ปาฏิหาริย์มีขายที่ไหน? คำถามเล็กๆ ที่รอคอยความหวัง ดังกึกก้องอยู่ภายในใจของครอบครัว เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ และคนที่ได้รู้จัก "นรุตม์ มงคลศิริภัทรา" เด็กหนุ่มวัย 19 ปี ที่ป่วยเป็น "โรคมะเร็งกระดูก" ซึ่งแพทย์ระบุว่าอาจจะมีชีวิตอยู่ได้ไม่เกิน 6 เดือน ใครจะคาดคิดว่าหนุ่มน้อยที่มีนิสัยร่าเริง อารมณ์ดี ขี้เล่น ขยันเรียน และเป็นที่รักของทุกคน เฉกเช่น นรุตม์ กลับต้องมาผจญกับความเจ็บปวด เนื่องจากทราบผลว่าตัวเองเป็นโรคมะเร็งกระดูก . . . ห่างเพียงแค่หนึ่งวัน หลังจากทราบผลว่าตัวเองสามารถทำตามความฝันสำเร็จ นั่นคือการเอ็นทรานซ์สอบเข้าคณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ตามที่ใฝ่ฝัน แต่เมื่อสอบได้แล้วเขากลับไม่เคยได้สวมใส่เครื่องแบบนิสิต และไม่เคยได้เข้าไปสัมผัสบรรยากาศของการเป็นน้องใหม่ เพราะเขาต้องเข้าๆ ออกๆ โรงพยาบาลเสมอ เพื่อรักษาอาการ "โรคมะเร็งกระดูก" นรุตม์ มีช่วงเวลาดีใจปลาบปลื้มกับความสำเร็จเพียงแค่ 1 วัน หลังจากนั้นเขาก็ทราบข่าวร้ายว่าตัวเองเป็นโรคมะเร็งกระดูกบริเวณสะโพกด้านซ้าย ถึงแม้ว่าเขาจะมีอาการปวดขามานานเป็นปีแล้ว แต่เขาก็ไปรับการรักษามาหลายโรงพยาบาล ทั้งโรงพยาบาลเอกชนและรัฐบาล ใครๆ บอกว่าที่ไหนดีเขาก็จะเดินทางไปรับการรักษาเสมอๆ ซึ่งแต่ละที่ก็สรุปผลการตรวจรักษาว่า อาการของเขาเป็นเพราะกล้ามเนื้ออักเสบ อันเป็นอาการปกติของเด็กวัยรุ่น ที่ชอบเล่นกีฬา และรับการรักษาโดยการทานยา ฉีดยา และนวดกล้ามเนื้อ ทั้งๆ ที่ นรุตม์ มีก้อนเนื้อเล็กๆ ที่ค่อยๆ เติบโตขึ้นบริเวณกระดูกสะโพกข้างซ้าย แต่กลับไม่มีใครเฉลียวใจ ซึ่งวันหนึ่งอาการเขาก็แสดงออกมา โดยหลังจากที่เขากลับจากไปเที่ยวกับเพื่อนๆ ที่หัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เขารู้สึกปวดขามากๆ ปวดจนทนไม่ไหว ต้องให้พี่สาวพาไปตรวจที่โรงพยาบาลทันที และจากการตรวจขั้นต้นแพทย์วินิจฉัยโรคได้แล้ว แต่ขอทำ MRI (เครื่องตรวจร่างกายโดยการสร้างภาพเหมือนจริง ของส่วนต่างๆของร่างกาย โดยใช้สนามแม่เหล็กความเข้มสูง และคลื่นความถี่ในย่านความถี่วิทยุ สามารถตรวจหาความผิดปกติของอวัยวะต่างๆ ในร่างกายได้) และตัดชิ้นเนื้อจากก้อนเนื้องอกที่สะโพกไปตรวจ เพื่อความมั่นใจอีกครั้ง คืนนั้นแพทย์ให้ นรุตม์ กลับบ้าน และนัดฟังผลในวันรุ่งขึ้น ผลจากการทำ MRI และตัดชิ้นเนื้อจากก้อนเนื้องอกที่สะโพก สรุปออกมาว่า นรุตม์ เป็น "มะเร็งกระดูก" และคำพูดคำแรกที่ นรุตม์ ได้ยินจากปากพี่ชาย คือ "ทำไม...ถึงให้เราดีใจแค่วันเดียว..." เพราะครอบครัวต่างดีอกดีใจกับข่าวดีของ นรุตม์ ที่สามารถเอ็นทรานซ์ติดเมื่อวานนี้เอง ข่าวที่โหดร้ายที่สุดสำหรับครอบครัวกำลังมีความสุขและความหวัง วันนั้นพ่อของนรุตม์ปฏิเสธการแจ้งข่าวร้ายแก่ นรุตม์ โดยพ่อยืนยันหนักแน่นว่า "ตราบที่ยังมีลมหายใจ...ชีวิตต้องมีความหวัง" ฉะนั้น จงอย่าพูดอะไรที่ตัดทอนความหวังของนรุตม์ แต่อย่างไรก็ตาม ในที่สุดเขาก็รับรู้ว่าตัวเองกำลังต้องพบเจอกับอะไร และผลที่ตามมาต่อจากนี้คือ ความยุ่งยากที่ต้องวิ่งวุ่น ตั้งแต่เรื่องการรักษาพยาบาล เพราะลำพังครอบครัวชนชั้นกลางของ นรุตม์ คงไม่มีหนทางหาเงินมารักษาโรคร้ายในโรงพยาบาลเอกชนได้ยาวนานนัก เพราะเพียงแค่ 5 วันในขั้นตอนของการวินิจฉัยโรคที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง ก็ต้องเสียค่าใช้จ่ายไปกว่า 7 หมื่นบาท เรื่องการวิ่งเต้นหาทางย้ายเข้าโรงพยาบาลรัฐบาลขนาดใหญ่ เพื่อใช้สิทธิการประกันสุขภาพถ้วนหน้า หรือบัตร 30 บาทรักษาทุกโรค เพราะ นรุตม์ มีชื่อตามสิทธิอยู่ที่โรงพยาบาลแหลมสิงห์ จังหวัดจันทบุรี และเรื่องการรักษาสิทธิการเรียนในคณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย เพราะผลการสอบที่ออกมาเป็นเพียงขั้นตอนการสอบข้อเขียน นรุตม์ ต้องไปรายงานตัวเพื่อสอบสัมภาษณ์ และตรวจสุขภาพ ซึ่งเป็นขั้นตอนที่ขาดไม่ได้ ซึ่งนับตั้งแต่วันที่ทราบผลจนถึงวันนี้ นรุตม์ต้องต่อสู้กับอาการเจ็บปวดที่ขามากๆ เขาต้องเข้ารับการบำบัดอาการปวดด้วยยาในกลุ่มมอร์ฟีนมาโดยตลอด ขั้นตอนการรักษาตั้งแต่การให้เคมีบำบัด 6 คอร์ส และฉายแสง 31 ครั้ง แต่ก็ไม่อาจทำให้ก้อนเนื้อเล็กลง กลับทำให้มันโตขึ้นมาก และเริ่มลุกลามไปยังอวัยวะอื่นๆ ทำให้แผนการผ่าตัดเอากระดูกเชิงกรานออกต้องถูกยกเลิกออกไป