30 กรกฎาคม 2545 16:38 น.
burst
ส้มหล่นมันเป็นเรื่องดี
ส้มหล่นมายังงี้ดีนักหนา
เค้าว่าลาภก่อนใหญ่จะหล่นมา
ทั้งวอนทั้งภาวนาขอให้เจอ
แต่นี่มันไม่ใช่.....
มันมาจากความมักง่ายและพลั้งเผลอ
ได้แต่ภาวนาอย่าให้เจอ
ขอโปรดอย่าได้เหมือนเธอที่เจอดี
มันมา....จากฟ้า
ท่อนปูนยาวเกือบวาหล่นมานี่
หล่นมาทับน้องสาวเข้าพอดี
อนาคตจบตรงนี้ที่ริมทาง
มันทุบกันประสาอะไร
ทุบกันอยู่ได้อยู่ในห้าง
ไม่สนใจใครจะเดินริมทาง
อะไรจะหล่นก็ช่างเรื่องของกู
ประทานโทษครับ...ขอด่าหน่อย
อย่าได้ทำพล่อยๆแสนอดสู
คิดแต่ผลประโยชน์ของกู
มีตาไม่เคยดูประชาชี
เด็กปีหนึ่งยังไม่ถึงปริญญา
ต้องประสบโชคชะตาถึงเยี่ยงนี้
เหตุเพราะไอ้พวกอัปรีย์
วัวหายล้อมคอกทุกทีไอ้จัญไร
เพี้ยง.....
อยากให้หล่นใส่หัวลูกมัน
ดูซิดู....จะโศกศัลย์กันบ้างไหม
เอาเงินมากองส่งซักเท่าไร
ก็ไม่เท่าที่เสียไปเพราะมึงทำ
วอนเถอะครับ กทม. วิบัติแล้ว
อย่าให้ใจน้องแก้วต้องชอกช้ำ
อุบัติเหตุเตือนไว้...ใส่ใจจำ
และอย่าให้เกิดซ้ำ....กับใครเลย
29 กรกฎาคม 2545 16:19 น.
burst
ลิปสติกสีแดงแข่งกับหน้า
อายชาโดว์สีฟ้าดูตาหวาน
มาสคาร่าก็มีสีน้ำตาล
รวมทั้งหน้าสีเป็นล้านดูเข้าที
อีกแฟชั่นบูติกและสร้อยคอ
ยังไม่พอรองเท้าจากกุชชี่
กระเป๋าหลุยวิตองมองดูดี
ทั้งดิออร์ อาร์มานี่ มีครบครัน
เธองามพร้อมงามสรรพสินค้า
มีครบสิ่งล้ำค่ามากเช่นนั้น
รวมทั้งตัวกี่บาทกี่หมื่นพัน
แต่งกายโชว์เชิงชั้นสวยบาดใจ
.................................................
ลิปสติกไม่มีจึงปากแห้ง
หน้าก็แตกระแหงเป็นรอยไหม้
แก้มตอบเพราะอดอยากมีคราบไคล
ทั้งใบหน้าไม่ผ่องใสอย่างควรมี
มีเพียงผ้าขาวม้าปกปิดไว้
เสื้อม่อฮ่อมแต่งให้ถนัดถนี่
มือถือเคียวเกี่ยวข้าวไม่รอรี
หน้าสู้ดินเยี่ยงนี้ไม่มองใคร
ไม่มีหรอก...รองเท้า...มันลำบาก
จะย่ำโคลนก็แสนยากเป็นไหนไหน
ทนกลิ่นดินกลิ่นโคลนอย่างจนใจ
ทำยังไงเกิดมาเป็นสาวชาวนา
...............................................
และนี่คือความงามที่แตกต่าง
บนหนทางวิถีไทย....ได้เห็นค่า
สองความงามแตกต่างเพียงราคา
งามใดหนอ...จะมีค่า...มากกว่ากัน?
29 กรกฎาคม 2545 12:41 น.
burst
ชันเข่าหลบหน้าตรงมุมห้อง
ไม่อยากให้หน้าไหนมองมาตรงนี้
เอาหัวเข่าปาดน้ำตามาหลายที
สะอึกสะอื้นในคืนที่อยู่ลำพัง
ต้องปิดไฟเอาแสงพระจันทร์ส่อง
ในกระจกเห็นหน้าหมองเพราะความหลัง
มันทั้งเจ็บทั้งสะใจพอหรือยัง
เห็นตัวเองยังนั่งหลบสายตา
ในทีวียังเปิดเหลียวไปดู
เห็นภาพข่าวยิ่งอดสูอยากเมินหน้า
ช่วงวงเวียนชีวิตโชคชะตา
เด็กหกขวบเลี้ยงมารดาผู้พิการ
แสนรันทดชีวิตฟ้าขีดให้
ต้องลำบากใจกายน่าสงสาร
ยังอุตส่าห์ดิ้นรนไม่ขอทาน
หนักสู้เอาทำงานเลี้ยงแม่ตน
หันมามองที่ตัวเรา
ใยยังต้องมาเศร้ามาสับสน
ยังมีใครลำบากอีกหลายคน
เขายังอดยังทนสู้ต่อไป
นี่มีพ่อมีแม่มีคนอื่น
ที่ยังอยากหยิบยื่นช่วยเหลือได้
ยังจะคิดหลบหน้า...ฆ่าตัวตาย
อนาถหนอ...แพ้เด็กชายตาดำดำ
ลุกขึ้นเดินเปิดไฟเปิดหน้าต่าง
เห็นแล้วแสงสว่างกลางคืนค่ำ
ในชีวิตยังมีสิ่งที่ควรทำ
แล้วจะมัวชอกช้ำเพื่ออะไร
มีแสงจันทร์สีนวลทอแสงงาม
รอตะวันขึ้นยามเมื่อฟ้าใหม่
และพรุ่งนี้...จะเป็นวันเริ่มของใจ
ที่ฉันพร้อมก้าวต่อไป....อย่างทรนง
23 กรกฎาคม 2545 16:06 น.
