12 พฤศจิกายน 2546 09:24 น.
burst
เธอคือไขมันส่วนเกิน
ที่บังเอิญฉันไม่รู้มาก่อนหน้า
เข้ามาแทรกซึมฉันทุกเวลา
เธออุดตัน...ฉันจนน่า...จะใกล้ตาย
เป็นชั้นไขมันหนาดูน่าเกลียด
เนื้อแน่นๆเบียดเสียดทนไม่ไหว
มันแน่นท้องจนไม่รู้จะร้องยังไง
กระเพาะม้ามปอดตับไตถูกรังควาน
เธอคือ..คอเรสเตอรอล
แฝงมาหลอกหลอนเหมือนของหวาน
หลอกให้ฉันลองลิ้มชิมอยู่นาน
กว่ารู้ตัวก็เกินการจะเยียวยา
เธออุดตันเส้นเลือดตีบ....บีบชีวิต
โธ่...ไม่ทันได้คิดก็แทบบ้า
นี่แหละหนอเค้าเรียกรักมักบังตา
กว่าจะรู้...เลยเวลา...กำจัดมัน
11 พฤศจิกายน 2546 15:24 น.
burst
หากความรักซื้อได้ตามเซเว่น
และเราเห็นความรักอยู่ตามห้าง
มีความรักเร่ขายอยู่รายทาง
จะเป็นไงเมื่อทุกอย่างเราซื้อมัน
หากความรักมีขายอยู่ทั่วไป
ไม่เว้นแม้แต่ในความคิดฝัน
ทั้งตู้หยอดเหรียญใส่ไป..ก็ได้มัน
คงไม่ต้องคิดสั้นหากรักใคร
นั่นแหละหนอเมื่อความรักเกลื่อนถนน
ไม่มีแม้ใครซักคนซื้อไม่ได้
เรามีความรักเหลือเผื่อใครใคร
ใช้หมดแล้วก็ซื้อใหม่ได้ทันควัน
เมื่อรักเป็นของหาง่ายจริงดังว่า
คงไม่สมคุณค่าความรักนั่น
รักก็เป็นแค่เศษสุขอยู่ทุกวัน
ค่าของความรักนั้นคงไม่มี
เธอรักฉันฉันรักเธอคงเรื่องง่าย
แต่เรื่องจริงไม่ง่ายดายอย่างเช่นนี้
ฉันรักเธอเธอไม่รักไม่ใยดี
รักก็ไม่เกิดซักที...ชีช้ำใจ
ใครบางคนอาจคิดเหมือนกับฉัน
อยากมีรักขายทุกวันอยู่ใช่ไหม
อยากให้รักเป็นของขายทั่วไป
อยากมีรักเหมือนใครใคร..เขามีกัน
แต่นั่นแหละคุณค่าของความรัก
มันยากนักจะได้มาสิ่งนั้น
รักจึงมีค่าเสมอเมื่อเจอมัน
และจะมีค่ากว่านั้น.....หากรอคอย
-------------------------------------------------------
รักเป็นของมีค่า แต่เดี๋ยวนี้ซื้อได้นะ
เห็นคนรวยๆมีแฟนสวยๆเยอะแยะ
อยู่ๆไปพอสบายๆก็รักกันไปเองนั่นแหละ
คิดอย่างนี้เยอะนะ ระวัง ความรักจะเป็น
ของซื้อหาได้จริงๆนะ
11 พฤศจิกายน 2546 14:17 น.
burst
เก็บกดกลุ้มใจไปก็เปล่า
เกลียดนักกัดเราเข้าให้
เกาะกินใจเราทั้งใจ
เก็บไว้เกือบตาย..ใกล้ตัว
หากการเก็บกดกักเก็บ
กดไว้ก็เจ็บไปทั่ว
อย่าเก่งแต่เก็บไว้กับตัว
ไกลไว้อย่าเมามัวกับมัน
ระบายสิ่งที่เก็บที่กดไว้
ให้แก่ลมหายใจที่บีบคั้น
เก็บไว้ก็กลุ้มไปกับมัน
ไม่ก่อผลนั้นแก่ทางดี
----------------------------------------------------------------------------------
เก็บกดก็กู่ก้อง................ กรี๊ดกัน
เก็บก่อเกิดเกินกั้น......... กักแก้
กรอบเกรียบกลับก๋ากั่น... กรีดกร่าง
กลับกลอกแก่เกินแก้...... กราดเกรี้ยวกลุ้มกมล ฯ
11 พฤศจิกายน 2546 10:45 น.