และที่น่าตกใจคือ แพทย์ระบุว่า นรุตม์ อาจจะอยู่ได้ไม่เกิน 6 เดือน ทำให้สิ่งที่ทุกคนในครอบครัวหวังขณะนี้คือ การบรรเทาความเจ็บปวดให้ นรุตม์ กำลังใจ และปาฏิหาริย์ที่ยิ่งใหญ่ เพราะตลอดระยะเวลาที่ นรุตม์ เข้ารับการรักษา พ่อของเขาได้แต่มองดูอาการเจ็บปวดของลูกชายด้วยหัวใจที่เศร้าสร้อย...และนี่คือข้อความที่ถ่ายทอดความรู้สึกจากใจของหัวอกคนเป็นพ่อ พ่อที่ต้องเจ็บปวดกับอาการป่วยของลูกชายวัยรุ่นที่กำลังมีอนาคตสดใส พ่อที่ร้องไห้กับฟ้าดินว่า..ทำไมจึงให้เราดีใจแค่วันเดียว และนี่คือจดหมายของพ่อที่ได้บรรยายความรักของพ่อที่มีต่อนรุตม์ ...พ่อครับ รุตม์ปวด ...พ่อครับ รุตม์ทนไม่ไหวแล้ว ...พ่อครับ รุตม์กลัว เป็นเสียงร้องของนรุตม์ยามปวด ซึ่งเป็นเสียงที่ทรมานใจพ่อมาก อาทิตย์นี้ทั้งอาทิตย์นรุตม์ปวดมาก ทรมานมาก พ่อจะช่วยลูกได้อย่างไร จะทำยังไง พ่อช่วยอะไรลูกไม่ได้เลย มันเป็นความเจ็บปวดทรมานใจมาก ที่ไม่สามารถช่วย หรือทำอะไรได้เลย พ่อร้องไห้ทุกวัน แต่ไม่เคยให้ลูกได้เห็นน้ำตาพ่อ พ่อได้แต่ปลอบและให้กำลังใจแก่นรุตม์ ทั้งๆ ที่รู้ว่าอะไร เป็นยังไงเกี่ยวกับตัวโรคที่นรุตม์เป็นอยู่ แต่ละวันที่ผ่านไปหัวใจของพ่อที่เคยพองโต ด้วยความรักของพ่อที่มีต่อลูก มันเหลือเพียงนิดเดียว พ่อรอวันที่มันจะกลับมาเหมือนเดิม จากพ่อที่รักลูกสุดชีวิต อย่างไรก็ตาม เรื่องราวของ นรุตม์ ถูกถ่ายทอดลงในบล็อกส่วนตัวของเขา ของเพื่อนๆ พี่ๆ จนกลายเป็นเรื่องเล่าปากต่อปาก ทำให้ตลอดเวลาที่ นรุตม์ รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล จะมีผู้คนรอบข้างทั้งที่รู้จักและไม่รู้จัก นอกเหนือไปจากครอบครัว ญาติพี่น้อง และเพื่อนๆ พี่ๆ เดินทางมาเยี่ยมเยือนถามไถ่อาการของเขาเสมอๆ หรือแม้แต่จากเพื่อนของญาติ พ่อแม่ของเพื่อน จากเพื่อนของเพื่อนของเพื่อน หลายคนแวะเวียนมาทักทาย มาคอยพูดคุยให้กำลังใจ จนกลายเป็นความสนิทสนม ทั้งที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน แต่จู่ๆ วันหนึ่งรายการเจาะใจ ก็ได้พา "เคน-ธีรเดช วงศ์พัวพันธ์" ดาราหนุ่มรูปหล่อขวัญใจของ นรุตม์ พร้อมทีมงานรายการเจาะใจมาเซอร์ไพรส์ที่โรงพยาบาล