กลอนกลบท กลอนกลบท ก็คือกลอนสุภาพ ซึ่งมักจะเห็นการเล่นกลอนกลบท ในกลอนแปด หรือกลอนเก้า โดยมีการบังคับฉันทลักษณ์พื้นฐานของกลอนสุภาพทั่วไป แต่มีการบังคับเพิ่มเติม ตามที่แต่ละกลบทนั้นๆจะกำหนดไว้ ผมขอเขียนเรื่องกลอนกลบท ไปเรื่อยๆตามแต่เวลาจะอำนวย และความสนใจ ที่ยังมีนะครับ กลอนกลบทกลบกลืนกลอน กลบทกลบกลืนกลอนนั้น มีอยู่ หลาย แบบ โดยมีรายละเอียด ดังนี้ ๑) กลอน กลบทกลบกลืนกลอน ตามแบบฉบับ ของ หลวงนายชาญภูเบศร์:ประชุมจารึกวัดพระเชตุพน) ซึ่งเขียน โดยวางหลัก แบบเดียวกับของหลวงหลวงธรรมาภิมณฑ์ (ถึก จิตรกถึก) โดยมีบังคับดังนี้ บังคับกระทู้ ๒คำ ต้นวรรคทุกบาท โดยเปลี่ยนกระทู้ทุกบท(๔วรรค) และซ้ำคำถอยหลังตรงคำที่ ๔-๕ กับ๒คำท้ายวรรคทุกวรรค สุดที่รัก ....................... สุดที่ รัก(ฝันหลับ) ยัง (หลับฝัน) สุดที่ จันทร์(เสมอหนึ่ง)มา(หนึ่งเสมอ) สุดที่ ใจ(เจอหวาน)เท่า(หวานเจอ) สุดที่ เผลอ(ไปห่าง)คิด(ห่างไป) คล้ายว่ารักแล้วลายากลาแล้ว คล้ายว่าแก้วได้วางคิดวางได้ คล้ายว่าห่วงไว้เก็บเหลือเก็บไว้ คล้ายว่าใจกำหวังอยากหวังกำ งดงามรักจิตนำชักนำจิต งดงามพิศร่ำหวานตามหวานร่ำ งดงามกวีคลำเฝ้าคิดเฝ้าคลำ งดงามจำคืนฝันคิดฝันคืน ดั่งคีตรักกล่อม,เห่หวังเห่กล่อม ดั่งคีตล้อมชื่นล้ำใจล้ำชื่น ดั่งคีตพรมยืน,นั่งยามนั่งยืน ดั่งคีตรื่นมองชะแง้แล้วชะแง้มอง สั่งสมลมรักพร่างพลิ้วพร่างรัก สั่งสมชักห้องเต็มรักเต็มห้อง สั่งสมหวามจองจำล้นจำจอง สั่งสมคะนองบังปิดช่วยปิดบัง ในม่านหนาวห้วงก่อเย็นก่อห้วง ในม่านหลวงหลั่งช่วยรักช่วยหลั่ง ในม่านใจฟัง,เฝ้าคิดเฝ้าฟัง ในม่านหลังชวนชมดุจชมชวน ห่มความรักอุ่นใจให้ใจอุ่น ห่มความละมุนหวนสุขเกิดสุขหวน ห่มความหวังมวลหมื่นในหมื่นมวล ห่มความถ้วนรอยรักสู่รักรอย ส่วนอีกแบบฉบับหนึ่ง ไม่ทราบว่าใครเขียน แต่นำมาเผยแพร่ โดย “ญามี่” โดยมีการบังคับใช้แค่คำซ้ำในคำที่ ๕ มาใช้ที่คำที่ ๗ นอกนั้นเหมือนกันหมดกับของหลวงหลวงธรรมาภิมณฑ์ (ถึก จิตรกถึก)” .................................................. สุดที่รัก (ด้วยกลบทกลบกลืนกลอน แบบฉบับ ญามี่ ) สุดที่ รักใจ(คิด)ยัง(คิด)เสมอ สุดที่ เจอแล้ว(เลย)หัน(เลย)ผ่าน สุดที่ ห่วงเหมือน(รั้ง)อย่า(รั้ง)นาน สุดที่ ธารสรรค์(ฝัน)ยอม(ฝัน)คืน ฉันยังอยู่คอยมองเยี่ยงมองฟ้า ฉันยังมาคอยยิ้มส่งยิ้มชื่น ฉันยังเขียนกวีหวานย้ำหวานยืน ฉันยังกลืนมนต์มั่นอย่างมั่นทรวง วันต่อวันโอนอ่อนใช่อ่อนไหว วันต่อไปยังเฝ้าขอเฝ้าหวง วันต่อความรักทั้งใจทั้งปวง วันต่อช่วงจิตจองสมัครจองรอ คำว่ารักจากฉันหวานฉันนี้ คำว่าลี้ยากเกิดให้เกิดก่อ คำว่ามั่นมีอยู่เหมือนอยู่คลอ คำว่าท้อไม่เคยคุ้นเคยรู้ ตราบหล้าสิ้นสมุทรหายฟ้าหายด้วย ตราบหล้าม้วยจิตเคียงยังเคียงคู่ ตราบหล้าลืมเปิดทางปิดทางดู ตราบหล้าอู้ใจชี้ยังชี้รัก รักด้วยรักเพราะถวิลเสกถวิลหวาม รักด้วยความหมายเพียงรู้เพียงจัก รักด้วยเธอคือใจพาใจภักดิ์ รักด้วยดักดื่มด่ำดุจด่ำนำ ยังตราไว้เช่นฝันเคยฝันวาด ยังตราหาดอุ่นชื่นเคยชื่นร่ำ ยังตรากานท์สองเราพาเราจำ ยังตราคำหวานเขียนต่างเขียนเคียง หยาดทิพย์ฉ่ำน้ำค้างยังค้างอยู่ หยาดทิพย์ชูรุ้งงามดูงามเยี่ยง หยาดทิพย์ทอแดดสีเป็นสีเรียง หยาดทิพย์เมียงหมอกม่านเหมือนม่านลม อีกบางตัวอย่าง ขอเพียงหวัง...โดย คน กุลา ๐ ขอเพียงรอหนอหวังยังหวังหนอ ขอเพียงก่อรักร้อยสานร้อยรัก ขอเพียงใจจักรู้ให้รู้จัก ขอเพียงภักดิ์ใจหมายดั่งหมายใจ ๐ ไม่อยากเฝ้าหลงจิตจนจิตหลง ไม่อยากพะวงไหวหวามจนหวามไหว ไม่อยากฝืนใจจำเพราะจำใจ ไม่อยากให้นางคอยจึงคอยนาง ๐ เพราะหวังไว้แสนสูงสุดสูงแสน เพราะหวังแดนพร่างพริบพรายพริบพร่าง เพราะหวังวางลางเลือนอาจเลือนลาง เพราะหวังอย่างจริงจังและจังจริง ๐ จึงมาตอบปลอบคำด้วยคำปลอบ จึงมาชอบหญิงน้องนะน้องหญิง จึงมาหวังอิงแอบอุ่นแอบอิง จึงมาติงคำตอบเธอตอบคำ ๐ รู้ว่าคงฝันไกลสุดไกลฝัน รู้ว่าพลันถลำลึกลึกถลำ รู้ว่าหากจำใจฝืนใจจำ รู้ว่าพร่ำรอหวังเกินหวังรอ ๐ แม้นว่าเธอร่วมฝันและฝันร่วม แม้นว่ารวมขอรักมั่นรักขอ แม้นว่าสู้พนอใฝ่ฝันใฝ่พนอ แม้นว่าท้อก็ทนสู้หยัดสู้ทน ............. ผมค้นพบว่า กลกบทกลบกลืนกลอน ฉบับ ที่ใช้กลอนเก้า จะจัดเรียงคำได้ไพเราะขึ้น ลองดูนะครับ ผมเรียก ว่าเป็น กลบท กลบกลืนกลอน แบบฉบับ จันทบูรณ์ เพราะไปคิดได้ ที่จันทบุรี คราวไปทำธุระที่นั่นนะครับ ๐ กวีฝึกฝันกลอนกานท์สานกลอนฝัน กวีฝึกร้อยเรียงวรรณมั่นเรียงร้อย กวีฝึกคอยสื่อสารผ่านสื่อคอย กวีฝึกความเรียงร้อยถ้อยเรียงความ ๐ นำกลอนเก้าสานประสงค์คงประสาน นำกลอนกานท์หวามไหววาดอาจไหวหวาม นำกลอนเก้าตามติดนัยใฝ่ติดตาม นำกลอนยามเยีอนเนาคอยค่อยเนาเยือน ๐ จึงให้กฎบทกวีคลายคลี่กวีบท จึงให้จรดเหมือนคราวสุขทุกคราวเหมือน จึงให้เพื่อนเตือนใจหมายใช้ใจเตือน จึงให้เยือนกันลืมให้ไม่ลืมกัน .