ชีวิตเราเราเองบรรเลงเละ เคยคิดเอะใจบ้างสักครั้งไหม เที่ยวโทษโน่นโทษนี่เป็นฟืนไฟ ก็แล้วใครกันเล่าเจ้าชีวิต ก็สร้างสรรค์เอาได้ในวันนี้ หากทำดีเริ่มได้ไม่หมดสิทธิ์ สักวันหนึ่งความดีจักพิชิต ด้วยใจคิดประกอบชอบทำดี
10 สิงหาคม 2551 09:46 น. - comment id 21324
ลองลงภาพใหม่
10 สิงหาคม 2551 10:12 น. - comment id 21327
ต่างคนต่างเลือกชีวิตตนเอง สร้างเอง ปัญหา..แก้ปัญหาต้องทำเองทั้งสิ้น
21 สิงหาคม 2551 19:02 น. - comment id 21427
ท่าน นบีมูฮัมมัดที่สานุศิษย์นับถือกันนักหนา แท้จริงแล้ว ก็ไม่แตกต่างจาก ผู้ทรงเจ้าเข้าผีของเมืองไทยเท่าไรนัก เพราะต่างก็อ้างว่าตนเองเป็นคนสำคัญ ที่สามารถติดต่อกับผู้วิเศษ(อัลลอฮ์)ที่จะบันดาลอะไรให้ใครก็ได้ตามที่ร้องขอ คนอื่นไม่เก่ง ไม่ดี ไม่สะอาด ไม่เลิศพอที่จะติดต่ออัลลอฮ์ได้ แล้วก็บอกว่าลัทธิของตนวิเศษกว่าใครๆ เที่ยวประณามไล่ฆ่าฟันพวกลัทธิอื่นมั่วไปหมด แล้วอย่างนี้จะสมานฉันท์ได้อย่างไร โลกคงมีสันติสุขอย่างที่หวังได้อยู่หรอก.....
21 สิงหาคม 2551 19:11 น. - comment id 21444
คติความเชื่อของอิสลามไม่แตกต่างจากอุดมการณ์ของพรรคคอมมิวนิสต์ ทุกคนต้องทำตามบทบัญญัติของอัลลอฮ์ เช่นเดียวกับที่ สมาชิกและแนวร่วม ต้องปฏิบัติตามอุดมการณ์ของพรรคคอมมิวนิสต์โดยเคร่งครัด ทุกคนต้องเชื่อตามการชี้นำของผู้นำทางศาสนา เช่นเดียวกับสมาชิกและแนวร่วม ต้องปฏิบัติตามการชี้นำของกรรมการพรรคคอมมิวนิสต์เท่านั้น บุคคลนอกศาสนา หรือ ทีไม่ใช่สมาชิกพรรคหรือแนวร่วม ต้องถือเป็นฝ่ายตรงข้าม ที่ไม่ควรมีปฏิสัมพันธ์ด้วย.......
21 สิงหาคม 2551 19:12 น. - comment id 21445
มูลเหตุแห่งความรุนแรงทางภาคใต้ของไทย เพราะการมอมเมาชักจูงสาวกของนายมูฮัมมัด ที่พยามยามยัดเยียดความคิดวิธีแก้ปํญหา ด้วยความรุนแรงจากการทำสงครามทางศาสนา โดยใช้อาวุธ ประกอบกับมีคนในพื้นที่ พยายามบิดเบือนประวัติศาสตร์ให้การต่อสู้เพื่อแบ่งแยกดินแดนเป็นการต่อสู้ทางศาสนา แล้วนายมูฮัมมัดคือใครกันแน่ นายมูฮัมมัดก็เป็นมนุษย์ผู้ชายธรรมดาคนหนึ่ง ที่ใช้ความเป็นหนุ่มรูปงาม อายุน้อย ผูกมัดใจสาวใหญ่สูงอายุผู้มั่งคั่ง เพื่อการดำรงชีพ แล้วขอแต่งงานด้วย เพื่อครอบครองทรัพย์นำไปเป็นประโยชน์แก่ตนเอง หรือจะพูดอีกนัยหนึ่งว่า เกาะเมียกิน ก็ได้ จึงกลายมาเป็นลักษณะนิสัยของหนุ่มมุสลิมทั่วไปในปัจจุบัน เพราะการที่ท่านศาสดามูฮัมมัดมีเมียแก่ แต่ไม่ค่อยจะมีความสุขในครอบครัว ไม่พอใจในชีวิตการครองคู่แบบผัวเดียวเมียเดียว จึงกำหนดกฎเกณฑ์ให้ผู้ชายมุสลิมมีเมียได้ ๔ คน แต่พอมีเมียคนใหม่เป็นเด็กอายุน้อย ๆ ตั้งแต่คนที่ ๒ ก็เกิดความหวงแหนกลัวเมียเด็กจะไปปันใจให้ชายอื่นที่หนุ่มกว่า จึงบังคับให้เมียเด็กคลุมหน้าคลุมตา ไม่ให้ผู้ชายคนอื่นมองเห็นความงดงามของเมียน้อยตัวเอง และเพื่อมิให้เป็นข้อครหา