6 กันยายน 2553 16:42 น.
Boomerang
อยากกราบลงตรงตักมัวชักช้า
ได้แต่มา..กราบเตียง..เพียงก่อนค่ำ
ทุกผลงานคือแม่บทให้จดจำ
ทั้งถ้อยคำความคิดยากบิดเบือน
หัวใจท่านมั่นคงใส่ลงจิต
ให้สัตว์สิทธิ์เสมอกันเรียกมันเพื่อน
เคยเพลิดเพลินเดินป่าท่านมาเตือน
ไม่กี่เดือนกลับพิสูจน์..ที่พูดกัน
ม้วนถ่ายทำหยิบดูวันอยู่ป่า
เป็นกาลลา(น้ำตาหล่น)หรือหนนั้น?
สมองหมุนวุ่นวน..ทนทั้งวัน
ท่านแลกมันด้วยชีวิตถูกริดรอน
ยี่สิบปี..อำลา..ห้วยขาแข้ง
ผู้ยื้อแย่งผืนป่า..หน้าสลอน
การอุ้มชูอนุรักษ์ถูกพักตอน
คนใจบอน..มันฆ่าสัตว์..ตัดไม้งาม
สิ้นคุณสืบ นาคะเสถียร พร่ำเพียรบอก
คิดไม่ออกใช่ไหม?ไร้คนห้าม
จนภัยแล้งน้ำป่าไหลบ่าตาม
คิดถึงนาม..ไร้มโน..โชว์หัวควาย
แล่กวางหมีขี่หนัง..นั่งแทนเสื่อ
เอาหัวเสือแขวนข้างฝา..บ้าชิบ---
บ้านไม้สักพักบนเขื่อนเพื่อนมากมาย
ขอให้ตายเป็นสัตว์ป่าล่ากันเอง
หมดภาระจะต่อสู้...อยู่ก็ยาก
ท่านคิดมากทั้งเจ้านายหมายข่มเหง
แค่หนึ่งเปรี้ยงเสียงดัง..คืนวังเวง
คือบทเพลง..คาราบาว..อันยาวนาน
(แล้วจะให้เหลือแค่บทเพลงเป็นตำนานแค่นั้นหรือ?)
.........ด้วยความระลึกถึงคุณสืบ นาคะเสถียร...........
(ที่ครบรอบ 20ปี การจากไปของท่าน)
http://songforlife.exteen.com/20090328/entry-17
6 กันยายน 2553 15:32 น.
Boomerang
เมื่อความจริงปรากฏ..หรือหมดรัก
เป็นช่วงพักครึ่งทางที่ห่างหาย
ฉันแว่วยินสายลมพลิ้วพรมกาย
น้ำตาปรายโปรยร่วง..ในช่วงกลัว
หมดเวลาของเราแล้วเท่านี้
หรือว่ามีคนสนิท..คิดในหัว
จินตนาว่ากาลหมอกม่านมัว
จะเผยตัวเมื่อสว่างกระจ่างใจ
แต่ยังไร้เหตุผล..ที่ค้นหา
ทำแววตาฉันหมดความสดใส
จะหนีเธอยากพ้น ณ.หนใด
ด้วยภายในยังเปิด..ถ้าเกิดเจอ
อยากจะขอเหตุผล..เพราะทนได้
เธอแกล้งให้ฉันง้อล้อทีเผลอ
พิสูจน์รักหนักแน่นเป็นแฟนเธอ
ถ้าออเออมาอำ..อย่าทำเลย
เมื่อความจริงปรากฏ..ว่าหมดรัก
จะได้หักใจช้ำทำเฉยเฉย
หมดเวลาพักครึ่งรักซึ่งเคย
หรือลงเอย..ว่าจบ..ถึงหลบตา
5 กันยายน 2553 17:09 น.
Boomerang
สำนึกของคนเมา..มันเข้าข้อ
เชิญหัวร่อ..แต่อย่าหลงมาสงสาร
ฉันว่าโง่ถ้าง้อพอประมาณ
ยอมซมซานมักง่าย..อย่าได้ชวน
เพราะเมาเบียร์เช้า-สายมันหายเศร้า
ยิ่งเมาเหงาลืมสนิทไม่คิดหวล
ถ้าเป็นไวน์ยิ่งกระดก..อกรันจวน
เลิกคร่ำครวญเปลี่ยนเป็นซึ้ง..คิดถึงเธอ
ต่อให้ร้ายแสนร้ายก็หายโกรธ
เป็นของโปรดปลอบช้ำยามพร่ำเพ้อ
เมื่อไร้สิทธิ์ครอบครองมองไม่เจอ
รักเบลอเบลอเหล้าบางบาง..เข้าทางมัน
เพราะคอพับกับเหล้า..ฉันเอาอยู่
ได้คลอคู่เคียงเธอแบบเพ้อฝัน
พอนึกภาพเธอทั้งสองประคองกัน
อยากดึงดันอยากดื่ม..เดี๋ยวลืมเอง
5 กันยายน 2553 12:19 น.
Boomerang
อย่าผูกเชือก...เลือกฉันไปพันผูก
เพราะเคยปลูกต้นรักมาพักใหญ่
กลับแห้งโหยโรยร่วง..ไม่ห่วงใย
เหมือนฝันไป..ดั่งสายลมช่างซมเซา
อย่าผูกมัด...รัดนิ่งให้ยิ่งดื้อ
หัวใจซื่อไม่อยากคบ..แค่หลบเหงา
พอวันที่คลี่คลายเธอหายเงา
เจ็บบางเบาเริ่มหนัก..ที่ตักตวง
อย่าผูกพัน...กันต่อขอลาก่อน
แกล้งซุกซ่อนสีหน้าแม้ว่าห่วง
เพราะห่างฉันเธอมี..คนที่ควง
ใจร้อยดวงจ่ายแจก(ไม่แปลกใจ)
อย่าผูกใจ...ไห้หวนรันจวนจิต
กลับไปติด"บ่วงรัก"แล้วผลักไส
ช่วงเวลาแตกต่างที่ห่างไกล
ฉันครวญครางวางใจ..ยังไม่พอ
4 กันยายน 2553 06:36 น.
Boomerang
พวกปากว่าตาขยิบจิบไวน์พูด
ไร้หูรูดอ้อล้อทำคอแข็ง
พอพระเทศน์กิเลสหนาเอามาแจง
หน้ายังแดงแต่ดวลไม่ทวนคำ
ขัดจริตคิดจรัสชะมัดยาด
ที่เปรื่องปราดดำหริชอบทำรอบค่ำ
เอาเศษเหยื่อเหลือเดนมาเซ่นธรรม
คู่ประจำปากจัด..เปล่ากัดใคร
ทั้งสะสางห่างถี่ขยี้ทั่ว
ขืนร้อนตัวอิ่มหนำขยำใหญ่
เหยียดแหล่งข่าวกล่าวตามไม่ห้ามใจ
นั่งทางในยกยลว่าตนมี
อาจจะเป็นสันนิบาตในชาติก่อน
ปากจึงบอนตาขยิบกระพริบถี่
อ้างว่าสุขสนุกเพลินเชิญพาที
รู้ชั่วดี-ถี่ห่าง-เข้าข้างตน
เห็นด้วยหู..ชูตนว่าพ้นน้ำ
ได้ยินย้ำด้วยตา..มาถลน
ไม่ทุกข์ร้อนซ่อนนิ่มกริ่มกมล
อยู่ปะปนคุ้ยขุดสร้างจุดยืน