๚ะ๛ .............................คน กุลา ๙ กค. ๕๔ :สิ่งที่ต้องคำนึงถึงมากๆ ในการเขียนกลบทที่มีการซ้ำและสลับคำ คือต้องหาคำที่สามารถให้ความหมายทั้งคำแรก และคำที่สลับกัน มิฉะนั้น เนื้อหาสาระของกลบทก็จะไม่ได้ใจความ... ทำให้กลอนกลบทนั้นๆขาดคุณค่าไปเลย หากสนใจ ก็ลองไปพิจารณาแต่งกันดูนะครับ
30 กรกฎาคม 2554 15:59 น. - comment id 34361
แซมเวียนศรีษะ... ไม่ใช่เพราะกลอนของพี่คนกุลา หรอกนะคะ.. แต่พราะที่บ้านแซม มันปาเข้าไปตีสองแล้วค่ะ.... แซมจะหัดนะคะ... ขอบพระคุณมากที่แบ่งปันค่ะ... แซมค่ะ..
30 กรกฎาคม 2554 18:46 น. - comment id 34363
แซมเวียนศรีษะ... ไม่ใช่เพราะกลอนของพี่คนกุลา หรอกนะคะ.. แต่พราะที่บ้านแซม มันปาเข้าไปตีสองแล้วค่ะ.... แซมจะหัดนะคะ... ขอบพระคุณมากที่แบ่งปันค่ะ... แซมค่ะ.. cicada ..............................
1 สิงหาคม 2554 21:53 น. - comment id 34388
เป็นกลบทที่น่าสนใจมากค่ะ...ลองแต่งดูนะคะ...หวังว่า..คุณคนกุลา...จะกรุณาช่วยชี้แนะค่ะ... ** ดุจดั่งเดือนเด่นฟ้าหรือฟ้าเด่น ดุจดั่งเช่นไหวหวามจิตหวามไหว ดุจดั่งดาวไกลลิบแล้วลิบไกล ดุจดั่งใจพันผูกรักผูกพัน.....ฯ ...แต่งยากเหมือนกันแฮะ...ทนอ่านนะคะ..มือใหม่หัดขับค่ะ....
2 สิงหาคม 2554 19:42 น. - comment id 34392
เป็นกลบทที่น่าสนใจมากค่ะ...ลองแต่งดูนะคะ...หวังว่า..คุณคนกุลา...จะกรุณาช่วยชี้แนะค่ะ... ** ดุจดั่งเดือนเด่นฟ้าหรือฟ้าเด่น ดุจดั่งเช่นไหวหวามจิตหวามไหว ดุจดั่งดาวไกลลิบแล้วลิบไกล ดุจดั่งใจพันผูกรักผูกพัน.....ฯ ...แต่งยากเหมือนกันแฮะ...ทนอ่านนะคะ..มือใหม่หัดขับค่ะ.... ราชิกา ......................... ฝีมือระดับ ราชิกา ของคุณตุ้ม เพียงแนะแนวให้ก็ไปได้โลด แล้วหละครับ ๐ เพียงอาจสอนหลักกลอนกลกลอนหลัก เพียงอาจถักฝันใฝ่ให้ใฝ่ฝัน เพียงอาจสานวันผ่านรุดผ่านวัน เพียงอาจสรรคำกล่าวคราวกล่าวคำ รักษาสุขภาพ และพักผ่อนให้เพียงพอ นะครับ เป็นห่วงเสมอ ครับ แสนคำนึง