14 มีนาคม 2549 13:06 น.
chantarat
บทที่ 2
บนระเบียงตามทางที่จะไปห้องพักครู ในตอนนี้มีนักศึกษามากพอควรจึงทำให้การเดินทางของจัสมินและราเลสลาลำบากพอควร แต่ทั้งคู่ก็ใช้เวลาไม่มากทั้งคู่ก็มาถึงห้องพักครู
ก๊อก....ก๊อก....ก๊อก....เลสเคาะประตูห้องของอาจารย์แฟร์เลิส แต่เมื่อเลสเปิดประตูเข้าห้องไป เธอก็เห็นฟร้อนและอาจารย์สาวสวยอย่างสนิทสนม
ขอโทษค่ะ
เข้ามาสิเลส มีอะไรเหรอ
คือหนูจะมาขอใบลาค่ะ แต่รอให้อาจารย์คุยธุระกับฟร้อนก่อนก็ได้นะค่ะ
คุยด้วยกันก็ได้ เพราะฟร้อนก็มาคุยกับครูเรื่องนี้เหมือนกัน หลังจากที่แฟร์เลิสพูดจบเธอก็เดินไปหยิบเอกสารการลามาให้เลส แต่ฟร้อนก็ขัดขึ้นมาก่อน
อาจารย์ครับงั้นธุระของผมก็มีแค่นี้แหละครับ งั้นผมขอตัว
อ้าวเหรอจ๊ะ งั้นโชคดีกับการเดินทางนะ
ครับ พูดจบ ฟร้อนก็เดินออกจากห้องไป แล้วเอกสารที่ตอนนี้อยู่ในมือของแฟร์เลิสก็มาถึงมือเลส
ขอบคุณค่ะ แล้วนี่ต้องกรอกทุกช่องเลยใช่ไหมค่ะ เลสถามเมื่อเห็นเอกสาร
จ๊ะ แล้วนี่เธอจะลาไปไหนเหรอ
ยูคอนค่ะ
เอ๊ะ! ที่เดียวกับที่ฟร้อนจะไปเลยนะ
จริงเหรอค่ะ ชื่ออาจจะเป็นรัฐเดียวแต่เป็นคนละประเทศก็ได้นะค่ะ
เขาจะไปแคนนาดา แฟร์เลิสกล่าว
ค่ะ ถ้างั้นก็ประเทศเดียวกัน อาจารย์ค่ะถ้าหนูจะขอถามว่าเขาไปทำไมอาจารย์พอจะบอกได้ไหมค่ะ
ได้สิ เขาไปงานเลี้ยงกับพ่อแม่เขาน่ะ
ค่ะ งั้นถ้ากรอกเสร็จหนูจะเอามาให้นะค่ะ ว่าแล้วเธอก็เดินออกมาจากห้อง
เมื่อกี้ฉันเจอฟร้อนด้วย น่ารักที่สุด จัสมินพูดทันทีที่เจอเลส
เหรอจ๊ะ แล้วเธอรู้ไรไหมจัส...ฟร้อนเขาก็ลาหยุดเพื่อไปยูคอนเหมือนกัน
เหลือเชื่อ
จริง ๆนะ
งั้นเธอก็มีโอกาสสูงนะสิที่จะเจอเขาที่โน่น
ไม่มั้งเพราะเราคงดวงไม่ตรงกันขนาดนั้น แต่ฉันว่าคนที่อาจเจอฟร้อนบ่อย ๆ ไม่ใช่ฉันนะ เลสพูดพร้อมทำหน้าทะเล้น
บ้าสิ พูดอะไรน่ะเลส
เอ..แต่ฉันสงสัยจังว่าทำไมฉันกับฟร้อนมีเหตุที่ต้องเจอกันทุกที ตั้งแต่คราวที่แล้ว จำได้ไหมจัส
จำได้สิ ฉันยังอิจฉาไม่หายเลย ทั้งคู่สนทนากันต่อพร้อมเดินไปเรื่อย ๆ เพื่อจะไปที่ห้องเรียน แต่แล้วเมื่อเดินไปที่ทางเลี้ยวเลสซึ่งเดินนำหน้าจัสมินก็ต้องชะงักเพราะเธอได้ชนกับอะไรบางอย่างเข้า
อุ๊ย ขอโทษ เลสเอ่ยเมื่อเห็นว่าสิ่งที่เธอชนคือหน้าอกของฟร้อน
ไม่เป็นไรฉันก็รีบเหมือนกัน
พูดจบทั้งคู่ก็รีบแยกออกจากกันปานสายฟ้าแลบ แล้วฟร้อนก็เดินหายไป จัสมินที่เห็นเหตุการณ์ก็เข้ามาหาราเลสลา
เป็นไรรึเปล่าเลส จัสมินถามด้วยความเป็นห่วง
เปล่า ไปกันเถอะเดี๋ยวไม่ทัน ว่าแล้วเธอก็จูงแขนจัสเพื่อเข้าห้องเรียนไป
ชั่วโมงเรียนวันต่อมา นักเรียนที่นั่งตั้งตาคอยก็ต้องอารมณ์เสียเพราะเขาไม่มาแล้วที่สำคัญเขาไม่ยอมแจ้งล่วงหน้าด้วย
แย่จัง อาจารย์เนอร์วิลไม่มาแล้ววิชาประวัติศาสตร์มันยากนะเนี่ย จัสมินบ่น
เหรอ แต่นี่จัสพรุ่งนี้ฉันจะไปแคนนาดาแล้วนะอยากได้อะไรไหมหมายถึงของฝากอ่ะนะ
ไม่หรอกขอบใจ จัสตอบอย่างเศร้า ๆ
เป็นอะไรไปจัสเธอดูเศร้าผิดปกตินะ
ก็คิดถึงไง ฉันคงเหงาแย่
โธ่นึกว่าอะไร ฉันไม่...
