10 กรกฎาคม 2545 08:12 น.
burst
ให้ซี้ดซ้าด...ฟืดฟาด....รสเมนทอล
เย็นยิ่งกว่าอมฮอลล์เป็นไหนไหน
ทั้งดูดเข้าพ่นออกสบายใจ
ปล่อยเป็นวงออกไปสบายจัง
เพียงคุณจุดไฟติดเอาปากจ่อ
สองนิ้วคีบก็รอถึงสวรรค์
เหมือนล่องลอยกลางวิมานแห่งหมอกควัน
นี่แหละหนอสวรรค์เห็นรำไร
มันคือบุหรี่.....เพียงมวนเดียว
สนิทสนมกลมเกลียวมาแต่ไหน
ไม่ถึงร้อยซองเดียวหายเปลี่ยวใจ
ไม่ต้องสนใครใครมาเชิญชวน
แท้จริงใครจะคิดถึงพิษร้าย
เคยเลิกไป..ทนไม่ได้ต้องหันหวน
อยู่ดำรงคงไว้....ได้ทั้งมวน
ยิ่งสังคมเชิญชวนให้กลับมา
อันโรงงานยาสูบที่กว้างใหญ่
กว้างพอที่จะให้ขายถ้วนหน้า
ช่วยกันมอมคนไทยให้ติดยา
ให้นรกขึ้นมาอยู่บนดิน
คนยุคใหม่ขอให้ just say no!!
อย่าได้นึกว่าโก้...ทิ้งให้สิ้น
มีข้าวปลาเหลือใช้ให้พอกิน
อย่าได้เพิ่มมลทินให้ตัวเรา
รู้ก็รู้อยู่ว่ามันไม่ดี
เลิกบุหรี่วันนี้...อย่างี่เง่า
ที่สูบหนักก็ขอให้เบาเบา
ที่ไม่เคย...พอเห็นเขา...อย่าเอาตาม
9 กรกฎาคม 2545 17:03 น.
burst
ร้อนอกร้อนใจยามใครด่า
อย่าโมโหโกรธาเค้าว่าไว้
เอาน้ำเย็นเข้าลูบประโลมใจ
หนึ่งถึงร้อยนับไว้ให้ใจเย็น
บางทีสิ่งที่เห็นอยู่ตรงหน้า
อาจมีมากกว่าคำด่าที่ตาเห็น
ปล่อยสมองรับไว้ใจเย็นเย็น
สิ่งที่เป็นอาจไม่นึกค่อยตรึกตรอง
อันว่าโกรธคือโง่...โมโหคือบ้า
นี่ของกูยึดมาเป็นเจ้าของ
แท้จริงไร้สิ่งที่จับจอง
ไร้สิ่งที่เป็นเจ้าของนิรันดร์กาล
ยึดมั่นตัวกูของกู
เสียไปแล้วหดหู่น่าสงสาร
ยึดเอาไว้ในใจทรมาน
อยู่ในวัฏสงสารคนมีกรรม
แม้บางครั้งอยากเอาน้ำกรดสาดหน้า
เอาน้ำเย็นลูบตาให้ชื่นฉ่ำ
คิดให้ดีก่อนตัดสินใจทำ
นึกถึงผลของกรรมก่อนทำใคร
9 กรกฎาคม 2545 11:54 น.
burst
ณ เวลานี้
ขอสักคนที่มีใจเหมือนฉัน
มานั่งกอดเข่าพูดคุยกัน
ตามประสารู้ใจกันคนเคยเป็น
น้ำตาที่ไหลอาบหน้า
จะได้มีค่ายามมองเห็น
ให้กลั้นไว้ก็ลำบากยากเย็น
เข้าใจไหมสิ่งที่เป็นเหมือนเหมือนกัน
ฉันเพิ่งถูกทิ้งมา
และอยากเห็นว่ามีคนเหมือนฉัน
เราต่างร้องไห้ด้วยกัน
และพูดคุยทั้งวันทุกเรื่องราว
ณ เวลานี้
มีแต่เธอที่ซึ้งถึงความปวดร้าว
ขอมีเธอเท่านั้นในบางคราว
ที่ร่วมเจ็บเหน็บหนาวไปด้วยกัน
ฉันขำไม่ออกในยามนี้
และเธอคงเข้าใจดีในตัวฉัน
แค่มองหน้าน้ำตาไหลไปด้วยกัน
เวลานี้ของฉัน...คงสุขใจ
5 กรกฎาคม 2545 14:17 น.
