24 เมษายน 2548 17:54 น.

ด.ญ. ๙ ขวบ หมอชื่อดัง มะเร็งขั้นสุดท้าย และแม่ผู้หัวจัยสลาย ตอนจบ

bMX

แต่หนูกลับบอกว่าหนูมีความสุขมากที่สุด
ใช่ มันคงทำให้หนูปวดหัวน้อยลงสินะคงเป็นเพราะฤทธิ์ยา
ถ้าแม่รู้แต่แรกแม่คงไม่ให้หนูเจ็บอย่างงี้ เบลล์จ๋า ไม่ว่าลูกจะเป็นอะไร ลูกก้อยังเป็นลูกน้อยของแม่เสมอ สิ่งใดที่ทำให้ลูกของแม่หายจากโรคร้ายนี้ด้ายแม่จะทำ
๒๘ มีนาคม
	ทางศิริราชแจ้งผลเนื้อร้าย ลูกมีโอกาสรอดเพียง ๕0 % หรืออาจมากกว่านั้นถ้าลูกตอบรับกับยาเคมีบำบัด (คีโม) ที่ติดกัน ๕ วันต่อเดือน ซึ่งต้องชั้ยระยะเวลาบำบัด ๖ เดือนติดกันแล้วจึงดูผลต่อไปว่าจะดำเนินการอย่างไรอีก
	ผลของเคมีบำบัดทำให้ร่างกายขาดภูมิต้านทาน จะเข้าไปทำลายเซลล์เนื้อร้ายและเซลล์D จะติดเชื้อได้ง่าย ต้องควบคุมดูแลเป็นพิเศษ
	แม่บอกให้ลูกรู้เพื่อลูกจะได้รักตัวเองมีแรงสู้กับมัน
	ตอนนี้ลูกมีกำลังใจเข้มแข็งเพื่อที่จะต่อสู้กับโรคร้ายซึ่งไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะหายเหมือนเดืม
	คุณหมอได้แจ้งมาว่าเด็กเป็นเบาจืดจากปัสสาวะบ่อย ต่อมฮอร์โมนในร่างกายผิดปกติ เป็นมะเร็งที่สมองขั้นสุดท้าย ลูกบอกแม่ว่า
	เบลล์อยากกลับบ้าน เบลล์อยากระบายผ้าบาติก เบลล์อยากไปเที่ยวทะเล
	ขอให้ลูกมีแรงต่อสู้ เมื่อลูกหายแม่จะพาหนูไปจ๊ะ แม่ต้องแอบร้องไห้เสมอ เพรากลัวลูกเห็น