การสนทนาของทั้งคู่ต้องหยุดเพราะสาวสวยมาขัดจังหวะเธอก็คือดาวเด่นของมหาลัย เซลรี่
ได้ข่าวว่าเธอเคยให้ฟร้อนไปส่งบ้านเหรอ เธอถามเลสด้วยเสียงที่หยิ่งเล็กน้อย
ใช่ เลสตอบด้วยท่าทีที่ปกติ แต่ภายในใจของเลส เธอรู้สึกเหมือนจะไม่ชอบผู้หญิงคนนี้เอาเสียเลย ไม่ถูกชะตา เธอคิด
ทีหลังอย่ามายุ่งกับฟร้อนอีก
ฉันไม่ได้ยุ่งมันเป็นเหตุบังเอิญ
เบื่อจริง ๆ พวกที่ชอบให้ท่าผู้ชายเนี่ย
ฉันว่าน่าจะเป็นใครบางคนแถวนี้มากกว่ามั้งที่ชอบให้ท่าผู้ชาย แต่ทั้งที่ให้เขาก็ไม่อยากจะเอา เลสพูดกลับเสียงเรียบ ๆ แต่สิ่งที่เซลรีกำลังทำตอนนี้มันต่างจากน้ำเสียงของเลสลิบลับ เพราะตอนนี้เซลรีกำลังกรี๊ดและกระทืบเท้าพร้อมมือก็กำลังจะเข้ามาตบหน้าของเลส แต่การกระทำของหล่อนก็ต้องชะงักเพราะอะไรบางอย่างที่ทำให้เธอรู้สึกหวาดกลัวและทำให้เธอรู้สึกแปลก ๆ เซลรีจึงลดมือลงแล้วเดินจากไปด้วยอารมณ์ที่ขุ่นมัว
ฉันไม่เคยเห็นว่าเซลรีจะยอมคนง่าย ๆ อย่างนี้ จัสมินบอก
อ๋อ ชื่อเซลรี สงสัยเขาคงอยากได้ฟร้อนจนตัวสั่นเลยคิดจะกำจัดผู้หญิงทุกคน เลสพูดออกมาอย่างหัวเสีย
เย็นแล้วเลสอยู่ที่สนามบินพร้อมกับจัสมิน เพราะวันนี้เลสต้องเดินทางไป แคนนาดา แล้วตอนนี้เธอก็กำลังรอเครื่องอยู่
ท่านผู้โดยสารโปรดทราบ ผู้ที่จะเดินทางไปประเทศแคนนาดากรุณาเตรียมตัวขึ้นเครื่องได้แล้วค่ะ เสียงพนักงานที่สนามบินประกาศทำให้เลสเตรียมตัว แล้วคุยกับ จัสมินต่อ แล้วเธอก็พาตัวเองไปที่ทางขึ้นเครื่อง
ระหว่างการเดินทางจากอียิปต์ไปแคนนาดาเลสนอนหลับตลอดทาง เธอรู้สึกเหมือนมีใครมาโอบกอดเธอดูแลเธอ แต่เลสก็ไม่อาจรู้ได้ว่าสิ่งที่เธอรู้สึกคืออะไร จนเมื่อเธอเดินทางถึงแคนนาดา เลสก็ต้องเดินทางไปรัฐยูคอนต่อ
เช้าแล้วที่มหาลัยในอเล็คซานเดรียวันนี้มันช่างดูเงียบเหงาเหลือเกินในความรู้สึกของจัสมิน เธอรู้สึกคิดถึงพื่อนรักซะเหลือเกิน แต่ความรู้สึกนั้นดูจะบรรเทาลงเมื่อเธอก้มมองนาฬิกาที่ตอนนี้บอกเวลาที่เธอควรจะไปเรียนโบราณคดีได้แล้ว จัสจึงรีบไปที่ห้องเรียน และวันนี้อาจารย์ไมรัสก็เข้าห้องเรียนช้ากว่าปกติ และเมื่ออาจารย์มาถึงก็สั่งงานเด็ก ๆ
พวกเธอต้องจับคู่เพื่อที่อาทิตย์หน้าครูจะให้พวกเธอไปดูงานที่พีระมิด แล้วครูจะแจกรายละเอียดในวันนั้น อ๋อ...กรุณาส่งชื่อก่อนหมดคาบด้วยนะ อาจารย์ไมรัสพูด
อาจารย์ค่ะแต่ฟร้อนกับราเลสลาไม่อยู่ค่ะ จัสมินบอก
ถ้างั้นก็ให้คู่กันเพราะคนอื่นก็คงจับคู่กันพอดี ใช่ไหม อาจารย์พูด จากนั้นเขาก็สอนจนหมดชั่วโมง
ที่แคนนาดาตอนนี้อากาศค่อนข้างเย็นเพราะเพิ่งจะเช้าตรู่ เลสตื่นขึ้นอย่างสดชื่อเพราะเมื่อคืนเธอคงเหนื่อยกับการเดินทาง และวันนี้เธอก็ตั้งใจว่าจะไปหาแม่ที่สุสานด้วย เลสจึงออกไปที่ร้านดอกไม้และสั่งดกอกุหลาบสีขาวช่อใหญ่ จากนั้นเธอก็ไปที่สุสานและวางดอกกุหลาบนั้นที่หลุมสลักชื่อแมรี่ จากนั้นเลสก็ยืนไว้อาลัย ระหว่างนั้นเลสก็ได้ยินเสียงใครสักคนที่อยู่แสนไกล
พอเถิดยอดดวงใจข้า อย่าเศร้าโศกอีกเลยเราอยากให้เจ้าเข้าใจ และให้อภัยข้า ข้าทรมานเหลือเกิน เลสแทบจะลืมตาขึ้นในทันทีที่เสียงนั้นหยุดลง
ใคร ใครน่ะ เลสพูดพร้อมกับหันไปมารอบ ๆ เพื่อดูว่ามีใครอยู่แถวนี้ไหม แต่ผลก็คือไม่มีใครนอกจากเธอ