เพื่อให้กำลังใจ นรุตม์ พร้อมกันนี้ เคน ยังได้มอบไม้ตีกลองให้แก่ นรุตม์ เป็นของขวัญ และบอกกับนรุตม์ว่า "ขอให้นรุตม์รีบหาย แล้วมาตีกลองให้พี่เคนฟังอีก" เพราะ เคน สืบทราบมาว่า นรุตม์ ชอบตีกลองมาตั้งแต่เด็ก ทำให้วันนั้นมีรอยยิ้มปรากฎอยู่บนใบหน้าของ นรุตม์ ตลอดเวลา เพียงแค่กำลังใจเล็กๆ แต่ยิ่งใหญ่ที่ทุกคนต่างมอบให้ ก็สามารถยื้อชีวิตที่กำลังมีอนาคตที่สดใส ให้ก้าวเดินต่อไปข้างหน้า เพื่อทำตามความฝันของตัวเองให้สำเร็จ และมีแรงต่อสู้กับโรคร้าย ... ติดตามและเป็นกำลังใจให้กับ "นรุตม์ มงคลศิริภัทรา" ในรายการ เจาะใจ วันที่พฤหัสบดีที่ 20 พฤศจิกายนนี้ เวลา 22.10 น. ทางช่อง 5 ....ชีวิตคนเราก็เท่านี้เอง.... ที่มา : forward mail จ้า
20 พฤศจิกายน 2551 09:14 น. - comment id 22003
ปาฏิหาริย์ กบ !ทรงสิทธิ์ รุ่งนพคุณศรี เมื่อเราเจอกัน มองตาแค่ครั้งเดียว ก็ผูกพันเหมือนใกล้ชิดมานาน บอกไม่ถูกว่าทำไม หรือเราจะเคยเจอะเจอกันชาติก่อน ต่างใจตรงกัน มองตาก็เข้าใจ แต่อาจเป็นเพียง ได้แค่มองตา อยากจะกอดเก็บเธอใว้ แต่พบกันเมื่อสาย ไม่อยากจะแย่งใคร น่าจะเจอกันมาตั้งนาน ก่อนที่เธอจะเป็นของใคร อยากให้มันมีปาฏิหาริย์ ให้ตัวฉันย้อนเวลากลับไป จะไม่ยอมให้เราพรากกัน ฉันคงจะพบรักเธอก่อนใคร มันน่าเสียดาย น่าจะเจอกันมาตั้งนาน ก่อนที่เธอจะเป็นของใคร อยากให้มันมีปาฏิหาริย์ ให้ตัวฉันย้อนเวลากลับไป จะไม่ยอมให้เราพรากกัน ฉันคงจะพบรักเธอก่อนใคร พบกันสายไป มันน่าเสียดาย ปาฏิหาริย์ไม่มีจริง ได้อ่านเรื่องราวนี้เหมือนกันจ้า
20 พฤศจิกายน 2551 10:28 น. - comment id 22004
ปาฏิหารย์มีขายที่ไหน? เห็นชื่อเรื่องแล้ว..หากเจอร้านบอกด้วยเนาะ กะลังหาซื้ออยู่จ้า..แต่หายากจัง.. คนเราก็เท่านี้.. สุขอย่าได้สร่าง
20 พฤศจิกายน 2551 23:31 น. - comment id 22007
.....ได้อ่านจดหมายจากพ่อ แล้วน้ำตาซึมเลยคะ คิดถึงใจเขาใจเรา เศร้าจัง ....ปาฏิหาริย์.......ไม่มีขาย หาซื้อไม่ได้มั้งคะ น่าจะอยู่ที่กำลังใจของผุ้ป่วยเองมากกว่า ฉางน้อยคิดแบบนี้คะ ..... ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆนะคะ คุณเจน..
