21 พฤศจิกายน 2545 15:31 น.
burst
สิ่งที่มองไม่เห็น......แต่มองเห็น
นั่นคือความชาเย็น...บนใบหน้า
เธอปกปิดมันไม่ได้ด้วยสายตา
ฉันจึงได้รู้ว่าเธอเป็นไง
ความชาเย็นเป็นนามธรรม
แต่สีหน้าที่เธอทำกลับเห็นได้
เหมือนมีน้ำแข็งเกาะที่ใจ
จึงไม่รู้สึกอะไรที่รักกัน
ชาเย็นไม่ใช่....ชาใส่นม
มันไม่น่านิยมเหมือนอย่างนั้น
รสชาติก็ประหลาดขยาดมัน
จะให้ชิมตัวฉันก็ขอลา
อย่าได้ทำเป็นชาเย็นหรือเข็ญใจ
ถ่ายไม่ออกบอกได้นะเธอจ๋า
อย่าปล่อยให้อารมณ์ข่มหน้าตา
โปรดจงจำไว้ว่า.....อย่าชาเย็น
20 พฤศจิกายน 2545 15:25 น.
burst
แม้จะเป็นเพียงเสียงในฝัน
อบอุ่นในใจฉันอยู่เสมอ
แม้จะเป็นเพียงฝันฉันพบเธอ
ไม่อาจพบอาจเจอเธอจริงๆ
ยามหลับตาเหมือนเห็นฟ้าอยู่ใกล้ๆ
ได้ยินเสียงกังวาลไกลไปทุกสิ่ง
ยามหลับตาฉันไม่เห็นหรอกความจริง
อยากจะนอนนิ่งๆฝันต่อไป
ตราบเมื่อแสงขอบฟ้าเริ่มฉายแสง
ดวงตะวันสีแดงดูสดใส
จึงเห็นภาพเธอนั้นอยู่ในใจ
เป็นเหมือนดั่งดวงไฟส่องวิญญาณ
อยากหลับตาอยู่อย่างนี้ไม่อยากตื่น
ติดอยู่กับวันคืนอันแสนหวาน
ได้เห็นภาพเธอฉันในวันวาน
ลืมหมดสิ้นชั่วกาลที่ผ่านมา
หากได้พบได้เจอแค่ในฝัน
อยากหลับตาอยู่อย่างนั้นให้รู้ว่า
ในความจริงที่ฉันตื่นลืมตา
ก็คงไม่อาจเห็นหน้าเธอคนดี
ขอฉันนอนหลับอย่างนี้ตลอดไป
แลกกับการได้อยู่ใกล้เธอคนนี้
ต่อจากนั้นไม่ว่าร้ายหรือดี
ฉันไม่สนชีวิตนี้....เป็นอย่างไร
20 พฤศจิกายน 2545 10:29 น.
burst
สิ่งที่ฉันเพียรทำย้ำว่ารัก
อาจมีค่าไม่มากนักกับรักใหม่
ฉันคนเดิมแต่เธอเพิ่มเป็นสองใจ
ลืมคนเก่าเอาใหม่ไม่แคร์กัน
เธอพูดย้ำแต่คำว่า...จำเจ
ใจจึงอยากหันเหไปทางนั้น
สิ่งที่ทำซ้ำซากอยากลืมมัน
ลืมหมดกันว่าฉันทำอะไร
ก่อนเคยรักเธอต้องการเกินความรัก
เธอบอกฉันสำคัญนักกว่าสิ่งไหน
ต้องสม่ำเสมอนะหัวใจ
หากทำดีเข้าไว้จะได้ดี
ฉันเพียรเฝ้าทำดีมาเสมอ
ทำเพื่อหวังให้มีเธอในวันนี้
เธอบอกฉันว่ารักมากทุกที
รักที่ฉันเป็นคนดีไม่เหมือนใคร
แล้วทำไมวันนี้พูดหมาๆ
อย่าได้เอ่ยวาจาด่าได้ไหม
พูดมาได้ว่าจำเจ....เล่ห์อันใด
ที่ทำให้เธอเปลี่ยนไปคนละคน
หากสม่ำเสมอแล้วจำเจ
ทำให้เธอเกเรไร้เหตุผล
ณ วินาทีนี้..คงไม่ทน
ฟังถ้อยคำของคนมีหลายใจ
ก่อนเคยพูดไว้อย่างเปลี่ยนไปอย่าง
คงไม่เดินร่วมทางถึงจุดหมาย
ขอกระโดดลงข้างทางระหว่างใจ
ยืนดูเธออยู่ไกลๆ...คงสักวัน
หากวันใดเธอโดนย้ำว่าจำเจ
วันนั้นแหละคนเกเรนึกถึงฉัน
ว่าเคยพูดคำนี้ไว้ทำร้ายกัน
ฉันจะรอนะสักวัน...ฉันจะรอ
14 พฤศจิกายน 2545 17:19 น.