ขอขอบคุณคุณหมอโรงพยาบาลพญาไท ๓ คุณหมอจากโรงพยาบาลศิริราชที่ด้ายกล่าวอ้างชื่อไปและที่ไม่ได้กล่าวอ้างชื่อที่ได้ช่วยประสานงานให้กับน้องเบลล์ ซึ่งมีชีวิตรอดมาได้ถึงวันนี้ แม้ว่าจะได้อีกนานแค่ไหนก้อตาม เพราะการที่เรารอคอยน้องเบลล์เกิดมา ๙ เดือนแล้วดูการเติบโตมาจนถึงตอนนี้ เพียงแค่
ขอให้ยืนยาวที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
	คำถามที่ค้างคาใจสำหรับหัวใจที่ปวดร้าวของคนเป็นแม่
	ทำไมหมอไม่ฉุกคิดกับอาการปวดหัวบ่อยๆของเด็ก น้ำหนักที่ลดลง ทำให้น้องเบลล์เสียโอกาสเสียเวลานัยการรักษาตัว ความฉุกจัยของวิชาชีพหมอ ผลของการตรวจเลือด การตรวจสอบดูอาการแบบให้เวลาใส่ใจในอาการที่เกิดขึ้น ซึ่งตอนนี้ชีวิตของเด็กก้อเหมือนยืนอยู่บนเส้นด้าย
	ถ้าคุณหมอแนะนำก่อนหน้านี้ อาการอาจจะไม่เลวร้าย มะเร็งอาจจะอยู่ในขั้นเบาบางมากกว่านี้
	ขอให้น้องเบลล์เป็นตัวอย่างกับคุณพ่อคุณแม่เพื่อการใส่ใจในคำถามและคำตอบของหมอต่างๆมากขึ้น เพื่อที่จะได้ไม่ปวดร้าวแบบนี้ไปอีกนานแสนนาน
	คุณหมอขา แบ่งเวลาดูคนไข้อีกนิดเถอะนะ เพื่ออะไรที่ไม่ได้เกิดหรือถ้าเกิดขึ้นแล้วจะได้รักษาได้ทันท่วงT
	ทางเราด้ายมีการสอบถามประวัติคนไข้ไว้เพื่อดูรายละเอียดเกี่ยวกับการรักษาได้ติดต่อไปทางโรงพยาบาลบางกอกคริสตัลคุณจตุพร ฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์แจ้งให้รับทราบเพื่อจะขอประวัติคนไข้
	คุณจตุพรแจ้งว่าได้บอกกับผู้อำนวยการแล้ว ด้ายจัดถ่ายให้ทางเรา ๑ ชุด และขอขอบคุณสำหรับการฝากบอกให้คุณช่วยประสานกับหมอให้ โทร. หาคุณแม่เด็ก
	และการวางโทรศัพท์โดยการตัดสายของคุณ การไม่รับสาย การไม่ติดต่อกลับมา หรือสอบถามถึงอาการเด็กเลย
	สิ่งเหล่านี้ทำให้เรามองเห็นน้ำใจของคุณ
	เราอยากบอกคุณว่าน้องเบลล์ไม่ได้ขอรักษาฟรี ไม่ได้ชั้ยสิทธิ์ ๓0 บาทรักษาทุกโรคและไม้ได้ใช้สิทธิ์ประกันสังคม ทางเราไม่ได้โทษคุณ แต่เราโทษโชคชะตาของเราเองเท่านั้น
	ขอให้ผู้ที่อ่านข้อความในใจรับรู้ข้อมูลช่วยกันขอพรจากพระเจ้าให้น้องเบลล์อยู่กับเราให้นานที่สุดเท่าที่จะนานได้
	น้องเบลล์ได้บอกกับคุณแม่ว่า
	คุณแม่ขา ถ้าหนูหายแล้วกลับบ้านได้แล้ว ถ้าหนูไม่สบายอีก อย่าพาหนูไปโรงพยาบาลบางกอกคริสตัลอีกนะ ให้พาหนูไปพญาไท ๓ หรือศิริราชเถิด
	จ๊ะลูก แม่รับปากในสิ่งที่หนูขอ แม่ให้สัญญา
	แม่รักลูกแม่อยากให้ลูกรู้ว่าลูกเจ็บแค่ไหน แม่เจ็บมากกว่าอีกหลายเท่า				
23 เมษายน 2548 20:05 น.

ด.ญ. ๙ ขวบ หมอชื่อดัง มะเร็งขั้นสุดท้าย และแม่ผู้หัวจัยสลาย ตอนที่ ๒

bMX

แจ้งว่าลูกมั่ยมีแรง เพลียมาก ทานอาหารมั่ยด้ายเลย อาเจียนตลอด จึงขอนอนหั้ยน้ำเกลือที่โรงพยาบาล
	ทางคุณหมอบอกว่าจะนอนทัมมัยเด็กมั่ยด้ายขาดน้ำ ที่ปวดหัวอาจนอนน้อยจึงทัมหั้ยเพลีย หั้ยกลับบ้านด้าย และนัดมาตรวจเกี่ยวกับทางเดินอาหารนัยวันที่ ๒๑ มีนาคมที่จะถึงนี้อีกครั้ง
	
	ประมาณช่วงเย็นลูกเดินชนประตูบ้างชนตู้เย็นบ้าง สูญเสียการควบคุม จึงด้ายนัมส่งโรงพยาบาลพญาไท ๓
	เด็กมีอาการปวดหัวอย่างมาก เด็กพูดจามั่ยรู้เรื่อง เริ่มเพ้อ ทางพยาบาลแจ้งว่าถ้านำมาช้าอาจช็อกด้าย เพราะเด็กเริ่มมีอาการมาก ด้ายนอนหั้ยน้ำเกลือนัยคืนนั้น
๑๘ มีนาคม  ที่โรงพยาบาลพญาไท ๓
	คุณหมอนิดาซึ่งเป็นหมอเด็กด้ายมาทำการตรวจ และด้ายมีหมอมาดูอาการเกี่ยวกับทางเดินอาหาร หมอบอกว่ามั่ยชั่ย ซึ่งสังเกตด้ายจากช่วงขาผิดปกติ ด้ายทัมการXเรย์ร่างกายและสมองทันT
	คุณหมอนิดาด้ายประสานกับคุณหมอพัฒน์ผู้ชำนาญเกี่ยวกับฮอร์โมนเด็ก คุณหมอด้ายแจ้งหั้ยทราบนัยตอนเย็นวันนั้นว่า เด็กมีฮอร์โมนผิดปกติ มดลูกโตมากกว่าอายุจริง ร่างกายเจริญเติบโตเร็ว มีหน้าอกเหมือนเด็กอายุ ๑๑๑๒ ปี แต่คุณหมอด้ายแจ้งว่าด้ายทำการประสานกับคุณหมออีกท่านซึ่งเป็นคุณหมอด้านสมองโดยตรง ด้ายมีการเจาะเลือดปัยตรวจถึง ๒ ครั้งเพื่อตรวจสอบ
	คุณหมออรัญ คุณหมอจากโรงพยาบาลศิริราช ด้ายเข้ามาตรวจนัยวันที่ ๑๙ มีนาคม ด้ายนำผลXเรย์มาแจ้งว่า 
	เด็กเป็นเนื้อร้ายที่สมองหยั่ยมาก!
	ต้องคอยผลการตรวจเลือดยืนยันอีกครั้งว่าเป็นแบบหนัย และคุณหมอด้ายนัดหั้ยปัยพบที่โรงพยาบาลศิริราชนัยวันถัดมา
๒0 มีนาคม   ด้ายปัยขอบัยกรอกประวัติคนขั้ยที่ศิริราช
	ด้ายเข้าพบคุณหมอซึ่งคุณหมอแจ้งหั้ยทราบว่า ลูกเป็นมะเร็งขั้นสุดท้าย ต้องทำการผ่าตัดสมองเพื่อที่จะหั้ยน้ำที่มั่ยหลัยเวียนหลัยลงมาโดยการเจาะที่หัวสามรู แล้วสั่ยท่อลงปัยเพื่อที่จะทำหั้ยน้ำบนสมองหลัยตามปกติ และนำเนื้อร้ายปัยทัมการตรวจสอบหาว่าเป็นเนื้อร้ายแบบหนัยจะด้ายหั้ยตัวยารักษาที่ถูกต้อง
	หัวจัยของแม่แตกสลาย ร้องห้ายอย่างมั่ยอายครัยๆ อยากหั้ยเป็นแค่การฟังผิดหรือฝันร้ายปัยเท่านั้น
	แต่มันคือความจริง ความจริงที่เจ็บปวดเหลือเกิน น้องเบลล์ ทัมมันโลกช่างเลวร้ายกับลูกอย่างงี้  หั้ยลูกด้ายเกิดมาเป็นลูกที่น่ารักของแม่ แล้วต้องมาเจ็บปวดทรมานกับโรคร้าย
	แม่ต้องปัยย้ายโรงพยาบาลพาหนูมารักษาตัวที่ศิริราช ลูกจ๋า แม่รักลูก
รุ่งขึ้น ๒๑ มีนาคม  คุณหมอด้ายทำการผ่าตัดฉุกเฉินทันT
	ทางคุณแม่ด้าย โทร. ปัยโรงพยาบาลบางกอกคริสตัล และบอกนางพยาบาลหั้ยฝากบอกคุณหมอวันชัยว่าที่ทางคุณหมอนัดตรวจวันนี้เด็กปัยมั่ยด้ายเพราะเด็กกัมลังเข้าห้องผ่าตัดเนื่องจากเป็นมะเร็งขั้นสุดท้าย และหั้ยบอกคุณหมอรับทราบว่ายกเลิกนัด
	คุณหมอด้าย โทร. เข้ามาคุย เลยด้ายถามคุณหมอว่าทัมมัยเด็กปวดหัวหลายครั้งมาก แต่คุณหมอมั่ยเคยXเรย์หั้ยหรือแนะนำหั้ยปัยหาหมออื่นๆ
	คุณหมอตอบกลับมาว่ามั่ยเคยเจอ CASE แบบนี้ แต่จะเอาวั้ยแนะนำ
คนขั้ยอื่นๆ ที่มีอาการปวดหัวหั้ยXเรย์
	
	น้องเบลล์ หนูเข้าห้องผ่าตัด หนูด้ายเอาหัวจัยแม่คนนี้ปัยด้วย แม่ด้ายแต้ภาวนาอยู่หน้าห้อง คอยลูกของแม่ออกมาอย่างปลอดภัย
	เมื่อหนูด้ายฟื้นตื่นขึ้นมาร้องหาแม่ แม่ คนนี้Dจัยแค่หนัย ถึงบนหัวและตัวของลูกจะมีแผลมากมาย เพียงแค่หนูตื่นขึ้นมาเรียกแม่ก้อDมากพอแล้ว แม่ถามหนูว่าเป็นอย่างรัยบ้าง แม่รู้ว่าหนูคงเจ็บมาก				
23 เมษายน 2548 11:21 น.

ด.ญ. ๙ ขวบ หมอชื่อดัง มะเร็งขั้นสุดท้าย และแม่ผู้หัวจัยสลาย ตอนที่ ๑

bMX

เรื่องราวของความรับผิดชอบของหมอต่อคนขั้ย ความสำคัญระหว่าง เงินและจรรยาบรรณแพทย์ เป็นเรื่องที่ถกเถียงเล่าขานกันมาตั้งแต่อดีตอย่างมั่ยรู้จบ และอนาคตก้อคงเกิดขึ้นอีกอย่างมั่ยต้องสงสัย จะมีอีกกี่รายที่ต้องตกเป็นเหยื่อความโลภของหมอ ขณะที่คำว่า เหตุสุดวิสัยยังเป็นเกราะป้องกันที่Dเสมอสัมหรับหมอ
	จะมีสักกี่วันมั้ยที่ประชาชนคนธรรมดาอย่างเราๆ ท่านๆ สามารถลุกขึ้นส่งเสียงหั้ยดังพอที่คนอื่นๆ จะหันมาสนจันนัยปัญหาเหล่านี้  หรือยังต้องชั้ยชีวิตผู้บริสุทธิ์สังเวยความโลภของหมอต่อไปอีก
	เรื่องราวข้อเท็จจิงต่อปัยนี้คงเป็นอีกเสียงที่เรียกหาความยุติธรรมท่ามกลางความด้านชานัยจิตจัยของผู้เกี่ยวข้อง ผู้อ่านมีทางเลือกอยู่ ๒ ประการ ปล่อยหั้ยเรื่องนี้เป็นแค่ อุทาหรณ์ แล้วผ่านเลย หรือช่วยกันเล่าขานสืบต่อส่งเสียงหั้ยดังขึ้นเรื่อยๆจนสักวันหนึ่ง
	ด.ญ. ภาวิณี เดชะตระกูล หรือน้องเบลล์ เกิดเมื่อวันพุทธที่ ๖ กรกฎาคม ๒๕๓๗ ที่โรงพยาบาลบางกอกคริสตัล หมอผู้ทำคลอดคือ คุณหมอวิบูลย์
	น้องเบลล์เป็นเด็กผู้หญิงที่น่ารัก เรียนหนังสือเก่ง น้องเบลล์เรียนอยู่ที่โรงเรียนเซนต์เมโย ชั้น ป.๓ กัมลังจะขึ้นชั้น ป.๔ เคยด้ายรับเกียรติบัตรนักเรียนเรียนDและเด็กDมีน้ามจัย เป็นที่ชื่นชมของแม่และครอบครัวเท่าที่เด็กอายุ ๙ จะทัมด้าย
	ปีที่แล้วสงกรานต์แม่ยังจัมด้ายว่าหนูด้ายไปเที่ยวทะเล ด้ายเล่นน้ามทะเลอย่างมีความสุข แต่ปีนี้หนูต้องเจอกับสิ่งที่แม่มั่ยอยากจะเชื่อเลยว่ามันจะเกิดขึ้นกับลูกของแม่ด้าย
	ทุกคั้งที่หนูเจ็บขั้ย แม่มั่ยเคยเลยสักคั้งที่จะมั่ยพาหนูปัยหาหมอ
	แม่มั่ยเคยตกหล่นนัยหน้าที่การดูแลความเปลี่ยนแปลงหรือความผิดปกติของหนู
	แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกับหนู แม่มั่ยMEวันเข้าจัยด้ายเลยว่าทัมมัยมันถึงด้ายเลวร้ายด้ายถึงขนาดนี้
	หลังจากที่แม่คลอดหนูมา คุณหมอประจำตัวของหนูคือคุณหมอวิชัย 
โรงพยาบาลบางกอกคริสตัล ซึ่งแม่ก้อจะพาหนูปัยหาหมอสม่ำเสมอเมื่อยามที่หนูป่วยขั้ยหรือที่คุณหมอนัดตรวจสุขภาพตามตารางเวลา
	เป็นเวลาเกือบ ๙ ปีที่แม่มั่ยเคยตกหล่นหน้าที่ ถึงจะเช้าแค่หนัยแม่ก้อจะปัยรับบัตรQนัดเวลาพบเพื่อที่จะด้ายหาเป็นคนแรก เพราะคุณหมอเป็นคนที่มีชื่อเสียงมากคนขั้ยต้องปัยตั้งแต่ ๖ โมงช้าวเพื่อรับบัตรแต่แม่ทำทุกอย่างเพื่อลูกด้าย