เอ....เสียง ๆ เหมือนที่เราเคยได้ยินที่ห้องอาจารย์แฟร์เลิสนี่ หลังจากที่เลสสรุปเอาเองว่าเธออาจจะหูแว่วหรืออะไรก็ตามวันนี้เธอรู้สึกเหนื่อยมาก เลสจึงเดินทางกลับโรงแรมที่พัก และอีกไม่กี่วันเธอก็จะกลับ
เมื่อไหร่ฟร้อน เฮ้ย ...เลสจะกลับมาสักทีนะ จัสมินบ่น แต่ในใจเธอก็ยังคิดถึง ฟร้อนอยู่ดี และเมื่หันกลับไปข้างหลังอาลาซิลก็หันมาถามเธอ
จัสมินเลสไปไหนเหรอ ไม่เห็นเจอเลย
เลสเหรอ เขาไปแคนนาดานะ ไปธุระแล้วรู้ไหมว่าฟร้อนจะกลับเมื่อไหร่ จัสมิน ลองถาม
ก็วันนี้แหละตอนเย็น อาซิลตอบ
แต่สักพักเซลรีก็เดินเข้ามาแล้วดึงอาซิลขึ้นจากที่นั่ง แล้วยื่นกล่องบางอย่างให้
ฝากให้ฟร้อนเย็นนี้ด้วยนะ ขอบใจ พูดจบเซลรีก็เดินส่ายสะโพกจากไป การกระทำนี้สร้างความงุนงงให้อาซิลแต่เขาก็ไม่ว่าอะไร เมื่ออาซิงคุยกับเซลรีที่เพิ่งเดินจากไปเสร็จเขาก็หันมากล่าวลาจัสมินแล้วรีบไปเช่นกัน
ที่สนามบินฟร้อนเดินทางมาถึงแล้ว แต่เขาก็ไม่สนใจสายตาสาว ๆ ที่มองเขาเหมือนเคย แต่คนที่เขารอนะสิ ยังไม่มาให้เห็นสักที
อาซิลฉันจะรอนานดีไหมเนี่ย ฟร้อนพึมพำ ยังไม่ทันขาดคำอาซิลก็กึ่งเดินกึ่งวิ่ง
โอ๊ย เหนื่อยจังกว่าจะมาถึงที่นี่นึกว่าจะไม่ทันนายซะแล้ว อาซิลพูด
ก็เกือบจะไม่ทันแหละนะ ใครมารอใครเนี่ย ฟร้อนพูดแบบประชดเล็กน้อย
เอาน่า ฉันขอโทษแล้วกันแล้วนี่มีคนฝากมาให้ อาซิลพูดพร้อมกับหยิบกล่องออกมาจากกระเป๋า แล้วยื่นให้ฟร้อน
ของใคร ฟร้อนถาม พร้อมกับแกะกล่องนั้น ภายในกล่องเป็นแหวนโบราณ ลวดลายดูแปลกตา
เซลรี แต่สวยดีนะฟร้อน
ใช่สวยแปลก ๆ ฟร้อนตอบแต่สายตาของเขายังคงจับจ้องที่แหวน
สามทุ่มแล้วแต่ผู้คนที่สนามบินยังคึกคัก คงเป็นเพราะเสียงของผู้คนที่อยู่ที่นี่ วันนี้จัสมินมารอรับเลส ซึ่งเธอกำลังมองหาเลสอยู่ครู่ใหญ่สายตาจัสมินก็เหลือบไปเห็นหญิงสาวในชุดสีดำ ซึ่งในสายตาของจัสมินเลสสวยเหลือเกินแม้จะไม่แต่งหน้า
คิดถึงจึง จัสพูดแล้วกอดเลสแน่น
ดีใจเหมือนกันที่เจอ รู้ไหมว่าฉันคิดถึงเธอจะตาย เลสพูด
แล้วเธอจะกลับบ้านเลยรึเปล่า จัสถามเพราะเห็นว่าดึกแล้ว
นอนบ้านเธอดีกว่า จะได้คุยกันนาน ๆ ไง เลสพูด
ว่าแล้วทั้งเลาและจัสก็นั่งรถออกไปจากสนามบิน ที่บ้านของจัสมินเป็นบ้านขนาดกลางมีต้นไม้ในเขตทะเลทรายอยู่มากมาย ซึ่งมันดูสวยงามมากในสายตาเลส
เข้ามาสิ วันนี้พ่อกับแม่ไม่อยู่น่ะ จัสพูดในขณะที่มือก็ไขกุญแจ
เมื่อเลสเข้ามาถึงบ้านของจัสมินแล้วเธอก็ขอตัวไปอาบน้ำและพักผ่อน แต่เมื่อเลสล้มตัวลงนอนเธอก็ไม่ได้พักผ่อนอย่างเต็มที่เพราะคืนนั้นเธอฝันถึงสร้อยที่เจอบนชั้นนั้น แต่คราวนี้ไม่ได้อยู่บนชั้นแต่มันอยู่ในมือชายหนุ่มคนหนึ่งที่ดูสูงใหญ่น่าเกรงขาม เขากำลังบรรจงใส่สร้อยเส้นนั้นบนคอระหงของหญิงสาวคนหนึ่ง ซึ่งสร้อยเส้นนั้นเหมาะกับชุดสีดำที่เธอใส่เหลือเกิน แต่ภาพเหล่านั้นก็เลือนหายไปกลายเป็นภาพทะเลทรายมองไปทางใดก็ไม่มีสิ่งใดนอกจากทรายสีเหลืองแสดเท่านั้น หญิงสาวคนหนึ่งกำลังเดินไปข้างหน้าอย่างไร้จุดหมายและดูเหมือนเธอกำลังอ่อนเพลียและกระหายมาก ภาพสุดท้ายที่เลสเห็นหญิงสาวคนนั้นเธอกำลังทรุดลงบนทะเลทรายแล้วใช้ของบางอย่างกรีดที่แขนจากนั้นของเหลวสีแดงก็หลังไหลออกมาแล้วเธอก็ดื่มมันเข้าไป เป็นเวลานานพอควรหน้าของหญิงสาวเริ่มซีด..