จึงกำหนดกฎเกณฑ์ให้ผู้หญิงมุสลิมทุกคนต้องคลุมหัวปิดหน้า ท่านศาสดาเป็นคนที่มีอีโก้สูง อยากโดดเด่นเหนือคนอื่น จึงคิดหาวิธีการตั้งตนเป็นใหญ่ด้วยการจัดตั้งลัทธิความเชื่อในพระเจ้าองค์เดียวกัน คือ อัลเลาะฮ์ และการที่ทุกคนจะติดต่อกับอัลเลาะฮ์ ได้ ก็จะต้องติดต่อผ่านท่านศาสดามูฮัมมัดเท่านั้น คนอื่น ๆ ไม่เก่ง ไม่บริสุทธิ์ ไม่ดีเลิศเท่าท่านศาสดา ความคิดนี้ จึงไปขัดแย้งกับสาวกของพระเจ้าองค์อื่น ๆ ที่พวกเขานับถือกันอยู่ ซึ่งถือเป็นเผด็จการทางความคิดนั่นเอง จึงเกิดสงครามต่อสู้กันเพื่อแย่งชิงความเป็นใหญ่ในการครอบครอง หินกาบะห์ สถานที่ศักด์สิทธิ์ของพระเจ้าหลายองค์ในขณะนั้น การต่อสู้ทางความคิด และสงครามทางอาวุธ ของท่านศาสดามูฮัมมัดในระยะแรก พ่ายแพ้ยับเยิน ต้องหลบหนีหัวซุกหัวซุน ถูกตามล่าจนแทบเอาชีวิตไม่รอด จึงหาวิธีปลุกระดมมวลชน สาวกกลุ่มใหม่ให้ยอมสละชีวิตร่างกายในการต่อสู้เพื่อความอยู่รอดปลอดภัยของตัวท่านมูฮัมมัดเอง แต่อ้างว่าเป็นโองการจากอัลเลาะห์ ให้การต่อสู้ในครั้งนั้น เป็นการต่อสู้ทางศาสนา โดยกำหนดหลักการที่ว่า การเบียดเบียนทำร้ายผู้อื่น ที่มีความเชื่อแตกต่างไปจากพวกของศาสดามูฮัมมัดไม่ผิด และจะได้บุญ ได้ไปพบกับอัลเลาะฮ์ ที่ได้ชื่อว่าเป็นพระเจ้าผู้วิเศษ ศักดิ์สิทธิ์ให้คุณให้โทษ สร้างและทำลาย ให้พรและสาปแช่ง ต่อมวลมนุษย์ สัตว์ สิ่งของ ที่มีในโลก และนอกโลก ( ทุกอย่างเป็นประสงค์ของอัลเลาะฮ์ ) แท้จริงความหมายของ อัลเลาะฮ์ ก็คือ ความเป็นจริงของธรรมชาติ ( ผลย่อมเกิดแต่เหตุปัจจัยที่เหมาะสม ) แต่ศาสดามูฮัมมัด ได้กำหนดความหมายให้เห็นเป็นรูปธรรมว่า อัลเลาะฮ์ เป็นองค์เทวะผู้วิเศษที่จะบันดาลอะไรก็ได้ตามคำร้องขอของท่านศาสดามูฮัมมัด ผู้ติดต่อกับอัลเลาะฮ์ได้โดยตรงเพียงคนเดียวเท่านั้น เมื่อศาสดามูฮัมมัดชนะสงครามทางความเชื่อ ตั้งตัวเป็นศาสดาของศาสนาอิสลามแล้วจึงกำหนดกฎของอัลเลาะฮ์ขึ้นเป็นหลักความคิดความเชื่อของศาสนาอิสลาม ซึ่งเป็นเผด็จการทางความคิด คล้ายกับพรรคคอมมิวนิสต์ทั่วโลก คือ........ มุสลิมต้องเชื่อในพระเจ้าองค์เดียว ( อัลเลาะฮ์ ) โดยผ่านทางศาสดามูฮัมมัดคนเดียว เช่นเดียวกับสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์ต้องเชื่อในอุดมการณ์ของพรรคโดยผ่านคนของพรรคเท่านั้น ทั้งมุสลิมและสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์ ห้ามสงสัยในคำสอน ห้ามสงสัยในคำสั่งของพรรค ต้องอุทิศร่างกาย และชีวิตแด่ศาสดา หรือพรรค กฎของพรรคคอมมิวนิสต์ เปรียบเสมือนเป็นโองการของศาสดา ที่กำหนดเป็นคำภีร์ ( กุรอาน ) ที่ต้องเชื่อและปฏิบัติตามหนทางเดียว นบีมูฮัมมัด เป็นเจ้าของกฎเกณฑ์ความคิดความเชื่อ และหลักการทางศาสนา เช่นเดียวกับ มาร์ค เลนิน เป็นเจ้าของแนวคิดและอุดมการณ์ของพรรคคอมมิวนิสต์เหมือนกัน หลักการความเชื่อของพรรคคอมมิวนิสต์ ก็คือหลัก ความคิด ความเชื่อของอิสลาม