..ด้วยเสาร์ อาทิตย์ บวก วันจันทร์ อีกวันที่ผ่านมา..กิ่งโศก ได้ไปร่วมงานศพ ญาติ ที่ต่างจังหวัด ..ที่จริงว่าจะลองเขียนลงในเรื่องสั้น เพราะไปเจอ ข้อมูลที่กิ่งโศกได้รับจากงานศพ น่าจนใจชิ้นหนึ่ง ..แต่ระหว่างจะลงมือเขียนลำดับเหตุการณ์ในเรื่องสั้น..สดุดกับเพลง ที่เขาเปิด ช่วงตั้งสวดศพ..ก่อนเผา..นอกจากเพลงธรณีกรรแสง ..หากนั่งนิ่งฟังแล้วโศกกินใจนักละครับ..แล้วมีเอกเพลง.. เพลงนี้ ครับ..สัปเหร่อ ...ต้นฉบับ... คำว่าต้นฉบับ คือ ต้นเสียงคนแรกที่ร้องเพลงนี้.. ผมว่าเสียงคนร้องแหบๆ ไม่เพราะสักเท่าใด อิอิ...แต่ฟังที่บทเพลง กับให้แง่คิด..ดีมาก อ้อ ผู้ร้องเพลง ชื่อประจวบ จำปาทอง...วัยสะรุ่นสมัยนี้อาจไม่รู้จัก..แต่หากบอก ว่าเป็นเจ้าของ ครีม..กวนเอง..เอ๊ย..กวนอิม..อันโด่งดังสมัยรุ่นคุณแม่กิ่งโศกยังสาว..คงพอจะติดหูบ้างนะ ขอรับ 55 ....หมดลมหายใจ แล้วไปนอนเรียงกัน ..ที่ป่าช้านั่น ไม่พ้นมือฉันพวกสัปเหร่อ... ..มาดูที่บทเพลงกันนะครับ..ไม่ทราบว่าเสียงเพลงจะดังหรือเปล่านะครับ.. ..สัปเหร่อ คำร้อง/ทำนอง : ไพบูลย์ บุตรขัน ขับร้อง : ประจวบ จำปาทอง คนเรามีกรรม เหมือนคำพุทธภาษิต ว่าเกิดมาใช้หนี้ชีวิต ลิขิตไปตามบาปกรรมสร้างมา เกิดมาเป็นคน บ้างมีบ้างจนเป็นธรรมดา เหมือนเป็นสัญญา โลกเรานี้หนาเปรียบโรงละคร เกิดมาทุกคน ไม่พ้นที่เชิงตะกอน เหลือตัวล่อนจ้อน ที่หลับที่นอนเหมือนกันคือโลง คนเรามีกรรม ต้องทำกุศลไว้บ้าง เพื่อแบ่งเบาหนี้บาปตามล้าง คิดสร้างแต่บุญเป็นทุนเชื่อมโยง อย่าหยิบอย่าฉวย หาทางร่ำรวยด้วยการกินโกง แม้นตายเข้าโรง บาปกรรมเพราะโกงติดตามเรื่อยไป ถึงเป็นเศรษฐี มั่งมีเงินทองเพียงใด หมดลมแล้วไม่อาจนำ เงินไปได้เลยสักคน เวรกรรมตามทัน เห็นกันด้วยตาก็บ่อย เข้าอยู่ในคุกไม่ใช่น้อย ไม่ค่อยจดจำในความทุกข์ทน สวรรค์ในอก และมีนรกในดวงกมล ขอเตือนทุกคน ว่ามีหรือจนไม่เห็นสำคัญ หมดลมหายใจ แล้วไปนอนเรียงเคียงกัน ที่ป่าช้านั่น ไม่พ้นมือฉันพวกสัปเหร่อ ...สุดท้ายก็ตายเป็นผี ..ที่คงเหลือ คงแค่คุณความดี และไม่ดี ให้คนรุ่นหลังได้จดจำเท่านั้น.. ๐ ลมหล่อชีพอยู่ยั้ง.......ดำรง ใยเล่าโลภยอบหลง.....กิเลสเคล้า อำนาจใช่อยู่ยง.......ค้ำยก ท้ายสุดคืนสู่เหย้า....กลบด้วยดินถม ฯ กิ่งโศก