เลส ตื่นๆ วันนี้มีเรียนเช้านะ เสียงของจัสมินทำให้เลสตื่นจากภวังค์
จ๊ะ ๆ ตื่นแล้ว เลสเมื่อรู้ตัวเธอก็เด้งตัวขึ้นจากเตียงทันที
ไปอาบน้ำได้แล้วจ๊ะ จัสพูด
จ๊ะ เลสรับคำแล้วก็ยิ้มแล้วพาร่างเข้าห้องน้ำ แล้ว 20 นาทีเธอก็ออกมา
ในรถทั้งสองคนกำลังคุยกันเรื่องการทำงานนอกสถานที่ในวันนี้
เธอได้คู่กับฟร้อน อิจฉาเลสจัง
ฉันจะโดนทำร้ายไหมเนี่ย แต่ถ้าเธออยากคู่ฟร้อนก็เปลี่ยนกันสิ ดีไหม เลสพูดยิ้ม ๆ เมื่อเธอคิดถึงหน้าเซลรี
ไม่เป็นไรหรอก ฉันคู่อาซิลก็ได้
จัสเธอแอบชอบฟร้อนมาก็นานนะ แต่เธอเคยบอกเขารึเปล่า
ไม่อ่ะ ฉันไม่กล้า
ถ้าเธอไม่บอกเขา มันจะมีประโยชน์อะไร จริงไหมเพราะงั้นเธอต้องกล้า ๆ ไว้
ไปที่พีระมิดนะค่ะ จัสพูดขึ้นกับคนขับรถ แล้วหันมาตอบเลส
ก็ได้ ฉันจะกล้าบอกเขา
ที่ทะเลทรายตอนนี้นักศึกษากำลังยืนจับกลุ่มคุยกันเพื่อรอเวลา แต่เลสกำลังยืนจ้องพีระมิดเบื้องหน้าด้วยความสนใจ และเธอก็สงสัยว่าทำไมกาลเวลาไม่อาจทำลายมันลงได้ บางคนเชื่อว่าพีระมิดนี้มีคาถากำกับไว้เพื่อให้มันอยู่ได้ตลอดกาล
เลสร้อนจังเลย เมื่อไหร่อาจารย์จะมาเนี่ย จัสมินบ่น
ร้อนก็เอาเสื้อฉันไปบังแดดก่อนก็ได้นะ เลสพูดพร้อมกับถอดเสื้อให้แล้วบังแดดให้
แล้วเธอล่ะเลส
ไม่เป็นไร ฉันยังไม่ร้อนนะ
เวลาผ่านไปไม่นานอาจารย์ก็เรียกนักศึกษาทีละคู่ออกไปรับใบงาน
เลสเดี๋ยวเจอกันนะ ไปทำงานก่อน จัสพูดแล้วเดินจากไป ส่วนฟร้อนและเลสก็ไปด้วยกัน แต่เมื่อเวลาผ่านไปงานของฟร้อนและเสลก็เสร็จเป็นคู่แรก แต่เธอส่งงานเสร็จเลสและฟร้อนก็ออกมาเดินเล่น
ฟร้อนนายว่าข้างหลังพีระมิดมีอะไร เลสถาม
อยากรู้ก็ไปดูกันสิ ไปไหม เลสรู้สึกแปลกใจ แต่เธอก็อยากรู้เช่นกันเลสจึง ไปกับฟร้อน
ฟร้อนนายว่าไหมว่าทะเลทรายมันดูสวยดูนะ เวลาโดนแดด เลสพูดเหมือนมีใครสั่ง
ใช่สวย แต่มันคงมีอันตรายเหมือนกันนะ ดูอย่างทะเลซิ ฟร้อนตอบแต่สายตายังคงมองพื้นทรายเบื้องหน้า
เดินไปอีกหน่อยไหม ทั้งคู่กล่าวพร้อมกัน
แล้วการเดินทางของทั้งคู่ก็เริ่มขึ้น โดยที่ไม่มีใครสังเกตว่าไม่มีใครอีกแล้วอยู่ในบริเวณนั้น แต่ทั้งคู่ก็เดินต่อไปข้างหน้าเหมือนโดนมนต์สะกด แต่สิ่งที่ทำให้ทั้งสองรู้สึกตัวอีกทีพายุทะเลทรายก็โหมกระหน่ำเสียแล้ว
( จบตอน )
11 มีนาคม 2549 22:48 น.
