**กาพย์ห่อโคลง**

คนกุลา

กาพย์ห่อโคลง เป็นเป็นชื่อของบทประพันธ์  ที่มีลักษณะของคำประพันธ์ ที่แต่งกาพย์สลับกับโคลงสี่สุภาพ โดยที่นิยมมากคือ กาพย์ยานี ๑๑ กับ โคลงสี่สุภาพ ทั้งกาพย์และโคลงต้องมีเนื้อความอย่างเดียวกัน มี ๔ ลักษณะคือ 
หรือบางที ก็ให้คำต้นวรรค ของกาพย์ กับคำต้นบท ของโคลง เป็นคำเหมือนกัน ส่วนบัญญัติ หรือกฏข้อบังคับต่างๆ เหมือนกับ กฎของกาพย์ยานี และโคลงสี่สุภาพ ทั้งสิ้น
ตัวอย่างกาพย์ห่อโคลง
กาพย์ห่อโคลงประพาสธารทองแดง
เที่ยวเล่นเป็นสุขเกษม....................แสนสิ่งสนุกปลุกใจหวัง
เร่ร่ายผายผาดผัง..........................หัวริกรื่นชื่นชมไพร
             สนุกเกษมเปรมหน้าเหลือบ..........ลืมหลัง
แสนสนุกปลุกใจหวัง.......................วิ่งหรี้
เดินร่ายผายผันยัง...........................ชายป่า
หัวร่อรื่นชื้นชี้..................................ส่องนิ้วชวนแล
๑. แต่งกาพย์ยานี ๑๑ บทนึง กับ โคลงสี่สุภาพ บทนึง สลับกันไป 
๑.แต่งกาพย์ยานีหนึ่งบท แล้วแต่งโคลงสี่สุภาพ ซึ่งมีเนื้อความเช่นเดียว กับกาพย์ยานี หนึ่งบท สลับกันไป ชนิดนี้ มักแต่งเป็นเรื่องสั้นๆ เป็นเชิงประกวดฝีปาก หรือสำนวน อย่างแต่งโคลงกระทู้ หรือกลอนกลบท ดังตัวอย่าง เช่น 
  