burst
ชันเข่าหลบหน้าตรงมุมห้อง
ไม่อยากให้หน้าไหนมองมาตรงนี้
เอาหัวเข่าปาดน้ำตามาหลายที
สะอึกสะอื้นในคืนที่อยู่ลำพัง
ต้องปิดไฟเอาแสงพระจันทร์ส่อง
ในกระจกเห็นหน้าหมองเพราะความหลัง
มันทั้งเจ็บทั้งสะใจพอหรือยัง
เห็นตัวเองยังนั่งหลบสายตา
ในทีวียังเปิดเหลียวไปดู
เห็นภาพข่าวยิ่งอดสูอยากเมินหน้า
ช่วงวงเวียนชีวิตโชคชะตา
เด็กหกขวบเลี้ยงมารดาผู้พิการ
แสนรันทดชีวิตฟ้าขีดให้
ต้องลำบากใจกายน่าสงสาร
ยังอดทน...ดิ้นรนไม่ขอทาน
สู้ตรากตรำ...ทำงานเลี้ยงแม่ตน
หันมามองที่ตัวเรา
ใยยังต้องมาเศร้ามาสับสน
ยังมีใครลำบากอีกหลายคน
เขายังอดยังทนสู้ต่อไป
นี่มีพ่อมีแม่มีคนอื่น
ที่ยังอยากหยิบยื่นช่วยเหลือได้
ยังจะคิดหลบหน้า...ฆ่าตัวตาย
อนาถหนอ...แพ้เด็กชายตาดำดำ
ลุกขึ้นเดินเปิดไฟเปิดหน้าต่าง
เห็นแล้วแสงสว่างกลางคืนค่ำ
ในชีวิตยังมีสิ่งที่ควรทำ
แล้วจะมัวชอกช้ำเพื่ออะไร
มีแสงจันทร์สีนวลทอแสงงาม
รอตะวันขึ้นยามเมื่อฟ้าใหม่
และพรุ่งนี้...จะเป็นวันเริ่มของใจ
ที่ฉันพร้อมก้าวต่อไป....อย่างทรนง
11 พฤศจิกายน 2546 10:35 น.
burst
เธออยู่สูงสุดฟ้าเกินกว่าเห็น
นั่งมองเงาเช้าเย็นเป็นแค่ฝัน
ในชีวิตได้แต่คิดอยู่ทุกวัน
เธออยู่สูงเกินกว่าฉันจะเอื้อมมือ
ฉันก็เป็นแค่หมาราคาต่ำ
มิสมควรสมคำจะยึดถือ
อยากให้เธอเป็นลูกไก่ในกำมือ
แต่ความจริงนั่นหรือ...คือฝันไป
แม้เครื่องบินบินผ่านยังพอเห่า
คงซักวันเธอจะเข้าใจฉันได้
เห่าเห่าเห่า...ค่ำเช้าเพื่อเอาใจ
ได้แต่เห่าเห่าไปไม่อายเธอ
แต่นี่ฉันยิ่งเห่ายิ่งไม่เห็น
นั่งมองเงาเช้าเย็นเป็นแต่เหม่อ
ยืดคอมองขึ้นไปไม่เห็นเจอ
เธอนะเธอสูงยิ่งกว่าจะรอคอย
ฉันเหมือนหมาเห่าดาวเทียมไม่เจียมตัว
กลัวก็กลัวว่าต้องเศร้าต้องเหงาหงอย
ถึงจะเห่าเท่าไร...เธอไม่คอย
ยังคงลอยสูงเด่น..อยู่เช่นเดิม
รักคนที่สมน้ำสมเนื้อกันดีกว่านะผมว่า...
เพื่อนผมงี้...ไปรักลูกเศรษฐี อย่างงี้ซวยนะครับ