เซ้งอุทยาน !!! เมื่อเช้าหยิบหนังสือพิมพ์ กรุงเทพธุรกิจ ขึ้นมาอ่าน เจอพาดหัวตัวใหญ่ รัฐให้สัมปทาน 30 ปี สร้างโรงแรม รีสอร์ท เปิดเอกชนรุมทึ้ง 10 อุทยานดัง เห็นแล้วต้องรีบอ่านรายละเอียดต่อทันที ได้ความว่า กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ประกาศเปิดอุทยานแห่งชาติ 10 แห่ง นำร่องให้เอกชนเข้ามาบริหารพื้นที่จัดการบริการประกอบด้วย 1.อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ 2.อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง 3.อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ 4.อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน 5.อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ 6.อุทยานแห่งชาติภูกระดึง 7.อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ ปุย 8.อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน 9.อุทยานแห่งชาติเอราวัณ 10.อุทยานแห่งชาติดอยผ้าห่มปก แหล่งข่าวจากกรมฯ ยังเปิดเผยว่า ที่ผ่านมา มีนักธุรกิจหลายรายเสนอแผนจัดการอุทยานแห่งชาติ ที่ต้องการบริหารมายังกรมฯ และยังพยายามให้กรมฯ ลดราคาค่าเช่าลง ทั้งนี้กรมฯ กำหนดราคาค่าเช่าพื้นที่เพื่อบริการไว้ตารางเมตรละ 30 บาท หรือไร่ละ 4.8 หมื่นบาทต่อเดือน แต่เอกชนมองว่าเป็นราคาที่สูงเกินไป และต่อรองให้ลดราคาลงเหลือแค่ตารางเมตรละ 3 บาทเท่านั้น สำหรับแผนการเปิดให้เอกชนเข้าเช่าพื้นที่บริหารจัดการ ได้กำหนดเงื่อนไขเบื้องต้น อาทิ จะเปิดให้เอกชนเข้ามาบริหารในโซนบริการนักท่องเที่ยวแบบครบวงจร ประกอบด้วย ศูนย์อาหาร ร้านขายของที่ระลึก รีสอร์ท โรงแรม โดยมีอายุสัมปทาน 30 ปี มีเงื่อนไขว่าต้องอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และปลูกป่าเพิ่มเติม นายวิชิต พัฒนโกศัย รองอธิบดีกรมฯ กล่าวว่า 'กรมอุทยานฯ ต้องการให้มืออาชีพเข้ามาบริหารพื้นที่บริการ ซึ่งจะเป็นใครก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นชุมชนในพื้นที่ นักธุรกิจขนาดใหญ่ หรือขนาดกลาง โดยกรมฯ จะแบ่งพื้นที่ของอุทยานฯ เป็นกลุ่ม ๆ คือกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง และกลุ่มที่มีกำลังซื้อปานกลาง และกลุ่มทั่วไป เพื่อเปิดให้มีตัวเลือกหลากหลาย ไม่ได้ปิดกั้นโอกาสของประชาชนในการเข้าถึงธรรมชาติ' นายทรงธรรม สุขสว่าง ผู้อำนวยการส่วนศึกษาและวิจัยอุทยานแห่งชาติ กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กล่าวว่า การให้สัมปทานเอกชนเข้าบริหารจัดการในพื้นที่อุทยานฯ ไม่ใช่เรื่องเสียหาย โดยต่างประเทศหลายประเทศมีการดำเนินการรูปแบบนี้มานานแล้ว และเป็นไปตามโครงงานการจัดการพื้นที่คุ้มครองตามอนุสัญญาความหลากหลายทางชีวภาพที่มี 191 ประเทศเป็นสมาชิก เพื่อหาเงินสนับสนุนจากภาคเอกชนไปบริหารจัดการพื้นที่ป่า เพราะงบประมาณของรัฐไม่เพียงพอ ศ.