11 พฤศจิกายน 2550 02:03 น.
Brandy Frisky
月下獨酌 ดื่มเดียวดายใต้เงาจันทร์
花間一壺酒。มวลบุพผาประหนึ่งดังไหเหล้า
獨酌無相親。ดื่มเงียบเหงาไร้สหายคอยดื่มด้วย
舉杯邀明月。ยกจอกขึ้นมาดื่มกันพระจันทร์สวย
對影成三人。เงาดื่มด้วยแด่เราสามผู้รู้ใจ
月既不解飲。 โอ้จันทร์เจ้าไม่เข้าถึงทิพย์แห่งเหล้า
影徒隨我身。 ฝ่ายเจ้าเงาเพียงตามเราที่เคลื่อนไหว
暫伴月將影。 แต่เรายังดื่มด้วยกันไม่เป็นไร
行樂須及春。 ดื่มเข้าไปก่อนหน้าร้อนจะล่วงมา
我歌月徘徊。 ข้าขับร้องแต่จันทร์นิ่งดั่งคนเมา
我舞影零亂。 ฝ่ายเงาเจ้าเต้นระบำไปกับข้า
醒時同交歡。 ยามไม่เมาเราร่ำร้องอย่างสุขา
醉後各分散。 โอ้เพื่อนจ๋าข้าเมาแล้วขอจากจร
永結無情遊。 ขอสามเราอย่าลืมมิตรแห่งเรานา
相期邈雲漢。 วันข้างหน้าดื่มกันใต้ธารน้ำนม
(李白 (หลี่ไป๋) ประพันธ์
Brandy Frisky เรียบเรียงเป็นภาษาไทย
กลอนบทนี้ ประพันธ์โดย ท่านหลี่ไป๋ กวีอมตะ ๑ ใน ๓ มหากวีของจีน
ท่านหลี่ไป๋มีชีวิตอยู่ในราชวงค์ถัง แต่บ้านเกิดและหลุมศพของท่าน ปัจจุบันอยู่ในเขตแดนของรัสเซีย เนื่องจากปัญหาเรื่องการแย่งชิงดินแดนในประวัติศาสตร์
กลอนบทนี้ ผมไม่ได้แปลเอง แต่มีคนแปลเอาไว้เป็นภาษาอังกฤษ แล้วผมเอามาเรียบเรียงเป็นร้อยกรองอีกทีหนึ่ง ดังนั้น กรุณาอย่ามาถามผมเรื่องภาษาจีน
อนึ่ง ในท่อนที่กล่าวว่า " ดื่มเข้าไปก่อนหน้าร้อนจะล่วงมา" นั้น ในต้นฉบับจริงจริงนั้นแปลได้ว่า "ดื่มเข้าไปก่อนใบไม้ผลิจะจากจร" แต่เพราะประเทศไทยไม่มีฤดูนี้ ผมจึงเกรงว่าคุณจะจินตนาการไม่ออก จึงใช้คำว่าก่อน "หน้าร้อน" ซึ่งมีบรรยากาศใกล้เคียงกันแทน
ผมเคยเล่าถึงการแต่งกลอนบทนี้ให้เพื่อนชาวจีนฟัง ซึ่งเขากล่าวว่า "ทุกคำพูดของหลี่ไป๋ ล้วนแฝงเอาไว้ด้วยอารมณ์ของท่าน คุณไม่น่าไปแปลงเป็นภาษาอื่นเลย"
ผมจึงได้ชี้แจงไปว่า "ฉันเข้าใจ และเพื่อการนั้น ฉันเองก็ดื่มเหล้าใต้แสงจันทร์แล้วแต่งกลอนบทนี้เช่นกัน"
เขาขึงกล่าวว่า "ขี้เมาย่อมเข้าใจขี้เมาด้วยกัน ยูแต่งได้"
๕๕๕๕
อีกประการ คุณ Darkness Hero เพื่อนรักของผมได้เคยเอากลอนบทนี้มาลงเอาไว้ครั้งหนึ่งแล้ว ภายใต้คำอนุญาตของผม
จึงแจ้งเอาไว้กันการเข้าใจผิด
11 พฤศจิกายน 2550 01:50 น.