chantarat
บทที่ 1
ยูคอนเป็นรัฐหนึ่งของประเทศแคนนาดาซึ่งมีอากาศหนาวเย็นมากทีเดียวในช่วงฤดูหนาวอย่างนี้ ต้นไม้ที่ขึ้นเองโดยทั่วไปรวมทั่งต้นไม้ดอกไม้ที่คนปลูกบัดนี้ดูเหมือนจะเหลือแต่เพียงลำต้นไว้ส่วนใบก็ทิ้งไว้เพียงร่องรอยเท่านั้น ในบรรยากาศเช่นนี้ทุกคน
โดยส่วนมากจะชอบเก็บตัวอยู่ในบ้านแล้วก็ทำกิจกรรมอื่นๆไม่ว่าจะเป็นดูทีวี คุยโทรศัพท์หรืออื่น ๆ แต่ก็มีคนบางกลุ่มเท่านั้นที่จะออกมานอกบ้าน ซึ่งกลุ่มใหญ่ก็มีแต่พวกวัยรุ่นที่จะชอบออกมานั่งที่สวนสาธารณะโดยไม่เกรงกลัวต่อสภาพอากาศเลยแม้แต่น้อย
และในมุมหนึ่งหญิงสาวที่นั่งอยู่กับเด็กหญิงตัวน้อย ๆ ซึ่งตอนนี้ประมาณอายุของหล่อนคงประมาณสัก 8 ขวบ แก้มของเด็กหญิงแดงดูช่างน่ารักซะเหลือเกิน ครู่หนึ่งเด็กหญิงก็ถามมารดาด้วยความสงสัยเพราะเธอเพิ่งสังเกตเห็นบางสิ่งบางอย่าง
คุณแม่ค่ะ ทำไมต้นไม้ถึงไม่เหลือใบไว้เลยล่ะค่ะ เธอพูดพร้อมกับชี้นิ้วมือเล็ก ๆ ไปที่ต้นไม้ที่ใกล้ที่สุด
ต้นไม้พวกนี้ยอมสละใบเพื่อลำต้นไงจ๊ะ เพื่อว่าวันหนึ่งในฤดูใบไม้ผลิมาถึง ต้นไม้พวกนี้ก็จะมีใบตามเดิม โดยที่พวกมันจะได้ไม่ต้องตายในหน้าหนาวอย่างนี้ แมร์รี่มารดาของเด็กหญิงกล่าว
แม่จ๋าหนูหิวแล้วอ่ะค่ะ เด็กหญิงพูดพร้อมกับรอยยิ้ม และนั่นก็คงจะเหมือนเป็นวันสุดท้ายที่เด็กหญิงได้ยิ้มกับแมร์รี่อย่างนี้
ขอบคุณค่ะแม่ เด็กหญิงรับขนมนั่นไว้ โดยที่มีมารดามองด้วยความเอ็นดู
‹ 10 ปี ผ่านไป ›
ความร้อนระอุที่บริเวณกรุงไคโรประเทศอียิปต์ช่างร้อนระอุเหลือเกิน และนี่เองก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ชาวผิวขาวบางคนอยากกลับประเทศขึ้นมาในทันทีทันใด หากไม่มีสิ่งที่ล่อตาล่อใจพวกเขาไว้ พวกเขาก็คงจะวิ่งแจ้นไปซื้อตั๋วเครื่องบินกลับประเทศอย่างที่กล่าวไว้ พีระมิดซึ่งตั้งเด่นตระหง่าอยู่บนผืนทรายทำให้ดูกี่ครั้งก็ชวนให้พิศวงมองมันเป็นสิ่งที่ลี้ลับชวนให้ค้นหา จึงทำให้ในปีหนึ่ง ๆ อียิปต์ได้เงินเข้าประเทศหลายร้อยล้านบาทจากนักท่องเที่ยว
ฟร้อนหนุ่มรูปงามที่มีเลือดผสมระหว่างอังกฤษและอียิปต์เป็นที่ต้องตาต้องใจของสาว ๆ โดยทั่วไป คงเป็นเพราะหน้าตาที่คมเข้มแบบชาวทะเลทรายรวมกับนัยส์ตาสีฟ้านั้นกระมังที่ทำให้เขาโดดเด่น และเมื่อเขาต้องสบตากับผู้หญิงคนใดหญิงคนนั้นก็มักจะหลบสายตาเขาเพราะร้อนวูบหากใจไม่แข็งพอ แต่ฟร้อนก็ไม่ค่อยสนใจผู้หญิงมากมายนัก เพราะเรื่องในอดีตที่คอยตามหลอกหลอนเขา และนี่เองที่ทำให้เขาไม่อยากสนใจหญิงคนใด รวมถึงเขาไม่ชอบการที่อยู่ใกล้ผู้หญิงด้วยหากไม่มีความจำเป็น
ในอียิปต์มีมหาวิทยาลัยอยู่ไม่มากนัก ฟร้อนเข้าเรียนที่อียิปต์เพราะพ่อแม่ของ ฟร้อนทำงานที่สถานทูตเมืองอียิปต์ รวมถึงอยากให้เขาเป็นทูต แต่เขาก็ไม่ชื่นชอบงานเช่นนั้นฟร้อนชอบการผจญภัยและการสำรวจมากกว่า เหตุนี้เขาจึงเลืกเรียนโบราณคดีที่อเล็กซานเดรีย เขาเรียนได้ดีจนเกือบจะดีมากในทุกรายวิชา ถ้าเขาไม่ติดที่ต้องไปร่วมงานสังสรรค์กับบรรดาเพื่อนของพ่อแม่ที่ต่างประเทศบ่อย ๆ ฟร้อนมีเพื่อนสนิทชื่ออาลาซิส เพื่อนของเขาคนนี้มักจะโดนสาว ๆ ที่ชื่นชอบฟร้อนถามโน่นนี่อยู่เสมอ ๆ แต่อาลาซิสก็ไม่รู้สึกเบื่อเพราะเขาแอบชอบหญิงคนหนึ่งที่อยู่ในกลุ่มนั้นนั่นเอง เธอชื่อว่าจัสมิน
