8 มิถุนายน 2550 22:01 น.
เฌอมาลย์
ลมทะเลเห่ใจให้คิดถึง
ใครคนหนึ่งคนไกลในวันเหงา
ณ หาดทรายวันนี้มีเพียงเงา
กับใจเศร้าซ่อนซุกทุกข์ระทม
ริ้วหาดทรายสะท้อนแสงแฝงความหลัง
คิดถึงครั้งสองเราเฝ้าสุขสม
แต่วันนี้แสงล้าพาตรอมตรม
มีเพียงลมรานรอนสะท้อนใจ
ดวงตะวันรัญจวนหวนชิงพลบ
หมายสยบสรรพสิ่งหยุดติงไหว
แต่ไม่อาจหยุดยั้งรั้งหทัย
ที่คำนึงถึงใครในบางคน
ลมทะเลเห่ใจไม่คืนกลับ
จันทร์ลาลับจากนภาเวหาหน
ริ้วหาดทรายเหือดแห้งแล้งกมล
หวังยินยลไม่หวนรัญจวนคืน
4 มิถุนายน 2550 16:21 น.
เฌอมาลย์
ฉันคนเลว..คนนี้ที่เธอรัก
คราทุกข์หนักท้อแท้แลหม่นหมอง
มีเธอเป็นกำลังใจช่วยประคอง
ทุกข์ทั้งผองกลับกลายมลายพลัน
โชคชะตาพาบรรจบพบเมื่อสาย
หวังเคียงกาย..แค่เพ้อละเมอฝัน
เพราะคู่ครองเธอมีข้างชีวัน
เหมือนสวรรค์กลั่นแกล้งแช่งชะตา
เกิดรักซ้อนซ่อนปมระทมหมอง
ผิดทำนองครองธรรมนำปัญหา
รักซ้อนรักสามเศร้าเข้าตำรา
นำชีวาสับสนบนทางใจ
ความผิดถูกปลูกฝังครั้งยังน้อย
พ่อแม่คอยสอนเสมออย่าเผลอไผล
ศีลธรรมงามล้ำนำฤทัย
เป็นหญิงไทยควรรักษาประเพณี
ฉันคนเลว..ที่ทำเธอช้ำจิต
ยอมรับผิดจำทนหม่นหมองศรี
ขอให้เธอลืมฉันลากันที
คนเลวนี้..รับรู้มิคู่ควร
30 พฤษภาคม 2550 08:49 น.
เฌอมาลย์
ขึ้นสิบห้าค่ำเดือนหกดิลกมาส
เป็นวันศาสน์สำคัญวันวิสาข์
ชนชาวพุทธน้อมนำธรรมบูชา
อาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัย
วันสำคัญสามประการมาบรรจบ
หมายถึงครบพระประสูติอายุสมัย
พร้อมตรัสรู้พระธรรมน้อมนำใจ
ปรินิพพานอายุขัยนัยความดี
พระพุทธเจ้าทรงธรรมนำคำสอน
ประดุจพรล้ำค่าสง่าศรี
พุทธมามกะทั่วแคว้นแดนธานี
อริยสัจสี่ คือสัจธรรมนำชีวา
ชนชาวพุทธหันหน้าเข้าหาวัด
เพื่อขจัดจิตสะอาดด้วยศาสนา
ละมัวเมาหลงตนบนอัตตา
เสริมปัญญากระจ่างล้ำด้วยธรรมคุณ
21 พฤษภาคม 2550 14:32 น.
เฌอมาลย์
เพียงมนุษย์ปุถุชนบนลานฝัน
ร่ายประพันธ์บทกลอนอักษรศิลป์
สุดแต่ใจปรารถนาเป็นอาจิณ
ร่วมระบิลสุนทรกลอนประพนธ์
ใช่เก่งกล้าสามารถฉกาจแกล้ว
ใช่พราวแพรวฝีมือถือฝึกฝน
ใช่อวดดีอวดเด่นเห็นแก่ตน
เพียงแค่คนธรรมดาเช่นสามัญ
มีรักโลภโกรธหลงคงวัฏฏะ
คลุกเคล้าคละปัจเจกท่ามเสกสรร
ครบถ้วนด้วยอัตตาสารพัน
รวมเป็นฉันหนึ่งเดียวมิเกี่ยวใคร
เพียงมนุษย์ปุถุชนบนโลกกว้าง
อยู่ท่ามกลางกิเลสเหตุสงสัย
อาจร้ายดีที่เห็นและเป็นไป
สุดแต่ใคร /นิยม /ชม /นินทา
เพียงมนุษย์ธรรมดาตามหาฝัน
ร่วมรังสรรค์จินตนาการงานภาษา
ร่วมเรียงร้อยสุนทรพจน์รจนา
สรรค์คุณค่าตามใจในนิพนธ์
17 พฤษภาคม 2550 14:47 น.
เฌอมาลย์
เคยเชื่อใจนัยรักประจักษ์แจ้ง
รักแสลงกลายน้ำตาก็สาสม
เฝ้าหลงรักภักดิ์มั่นพลันซานซม
สุดท้ายตรมบรรเลงเพลงน้ำตา
เพราะดึงดื้อถือดีอยากมีรัก
แม้ใครทักยังเถียงทำเดียงสา
เลยต้องเจ็บน้ำตารินให้ชินชา
สมน้ำหน้าตัวตนบนความตรม
เจ็บเกินเจ็บยามยลตัวตนเขา
จึงหม่นเศร้าร้าวสะอื้นแสนขื่นขม
ยิ้มแต้มหน้าในอุราล้าระทม
คนโง่งมอย่างเราอยากเขลาเอง
คือรางวัลคนโง่ที่โอหัง
รักภินท์พังสาสมเขาข่มเหง
รักคนผิดแพ้ใจให้วังเวง
ใจจึงเคว้งเดียวดายพ่ายรักลวง