13 พฤศจิกายน 2545 10:20 น.
burst
ผ้าห่มปกรกครึ้มดูซึมเซา
แต่ไม่ได้เงียบเหงาดังเขาว่า
เสียงนกร้องสรวลเสเจรจา
ยินสำเนียงเสียงป่าพนาไพร
ด้วยความสูงสองกิโลใหญ่โตนัก
อันดับสองยกย่องนักว่ายิ่งใหญ่
รองก็เพียงอินทนนท์คนเคยไป
แต่ลำบากเกินใครด้วยต้องเดิน
ในครั้งนี้ตั้งหน้ามาปีนเขา
ทั้งสองเราเตรียมตัวแต่เนิ่นๆ
บริหารสองขาตั้งหน้าเดิน
หนทางใดไม่ไกลเกินกว่าตั้งใจ
ตื่นตีสี่ตั้งหน้าฝ่าป่ารก
หนาวจนสั่นงันงกก็ทนไหว
หวังเพียงชื่นชมแสงอาทิตย์อุทัย
บนยอดดอยที่ยิ่งใหญ่ดั่งใจปอง
สองชั่วโมงสามชั่วโมงคงปีนป่าย
หวังให้ถึงจุดหมายด้วยเราสอง
ฝากบาดแผลระหว่างทางต่างประคอง
หวังสักทีจะต้องถึงจุดชัย
อีกไม่นานก็พิชิตยอดขุนเขา
มีสองเราสำเร็จฝันอันยิ่งใหญ่
ไม่ว่าจุดหมายนี้หรือที่ใด
หากมีเราสองใจ...จะฝ่าฟัน
-------------------------------------
เมื่อวันศุกร์ที่แล้วผมเดินทางไปอุทยานแห่งชาติ
แม่ฝางกับแฟนมาครับ หวังไปพิชิตยอดเขาสูงอันดับ2
ของไทย คือยอดดอยผ้าห่มปก ความสูง 2,285 เมตร
จากระดับน้ำทะเล รองเพียงดอยอินทนนท์ แต่ที่อินทนนท์
รถขึ้นไปถึง ใครจะไปก็ได้ แต่ที่นี่ต้องเดินป่า ปีนเขา ยากกว่า
กันหลายเท่าครับ และก็ได้ภาพนี้บนยอดดอยมาฝากครับ
12 พฤศจิกายน 2545 11:01 น.
burst
ใครบ้างปากตรงกับใจ
ไม่เชื่อดูได้...ปากอยู่กลางหน้า
หัวใจข้างซ้ายถัดมา
เยื้องกันอยู่กับหน้า...ไม่ตรงกัน
อันว่าปากกับใจใยไม่ตรง
คิดๆแล้วก็งงนะตัวฉัน
ไม่รู้ความคิดมันติดพัน
หรือเป็นเพราะฉันไม่เข้าใจ
บางครั้งปากอย่างใจอีกอย่าง
แค่นั้นก็ช่างหวั่นไหว
เอาอีกแล้วปากไม่ตรงใจ
คิดยังไงพูดไปไม่ตรงความ
ไอ้ปากอย่างใจอย่างยังพอว่า
แค่บางครั้งพูดจาก็ว่าพล่าม
แต่เมื่อใดหัวใจไม่คิดตาม
ก็ถึงยามที่ใจต้องกังวล
หลายครั้งปากอย่างใจสองอย่าง
ก็ต้องมีกันบ้างไร้เหตุผล
ปากพูดไปในใจมันชอบกล
ลึกเข้าไปใจคนคิดอย่างไร
คิดก่อนพูดให้ตรงทั้งใจปาก
คิดให้มากจูนปากกันเสียใหม่
คิดให้ดีพูดดีพูดตรงใจ
ก่อนวาจาจะส่งไปใจตรงกัน
ตัวของเราพูดให้ตรงใจเสียก่อน
แล้วค่อยหวังให้เขาย้อนตรงใจนั้น
จูนหัวใจและปากเราให้ตรงกัน
คงสักวันใจเขานั้น...มาตรงใจ
31 ตุลาคม 2545 11:44 น.