 
๒. แต่งโคลงสี่สุภาพ บทหนึ่ง กับ กาพย์ยานี ๑๑ บทหนึ่ง สลับกันไป (คล้ายกับประเภทที่หนึ่ง เพียงแต่นำเอาโคลงมาขึ้นก่อน)
 ผีเสื้อชมดอกไม้  โดย ณธีร์
(กาพย์ห่อโคลง)
                      ผีเสื้อชมดอกไม้             สวยใส 
                   สมดั่งหวังหฤทัย                ติดต้อง 
                   แดดแรงแผดแสงให้           ไหวหวั่น 
                   โอบปีกกำบังป้อง               ดอกไม้ได้เงา ฯ
                  ผีเสื้อ ชมดอกไม้             สดสวยใส ทั้งเธอสอง 
                  ผีเสื้อ สมใจปอง              ดอกไม้ ต้องตรึงตราใจ 
                  แดดแรง แผดแสงกล้า      ดอกไม้จ๋า อย่าหวั่นไหว 
                  ผีเสื้อ กำบังไว้                ให้ดอกไม้ ได้ร่มเอย ฯ
๓. แต่งโคลงสี่สุภาพ บทหนึ่ง กับ กาพย์ยานี ๑๑ หลายบท พรรณาข้อความยาวยืดไปเรื่อยจนกว่าจะพอใจ 
แบบที่ ๓ นี้ นิยมแต่งเป็นบทเห่เรือในพิธีกระบวนแห่ทางน้ำ เลยมีอีกชื่อว่า กาพย์ห่อโคลงเห่เรือ หรือ กาพย์เห่เรือ ผู้ประดิษฐ์ กาพย์เห่เรือ คือ เจ้าฟ้าธรรมธิเบศรไชยเชษฐ์สุริยวงศ์ หรือ เจ้าฟ้ากุ้ง กวีอีกท่านที่ตายเพราะรัก 
กาพย์เห่เรือนี้ เป็นที่นิยมต่อมาแพร่หลาย มีสารพัดจะเห่ชม เช่น เห่ชมกระบวนเรือ เห่ชมปลา เห่ชมไม้ เห่ชมนก เห่เรื่องกากี เห่บทสังวาส เห่ครวญ เห่เฉลิมพระเกียรติ เห่สรรเสริญคุณพระรัตนตรัย เห่ชมเครื่องคาว เห่ชมเครื่องหวาน เห่ชมเครื่องว่าง เห่ชมผลไม้ เห่ชมสวน เห่ชมโฉม เห่ชมพระนคร เห่ชมชายทะเล เห่ชมดอกไม้ ฯลฯ ตามแต่ความสนใจของผู้แต่ง 
หรือบางที ก็ให้คำต้นวรรค ของกาพย์ กับคำต้นบท ของโคลง เป็นคำเหมือนกัน ส่วนบัญญัติ หรือกฏข้อบังคับต่างๆ เหมือนกับ กฏของกาพย์ยานี และโคลงสี่สุภาพ ทั้งสิ้น 
ตัวอย่างเช่น 
กาพย์เห่เรือ พระนิพนธ์ เจ้าฟ้าธรรมาธิเบศร
เห่ชมเรือกระบวน
โคลง
๏ ปางเสด็จประเวศด้าว          ชลาลัย 
ทรงรัตนพิมานชัย                 กิ่งแก้ว 
พรั่งพร้อมพวกพลไกร            แหนแห่ 
เรือกระบวนต้นแพร้ว             เพริศพริ้งพายทอง 
กาพย์
        พระเสด็จโดยแดนชล      ทรงเรือต้นงามเฉิดฉาย 
กิ่งแก้วแพร้วพรรณราย          พายอ่อนหยับจับงามงอน 
        นาวาแน่นเป็นขนัด        ล้วนรูปสัตว์แสนยากร 
เรือริ้วทิวธงสลอน                  สาครลั่นครั่นครื้นฟอง 
        เรือครุฑยุดนาคหิ้ว        ลิ่วลอยมาพาผันผยอง 
พลพายกรายพายทอง             ร้องโห่เห่โอ้เห่มา 
        สรมุขมุขสี่ด้าน             เพียงพิมานผ่านเมฆา 
ม่านกรองทองรจนา               หลังคาแดงแย่งมังกร 