Brandy Frisky
อุปมาดั่งหมาที่แสนเศร้า
นั่งกินเหล้าเมามายมิวายกลุ้ม
ปัญหารักรอบตัวเราล้วนชุกชุม
ทำไมแม่งมาสุมอยู่แต่กู
อันเรื่องเงินกูก็แม่งเสือกไม่มี
ส่วนเรื่องหนี้แม่งก็มีให้จมหู
ทำไมกูซวยแบบนี้ก็ไม่รู้
เมื่อไรกูรวยมีเมียบ้างเสียที
นักเรียนนอกใครบอกมึงดีหนักหนา
เซ็งปั๊บฝ่าบ้าชิบหายไม่สุขี
จะหาคนกินเหล้าด้วยก็ไม่มี
แล้วกูนี้จะไปบ่นด่ากับใคร
อยากกินเหล้าเหล้าก็แพงไม่กล้าซื้อ
ไวน์หน่ะหรือไม่สำแดงแรงเรี่ยวไร้ (ไร้เรี่ยวแรง)
เพื่อนรู้ใจไว้กินด้วยหามีไม่
กูกลับไปจะเหลือไหมเพื่อนของกู
โทรติดยากต่อลำบากยากนักหนา
วันผ่านมาเหมือนเหินห่างช่างหดหู่
ความทุกข์ใจในใจนี้ใครจะรู้
เพราะหดหู่กูเลยบ่นร่ายเป็นกลอน
ช่างคิดถึงเวลาอยู่ในบ้านสู
ไม่เคยรู้คุณค่าของ บ้าน มาก่อน
เมืองไทยเราที่เคยเนาที่เคยนอน
ใจเว้าวอนคิดถึงบ้านที่จากมา
คิดถึงพ่อแม่พี่น้องแลผองเพื่อน
ใต้ดาวเดือนที่เลื่อนลับจับใจหนา
คิดถึงวันในอดีตที่ผ่านมา
วันไหนหนาข้าจะได้ได้กลับไป
มาวันนี้มาถึงนี่ที่แดนไกล
ตัวก็ไกลใจไม่รู้ว่าอยู่ไหน
ถึงว่าฟ้าผืนเดียวกันมันไม่ใช่
หากใครไม่เคยมาอยู่อย่าเถียงตู
นั่งจิบเหล้าเคล้าแสงจันทร์รอวันพรุ่ง
อรุณรุ่งจะเป็นไงใครจะรู้
ถึงไม่รู้ต้องเดินไปใช่ไหมสู
พ่อแม่ตูส่งเสียให้ให้ตูมา
ถึงลำบากยากยังไงใจต้องสู้
ห้ามหดหู่ถึงแม้หลังจะชนฝา
ชีวิตนามีแต่ต้องต้องเดินหน้า
ใครว่าบ้าข้าจะทำเรื่องของตู
ไม่รู้ใครคอยเชียร์ข้าอยู่บ้างนา
รู้แม่ข้าคอยหนุนอยู่ไม่อดสู
รู้ว่าพ่อก็เหนื่อยอยู่กูก็รู้
ตูเลยสู้ไม่มีถอยแม้ก้าวเดียว
เพื่อนๆเอยคิดถึงตูอยู่บ้างไหม
หรือว่าไม่จบไปแล้วไม่แลเหลียว
ปล่อยให้เราเฉาตายอยู่คนเดียว
ตูเปล่าเปลี่ยวใครจะเหลียวเหลียวเมียงมอง
เมืองไทยเอยจะทะเลาะไปถึงไหน
มึงรู้ไหมตูกลัวไทยแยกเป็นสอง
ตูอยู่นี่ได้แต่เพียงคอยเมียงมอง
ได้เพียงจ้องมองร้องไห้ใจมลาย
หวังไว้ว่าจะกลับไปสร้างประเทศ
ไอ้ทุเรศจะทำลายชาติชิพหาย
ไทยวอดวายประเทศชาติล้มละลาย
ไอ้ชิพหายขอสาปแช่งสาปแช่งมัน
หากไทยล่มจมสลายหายสาบสูญ
โศกอาดูรยิ่งสูญชีพกว่าอาสัญ
ประหนึ่งดังตกนรกชั่วกัลป์กัญ
ประหนึ่งวันสิ้นโลกสิ้นโลกา
ตั้งกระทู้ตูขอถามขอถามไถ่
ทำไมไทยถึงยังเชื่อเรื่องบ้าๆ
ควรมีไหมยี่สิบสี่มิถุนา
ปีเจ็ดห้าหรือว่ามันไม่ควรมี
เดโมแครกอาจเร็วไปไทยไม่พร้อม