21 พฤศจิกายน 2551 15:48 น. - comment id 22008
21 พฤศจิกายน 2551 23:57 น. - comment id 22009
บางที ปาฎิหาร์ยก็มาปรากฎ โดยไม่ได้นัดหมายเสมอ... อย่างหลายๆเคสที่หมอทางต่างประเทศ ได้เป็นปาฎิหาร์ยรับรักษาอยู่บ่อยๆ ขอให้คุณพบปาฎิหาร์ยนั้นอย่างเร็ววันนะคะ และอย่าพึ่งยอมแพ้กับชะตาเสียหล่ะ สู้ ๆๆ ขอบคุณน้องเจนที่เอาจม ดีๆมาให้อ่านค่ะ
22 พฤศจิกายน 2551 03:56 น. - comment id 22010
น่าสงสารจัง
22 พฤศจิกายน 2551 22:30 น. - comment id 22017
ขอร่วมไว้อาลัย น้องนรุตม์ ... แม้จะกำลังใจจากทุกคนที่มอบให้กับนรุตม์อย่างมากมาย มหาศาล และทุกคนต่างก็อธิษฐานให้ปาฏิหาริย์เกิดขึ้นกับน้องนรุตม์ให้หายป่วย แต่ดูเหมือนว่าความหวังนี้จะไม่เป็นผลซะแล้ว เพราะเมื่อเช้าวันที่ 21 พฤศจิกายน น้องนรุตม์ก็ได้จากพวกเราไป . . . . ที่มา : เว็บกระปุก ดีจ้า... คุณเฌอมาลย์... คุณคอนพูทน... คุณฉางน้อย... พี่เพียงพลิ้ว... พี่ยาแก้ปวด... ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมจ้า... เรื่องราวของน้องนรุตม์ ได้ให้ข้อคิดกะเจนหลายอย่างเลย...ได้ทบทวนเรื่องราวต่างๆที่ผ่านมา...เวลาที่เราได้มาเท่ากัน...เราได้ทำ มันให้มีคุณค่าแล้วหรือยัง...เพราะสิ่งที่ผ่านไป เมื่อวันใหม่มันก็กลายเป็นอดีต ซึ่งเราไม่ สามารถกลับไปแก้ไขอะไรได้อีก...หลายสิ่ง ที่เคยผิดพลาด มันมีเหตุปัจจัยให้เป็นไป แต่ไม่ว่าอะไรก้อตาม ณ เวลานั้นคือสิ่งที่ ทำได้ดีที่สุดแล้ว... จะว่าไปเจนก้อรู้สึกโชคดีที่เป็นมนุษย์น้อย คนหนึ่งที่ได้ทำอะไรตามใจที่อยากทำ... ได้ทำให้ใครหลายๆคนมีรอยยิ้ม แม้เค้า จะมองไม่เห็น ขอบคุณน้องๆโรงเรียน สอนคนตาบอดกรุงเทพฯ ได้ทำให้ใคร หลายๆคนหัวเราะและเล่นสนุก ขอบคุณ น้องๆบ้านเด็กอ่อนปากเกร็ด...ได้รับ การตอบรับทางกายว่าได้รับความห่วงใย ขอบคุณน้องๆบ้านเฟื่องฟ้า...และพรุ่งนี้ ก็เป็นอีกวันที่เจนจะได้รับอะไรดีดี... จากน้องๆบ้านเด็กตาบอดและพิการซ้ำซ้อน จะเป็นอะไรน๊ะ.... ที่สำคัญคงต้องขอบคุณเพื่อนๆพี่ๆบ้านกลอน ไทยที่ให้โอกาสและมอบความอบอุ่นให้ มันมีความหมายมากจ้า...พี่สาวและพี่ชาย หลายคนล้วนแต่แนะนำสิ่งที่เป็นประโยชน์ ต่อน้องคนนี้เสมอ (ขอบคุณที่ไม่รำคาญ ในความง๊องแง๊งอ่ะจ้า หุหุ) ปล.สุดท้ายขอบคุณเพลงเปลี่ยนชีวิตที่พี่ชายคนหนึ่งแนะนำให้ฟัง....ก่อนมะลิบาน... เป็นเพลงที่เปิดฟังเสมอ เวลาท้อใจ... ยังมีคนมากมายที่ลำบากกว่าเรา...มอง โลกแง่ดีที่ซ่อนอยู่...และเราก้อจะพบ คุณค่าที่น่าประทับใจ...
25 พฤศจิกายน 2551 16:53 น. - comment id 22027
เศร้าจังนะคะ แต่ในความโชคร้ายก็มีความโชคดีที่เราเรียกว่า "ปาฏิหารย์"เกิดขึ้นเนาะ ขออวยพรให้น้องหายไวๆกำลังใจแข็งแกร่งนะคะ สู้ๆ
25 พฤศจิกายน 2551 23:04 น. - comment id 22030
ปาฏิหาริย์อาจไม่มีขาย แต่หากนรุตม์ มีบุญเก่าหนุนนำ สักวันปาฏิหาริย์จะเกิดเอง เอาใจช่วยค่ะ