9 กุมภาพันธ์ 2553 15:15 น. - comment id 27329
เอารูปข้างบนไปแปะหน้า ทวิตเตอร์ ชาวดูไบ หน่อยไหมครับ....เผื่อจะทำใจได้บ้าง
9 กุมภาพันธ์ 2553 17:53 น. - comment id 27330
โพสต์ยาก โพสต์เย็น จริงจริ๊งง ไม่ได้โม้... ได้ป่าว นี่
9 กุมภาพันธ์ 2553 17:55 น. - comment id 27331
โห....ได้แฮะ... นั่งโพสต์มาตั้งนานจนลืมไปแล้วว่า จะเขียนอะไร อิอิ ตั้งใจมาให้กำลังใจพี่กิ่งฯคับผม
10 กุมภาพันธ์ 2553 00:54 น. - comment id 27333
..... ง่วงนอนอ่ะพี่กิ่งขา............
9 กุมภาพันธ์ 2553 21:51 น. - comment id 27334
. ทุกข์คนมีกรรมเป็นของตัวเองทั้งนั้นนนนนน มาตัวเปล่า...ก๋ไปตัวเปล่า.. ชีวิตคนสั้นนัก...
9 กุมภาพันธ์ 2553 16:03 น. - comment id 27338
คุณแบม ถูกแล้วครับ ดังนั้น ตอนเราอยู่ เราไม่ควร เบียดบังผู้อื่นเพื่อ เราจะรำรวยเงินทอง.. แม้ว่าวิธีเบียดบัง จะยากที่จะตรวจสอบ แต่เจตนา..นั้นเห็นๆ .. สถานที่เดียว..ที่ทุกคนจะต้องนอนร่วมกันครับ..
9 กุมภาพันธ์ 2553 13:19 น. - comment id 27339
จะชาวนา ยาจก ร่ำรวยล้นฟ้า ล้วนแล้วแต่พบจุดจบเหมือนๆกันค่ะ ต่างกันตรงที่ ใครกระทำความดีได้มากกว่ากัน
9 กุมภาพันธ์ 2553 13:55 น. - comment id 27340
ใครทราบที่มาของบทเพลงช่วยสงเคราะห์ ให้ด้วยครับ อิอิ ( ง่ายดีเลยเรา หุหุ)
9 กุมภาพันธ์ 2553 14:50 น. - comment id 27341
สัปเหร่อ- ยอดรัก สลักใจ E ....ดนตรี.......... ...คนเรา มีกรรม เหมือนคำ พุทธภาษิต ว่า เกิดมา ใช้หนี้ ชีวิต ลิขิต ไปตาม บาปกรรมสร้าง มา เกิดมา เป็นคน บ้างมี บ้างจน เป็นธรรมดา เหมือน เป็น สัญญา โลกเรา นี้หนา เปรียบโรง ละคร เกิดมา ทุกคน ไม่พ้น ที่เชิง ตะกอน เหลือ ตัว ล่อนจ้อน ที่หลับ ที่นอน เหมือนกัน คือโรง ...คนเรา มีกรรม ต้องทำ กุศล ไว้บ้าง เพื่อ แบ่งเบา หนี้บาป ตามล้าง คิดสร้าง แต่บุญ เป็นทุนเชื่อม โยง อย่าหยิบ อย่าฉวย หาทาง ร่ำรวย ด้วยการ กินโกง แม้นตาย เข้าโรง บาปกรรม เพราะโกง ติดตาม เรื่อยไป ถึงเป็น เศรษฐี มั่งมี เงินทอง เพียงใด หมดลม แล้วไม่ อาจนำ เงินไป ได้เลย สักคน ...