burst
ขอโทษ....ที่หายไปหลายวัน
และกลับมาเหมือนโกรธกันขนาดนี้
ฉันไม่ได้โกรธใครนะคนดี
แต่ฉันมีเรื่องที่อึดอัดใจ
เรื่องก็มีอยู่ว่า....
มือที่สามทำตัวน่าหมั่นไส้
เลิกไปแล้วยังไม่แคล้วมาทำลาย
เหมือนเป็นเชื้อโรคร้ายในใจเรา
แฟนเราก็เหลือเกิน
ใฃ่ว่าเราห่างเหินให้เงียบเหงา
เราก็ทุ่มสุดตัวความเป็นเรา
เข้าใจบ้างหรือเปล่าในหัวใจ
ทั้งเวลาทั้งความหวังทั้งความรัก
มันไม่มีค่านัก...ใช่ไหม
เธอถึงยังคบคนเก่าเคยเข้าใจ
แล้วส่งเขามาให้บนกระบาล
หน้าหมองหมองเหมือนควายไปพักนึง
ให้หวนกลับนึกถึงวันเคยหวาน
ไม่มี...มัน....คนนั้นให้รำคาญ
ชีวิตช่างเบิกบานสบายใจ
แต่...วันนี้มันกลับมา
กลับมาพร้อมวาจาน่าหมั่นไส้
ทำเป็นคุยเป็นโทรมาเรื่อยไป
คงหวังฟื้นวันเก่าให้หวนกลับคืน
กู...มีตาอยู่สองตา
และรับรู้ทุกเวลาที่กูตื่น
เฝ้าแหกตาคอยดูมึงทุกวันคืน
สิ่งที่คอยหยิบยื่นเพื่ออะไร
อย่าให้รู้นะว่านอกใจกัน
อย่าให้รู้นะว่าฉันนั้นหลอกง่าย
หากฉันรู้ซักนิดคิดเปลี่ยนใจ
จะชาตินี้...หรือชาติไหน....อย่าใยดี
4 กรกฎาคม 2545 17:40 น.
burst
ดื้อรั้นก็คือฉันของแท้
อาจดูเหมือนไม่แคร์หน้าไหน
และไม่อาจมีคนมาเข้าใจ
ว่าที่อยู่มาได้เพราะแน่จริง
ฉันเป็นคนใจแข็ง
ยืดหยัดกล้าแกร่งสู้ทุกสิ่ง
เป็นคนยอมรับความเป็นจริง
บูชาความกล้ายิ่งสิ่งใด
แต่...เธอว่าฉันหัวแข็ง
พูดจารุนแรงเกินไปไหม
เกลียดที่ฉันไม่ยอมใคร
โดยเฉพาะหัวใจให้กับเธอ
เธอว่าฉันปกปิดตัวเอง
ในใจหวั่นเกรงอยู่เสมอ
เกรงว่าซักวันจะรักเธอ
เธอว่าฉันไม่เคยเจอรักจริงใจ
ฉันขอเถึยงชนฝาเลยเรื่องนี้
ทั้งหัวใจที่มียืนยันได้
ฉันใจแข็งใช่หัวแข็งทำตามใจ
ฉันมีเหตุผลของใจใช่เกรงกลัว
ฉันไม่ได้รักเธอ
และยืนยันอยู่เสมอไม่ได้มั่ว
ฉันใจแข็ง...ได้ยินไหม...ใครว่ากลัว
อย่าขี้ตู่เอาตัวมาประเคน
ไม่ได้รักไม่ได้รักไม่ได้รัก
อยากจะนอนดิ้นชักให้เธอเห็น
ว่าใจแข็งเกลียดอย่างที่ไม่เคยเป็น
โดยเฉพาะคนที่เห็นตัวสำคัญ