burst
สสารที่ชื่อว่าของเหลว
เคลื่อนไหวตามความเลวผลักไส
บ้างเคลื่อนที่เพราะดีใจ
ความรู้สึกกระตุ้นให้เปลี่ยนแปลง
มันถูกเรียกว่า.....น้ำตา
เราจะเห็นเวลาโดนกลั่นแกล้ง
เราจะเห็นเวลาโดนเสียดแทง
เราจะเห็นเมื่อแสดงอารมณ์
ขึ้นชื่อว่า....น้ำตา
ใช่เฉพาะเวลาขื่นขม
แต่อาจเห็นได้ยามชื่นชม
ในทุกๆอารมณ์ก็อาจมี
รู้ไหม....มันมีค่าเท่าไหร่
แค่ของเหลวที่ไหลออกมานี่
มันมีค่ากว่าสิ่งใดที่โลกมี
มันเปลี่ยนได้ชีวิตนี้คนทั้งคน
มันทำให้คนเจียนตาย
มันทำให้วุ่นวายสับสน
มันทำให้เราทุกข์ทน
มันทำให้คนทำร้ายกัน
มันทำให้คนปลื้มใจ
มันทำให้เราสุขสันต์
มันทำให้เรารักกัน
มันทำให้ทุกวันโลกหมุนไป
ของเหลวที่ชื่อว่า....น้ำตา
อยู่คู่กาลเวลาไม่สลาย
อย่ากลั้นเอาไว้จนวันตาย
ปล่อยๆมันออกไป....ให้แก่กัน
แต่ด้วยความที่เป็นชาย
จึงเก็บของเหลวไว้อย่างนั้น
กักเก็บมันไว้เพื่อรอวัน
ที่สุดจะอดกลั้นอีกต่อไป
ของเหลว....ที่เรียกว่าน้ำตา
เก็บไว้จนใจนัยตาแห้งหาย
ไม่เหลือแล้วให้อดทนต่อไป
จึงระเบิดมันออกไปให้เธอดู
22 กรกฎาคม 2545 14:57 น.
burst
ยามต่างคนต่างเมินหน้า
และแอบซ่อนน้ำตาไว้ข้างหลัง
เวลานี้....ช่างเศร้าจัง
หันมาสักครั้ง...จะได้ไหม
ได้แต่คิดไว้อย่างนี้
แต่ปากตัวดี...พูดไม่ได้
มันคงจะเสียเหลี่ยมลูกผู้ชาย
และเหมือนหน้าไม่อายไปง้อเธอ
ก่อนหน้าจะโกรธกัน
มีความสุขทุกวันสม่ำเสมอ
อยากจะให้ทุกวัน..ฉันมีเธอ
และได้พบได้เจอทุกเวลา
หลังจากเราโกรธกัน
แม้มีเธอแต่ฉัน..ก็หลบหน้า
ไม่อยากเห็นแม้แว่บเดียวของสายตา
กลัวจะเห็นใบหน้าที่เกลียดชัง
เธอก็หันหน้าไป
เหมือนไม่อยากใส่ใจคนข้างหลัง
ตอนนี้เธอจะหายโกรธหรือยัง
เห็นสีหน้ายังชิงชังเลือดขึ้นตา
หน้าเธอแดงก่ำด้วยความโกรธ
คงเกินจะยกโทษเป็นนักหนา
ได้แต่มองผู้คนผ่านไปมา
แต่ไม่อาจจะกล้าหันหาเธอ
อย่าเลย....อย่าอยู่นิ่ง
จงรับความจริงอยู่เสมอ
ฉันอาจทำอะไร...ไม่ถูกใจเธอ
หันหน้ากลับไปเจอเหตุของมัน
ที่รัก....โปรดหันกลับมา
และมองดูที่แววตาของฉัน
มีอะไร...ไม่เข้าใจกัน
ยังหน้าแดงโกรธฉันหรืออย่างไร
เธอเอามือปิดหน้า....
และค่อยๆขี้ต่ำลงมาเหมือนใบ้
อ้าว......ลืมรูดซิบตั้งแต่เมื่อไร
มิน่าเล่า...เธอถึงได้หน้าแดงแดง