        สมรรถชัยไกรกาบแก้ว   แสงแวววับจับสาคร 
เรียบเรียงเคียงคู่จร                 ดั่งร่อนฟ้ามาแดนดิน 
        สุวรรณหงส์ทรงพู่ห้อย    งามชดช้อยลอยหลังสินธุ์ 
เพียงหงส์ทรงพรหมินทร์          ลินลาศเลื่อนเตือนตาชม 
        เรือชัยไวว่องวิ่ง              รวดเร็วจริงยิ่งอย่างลม 
เสียงเส้าเร้าระดม                    ห่มท้ายเยิ่นเดินคู่กัน 
        คชสีห์ทีผาดเผ่น             ดูดังเป็นเห็นขบขัน 
ราชสีห์ที่ยืนยัน                      คั่นสองคู่ดูยิ่งยง 
        เรือม้าหน้ามุ่งน้ำ            แล่นเฉื่อยฉ่ำลำระหง 
เพียงม้าอาชาทรง                   องค์พระพายผายผันผยอง 
        เรือสิงห์วิ่งเผ่นโผน         โจนตามคลื่นฝืนฝ่าฟอง 
ดูยิ่งสิงห์ลำพอง                      เป็นแถวท่องล่องตามกัน 
        นาคาหน้าดังเป็น            ดูเขม้นเห็นขบขัน 
มังกรถอนพายพัน                  ทันแข่งหน้าวาสุกรี 
        เลียงผาง่าเท้าโผน            เพียงโจนไปในวารี 
นาวาหน้าอินทรี                      มีปีกเหมือนเลื่อนลอยโพยม 
        ดนตรีมี่อึงอล                 ก้องกาหลพลแห่โหม 
โห่ฮึกครึกครื้นโครม                โสมนัสชื่นรื่นเริงพล 
        กรีธาหมู่นาเวศ               จากนคเรศโดยสาชล 
เหิมหื่นชื่นกระมล                    ยลมัจฉาสารพันมี 
เห่ชมปลา
โคลง
        พิศพรรณปลาว่ายเคล้า  คลึงกัน 
ถวิลสุดาดวงจันทร์                แจ่มหน้า 
มัตสยาย่อมพัวพัน                พิศวาส 
ควรฤพรากน้องช้า               ชวดเคล้าคลึงชม 
กาพย์
        พิศพรรณปลาว่ายเคล้า คิดถึงเจ้าเศร้าอารมณ์ 
มัตสยายังรู้ชม                    สาสมใจไม่พามา 
        นวลจันทร์เป็นนวลจริง เจ้างามพริ้งยิ่งนวลปลา 
คางเบือนเบือนหน้ามา         ไม่งามเท่าเจ้าเบือนชาย 
        เพียนทองงามดั่งทอง  ไม่เหมือนน้องห่มตาดพราย 
กระแหแหห่างชาย             ดั่งสายสวาทคลาดจากสม 
        แก้มช้ำช้ำใครต้อง      อันแก้มน้องช้ำเพราะชม 
ปลาทุกทุกข์อกกรม             เหมือนทุกข์พี่ที่จากนาง 
        น้ำเงินคือเงินยวง        ขาวพรายช่วงสีสำอาง 
ไม่เทียบเปรียบโฉมนาง       งามเรืองเรื่อเนื้อสองสี** 
        ปลากรายว่ายเคียงคู่     เคล้ากันอยู่ดูงามดี 
แต่นางห่างเหินพี่                เห็นปลาเคล้าเศร้าใจจร 
        หางไก่ว่ายแหวกว่าย   หางไก่คล้ายไม่มีหงอน 
คิดอนงค์องค์เอวอร             ผมประบ่าอ่าเอี่ยมไร 
        ปลาสร้อยลอยล่องชล   ว่ายเวียนวนปนกันไป 
เหมือนสร้อยทรงทรามวัย     ไม่เห็นเจ้าเศร้าบ่วาย 