นิวัติ เรืองพานิชย์ นักวิชาการด้านวนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กล่าวว่า รู้สึกเป็นห่วงแนวความคิดในการให้สัมปทานอุทยานแห่งชาติแก่ภาคเอกชนเข้ามาบริหารจัดการการท่องเที่ยว โดยมีเป้าหมายเพื่อให้รัฐมีรายได้เพิ่มขึ้น เพราะเป็นการคิดถึงแต่เงินด้านเดียว ไม่ได้คำนึงถึงวัตถุประสงค์หลักในการดูแลรักษาป่าไม้ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ซึ่งในที่สุดแล้ว จะทำให้ธรรมชาติถูกทำลาย จึงขอเรียกร้องข้าราชการอย่าตามใจฝ่ายการเมืองมากเกินไป อ่านจบก็เกิดคำถามในใจขึ้นมาทันทีว่า แล้วใครได้ผลประโยชน์จากการกระทำครั้งนี้ ประเทศชาติ ประชาชน ข้าราชการ เอกชน หรือนักการเมือง ที่สุดแล้วก็คิดได้ว่า ทุกฝ่ายคงสมประโยชน์ร่วมกัน ยกเว้นประเทศชาติและประชาชนเท่านั้นที่จะต้องเสียผลประโยชน์ของชาติไป เพราะเพียงแค่การต่อรองราคาจากเพียงตารางเมตรละ 30 บาท ให้เหลือเพียงแค่ 3 บาท เท่านั้นก็เพียงพอที่จะทำให้รับรู้แล้วว่า คุณต้องการที่จะเข้ามาฮุบทรัพยากรของชาติเพื่อไปแสวงหาผลกำไรให้ตัวเองมากน้อยเพียงใด ทำไมถึงไม่หน้าด้านขอใช้ฟรี ๆ ไปเลยล่ะ การที่กรมฯ ให้เข้ามาทำธุรกิจครบวงจรเช่นนี้ แล้วบอกว่า ให้เอกชนที่ได้รับสัมปทานถึง 30 ปี ต้องอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และปลูกป่าเพิ่มเติม ได้คิดถึงหลักความจริงบ้างหรือเปล่า การที่จะสร้างโรงแรมหรือรีสอร์ทนั้น จะต้องทำลายป่าไม้และทรัพยากรต่าง ๆ ไปเท่าไหร่ แล้วนี่หรือที่บอกว่า จะต้องอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม แล้วจะให้ปลูกป่าเพิ่มเติม จะไปหาที่ไหนมาปลูกอีกล่ะ ก็คุณเล่นทำลายกันไปเสียขนาดนี้แล้ว แล้วเหตุผลที่จะให้ประชาชนทุกกลุ่มกำลังซื้อเข้าถึงธรรมชาตินั้น เป็นเหตุผลที่ห่วยมาก ๆ เพราะปัจจุบันนี้อุทยานแห่งชาติทุกแห่งในเมืองไทย ก็ไม่สามารถให้การรองรับนักท่องเที่ยวจำนวนมากได้อยู่แล้ว ถึงขั้นต้องมีการจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวกันเลยทีเดียว ดังนั้นจะเป็นการเปิดโอกาสของพวกนักท่องเที่ยวคนรวยเสียมากกว่ามั๊ง ที่อยากมาเที่ยวแต่ไม่สามารถมาทนนอนกลางดินกินกลางทรายได้ จึงต้องให้มีการสร้างโรงแรม หรือรีสอร์ทขึ้นมารองรับคนกลุ่มนี้แทน ไม่ว่าจะยกเหตุผลใดมากล่าวอ้าง สุดท้ายก็ทำเพื่อพวกเดียวกันเองนั่นแหละ ที่อ้างว่าต่างประเทศเขาก็ทำกันนั้นก็เข้าใจ แล้วคุณคิดว่าประเทศไทยจะสามารถบริหารจัดการทรัพยากรของชาติเพื่อประโยชน์ของคนในชาติได้อย่างแท้จริงมากน้อยแค่ไหน ผลประโยชน์มหาศาลเช่นนี้ สุดท้ายคนที่ได้รับคือใคร เห็นด้วยกับ ศ.นิวัติ รัฐอย่าคำนึงถึงแต่รายได้อย่างเดียว ควรคำนึงถึงการรักษาทรัพยากรธรรมชาติด้วย เพราะที่ผ่านมาทุกคนก็เห็นกันอยู่ว่าความเจริญเข้าไปที่ไหน ธรรมชาติก็ถูกทำลายที่นั่น ไม่ใช่เพียงแค่ป่าไม้เท่านั้น สัตว์ป่าอีกล่ะ วงจรการดำเนินชีวิต ระบบนิเวศน์ จะเสียหายมากน้อยเพียงใด คิดเสียว่าเพียงแค่มีการตัดถนนเส้นใหม่ในเมือง ก็ต้องมีสัตว์สังเวยชีวิตไปเท่าไหร่ เพียงเพราะการดำเนินชีวิตที่ต้องเปลี่ยนไป แล้วนี่ต้องมาก่อสร้างอะไรอีกมากมาย ต้องมาทำลายบ้านของสัตว์นานาชนิด แล้วจะเรียกว่า การอนุรักษ์ ได้อย่างไร สงสารลูกหลานในอนาคตจริงๆ ต่อไปคงไม่รู้จักคำว่าป่า ว่ามีคุณค่าต่อชีวิตมากแค่ไหน.... ที่มาจากฟอร์เวิร์ดเมลจ้า....อ่านแล้วสะเทือนใจ...