burst
สายเกินไปเสียแล้วตอนนี้
สายเกินกว่าที่จะแก้ไข
ฉันจะฉุดจะรั้งเธออย่างไร
มิอาจเปลี่ยนหัวใจให้กลับทัน
เธอมีความมุ่งมั่นอย่างแน่วแน่
และคงไม่มาแคร์คำพูดฉัน
ฉันจะห้ามอย่างไรไม่มีวัน
เธอนั่งยันนอนยันมันเรื่อยไป
คงไม่อาจทำให้เธอกลับเหมือนเดิม
มีแต่เธอจะเริ่มในสิ่งใหม่
สิ่งต่างๆในวันเก่าเราเป็นไง
ในวันนี้มันไม่ใช่ที่ของเรา
เธอสลัดจากฉันในวันนี้
สิ่งที่บอกว่าดีกลับโง่เขลา
คำพูดเตือนของเพื่อนรักน้ำหนักเบา
ได้แต่ดูอยู่เหงาๆเราเคยแคร์
โอ้..เพื่อนรักเธออยากไปแปลงเพศ
หน้าตามันก็ทุเรศอยู่จะแย่
อันผิวพรรณตัวมันไม่ดูแล
เป็นผู้ชายแท้ๆยังเปลี่ยนไป
ฉันคงไม่อาจทำให้...ใจเพื่อนเปลี่ยน
แม้จะต้องสะอิดสะเอียนอีกแค่ไหน
หากเห็นตอนมันแปลงแล้ว..คงทำใจ
ต้องยอมรับความจริงไว้...นี่เพื่อนกู
30 ตุลาคม 2545 10:26 น.
burst
อย่าปฏิเสธนะครับ
ว่าความจริงน่ะ...รับไม่ได้
หากคุณบอกรักกับใคร
แล้วไม่ได้หัวใจกลับคืนมา
เมื่อหว่านพืชต้องหวังผล
หวังให้ใครสักคน..เห็นค่า
หัวใจไม่ตรงกับวาจา
อย่าปฏิเสธนะว่าไม่จริง
จะต่างอะไรเมื่อ say no!
อย่างนี้ โอ้โห เหมือนโดนทิ้ง
เค้าว่าเรื่องของหัวใจให้ประวิง
อาจถูกเค้าจับโยนทิ้งแทบปางตาย
ทำยังไงเมื่อเขาปฏิเสธ
เปลี่ยนความเจ็บความทุเรศให้จางหาย
เตรียมพร้อมยอมรับความเดียวดาย
อย่าสับสนอย่าวุ่นวายโปรดใจเย็น
1. ตั้งสติให้มั่นฉันยังไหว
2. อันน้ำตาอย่าให้ใครๆเห็น
3. ทำใจว่าเรื่องเสียใจใครก็เป็น
4. อย่ามุ่งเน้นแต่ผลงานประจานตัว
5. คิดว่ารักเป็นเรื่องของสองคน
6. เค้าปฏิเสธมีเหตุผลไม่ได้มั่ว
7. อย่าคิดโกรธและหลงลงโทษตัว
8. ต้องไม่กลัวจะเริ่มความเป็นเพื่อนกัน
9. ไม่เป็นแฟนเป็นเพื่อนก็ยังดี
10. ความรู้สึกอาจจะดีมากกว่านั้น
เอาเป็นว่า 10 ข้อพอแล้วกัน
นอกนั้นตัวของฉันก็จนใจ
คิดให้ตกนะความรักมักไม่แน่
นึกว่าเขาจะแคร์อาจไม่ใช่
รักเป็นเรื่องของสองคนก็จนใจ
หากยิ่งรักเท่าไรยิ่งทรมาน
คนเราทำอะไรไม่หวังผล
ก็ไม่ใช่เป็นคนอย่างเต็มขั้น
แต่ควรเผื่อใจไว้บ้างก็แล้วกัน
ยิ่งหวังสูง..ตกมานั้น..ยิ่งใกล้ตาย
29 ตุลาคม 2545 13:56 น.
