13 พฤศจิกายน 2546 18:12 น.
burst
ขอชี้แจงบางประการนะท่านนะ
ความที่ผมกักขฬะเกินรับได้
หญิงไร้เงาเขาว่า....น่าละอาย
ใช้ถ้อยคำหยาบคายมาแต่งกลอน
เรียนนิดหน่อยใช่ฝอยมากลบเกลือน
เข้าเว็บนี้มาหลายเดือนเพื่อนกระฉ่อน
ไม่เพียงคุณคนดีที่เว้าวอน
ให้ผมแต่งบทกลอนให้ถูกความ
กลอนคืออะไรครับ....คืออะไร
ผมปัญญาน้อยคอยผู้ใหญ่ตอบคำถาม
หากกลอนมีแง่มุมเพียงสวยงาม
ไม่มีหลอกด้านเลวทรามมาแทรกแซง
ผมคิดว่ากลอน...คือศิลปะ
ที่พร้อมจะสะท้อนความเสรแสร้ง
ที่ขุดลึกความในใจให้แสดง
และชี้แจงออกมาตามแต่ใจ
ดังนั้นกลอนจึงมีขาวและดำ
มีความสุขก็มีช้ำบ้างได้ไหม
มีอ่อนหวานก็มีโหดโฉดเกินไป
มีสนุกมีเหงาได้แล้วแต่เรา
หญิงไร้เงาเขาว่า...คำไม่เพราะ
อันวาจาก็เหมาะ...คนโง่เขลา
กี่ถ้อยคำแต่งมาได้ไม่ขัดเกลา
มิสมความที่เขาพึงพอใจ
ใช่ครั้งแรก ไม่เคยแปลก ที่โดนว่า
มีหลายคนอ่านแล้วมาว่าเข้าให้
พึงน้อมรับใส่กระบาลไม่ใส่ใจ
รู้เอาไว้แต่ไม่จำ...ไม่ทำตาม
คนหัวดื้ออย่างผมเลี้ยงไม่เชื่อง
รั้นไปหมดทุกเรื่องไม่กลัวหยาม
มีปัญญาก็น้อยนิด..จิตเลวทราม
แต่งทีไรไม่เคยงาม...สมบทกลอน
ชาติตระกูลผมไม่สูง...เชื้อกรุงเก่า
คนบ้านนอกอย่างเราเขาต้องสอน
กำลังใจที่แต่งไว้...ไม่สั่นคลอน
ยังแน่นอนแน่แน่ว...ข้าแจ๋วจริง
คงถูกว่าถูกเสียดสีอีกมากโข
ทำไงได้ไม่ไฮโซโก้ทุกสิ่ง
กลอนของผมสดับรับความจริง
ว่าโลกนี้ยังมีสิ่งซ่อนภายใน
ยอมรับว่ากลอนของใครก็ดีกว่า
แต่งแล้วสร้างคุณค่า...มีความหมาย
หากไร้คนอย่างพวกคุณคงเสียดาย
แต่ไร้คนอย่างผมได้....ไม่ต้องกลัว
ผมจะแต่งต่อไป...กลอนชีวิต
มีทั้งกัด ทั้งดัดจริต คิดชั่วๆ
ใช้อักขระก็ผิดๆ คงติดตัว
แต่งทีไรก็มั่วๆ ก็เมาๆ
ไม่อยากอ่านไม่ว่า...ถ้าอยากไล่
ผมจะไปไกลๆ แต่ไม่เศร้า
ยังภูมิใจในผลงาน...ด้านของเรา
แม้เป็นด้าน....ที่พวกเขา....ไม่เข้าใจ
------------------------------------------------------
เสียใจเล็กๆ แต่ช่างมันเถอะ คนเราต่างความคิด
13 พฤศจิกายน 2546 10:53 น.
burst
จรดปากกาปล่อยวาจาเป็นอักษร
มาร้อยเรียงสำเนียงกลอนวอนหวานหวาน
ให้ซึ้งรับจับใจในวันวาน
และตราตรึงนิรันดร์กาลในหัวใใจ
เลือกกระดาษสีชมพูดูหรูดี
แถมน่ารักออกอย่างนี้ดูสดใส
มีกลิ่นหอมอ่อนอ่อนเพื่อผ่อนคลาย
หมึกปากกายังไม่วายกลิ่นละมุน
เขียนหนึ่งบทแทนคำรักนับหมื่นพัน
ให้เธอล่องลอยดุจฝันเหมือนปุยนุ่น
ให้กรุ่นรักอบไอในใจคุณ
กลอนหวานหวานที่ลงทุนทั้งหัวใจ
มันผ่านไปนานแล้ว..........
นานจนฉันแน่แน่วเกินสงสัย
กลอนหวานหวานในวันนั้นสะท้านใจ
เหตุใดเล่าเขาทำได้....ทำร้ายกัน
ตอนนั้นมันแต่งไปได้ยังไง
ไปโดนเล่ห์เสน่ห์ใด...ไหงเป็นงั้น
ผ่านมานานกลอนหวานหวานเคยให้กัน
กลับเปลี่ยนแปลงอารมณ์ฉันฝันไปไกล
คำหวานหวานที่หว่านไว้เป็นกลอน
มันคุ้มค่ากับที่ย้อนคืนมาไหม
ต่อให้หวานกว่านั้นอีกเท่าไร
ก็ไม่อาจดึงใจให้กลับมา
อ่านไปก็เท่านั้น....กลอนวันนี้
ไม่เหลือแล้วสิ่งดีดีให้มีค่า
ที่เคยหวานเจียนตาย...กลับกลายมา
เป็นคนเขียนที่เจียนบ้าเจียนขาดใจ
ให้จ๊ะจ๋า...โอ้ที่รัก....รักนิรันดร์
คำเพราะเพราะอย่างนั้น...มันไม่ไหว
เพียงแค่คิดจะแต่ง....ขึ้นครั้งใด
ยิ่งไม่อาจทำใจ..แต่งได้เลย
---------------------------------------------------------------
ผมเลยไม่ชอบแต่งกลอนหวานๆไง ไม่มีปัญญา
13 พฤศจิกายน 2546 10:36 น.
burst
หนอยแน่ะหนอย...อีชะนี...ดีตรงไหน
ทำเป็นหวงควงผู้ชายมาเย้ยหน้า
เดี๋ยวแม่ตบด้วยนมเพิ่งเสริมมา
ตีลังกาฟันศอกซักสองที
นึกว่าสวยซะเหลือเกิ๊นนนนน...เดินตูดบิด
มันคงคิดว่ามันสวยนักนี่
ใส่สายเดี่ยวกางเกงเลเก๋ล่ะซี
จะบอกให้ว่าอย่างนี้...ละครลิง
มาด่าฉันหน้าตาเฉย...กระเทยควาย
เกินกว่าจะทนไหวให้อยู่นิ่ง
เคยไหว้พระทำบุญไว้...น่ะเรื่องจริง
แต่คราวนี้ผีมันสิงอยากเตะคน
คงไม่เคยเจอกระเทยโดดแทงเข่า
เดี๊ยะเถอะเดี๊ยะ!! ลองมั้ยเล่า!!! เอาซักหน
เป็นกระเทยก็ไม่เคยเยาะเย้ยคน
หลบไม่พ้นจะเจอเอาเข้าโรงบาล
อีเห็ดสดเดี๋ยวได้ซดใบบัวบก
ยังทำหน้าซกมกสนุกสนาน
ทำเป็นหน้าระรื่น....ทำชื่นบาน
เดี๋ยวสะท้านถึงปากซอย...คอยได้เลย
หลบเลยพี่!!! คราวนี้คงมีต่อย
เดี๋ยวจะพลอยโดนเข้าตอนเข่าเสย
ไม่อยากนะไม่อยากเป็นข่าวเลย
ขึ้นหน้าหนึ่ง...ว่ากระเทยเตะคนตาย!!!!
----------------------------------------------------------------------------
ดุนะ ระวังให้ดี กระเทยมูจาฮิดิน
12 พฤศจิกายน 2546 18:34 น.
burst
ตาสองตาแต่เกิดมาก็มองเห็น
มองทุกอย่างดั่งเป็นเช่นความฝัน
มองความจริงเหมือนชีวิตไม่ติดพัน
ล่องลอยไปในความฝันด้วยสองตา
มีชีวิตสวยงามตามแต่ใจ
ท่องเที่ยวไปแสนไกลใจหรรษา
ไม่ถือโทษโกรธใครให้ร้ายมา
มีแต่ยิ้มเปื้อนหน้าสายตามอง
ตาของเราเขาว่าเสือกไปมองต่ำ
ดูสิดู ถ้อยคำทำให้หมอง
ตาก็ตาใสใสได้แต่มอง
ไปทำแม่คุณท้องแต่เมื่อไร
ด่าว่ามองหน้าหาเรื่อง...ทำขึงขัง
อวดตัวจัง..กลัวไม่รู้...ว่ากูใหญ่
สายตาเรามองจ้องลองวัดใจ
เอาสิเอาให้รู้ไปไม่เคยกลัว
เรื่องของตาแค่มองแค่จ้องหน้า
ใยเค้าว่าตัวเราได้...ไอ้ตาถั่ว
หวังให้ตามองไปในใจกลัว
หวังให้รู้ดีชั่วท้าต่อยตี
ผมมองหน้าใช่หาเรื่องอย่าเคืองกัน
เราพี่น้องไทยด้วยกันใช่มั้ยพี่
ว่าแล้วแกล้งเดินถอยไปไม่รอรี
อนิจจา....หมัดพี่สวนทันควัน
ตาหนอตาพล่ามัวหัวสะบัด
ด้วยฤทธิ์หมัดพี่ยาให้มานั่น
อันเรื่องตาอย่าได้มองจ้องหน้ามัน
คนอย่างนี้...มีแต่มันจะต่อยเอา
--------------------------------------------------------------------
อย่าไปมองจ้องใครสุ่มสี่สุ่มห้าสุ่มหกนะครับ
เดี๋ยวตาจะมีสีและบวมช้ำไม่รู้ตัว 555
12 พฤศจิกายน 2546 12:01 น.
burst
ฝากถึงนามปากกา ผู้หญิงไร้เงานะครับ
ผมล่ะข้องใจ..ตั้งแต่ชื่อ
ไร้เงานั้นหรือ...ไร้ตรงไหน
ไร้เงา..แต่เขาคง...ไม่ไร้ใจ
แต่มันเพราะเหตุใด..ถึงไร้เงา
พอวันที่เค้าหายไป
ถึงรู้จักว่านั่นไง...ความเงียบเหงา
ชื่อเรียก...หญิงไร้เงา
จึงร้องอ๋อ...ว่าชื่อเขาเป็นยังไง
ในวันที่ไร้เงา
ไร้คนอย่างเขาเขียนกลอนให้
ถึงรู้ว่าวันนี้...ที่ไร้ใจ
และคิดถึงมากเพียงใด....หญิงไร้เงา