        เนื้ออ่อนอ่อนแต่ชื่อ      เนื้อน้องฤๅอ่อนทั้งกาย 
ใครต้องข้องจิตชาย             ไม่วายนึกตรึกตรึงทรวง 
        ปลาเสือเหลือที่ตา        เลื่อนแหลมกว่าปลาทั้งปวง 
เหมือนตาสุดาดวง               ดูแหลมล้ำขำเพราคม 
        แมลงภู่คู่เคียงว่าย       เห็นคล้ายคล้ายน่าเชยชม 
คิดความยามเมื่อสม             สนิทเคล้าเจ้าเอวบาง 
        หวีเกศเพศชื่อปลา       คิดสุดาอ่าองค์นาง 
หวีเกล้าเจ้าสระสาง              เส้นเกศสลวยรวยกลิ่นหอม 
        ชะแวงแฝงฝั่งแนบ      ชะวาดแอบแปบปนปลอม 
เหมือนพี่แอบแนบถนอม       จอมสวาทนาฏบังอร 
        พิศดูหมู่มัจฉา             ว่ายแหวกมาในสาคร 
คะนึงนุชสุดสายสมร             มาด้วยพี่จะดีใจ 
เห่ชมไม้
โคลง
        เรือชายชมมิ่งไม้          มีพรรณ 
ริมท่าสาครคันธ์                   กลิ่นเกลี้ยง 
เพล็ดดอกออกแกมกัน          ชูช่อ 
หอมหื่นรื่นรสเพี้ยง              กลิ่นเนื้อนวลนาง 
กาพย์
        เรือชายชมมิ่งไม้         ริมท่าไสวหลากหลายพรรณ 
เพล็ดดอกออกแกมกัน          ส่งกลิ่นเกลี้ยงเพียงกลิ่นสมร 
        ชมดวงพวงนางแย้ม     บานแสล้มแย้มเกสร 
คิดความยามบังอร               แย้มโอษฐ์ยิ้มพริ้มพรายงาม 
        จำปาหนาแน่นเนื่อง     คลี่กลีบเหลืองเรืองอร่าม 
คิดคะนึงถึงนงราม               ผิวเหลืองกว่าจำปาทอง 
        ประยงค์ทรงพวงร้อย   ระย้าย้อยห้อยพวงกรอง 
เหมือนอุบะนวลละออง         เจ้าแขวนไว้ให้เรียมชม 
        พุดจีบกลีบแสล้ม         พิกุลแกมแซมสุกรม 
หอมชวยรวยตามลม            เหมือนกลิ่นน้องต้องติดใจ 
        สาวหยุดพุทธชาด        บานเกลื่อนกลาดดาษดาไป 
นึกน้องกรองมาลัย               วางให้พี่ข้างที่นอน 
        พิกุลบุนนาคบาน          กลิ่นหอมหวานซ่านขจร 
แม้นนุชสุดสายสมร               เห็นจะวอนอ้อนพี่ชาย 
        เต็งแต้วแก้วกาหลง       บานบุษบงส่งกลิ่นอาย 
หอมอยู่ไม่รู้หาย                   คล้ายกลิ่นผ้าเจ้าตาตรู 
        มะลิวัลย์พันจิกจวง         ดอกเป็นพวงร่วงเรณู 
หอมมาน่าเอ็นดู                    ชูชื่นจิตคิดวนิดา 
        ลำดวนหวนหอมตรลบ    กลิ่นอายอบสบนาสา 
นึกถวิลกลิ่นบุหงา                  รำไปเจ้าเศร้าถึงนาง 
        รวยรินกลิ่นรำเพย          คิดพี่เคยเชยกลิ่นปราง 
นั่งแนบแอบเอวบาง                ห่อนแหห่างว่างเว้นวัน 
        ชมดวงพวงมาลี              ศรีเสาวภาคย์หลากหลายพรรณ 
วนิดามาด้วยกัน                      จะอ้อนพี่ชี้ชมเชย
  
