11 พฤษภาคม 2550 06:59 น.
เฌอมาลย์
ดาววาววับอับแสงสิ้นแรงส่อง
นภาหมองมัวหม่นฝนหลั่งสาย
ความโศกเศร้าคลุมครอบรายรอบกาย
ที่หลั่งรินเรียงรายสายน้ำตา
ฟ้าอำลาอาลัยร่ำไห้หวน
ลมแปรปรวนธรณินถวิลหา
ชนกำสรดครวญคร่ำร่ำโศกา
เมื่อผู้กล้าพลีกายจนวายชนม์
รั้วของชาติชายชาญทหารหาญ
ประณิธานยิ่งใหญ่ในพหล
พร้อมพิทักษ์รักษาธราดล
อุทิศตนเพื่อชาติศาสน์กษัตรา
ธงไตรรงค์คลุมร่างอย่างสงบ
คือจุดจบชายชาญหาญอาสา
สละชีพยอมพลีแม้ชีวา
เพื่อประชาร่มเย็นมิเว้นวาย
ทำหน้าที่ด้วยจิตอุทิศมอบ
ผลที่ตอบแทนมาน่าใจหาย
สูญสิ้นชีพชีวันในบั้นปลาย
สมชาติชายทหารกล้าวีรชน
"หลับเถิดชาวประชา ทหารกล้าจะคุ้มภัย"
เพื่อชาติไทยยรรยงดำรงผล
สถิตอยู่คู่หล้าแลสากล
กำลังพลพร้อมต้านผลาญไพรี
สดุดีวีรชนคนผู้กล้า
จงนิทราในเมืองแมนแดนสุขี
จารึกรอยอาลัยในความดี
จารจรดที่ดวงใจไทยทุกคน
เมื่อเวลา ๑๔.๐๐ น. วันที่ ๙ พ.ค.๕๐
เกิดเหตุระเบิดขึ้นที่ถนนสายดุซงญอ-เจาะไอร้อง
ท้องที่บ้านบองอ หมู่ ๔ ต.บองอ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส
ทำให้ทหารเสียชีวิต ๗ ศพ
สำหรับรายชื่อทหารผู้เสียชีวิต ประกอบด้วย
๑.พ.ต.วีระพล แย้มอำพล
๒.จ.ส.อ.วีระชล ศรีเกิด
๓.ส.อ.สมศักดิ์ สายพระแสง
๔.จ.ส.ต.สมเกียรติ จงจิต
๕.จ.ส.อ.ราชันย์ รื่นโกศล
๖.จ.ส.อ.สมบัติ ผ่าจันทร์
๗.ส.อ.นรินทร์ เครือโสม
ทั้งหมดสังกัดกองพันปฏิบัติการจิตวิทยา
กรมรบพิเศษที่ ๒ หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ จ.ลพบุรี
ช่วยราชการโครงการทักษิณพัฒนา ค่ายอิงคยุทธบริหาร จ.ปัตตานี
แต่ละศพถูกสะเก็ดระเบิด และบางศพถูกจ่อยิงด้วยอาวุธปืนเข้าที่ศีรษะ
เมื่อเวลา ๑๓.๐๐น.วันที่๑๐ พค ๕๐
กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค ๔ ส่วนหน้า
ได้ทำพิธีเคลื่อนย้ายศพเจ้าหน้าที่ทั้งเจ็ดนายไปบำเพ็ญกุศลที่ภูมิลำเนา
ที่ จ. ลพบุรี ได้แก่
พ.ต.วีระพล แย้มอำพล
จ.ส.อ.ราชันย์ รื่นโกสุม
ส.อ.นรินทร์ เครือโสม
ส.อ.สมบัติ ผาจันทร์
และ ส.อ.สมศักดิ์ ฝ่ายทะแสง
ส่วนที่ จ.นครศรีธรรมราช ได้แก่
จ.ส.อ.วีรชน ศรีเกิด
และ ส.อ.สมเกียรติ จงจิตร
อันชาติใดไร้รักสมัครสมาน
จะทำการสิ่งใดก็ไร้ผล
แม้นชาติย่อยยับอับจน
ประชาชนจะสุขอยู่อย่างไร
พระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๖
8 พฤษภาคม 2550 16:14 น.
เฌอมาลย์
สารพัดสารพันท่ามปัญหา
ละลานตาเกลื่อนกล่นจนสลอน
เกิดความเครียดทุกวันที่ผันจร
อากาศร้อนควันพิษรถติดจัง
น้ำมันแพงแสลงทั่วจนตัวลีบ
ค่าครองชีพชักหน้าไม่ถึงหลัง
เศรษฐกิจรวนเรประเดประดัง
ที่สะพรั่งดอกเบี้ยยั้วเยี้ยบาน
ชีวิตคนวุ่นวายหน่ายจริงหนอ
ไม่เคยพอเคยเพียงเยี่ยงสถาน
มีแต่ความฟุ้งเฟ้อทะเยอทะยาน
จึงร้าวรานเพราะใจไม่เคยพอ
ถ้าหากเครียด..มีทางแก้แค่ยิ้มไว้
ท่องในใจว่ายุบหนอแลพองหนอ
แล้วยิ้มรับกับชะตาที่มารอ
แล้วสู้ต่อด้วยยิ้มที่พริ้มเพรา
3 พฤษภาคม 2550 09:37 น.