วันนี้ที่มหาลัยค่อนข้างร้อน แต่นักศึกษาที่นี่ก็ชินกับสภาพอากาศแบบนี้แล้ว ในห้องเรียนตอนนี้มีเสียงคุยของเด็ก ๆ ที่รอเวลาที่อาจารย์จะมาเข้าสอนในชั่วโมงแรกของเทอมใหม่ ครู่ใหญ่อาจารย์แฟรเลิสก็เดินเข้ามาในห้องพร้อมจูงมือเด็กสาววัยรุ่นตามมาด้วย เมื่อเธอเดินมาถึงกลางหน้าชั้นเรียนอาจารย์ก็กล่าวขึ้น
นักศึกษาจ๊ะวันนี้ครูมีเพื่อนใหม่ที่จะมาเรียนร่วมชั้นกับเรานะ แนะนำตัวเองซิจ๊ะ
สิ้นเสียงอาจารย์แฟรเลิสเธอก็ส่งสัญญาณให้ราเลสลา
สวัสดีค่ะ ฉันราเลสลาย้ายมาจากแคนนาดา เรียกราเลสหรือเลสก็ได้ค่ะ ฝากตัวด้วยนะค่ะ หลังจากการแนะนำตัวก็มีเสียงปรบมือดังขึ้น
ไปนั่งโต๊ะข้าง ๆ นั้นนะจ๊ะ อาจารย์พูดพร้อมชี้มือไปที่โต๊ะข้าง ๆ ฟร้อน แล้วการสอนก็เริ่มขึ้นเมื่อเธอนั่งที่เรียบร้อย เลสก็กล่าวทักทายเพื่อนใหม่แต่สิ่งที่ได้กลับคืนมาคืออาการเงียบของฟร้อน
ในทุก ๆ วันก็ดำเนินผ่านไปเหมือน ๆ เดิม แต่ราเลสกลับรู้สึกแปลก ๆ กับคนที่เธอนั่งคู่ด้วยทุกวัน เขาไม่เคยแม้แต่จะหันมาทักทายเธอเลยหากจะให้นับก็คงสักประมาณเกือบ 2 อาทิตย์แล้ว เลสจึงถามจัสมินในคาบว่างของวันนี้
จัสมิน ฉันมีเรื่องอยากถามเธอน่ะ
อะไรเหรอ เลส
เธอรู้จักคนที่นั่งคู่ฉันใช่ไหม
ใช่สิ จัสมินตอบด้วยน้ำเสียงที่มั่นใจ
เออ....เธอรู้ไหมว่าเขาชื่ออะไร แล้วทำไมเขาถึงไม่คุยกับเพื่อน ๆ บ้างเลย ใช่! เขาคุยด้วยกับเฉพาะเพื่อนผู้ชาย ฉันเออ.....เขาเป็นแอบจิตเหรอ เมื่อคำพูดของเลสจบ จัสมินก็ตอบขึ้นทันทีทันใดด้วยความตกใจ
ฟร้อนไม่ได้เป็นเกย์นะ เขาแค่กลัวผู้หญิงอย่างฝังใจเท่านั้นเอง
แค่กลัวผู้หญิงเหรอ เธอพูดเหมือนกับว่าผู้ชายทั่ว ๆ ไปเนี่ยส่วนมากเขากลัวผู้หญิง งั้นแหละ
ก็เขามีเรื่องฝังใจนี่ จัสมินตอบอย่างเห็นใจฟร้อน
นี่...เธอชอบฟร้อนใช่ไหม
บ้า จัสมินตอบทั้ง ๆ ที่ตัวเองก็หน้าแดงมาก
you in love เลสพูดขึ้นพร้อมมองหน้าจัสมินแล้วยิ้ม
แปลว่าอะไรเหรอเลส
แกล้งทำเป็นไม่รู้เชียวนะ ก็แปลว่าคุณกำลังตกอยู่ในภวังค์แห่งรักไง เออแล้วนี่ฟร้อนเขามีเรื่องอะไรฝังใจล่ะ เขาถึงไม่ชอบผู้หญิงอ่ะ เล่าให้ฟังได้ไหม
ได้ซิ จัสมินตอบ ฟร้อนนะเคยมีเพื่อนหญิงคนหนึ่งชื่อ เรโมนาอืม........ใช่แหละ เรโมนา โมนาเป็นคนน่ารักแล้วไงก็ไม่รู้สุดท้ายทั้งคู่ก็ตกลงมาคบกัน แต่ไปไงมาไงก็ไม่รู้ยายโมนากลับไปหมั้นกับแอนดริวแทนที่จะเป็นฟร้อน ฉันนะพอรู้ข่าวฉันสงสารฟร้อนแทบแย่ เขานะเงียบ เฉย นิ่งเหมือนจะไม่รับรู้อะไรอีก แต่ยังไงเขาก็ยังทำคะแนนได้เป็นอันดับ 4 ของห้องอยู่ดีอ่ะ ฉันลองมาคิด ๆ ดูนะว่าถ้าเพื่อนสนิทของฉันทำอย่างที่นายแอนดริวทำกับฟร้อนน่ะฉันจะทำไงดี
แล้วโมนาเขายินดีเหรอที่จะหมั้นกับแอนดี้ เลสถาม
ฉันว่าน่าจะเต็มใจนะเพราะตอนที่โมนาบอกเลิกฟร้อนน่ะ เธอมีท่าทีแจ่มใสดีออก ดูไม่เห็นเสียใจอะไรเลย แล้วเพื่อนของฟร้อนน่ะก็ชื่อแอนดริวไม่ใช่แอนดี้