________________________________________
๔. กาพย์ขับไม้ห่อโคลง กาพย์ 
กาพย์ขับไม้ห่อโคลงแตกต่างจาก กาพย์ห่อโคลงอื่นๆที่ใช้แต่งโดยแทนที่จะใช้กาพย์ยานี  โดยแต่งด้วยกาพย์สุรางคนางค์๓๖ แล้วสลับโดยโคลงสี่สุภาพ สองบทซึ่งมีเนื้อความเช่นเดียว กับกาพย์สุรางคนางค์ สลับกันไป กาพย์ห่อโคลงชนิดนี้ เดิมทีจะใช้ร้องประกอบการขับไม้ ในงานสมโภช พิธี หลวง  แล้ววันหลังผมจะเขียนถึง กาพย์ห่อโคลงขับไม้นี้ โดยละเอียดอีก ครั้ง ครับ  (เพราะผมเองก็อยากรู้เหมือนกัน) กาพย์ขับไม้ห่อโคลงขับไม้ ขอยกตัวอย่าง เช่น
 
ตัวอย่าง:   
 
คิดถึงนวล(กาพย์ขับไม้ห่อโคลง)  โดย ดวงสมร
(กาพย์สุรางคนางค์๓๖)
จันทร์เอยฉันเศร้า.....ท่ามทะเลเหงา.....เข้าแดนความกล้า
เมฆเบียดบังเงา.....กลับคืนเหน็บหนาว.....หัวใจอ่อนล้า
ลมเจ้าเฉยชา.....ใยไม่พัดพา.....เห็นแก่ดาวจันทร์
จะโกรธเคืองขึ้ง.....น้อยใจใยจึง.....ถึงบดบังสวรรค์
สิ้นรักแล้วหรือ.....ดวงใจแสนซื่อ....อยู่ไปวันวัน
หัวใจร้าวราน.....หกล้มซมซาน.....นานคงเคียงนวล...
(โคลงสี่สุภาพ (เน้นโท๔))
จันทร์สกาวยามฟ้า.........เปิดใจ
โอบกอดเธอแนบไว้.......ตรงหน้า
นวลขาวแลเห็นไกล.......ฤดีกอด
ทอดแสงรักเครือฟ้า.......อวดแย้มยลยวน
เมฆายามตามถ้วน..........วิถี
มิบดบังฤดี....................นานได้
หากลมนำทำที..............อิดออด
คงมิกอดใครใกล้............หนาวร้ายจำทน
เป็นต้น
แหล่งอ้างอิง 
http://th.wikipedia.org/wiki 
http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=natshen&month=04-2008&date=14&group=15&gblog=4
http://www.oknation.net/blog/ThaiTeacher/2009/11/06/entry-1
http://www.oknation.net/blog/print.php?id=537735
http://www.bloggang.com/viewblog.php?id=duangsamone&date=15-01-2006&group=6&gblog=3
http://www.thaigoodview.com/node/49696				
comments powered by Disqus
  • คนกุลา

    22 สิงหาคม 2553 16:49 น. - comment id 31984

    ขอบคุณคุณลุงมากค่ะ
    ขอเก็บไว้ เป็นตัวอย่างนะคะ
    # แก้วประภัสสร
    
    ตามสบาย ครับ หลานแบม พอดี อยากตอบ ท่านพี่ แก้วประเสริฐ อาจารย์ ของหลาน แต่อยากให้เกิดความรู้ร่วมกันด้วย เลยตอบเสียที่นี่ เลย ครับ หลาน...
    
    36.gif1.gif36.gif
  • แก้วประภัสสร

    22 สิงหาคม 2553 12:03 น. - comment id 31988

    ขอบคุณคุณลุงมากค่ะ
    ขอเก็บไว้ เป็นตัวอย่างนะคะ
    29.gif36.gif36.gif16.gif
  • คนกุลา

    21 สิงหาคม 2553 15:06 น. - comment id 32014

    โดยทั่วไป กาพย์ห่อโคลง จะมีการแต่งอยู่ ๔ ประเภทหลักๆ ครับ 
    (พอดี ตอนเนื้อความมาลงประโยคนี้ หายไป ครับ) 
    
    36.gif1.gif36.gif36.gif
  • ราชิกา

    22 สิงหาคม 2553 19:19 น. - comment id 32047

    แวะเข้ามาเยี่ยมค่ะ...ได้ความรู้มากมาย...จะได้นำไปสร้างงานให้มีคุณภาพมากขึ้นค่ะ...
    
    ..คุณคนกุลา...หายไปนาน..สบายดีมั้ยคะ..ระลึกถึงเสมอค่ะ...
    
    36.gif16.gif36.gif
  • คนกุลา

    22 สิงหาคม 2553 20:21 น. - comment id 32061

    แวะเข้ามาเยี่ยมค่ะ...ได้ความรู้มากมาย...จะได้นำไปสร้างงานให้มีคุณภาพมากขึ้นค่ะ...
    
    ..คุณคนกุลา...หายไปนาน..สบายดีมั้ยคะ..ระลึกถึงเสมอค่ะ...
    
    ราชิกา 
    
    .......................
    
    ขอบคุณ ครับ เจตนา จะตอบท่านพี่แก้วประเสริฐ
    นะครับ แต่เห็นว่าจะมีประโยชน์
    ต่อการค้นคว้าของผู้ที่สนใจ จึงมาลงไว้ ในกระทู้ 
    ไม่ค่อยจะได้เข้ามา เพราะงานยุ่งมาก เลยครับ พักนี้ แต่คิดถึงคุณตุ้ม ตลอดเวลานะครับ ดูแลสุขภาพ และพักผ่อนให้เพียงพอ นะครับ 
    เป็นห่วงมากนะครับ
    
    แสนคำนึง
    
    16.gif1.gif36.gif
  • ewq

    11 มกราคม 2556 09:43 น. - comment id 38839

    15.gif16.gif33.gif

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน