แต่พม่าล้อมกรุงอยู่นั้น นานถึงสองปีเศษ ขุนนางผู้น้อยผู้ใหญ่อาสาออกรบ แตกแยกยับเยินเข้ามา
ที่สุดจนขุนนางจีน ขุนนางแขก ขุนนางฝรั่ง ขุนนางมอญ ขุนนางลาว และนายโจรนายส้อง
ก็ชวนกันออกอาสา ตีกองทัพพม่าที่ล้อมกรุงทั้งแปดทิศ ก็มิได้ชนะ พม่ากลับฆ่าฟันล้มตายแตก
เข้ามาทั้งสิ้น ด้วยอายุแผ่นดินกรุงพระนครศรีอยุธยาถึงกาลขาด จึงอาเพศให้เห็นประหลาดเป็น
นิมิต พระประธานวัดพระเจ้าพระนางเชิง น้ำพระเนตรไหลลงมาาจนนาภี ในวังนั้น วัดพระศรีสรร
เพชญ์นั้น พระบรมไตรโลกนาถพระอุระแตก ดวงพระเนตรตำลงมาอยู่ตักเป็นอัศจรรย์ พระเจดีย์
วันราชบูรณะนั้น กาบินมาเสียบตายอยู่บนยอดโดยอาเพศ
อนึ่งรูปพระนเรศวรเจ้าโรงแสงใน กระทืบพระบาทสนั่นไปทั้งสี่ทิศ อากาศก็วิปริตไป
ต่าง ๆ บอกเหตุบอกลางจะเสียกรุง
ฝ่ายพม่าก็ยกมารบค่ายไชยวัฒนารามเก้าคืนก็แตก
แล้วมารบค่ายจีนคลองสวนพลูสิบห้าคืน สำเร็จ
ครั้น ณ วันอังคาร เดือนห้า ขึ้นเก้าค่ำ ปีกุน นพศก เพลาบ่ายสี่โมง พม่ายิงปืนป้อมสูง
วัดท่าการ้อง วัดพระนางปลื้ม ระดมเข้ามา ณ กรุง แล้วเอาเพลิงจุดเชื้อที่รากกกำแพง
ครั้นเวลาค่ำกำแพงทรุดลงหน่อยหนึ่ง พม่าก็เข้ากรุงได้ เอาไฟเผาาพระราชวัง และวัดพระศรี
สรรเพชญ์
ขึ้นเสด็จอยู่ในราชสมบัติเก้าปี พม่าจึงทำลายกำแพงกรุงเสีย แล้วกวาดเอากษัตริย์
ขัตติยวงศ์ แลท้าวพระยาเสนาบดีอพยพทั้งปวงไป
ลุศักราช ๑๑๒๙ ปีกุนนพศก แต่พระเจ้าแผ่นดินนั้น หนีออกไปจากพระนครองค์เดียว
ได้ความทุกข์ลำบากก็ถึงพิราลัยไปสู่ปรโลก ชนทั้งปวงจึงนำเอาพระศพมาแล้วก็ฝังไว้