burst
ผมขอชี้แจงสำหรับข้อความเหล่านี้
------------------------------------------------------------
ให้คะแนนสำหรับสำนวนนี้ 5 คะแนน
จากคะแนนเต็ม 10 เหตุผล คือ
ใน บทที่ 5 วรรคที่ 2 คุณเขียนว่า
แมวกัดหนูเรารู้ดีเป็นอย่างงั้น
คำว่า งั้น เสียงตรี นะพ่อคุณ
วรรคที่ 2 ถ้าจะให้สวย ต้องลงด้วย
เสียงเอก เสียงโท และ เสียงจัตวา - ฮับ
จาก : ศิษย์สุนทรภู่
รหัส - วัน เวลา : 93849 - 28 ต.ค. 45 - 20:51
---------------------------------------------------------------------
เห็นด้วยกับ คุณศิษย์สุนทรภู่
คำว่า งั้น รูปวรรณยุกต์ โท ก็จริง
แต่เป็นเสียงตรี นี่ถ้าเป็นการประกวดกลอน
กรรมการคัดออกตั้งแต่รอบแรกแล้ว
อนึ่ง คุณเขียนสัมผัสซ้ำเยอะ ถ้าเป็นกลอน
ที่เขียนจำนวนบทมาก ๆ อย่าง นิราศ
ก็พอจะอนุโลม หรือ อภัยให้ได้
สำนวนนี้เขียนไม่เกิน 10 บท
มีสัมผัสซ้ำอยู่แทบทุกบท ยกเว้นบทที่ 6
ยกตัวอย่างเช่น ใจ - ใจ ในบทที่ 1
ทำ - ทำ หรือ ดี - ดี ในบทที่ 2 และ 3 ตามลำดับ
จาก : สมาชิกสมาคมนักกลอนแห่งประเทศไทย
----------------------------------------------------------------------------
ผมอยากให้ทุกคนไปอ่านกลอนของผมที่กระทู้กลอนชื่อ
ถึง....คุณศิษย์สุนทรภู่.....ด้วยความไม่เคารพ
และกระทู้ที่คุณศิษย์สุนทรภู่เขียนถึงผมในกระทู้ชื่อ
รูปของผม...กับแฟนตัวจริง
ผมข้องใจกับคำว่า ซวย ที่คุณใช้ โปรดชี้แจงผมด้วย
สำหรับตัวผม ผมเป็นนักเขียนที่มีบทความได้ตีพิมพ์ในนิตยสาร
วัยรุ่นชื่อดัง สมัยเรียน เป็นตัวแทนเขตการศึกษาเข้าแข่งขัน
แต่งกลอนระดับประเทศ ได้รางวัลพระราชทานจากสมเด็จพระเทพฯ
ในการทำหนังสือเยาวชน เป็นเว็บมาสเตอร์ในเรื่องบทความและกลอน
ให้กับบริษัทหนึ่ง และทำงานด้านสื่อมวลชนอยู่ขณะนี้ ผมอยากเรียนว่า
ผมมีดีกรีอยู่ในระดับหนึ่ง รู้ว่าอะไรถูก อะไรผิด อะไรควรไม่ควร
และไม่ชอบให้ใครมาสั่งสอนเหมือนผมเป็นเด็กประถมเพิ่งหัดเรียน
กลอนของผม มีเอกลักษณ์ที่แม้แต่คนว่าเองรับรองว่าแต่งได้ไม่เท่า
ผมชอบแบบนี้ และชอบมานานจนแต่งกลอนในเว็บนี้ 200 กว่ากลอนแล้ว
ผมชื่นชม และนับถือพี่ๆในเว็บนี้เกือบทุกท่าน ไล่ตั้งแต่พี่ปีกฟ้าไปจนถึงรุ่นน้อง
หลายๆคนที่ให้ความเห็น ผมรู้ตัว ผมมีสติ ที่แต่งกลอนในรูปแบบนี้ สัมผัสแบบนี้
ผิดๆถูกๆ มีจังหวะในการอ่านในรูปแบบต่างๆที่อาจารย์ไม่เคยสอน บางทีเป็นกลอนแร็พไปเลยก็มี กลอน 8 ของผม อาจเป็นกลอน 6 กลอน 7 กลอน 9 หรือกลอน 20 อะไรมันก็เป็นรูปแบบที่ถูกสร้างสรรค์ขึ้นมาใหม่ ยุคสมัยมันถึงพัฒนา
ไม่ใช่เอะอะก็อ้างตำรา อ้างบทเรียน อ้างรูปแบบที่อยู่มาตั้งแต่ต้นรัตนโกสินทร์
ของเก่าน่ะดี มีครู แต่ของใหม่ที่ไม่มีครูอย่างผมอย่าเอาไปเปรียบ ผมไม่กล้าหรอก ผมบอกแล้วว่าผมรู้ตัวดีว่าผมทำอะไร มีความสามารถระดับใด ผมถึงเลือก
ที่จะแต่งกลอนในรูปแบบนี้ไงครับ แบบของผม แบบที่ไม่มีครูไม่มีใครสอน
ใครชอบผมดีใจมาก แต่หากอยากให้ความเห็น กรุณาให้เกียรติกันด้วยครับ โดยเฉพาะ คุณที่ใช้ชื่อว่า ศิษย์สุนทรภู่