จ๊ะ แอนดริวก็แอนดริว
ตอนเย็นหลังเลิกเรียนเลสนั่งเหม่อกว่าจะรู้ตัวก็เย็นมากแล้ว
เอ.....เอางานไปส่งเลยดีกว่า เธอพูดกับตัวเองพร้อมกับมองดูนาฬิกาที่ตอนนี้บอกเวลา 18.50 น. แล้ว เธอจึงเดินไปที่ห้องของอาจารย์แฟร์เลิส
อาจารย์ค่ะ อยู่ไหมค่ะ เลสพูดหลังจากเคาะประตูไปหลายครั้งแต่ไม่มีเสียงตอบรับเลสจึงเปิดประตูเข้าไปเอง ในห้องของอาจารย์แฟร์เลิสดูเงียบสงบ ไม่มีใครอยู่เลย นี่น่า เธอคิดในใจ แต่แล้วเลสก็รู้สึกสะดุดตากับของบางอย่างที่อยู่บนชั้นโชว์ สร้อยคออัญมณีสีน้ำเงินเข้ม การเจียระไนดูละเอียดมองทางใดแสงก็จะกระทบมองแล้วดูสวยงามอย่างประหลาดในความรู้สึกของเลส
สวยจัง ทำจากพลอยมั้ง
มาเถอะ ข้าจะมอบสิ่งหนึ่งให้เจ้า
เสียงใครน่ะ เลสได้ยินเสียงนั้นมันใกล้หูเธอมากเหมือนเสียงกระซิบที่อยู่แสนไกล
เรามั่นใจว่าเจ้าจะต้องชอบ ยอดรักแห่งข้า
เสียงนุ่มจังพอได้ฟังแล้วอยากฟังซ้ำอีกหลาย ๆ รอบ เลสคิดในใจพร้อมกับยิ้มออกมา สักพักก็มีเสียงหนึ่งที่กระตุ้นให้เลสตื่นจากภวังค์
เข้ามาฟร้อน
ครับ
ฟร้อนเดินเข้ามาพร้อมกับอาจารย์แฟรเลิส
เออ......ขอโทษค่ะหนูนึกว่าอาจารย์อยู่เลยเข้ามา
ไม่เป็นไรจ๊ะ นั่งสิมีอะไรหรือเปล่าจ๊ะเลส
แค่แวะเอางานมาส่งน่ะค่ะ
เรอะจ๊ะ
ค่ะ หนูวางไว้บนโต๊ะแล้วนะค่ะงั้นหนูขอตัวกลับเลยนะค่ะ พูดจบเลสก็เตรียมตัวเก็บข้าวของเพี่อออกจากห้อง
เดี๋ยวสิเลส มืดแล้ว เดี๋ยวกลับพร้อมฟร้อนก็ได้ ใช่ไหมฟร้อน
ครับ เขาหันมาตอบแต่เลสก็หันมาตอบทันควันว่า
คือไม่ต้องก็ได้ค่ะ เกรงใจฟร้อนเขา
ไม่เป็นไร ฟร้อนตอบด้วยน้ำเสียงเย็นเฉียบเหมือนเดิม
ถ้างั้นหนูไปรอฟร้อนข้างนอกนะค่ะ เมื่อเลสพูดจบเธอก็เดินออกมานั่งรอข้างนอกห้อง เวลาผ่านไปเลสก็เผลอหลับไป
เธอ เสียงหนึ่งดังขึ้น พร้อมกับการสัมผัสของคน ๆ นั้นเลสจึงสะดุ้งตื่นขึ้นมา
เธอนั่นเอง เลสเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นหน้าฟร้อน
ไปได้แล้ว เดี่ยวก็ดึกหรอก ฟร้อนพูดอย่างเฉยชา เลสพยักหน้าแสดงอาการรับรู้ แล้วเธอก็เดินตามฟร้อนไป
เมื่อถึงที่จอดรถเธอก็มองตามที่ฟร้อนเดินไป รถของฟร้อนบ่งบอกให้รู้ถึงฐานะที่ดีมากของฟร้อน รถของฟร้อนเป็นรถนำเข้าจากเยอรมันยี่ห้อดัง BMW สีดำ
ขึ้นมาสิ ฟร้อนบอกทางหน้าต่างรถ
อืม ขอบคุณ เลสพูดพร้อมกับเปิดประตูขึ้นรถ จากนั้นรถสีดำคันงามก็แล่นออกไปที่ถนนสายหลัก
นายขับรถกลับบ้านคนเดียวอย่างงี้ทุกคืนเหรอ เลสพูดขึ้นเพื่อทำลายความเงียบ
ใช่
นายโกรธหรือเปล่าเนี่ยที่ฉันถาม
เปล่านี่ ฟร้อนพูดแล้วมองมาที่เลส
ถามอีกได้ไหม เลสถามขึ้นด้วยเสียงอยากรู้อยากเห็น
ได้
เคยมีใคร....อืม......ไม่มีไร
แล้วนี่จะให้ฉันส่งเธอที่ไหน
ก็แถว ๆ ถนนนี้แหละ
เดี๋ยวจะไปส่งที่บ้าน
ไม่ต้อง ขอบใจแค่นี้ก็ต้องขอบใจมากแล้ว
ก็บอกว่าจะไปส่ง เสียงของฟร้อนดูหนักแน่น สุดท้ายเธอก็ต้องยอมแพ้และบอกทางไปบ้านให้ฟร้อนได้รู้ และเมื่อถึงบ้านของเลสแล้วเลสก็กล่าวขอบคุณ เมื่อล่ำลากันเสร็จเลสก็มองตามรถคันงามที่เธอเพิ่งนั่งมาจนลับสายตาเธอจึงเข้าบ้าน