เวรกรรม ตามทัน เห็นกัน ด้วยตา ก็บ่อย เข้า อยู่ใน คุกไม่ ใช่น้อย ไม่ค่อย จดจำ ในความ ทุกข์ทน สวรรค์ ในอก และมี นรก ในดวง กมล ขอเตือน ทุกคน ว่ามี หรือจน ไม่เห็น สำคัญ หมดลม หายใจ แล้วไป นอนเรียง เคียงกัน ที่ป่า ช้านั่น ไม่พ้น มือฉัน พวก สัปเหร่อ มีกรรมเป็นพวกพ้อง.... เผ่าพันธ์ กฏแห่งกรรมกางกั้น....สิ่งได้ จริงแท้แน่นอนนั้น....ธรรมดา กฏแห่งกรรมบ่งไว้......ป่วยไข้ผลกรรม นำเเน้อเพลงพี่ยอดรัก สลักใจมาด้วยค่ะ พี่กิ่งโศก
9 กุมภาพันธ์ 2553 16:05 น. - comment id 27342
น้องดอกบัว ขอบคุณที่นำบทเพลงเรียกว่า "ร่วมสมัย"ยืมคำของคุณเฌอฯ มาใช้หน่อยอิอิ ..ขอบคุณในบทโคลง ส่งท้ายด้วยจ้า
9 กุมภาพันธ์ 2553 16:07 น. - comment id 27343
คุณสดายุ ได้เลยครับรูปนี้ แต่กลัวว่า..มันจะขลังเหรอครับ อิอิอิ เอ...ดูไบ นี่ทำไมเหรอครับ ใครอะ..อยู่ดูไบ..
9 กุมภาพันธ์ 2553 17:07 น. - comment id 27344
พิมไม่ชอบเพลงงานศพเลย มันเศร้าวังเวงหดหู่ ได้ยินครั้งใด นึกถึงงานศพคุณแม่ทุกที เคยเปรยๆกับญาติ พี่น้องไว้ว่า ถ้าพิมตายไม่ต้องเปิดนะ ชอบเงียบๆ อิอิ ชีวิตเราก็เท่านี้น๊อ...
10 กุมภาพันธ์ 2553 09:34 น. - comment id 27345
คุณน้ำตาลหวาน การตายเหมือนการหมดซึ่งกรรม..หมดกิจกรรมไปแล้ว คงทิ้งภาระไว้กับคนที่มีชีวิตอยู่ครับ ... มีหลายคนอยากรู้อยากทราบ.. ว่าชีวิต หลังความตายเป็นอย่างไร... ไปไหน สภาวะ..ของชีวิตหลังความเป็นยังไง.. หาอ่านได้นะครับ..หุหุ
10 กุมภาพันธ์ 2553 09:35 น. - comment id 27346
คุณม่านแก้ว ..พี่กิ่งรอว่าจะโพสยังไงอยู่ ดันไปรบ กะ วิธีการโพสซะนี่ อิอิ ไม่เป็นไรจ้า โพสได้แล้ว แสดงว่าบ้านพี่กิ่ง..ไม่ได้ลงยันต์คาถาอะไรไว้จ้า
10 กุมภาพันธ์ 2553 09:37 น. - comment id 27347
ครูพิม ที่นอนที่สุดท้ายของมนุษย์ทุกคนละครับ.. เพียงแต่ว่าใครจะไปถึงก่อนกัน ใครไปถึงก่อน แสดงว่า สร้างกรรมไว้น้อยครับ ..เรียกว่าหมดกรรม..ใช้กรรมหมดแล้ว
10 กุมภาพันธ์ 2553 09:38 น. - comment id 27348
น้องฉาง ..พักผ่อนบ้างนะ น้องหมวย ออร์เดอร์ ต่างๆ ค่อยๆ ทำ ทำไปเรื่อย ๆ เหนื่อย ก้อทิ้ง ..พัก จ้า