เหมือนว่าล้อมคอกเปล่าเหล่าวัวหนี
ใช่ว่าข้าจะลบหลู่ครูปรีดี
แต่ดูซีเกิดอะไรในบ้านเรา
เรื่องอดีตเกิดไปแล้วก็แล้วไป
ช่างประลัยใครว่าไงเรื่องของเขา
อนาคตเป็นเรื่องของคนรุ่นเฮา
แต่ว่าเจ้าเหล่าผู้ใหญ่อย่าทำลาย
สักวันหนึ่งตัวข้านี้จะกลับไป
จากแดนไกลใจไทยอยู่ไม่สูญหาย
สำหรับตูคำ ไทย นี้ไม่มีตาย
ตูไม่ตายไทยยังอยู่มึงคอยดู
ประเทศชาติแปดร้อยปีสร้างมานาน
เรื่องวันวานยังจำอยู่ไม่สูญหาย
ประเทศเราต้องสานต่อต้องไม่ตาย
ถึงข้าวายไทยต้องอยู่ชั่วนิรันดร์
บรรพบุรุษเราสร้างชาติมานานนม
ประเทศจมยอมไม่ได้เรื่องแบบนั้น
สิ้นประเทศขอถามเถิดใครยอมกัน
ใครยอมนั้นอย่าเรียกตัวว่าเป็น ไท
พุทธองค์สร้างความรู้ด้วยปัญญา
แก้ปัญหาสร้างมรรคาอย่าสงสัย
ไม่ยึดติดอวิชาบ้าจังไร
แต่ทำไมบางคนพูดตลกจัง
ทุกศาสน์สอนให้คนเป็นคนดี
แล้วเรานี้จะแบ่งแยกไปถึงไหน
ศาสน์แห่งชาติจะบรรจุไปทำไม
หรือกลัวไม่มีใครเขาศรัทธาตัว
ทุกวันนี้จะสร้างบุญได้ถมเถ
คนโมเมเงินถมวัดให้ท่วมหัว
พระดีๆไม่มีเงินแทบหมดตัว
แต่คนชั่วเงินท่วมหัวคืออะไร
เดี๋ยวนี้คนไร้ศาสนามีเยอะแยะ
เพราะเจ๊าะแจ๊คนเลยเสื่อมไม่เลื่อมไสย
พุทธ์ปรัชญาอย่ายึดติดทรงสอนไว้
จำได้ไหมหรือแกล้งลืมกระนั้นฤา
ศาสน์แห่งชาติหากว่าถูกบรรจุไว้
ไม่เห็นใจศาสน์อื่นกันบ้างเลยหรือ
เขาเป็นไงช่างหัวเขากระนั้นฤา
นี่หน่ะหรือศิษย์พระพุทธองค์
หมายเหตุ แต่งเอาไว้นานแล้ว ตอนที่มีคนออกมาประท้วงให้บรรจุพุทธศาสน์เอาไว้ใน รธน. หน่ะ
11 พฤศจิกายน 2550 01:47 น.
Brandy Frisky
This poem, I would like to devote for all teachers with respectfulness.
I was an object in a pond of clay.
You picked me out of that way.
Thats you who opened my eye.
You gave me the wings to fly.
Iadmire you, teachers, with my heart and soul.
Admire what you have really done, not just your role.
You have crated even doctors, soldiers or engineers.
Teachers definitely are one of the most important careers.
With your love, I have grown to be better and better.
My intelligence, you gave, I use it to crate the future.
Heart of you, does it make of manna from the sky?
And it eternally makes your students to be riding high.
Soul of mine, will deeply worship you until my last breath.
With knowledge, I earned, I always use it to seek more and more.
I make the knowledge to be intelligence for being one, the nation rely.
Teachers aint boats, who transport students from shore-to-shore.
But, teachers exactly are wizards who give wings to students to fly.
แปล
"กลอนบทนี้ ข้าพเจ้าขออุทิศให้คุณครูทุกท่านด้วยความเคารพ"
ชั้นมันก็แค่วัตถุชิ้นหนึ่งในบ่อโคลน
แล้วคุณก็หยิบชั้นออกมา
เป็นคุณที่เปิดตาให้ฉัน
คุณคือคนที่ติดปีกให้ฉันบิน
ฉันชื่นชมคุณครูของฉันทั้งกายและใจ
ชื่นชมในสิ่งที่คุณได้ทำ ไม่ใช่ในหน้าที่ของคุณ
คุณสร้างแม้แต่หมอ ทหาร หรือวิศวกร
คุณครูเป็นอาชีพที่สำคัญที่สุดอย่างแน่นอน
ด้วยรักของคุณ ทำให้ชั้นเติบโตขึ้นเรื่อยๆ
ปัญญาที่คุณให้ฉันมา ฉันใช้มาสรรสร้างอนาคต
หัวใจของคุณทำด้วยน้ำมนต์ศักดิสิทธ์หรือไงนะ
และมันก็ทำให้ศิษย์ของคุณเติบใหญ่ขึ้นไปเรื่อยๆ
ชั้นบูชาคุณจากส่วนลึกของวิญญาณไปตราบจนลมหายใจสุดท้ายของฉัน
ด้วยความรู้ที่ฉันได้มา ฉันใช้มาต่อยอดความรู้อยู่ตลอด
ใช้ความรู้สร้างปัญญา เพื่อเป็นคนที่ประเทศชาติพึ่งพาได้
คุณครูหน่ะ ไม่ใช่เรือจ้างที่ขนนักเรียนจากฝั่งหนึ่งไปอีกฝั่งหนึ่งหรอก
ท่านเป็นจอมเวทย์ผู้ให้ปีกแก่ศิษย์เอาไว้ใช้บินต่างหาก
11 พฤศจิกายน 2550 01:34 น.
Brandy Frisky
คิดถึงเธอคิดถึงนะแม่ ขี้เมา
เธอติดเหล้าไว้หนึ่งกลมยังจำได้
ขอให้เธอจงทำงานเก็บตังค์ไว้
กลับเมื่อไรไปทวงแน่แม่คุณเอย
11 พฤศจิกายน 2550 01:31 น.
Brandy Frisky
Id tried to against the world lonely in the remote place.
My angel, youd walked alone with your sorrowful face.
At top of my world, Id seen you ran pell-mell.
Unfortunately, we were in the freezing hell.
I watched you walked and ran with a teddy bear in your hand.
Suddenly, you, my angel, were falling on the cold sand-land.
My dear angel, I thought you had searched for your man.
Oh, Wendy, tragically, I let you died alone cause I wasnt your Peter Pan.
แปล
ฉันพยายามต่อต้านโลกนี้อยู่คนเดียวในที่ๆแสนไกลห่าง
ฉันเห็นเธอ แม่นางฟ้า เดินมาคนเดียวพร้อมใบหน้าที่เศร้าโศก
ณ จุดสูงสุดของโลกของฉัน ฉันเห็นคุณเดินไปมาอย่างไร้ทิศทาง
ช่างน่าเศร้า เราอยู่ในนรกที่หนาวเหน็บ
ฉันเห็นคุณเดินๆวิ่งๆไปพร้อมกับตุ๊กตาหมีในมือของคุณ
ทันใดนัน คุณก็ล้มลงบนพื้นทะเลทายที่หนาวเหน็บ
นางฟ้าที่รัก คุณคงกำลังมองหาคนรักของเธออยู่สินะ
โอ้ เวนดี้ น่าเศร้านะที่ชั้นปล่อยให้คุณตายอย่างเดียวดายเพราะชั้นไม่ใช่ ปีเตอร์แพน