เฌอมาลย์
ปล่อยอดีตกรีดใจไว้ข้างหลัง
สร้างความหวังอีกหนตั้งต้นใหม่
เสาะแสวงตามฝันด้นดั้นไป
กับฟ้าใสทะเลครามงดงามตา
มีพี่น้องเพื่อนสนิทมิตรสหาย
พร้อมเคียงกายเสริมสร้างทางหรรษา
ยามท้อถอยพ่ายแพ้แก่ชีวา
มีกัลยาณมิตรชิดการุณ
คอยสร้างเสริมกำลังใจไมตรีมอบ
อยู่รายรอบพร้อมเอื้อและเกื้อหนุน
แสนซาบซึ้งไมตรีที่ละมุน
ช่วยค้ำจุนชีวาคราตรอมตรม
ทางสัญจรร้อนนี้ไม่มีเฉา
เรามีเราใกล้ชิดสนิทสนม
ร่วมเดินทางสร้างฝันอันภิรมย์
ร่วมชื่นชมหาดทรายชายทะเล
ร่วมนับเดือนนับดาวพร่างพราวฟ้า
ยามหลับตาร่วมฝันไม่หันเห
กรุ่นไมตรีหอมหวนไม่รวนเร
ที่ว้าเหว่จางหายมลายไป
ปล่อยอดีตกรีดใจไว้อีกหน
แล้วเริ่มต้นอีกครั้งหวังสดใส
หวังวันรุ่งพรุ่งนี้ศิวิไลซ์
บนทางใจแกร่งกล้าท้าตะวัน
30 เมษายน 2550 07:36 น.
เฌอมาลย์
ร้อยไมตรีด้วยห่วงของดวงจิต
เสริมชีวิตให้งดงามด้วยความหมาย
ปลุกปลอบขวัญวันเหงาเศร้าเดียวดาย
มิเว้นวายอาทรตอนทุกข์ตรม
ยามชีวาตย์พลาดพลั้งรีบรั้งลุก
ยามท้นทุกข์ปลอบใจคลายขื่นขม
ยามท้อแท้แพ้ชะตาล้าอารมณ์
ที่พร่างพรมคือคำถ้วนน้ำใจ
กำลังใจให้กันในวันหมอง
ช่วยประคองยามล้าได้อาศัย
ช่วยด้วยจิตมิตรแท้แน่หทัย
สานสายใยมิตรภาพทาบอุรา
สิ่งวาดหวังคงรอมิท้อแท้
ใจแน่วแน่พร้อมฝ่าฟันกับปัญหา
อุปสรรคแค่ปราการด่านชีวา
เพียงใจกล้าพร้อมก้าวเข้าผจญ
ทุกปัญหามิสิ้นไร้ในทางออก
อย่าจนตรอกตั้งสติตรึกตรองผล
อันต้นตอสาเหตุเลศนัยกล
คือกมลของเราโปรดเข้าใจ
หนึ่งแรงใจให้กันในวันนี้
ด้วยหวังดีต่อกันอย่าหวั่นไหว
จงมุ่งมั่นฟันฝ่าปัญหาไป
ปราการชัยในชีวีมิไกลเกิน
24 เมษายน 2550 03:56 น.
เฌอมาลย์
มีน้ำตาเป็นเพื่อนมิเชือนเฉย
เหมือนดั่งเคยยามล้าเพื่อหาฝัน
ยามราตรีมีแสงแห่งดวงจันทร์
ต่างกับฉันเหงาเศร้าเคล้าน้ำตา
อยากมีรักทักทายเพื่อคลายเหงา
คงบรรเทาฤทธิ์เล่ห์เสน่หา
เพียงมีใคร?..เคียงข้างทางชีวา
หนาวอุราคงอุ่นละมุนใจ
แต่ความหลังครั้งก่อนยอกย้อนจิต
รักกลายพิษขื่นขมระทมไฉน
เจ็บเกินเจ็บปวดร้าวเศร้าทรวงใน
นานเท่าไหร่ใจนี้มิมีเลือน..
จึงได้แต่ทำใจในวันนี้
หนาวฤดีมีใครไหนเสมือน
หนาวน้ำฝนน้ำค้างมิสะเทือน
รักลืมเลือน ทำเรา "หนาวน้ำตา"