3 ตุลาคม 2551 20:42 น. - comment id 21431
ทุกวันนี้ชาวป่าไม้แทบขายป่ามาซื้อตําแหน่งกันหมดแล้ว วิ่งกันไม่เป็นอันทํางานกันเลยอีกหน่อยเจ้าของกิจการที่เข้ามาทําจะเป็นหัวหน้าเขตเองเพราะหัวหน้าเขตตัวจริงเงินผลประโยชน็อุดปากอยู่ ไม่เชื่อเราคอยดู
18 กันยายน 2551 17:01 น. - comment id 21437
ดีจ้าคุณโคลอน... เจนแค่เคยไปเที่ยวอุทยานที่กล่าวถึงในข่าว...เจนว่าเจนชอบที่จะไปเที่ยวแบบที่มันไม่ต้องปรุงแต่งด้วยความเจริญหรือความสะดวกสบาย...เราไปเที่ยวเราเป็นคนแปลกหน้า...เราควรเคารพเจ้าของสถานที่...เคารพสิ่งที่เค้ามีมาอยู่ก่อนแล้ว...ทำไมเราต้องไปเรียกร้องอะไรมากมายด้วย....ธรรมชาติก้อดีอยู่แล้วแท้ๆ ดีจ้า...คุณจุดผู้ไม่ประสงค์จะออกนาม ถ้าเซ้งแล้วมีการจัดการที่ดีจริง...ทำให้ธรรมชาติยังคงอยู่ได้ต่อไปสัตว์ป่ายังมีที่อยู่อาศัย ลำธารยังคงไหลไม่ขาดสาย ไม่เน่าเสีย...ก็จะอนุโมทนากับสิ่งนั้นด้วยใจจริง...แต่ถ้าคิดจะทำแล้วยังศึกษาผลกระทบที่เกิดขึ้นไม่ดีพอ...ยังไม่พร้อม...ยังมีการคอรัปชั่นเพื่อผลประโยชน์ของบางกลุ่มบางพวก...ก็ขอให้ป่ามันเป็นป่าของมันอย่างนี้ดีกว่า.... ก้อเหมือนบ้านเมืองทุกวันนี้มีคนบางคนที่ชอบซ่อมของที่มันไม่เสีย...จนประเทศชาติจะล่มจมกันมาแล้ว... แต่ก้อขอบคุณที่มาแสดงความคิดเห็นกันอ่ะน๊ะ...
17 กันยายน 2551 22:46 น. - comment id 21491
ท่านเจนจะเจน_จัดให้ จะสะเทือนใจไปทำไมขอรับ รู้ไหมครับว่า ประเทศไทยมีพื้นที่ป่าอนุรักษ์ทั้งหมด 47 ล้านไร่ เฉพาะอุทยานแห่งชาติ ก็มีมากถึง 94 แห่ง งบประมาณจัดสรรมาให้ไม่เพียงพอ ทำให้มีการบุกรุกป่าและทรัพยากร จากปี 2530 มีป่าไม้ 197 ไร่ มาปี 40 เหลือเพียง 94 ล้านไร่ พอมาปี 50 เพิ่มขึ้นมาเป็น 115 ล้านไร่ ดังนั้นการให้ภาคเอกชนมาช่วยภาครัฐบริหารจัดการอย่างที่อาริยประเทศเขาทำ เราได้ทั้งเงินทั้งกล่อง อุทยานก็ไม่ทรุดโทรมมีการบำรุงรักษาที่ถูกวิธี แถมได้เงินมาเสริมงบประมาณ ทำให้เราสามารถดูแลรักษาป่าไม่ได้ดีกว่า ........... มันไม่ดีตรงไหนหรือขอรับ
15 กันยายน 2551 14:19 น. - comment id 21621
อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง
15 กันยายน 2551 14:35 น. - comment id 21622
6.อุทยานแห่งชาติภูกระดึง
17 กันยายน 2551 08:42 น. - comment id 21638
อ่านเรื่องนี้ทีไร...พูดไม่ออกอ่ะ