแล้วรีบทำเวลาไป ตลาดจั๊กจั่น ตลาดน้ำสามพันนามคนขับไม่เคยเคลียร์ทางเลย ไม่รู้อย่างเดียว แล้วตรูจะจ้างมาเพื่ออะไรเนี่ยหลงให้เราลงไปถามทาง เซงมาก รถติค หลงทาง เลยอดตลาดจั๊กจั่นเลยได้ไปสามพันนาม นั่งรถไฟเด็กๆ นั่งเรือชมตลาด ซื้ออะไรกินแล้วไปต่อตลาดน้ำหัวหิน ซึ่งอยู่ใกล้ๆกัน เวลาเริ่มมีน้อย ใช้สอยให้ประหยัดแระ อิอิไปเพลินวานกันต่อเลย เป็นที่ถูกอกถูกใจทุกๆคนมากกับรายการทัวร์ทริปนี้กลับถึงที่พักก็มืดค่ำ นั่งร่ำเมรัย เด็กก็เล่นน้ำไป เมาท์มอยกันตีสอง ตีสามบอกว่าเช้านี้อย่ามาปลุกนะ ให้นอนตามสบายใครจะไปชายหาดก็ไปกันไม่ต้องห่วง อิอิสรุปนอนกันทั้งบ้าน ตื่นมาเกือบเที่ยง ก็ลงสระกันตามระเบียบบ่ายโมงเราก็เก็บของกลับเมืองลิงเป็นการเที่ยวที่เหมือนเร่งรีบ แต่มีความสุขดีลุกหลานน่ารัก ร้องไห้ ตีกัน ฟ้องกัน งอแง ปีนข้ามหัวไป มาเออ ไม่เปงไร ปีละครั้งททนๆเอาแล้วกันเฌอเอ๊ย 555จบเรื่องเที่ยวก่อนค่ะ เหนื่อยจุงเบย
ชีพจรลงทัณฑ์ เอ๊ย ลงเท้าอีกแล้วคับป๋ม... กะว่าจะไปป่วนกะ ทริปพัทยาสักหน่อย แต่ทริปอื่นก็มาแทรกจนโปรแกรมรวนไปหมด อิอิ ว่าไปนั่น วันที่ 6-7 ตุลา นัดก๊วนเจ้าจอมไปเป่าเทียนวันเกิด แบบฉบับรวมให้พร้อมหน้าที่ปากเกร็ด..หวังจะให้เสร็จทุกราย.. แล้วก็เป็นไปตามความคาดหมาย เสร็จทุกรายจิงๆ เมากันเบ็ดเสร็จ อิอิ ไปครั้งนี้จุดประสงค์หลักคือเพื่อเคลียร์หนี้ เคลียร์สินกันให้หมดๆไป เดี๋ยวข้ามปี ดอกเบี้ยจะบานอ่ะค่ะ เฌอติดหนี้คุณแมงเขา รี 1 แบน เรื่องโหวตใต้โต๊ะเรื่องฟามสวยงาม ไม่คุ้มเลยเรา เง้อออ แต่แถมไปให้อีกแบน เพราะกัวไม่พอกิน ข่าวว่าคุณรีอยากเมาขนาดหนัก อิอิ ส่วนคุณเพียงพลิ้วนั้น เขาต้องมาจ่ายไอติมสเวนเซ่น พสุธากัมปนาท 2 ชุด ที่ติดค้างไว้กับเฌอ และแมงกุ๊ดจี่.. เรื่องพนันผลบอลยูโรใช่ป่าวจำไม่ได้แระ แบบว่าติดกันข้ามชาติ อิอิ ส่วนสองสาวคือคุณรี และสาวหยี ได้รับอานิสงค์ผลพลอยได้กับเขาด้วย คริ คริ กลับถึงบ้านวันอาทิตย์ช่วงเย็นย่ำสนธยา เลยได้ซักเสื้อผ้าที่ไปช้อปปิ้งมา แล้วก็นอนสลบไสลไปในทันที..