	นัยระยะ ๒-๓ ปีหลังนี้ ลูกของแม่ดื่มน้ำมากผิดปกติคนธรรมดา บางครั้งถึง ๑-๒ ขวดหยั่ยต่อครั้ง แม่ก้อเคยถามคุณหมอถึงเรื่องนี้ เพราะทัมหั้ยช่วงนอนต้องตื่นขึ้นมาปัสสาวะประมาณ ๔-๕ ครั้ง
	คุณหมอก้อแจ้งว่าดื่มน้ำมากก้อปัสสาวะมากเป็นเรื่องปกติ
	นอกจากนี้ยังมีอาการปวดหัวโดยมั่ยมีขั้ยอยู่บ่อยๆ ซึ่งแม่ก้อคอยบอกหมอและสอบถามอาการที่เห็นหนูปวดหัวบ่อยๆ คุณหมอบอกว่าหนูเป็นหวัด เป็นภูมิแพ้ แม่ก้อเชื่อและหั้ยหนูทานยาตามที่คุณหมอจัดหั้ยและมั่ยเคยเปลี่ยนหมอที่อื่นเลย บางครั้งก้อพาหนูปัยหาหมอที่คลินิกส่วนตัวของหมอช่วงค่ำๆ ก้อME
	แล้วทัมมัยคุณหมอจึงมั่ยเคยสังเกตความผิดปกติของหนูกับคำถามที่แม่เคยถามอยู่บ่อยๆ กับอาการปวดหัวของลูกมาประมาณ ๒-๓ ปีมาแล้ว
	มันถึงขั้นที่ลูกจะต้องมาหาหมอถี่ขึ้นอย่างน่าจัยหาย น้ำหนักตัวลด ร่างกายซูบผอมลงอย่างมั่ยชั่ยคนป่ายขั้ยธรรมดา
๑ กุมภาพันธ์  ด้ายปัยหาหมอ
	แจ้งหมอว่าเด็กปวดหัวมาก ทานอาหารมั่ยค่อยด้าย ทานแล้วอาเจียน
	คุณหมอจัดยามาหั้ยทาน (น้ำหนัก ๒๘.๗ กิโลกรัม)
๘ กุมภาพันธ์  ด้ายปัยหาหมอ 
	แจ้งหมอว่าเด็กปวดหัวมาก ทานอาหารมั่ยค่อยลง ทานแล้วอาเจียน และถามหมอว่าทัมมัยลูกจึงมีสรีระหน้าอกหยั่ยเร็ว
	คุณหมอก้อจัดยามาหั้ย (น้ำหนัก ๒๗.๕ กิโลกรัม)
๒๘ กุมภาพันธ์  ด้ายปัยหาหมออีก
	เด็กมั่ยสบาย ปวดหัวมั่ยมีแรง รู้สึกถึงลูกผอมลง ตัวเหลือง จึงด้ายขอหั้ยหมอช่วยเจาะเลือดตรวจว่าลูกเป็นอะรัยหรือเปล่า ทานอาหารก้อมั่ยลง
	คุณหมอนัดหั้ยมาฟังผลเลือดนัยวันที่ ๘ มีนาคม และจัดยาหั้ยทาน 
(น้ำหนัก ๒๖.๓ กิโลกรัม)
๘ มีนาคม  ปัยหาหมอฟังผลตรวจเลือด
	หมอแจ้งว่าผลเลือดทุกอย่างปกติมั่ยเป็นอารัย เด็กขาดธาตุเหล็ก เลือดน้อย
	แม่ก้อแจ้งปัยว่าลูกยังปวดหัว ทานอาหารมั่ยลง เหนื่อยง่าย อ่อนเพลีย และด้ายแจ้งขอตรวจเช็กฮอร์โมน
	ทางโรงพยาบาลด้ายจัดนัดคุณหมออีกคนหั้ยนัยวันที่ ๑๗ มีนาคม แต่ทางโรงพยาบาลด้าย โทร. มาขอเลื่อนเป็นวันที่ ๑๙ มีนาคมแทน เนื่องจากหมอติดประชุม (น้ำหนัก ๒๕.๔ กิโลกรัม) น้ำหนักลูกที่ผ่านมาลดปัย ๓.๓ กิโลกรัม				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟbMX
Lovings  bMX เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟbMX
Lovings  bMX เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟbMX
Lovings  bMX เลิฟ 0 คน
  bMX
ไม่มีข้อความส่งถึงbMX