ที่นี่เธอต้องอยู่คนเดียว เพราะเมื่อ 7 ปีก่อนแม่ของเลสได้จากไป ส่วนพ่อของเลสนะเหรอเขาก็ไปมีความสุขอยู่กับครอบครัวใหม่ของเขา ความจริงพ่อเคยชวนเธอไปอยู่ด้วยแต่นั่นคงจะทำให้เกิดความลำบากใจกับแม่เลี้ยงมาก เธอจึงตัดสินใจอยู่คนเดียวและพ่อก็คอยส่งเงินให้ใช้บ้างเธอจึงไม่ค่อยเดือนร้อนเท่าไหร่
คืนนี้เลสนอนไม่ค่อยหลับเพราะเธอคิดถึงเสียงที่ได้ยินในห้องของอาจารย์แฟร์เลิส
ทำไมเราถึงรู้สึกว่าจะเกิดเรื่องไม่ดีเลยนะ แต่เสียงนั่นเหมือนฉันเคยได้ยินที่ไหนน่า
เลสรำพันกับตัวเอง แล้วเธอก็เดินไปที่โต๊ะเพื่อหยิบสมุดบันทึกซึ่งนาน ๆ ทีที่เลสจะหยิบมันขึ้นมาเขียนเรื่องราวที่สำคัญ ๆ เท่านั้น เธอเขียนทุกอย่างที่เกิดขึ้นวันนี้สุดท้ายเลสก็ง่วงขึ้นมา เธอจึงพาร่างบางของเธอขึ้นเตียงแล้วพาตัวเองสู่ภวังค์
เช้าวันต่อมาเลสไปมหาลัยค่อนข้างเร็วกว่าปกติ เมื่อเข้าไปข้างในเธอก็ได้เพื่อนสนิทในตอนนี้ของเธอ
หวัดดี จัส เลสเรียกชื่อของจัสมินสั้น ๆ
ดี อ้าวทำไมวันนี้เธอมาเรียนเร็วจัง วันนี้เราเรียนบ่ายไม่ใช่เหรอ
ฉันจะไปหาแม่
ไปหาแม่.....เหรอ จัสมินทวนคำ
ใช่ฉันจะกลับแคนนาดา
แล้วจะไปกี่วันล่ะ จัสมินถามสียงอ่อย
1 อาทิตย์
แล้วการสนทนาของจัสมินและเลสก็ต้องชะงักลงชั่วคราวเพราะฟร้อนได้เดินเข้ามาแล้วพูดกับเลส
หนังสือ เมื่อวานเธอลืมไว้ในรถฉัน เมื่อเลสเห็นหนังสือในมือฟร้อนเธอจึงกล่าวขอบคุณเมื่อเลสรับหนังสือจากมือฟร้อนแล้วเขาก็เดินผ่านไปแล้วจัสมินก้ถามเลสด้วยความสงสัยแกมอิจฉา
เธอไปกับฟร้อนมาเมื่อไหร่เลส
เมื่อวาน
เลสรู้ไหมว่าฟร้อนไม่เคยให้ผู้หญิงคนไหนขึ้นรถเขาเลยนะตั้งแต่เขาอกหักเนี่ย ยกเว้นก็แต่ยายโมนา
ก็เขาถูกขอร้องแกมบังคับจากอาจารย์คนสวยนี่ อิจฉาฉันเหรอจัส เลสพูดแล้วอมยิ้มให้จัสมิน
เปล่านะ ฉันจะอิจฉาทำไม
แน่ใจเหรอ เงียบจัสมินไม่ตอบอะไรเลสจึงพูดต่อ
นี่จัสไปหาอาจารย์แฟร์เลิสเป็นเพื่อนฉันหน่อยสิ นะจ๊ะ เลสอ้อนวอนเมื่อเห็นหน้าของจัสมินไม่ยิ้มเหมือนเมื่อครู่
ก็ได้ เมื่อจัสมินตอบรับทั้งคู่จึงเดินไปที่ห้องพักครู
ถอยหน่อยครับ ๆ เสียงของอาลาซิสดังขึ้นขณะที่มือของเขาก็ถือของอยู่
จัสมินนั่นเพื่อนของฟร้อนใช่ไหม เลสถาม
ใช่ เขาชื่ออาลาซิล แล้วเขาถืออะไรมาเนี่ย จัสมินแสดงความคิดเห็นกับเพื่อน
และแล้วความสงสัยของจัสมินและเลสก็กระจ่างขึ้นเพราะสิ่งที่อาลาซิลถือมาตอนนี้มันหล่นด้วยแรงกระแทกของนักศึกษาบางคน สิ่งที่อาลาซิลถือมาก็ตอนนี้ก็เละอยู่บนพื้นไม่มีชิ้นดี
เป็นอะไรหรือเปล่าอาลาซิล
ไม่เป็นไร เขาตอบทั้งที่ไม่เห็นหน้าผู้ถาม
แล้วเค้กของใครเหรอ จัสมินถามต่อ แต่คราวนี้อาลาซิลมองเห็นจัสมินแล้ว
ของ..ของ..อาจารย์แฟร์เลิส อาลาซิลจะเป็นอย่างนี้ทุกทีที่เจอหน้าจัสมิน ทั้งนี้ก็เพราะเขาเขิน และตอนนี้ตัวของเขาก็เต็มไปด้วยครีมของหน้าเค้ก
แล้วตัวเธอเลอะจะทำไง จัสมินถามด้วยความเป็นห่วง
ไม่เป็นไรนิดหน่อย อาลาซิลตอบ
แล้วนายจะเอาเค้กไปให้อาจารย์ที่ไหน เลสถาม
ก็ที่ห้องแหละ ฟร้อนก็อยู่
อืม ๆ ขอบใจนะ แล้วอย่าลืมไปเช็ดครีมออกล่ะ พูดจบราเลสก็ลากจัสมินไปที่ห้องของอาจารย์
( จบตอน )