burst
เจ้าชู้...เจ้าชู้...เจ้าชู้
คำนี่ลบหลู่หรือไม่
รู้แต่...ฟังแล้วอึดอัดใจ
ยามเมื่อใครๆเขาว่ามา
คนเรามีใจเอาไว้รัก
ถึงจะมีมากนักก็เห็นค่า
ก็แค่เป็นคน...ช่างเจรจา
มีเสน่ห์ยามคบหากับใครๆ
พูดจาธรรมดาก็ว่าหวาน
เขาติดใจคุยนานเลยหวั่นไหว
ก็แค่เผลอบอกรักกับเขาไป
หนึ่งหัวใจแบ่งไปเป็นหลายอัน
หัวใจใครมีอยู่สี่ห้อง
ไม่พอหรอกต้องหัวใจฉัน
เป็นคอนโดหัวใจห้องนับพัน
พร้อมแจกจ่ายหัวใจฉันให้หลายคน
อย่าโทษเลยว่าผมมันเจ้าชู้
ก็แค่อยากเรียนรู้อีกหลายหน
รักมันเป็นประสบการณ์สอนคน
ให้รู้จักอดทนเมื่อรักใคร
คนเจ้าชู้อย่างผมใช่คนเลว
ใช่แหลกเหลวสำส่อนผมวอนไหว้
ก็เพียงกรุ้มกริ่มกระหยิ่มใจ
ไม่ได้หวังหรอกใครให้เคืองกัน
เกิดเป็นชายใจง่ายก็เพราะหญิง
นี่แหละหนอความจริงของตัวฉัน
มีรักใหม่แปลกหน้ามาทุกวัน
จึงต้องเปิดหัวใจฉัน...ไว้เตรียมรอ
13 พฤศจิกายน 2545 10:20 น.
burst
ผ้าห่มปกรกครึ้มดูซึมเซา
แต่ไม่ได้เงียบเหงาดังเขาว่า
เสียงนกร้องสรวลเสเจรจา
ยินสำเนียงเสียงป่าพนาไพร
ด้วยความสูงสองกิโลใหญ่โตนัก
อันดับสองยกย่องนักว่ายิ่งใหญ่
รองก็เพียงอินทนนท์คนเคยไป
แต่ลำบากเกินใครด้วยต้องเดิน
ในครั้งนี้ตั้งหน้ามาปีนเขา
ทั้งสองเราเตรียมตัวแต่เนิ่นๆ
บริหารสองขาตั้งหน้าเดิน
หนทางใดไม่ไกลเกินกว่าตั้งใจ
ตื่นตีสี่ตั้งหน้าฝ่าป่ารก
หนาวจนสั่นงันงกก็ทนไหว
หวังเพียงชื่นชมแสงอาทิตย์อุทัย
บนยอดดอยที่ยิ่งใหญ่ดั่งใจปอง
สองชั่วโมงสามชั่วโมงคงปีนป่าย
หวังให้ถึงจุดหมายด้วยเราสอง
ฝากบาดแผลระหว่างทางต่างประคอง
หวังสักทีจะต้องถึงจุดชัย
อีกไม่นานก็พิชิตยอดขุนเขา
มีสองเราสำเร็จฝันอันยิ่งใหญ่
ไม่ว่าจุดหมายนี้หรือที่ใด
หากมีเราสองใจ...จะฝ่าฟัน
-------------------------------------
เมื่อวันศุกร์ที่แล้วผมเดินทางไปอุทยานแห่งชาติ
แม่ฝางกับแฟนมาครับ หวังไปพิชิตยอดเขาสูงอันดับ2
ของไทย คือยอดดอยผ้าห่มปก ความสูง 2,285 เมตร
จากระดับน้ำทะเล รองเพียงดอยอินทนนท์ แต่ที่อินทนนท์
รถขึ้นไปถึง ใครจะไปก็ได้ แต่ที่นี่ต้องเดินป่า ปีนเขา ยากกว่า
กันหลายเท่าครับ และก็ได้ภาพนี้บนยอดดอยมาฝากครับ