ฝรั่งคนหนึ่งมอง คนไทย (คัดบางส่วนจากบทความ) คนไทยกับคำสอนในหลวง โดยเปลว สีเงิน คอลัมภ์ คนปลายซอย หน้า ๕ นสพ.ไทยโพสต์ ฉ. 5 พค.49 -------------------------------- ....ผมจะนำบทสัมภาษณ์ นายมาร์ติน วีลเลอร์ ชาวอังกฤษ ผู้มีปริญญาตรีเกียรตินิยมจากมหาวิทยาลัยลอนดอน แต่มาปักหลักเป็น เกษตรกรไทย มีลูก-มีเมียเป็นคนไทยอยู่ขอนแก่นขณะนี้ ให้อ่านเพื่อได้คิดกัน ซึ่งหนังสือ เราคิดอะไร ฉบับเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๔๗ เขาตีพิมพ์ไว้ โดยเริ่มจากตอน · นิยามความรวยกับความจน มันเป็นเรื่องแปลกนะที่ประเทศไทยคนยากจนมีหนี้สินเยอะ ที่อังกฤษมีแต่คนรวยที่เป็นหนี้สิน คนจนไม่มีหนี้ เพราะเขาไม่ให้คนจนยืมเงิน เนื่องจากกลัวจะไม่มีปัญญาใช้คืน จึงไม่มีสิทธิ์มีหนี้สิน แต่คนรวยยืมเงินได้ คำว่ารวยกับคำว่าจน มันคืออะไรกันแน่ (แต่บ้านเรากลับพยายามให้คนจนได้กู้ยืมเงิน เพื่อจะได้กระตุ้นเศรษฐกิจ ด้วยการยกยอล่อลวงด้วยหลักว่า นำเงินในอนาคตมาใช้ เลยเป็นหนี้กันทุกหย่อมหญ้า ยิ่งจนก็ยิ่งกู้ง่าย-ผู้คัดลอก) ที่ขอนแก่นเขาว่าผมบ้าบ้าง ฝรั่งยากจนบ้าง ฝรั่งตกอับบ้าง ฝรั่งขี้นก ฝรั่งไม่มีเงิน แต่ผมบอกว่าไม่ใช่ ผมรวยนะ เขาถามว่ารวยได้ยังไง ผมบอกว่า ๑.ผมมีบ้าน ผมทำบ้านเล็กๆ เป็นกระท่อมน้อยๆ เอาหญ้ามามุงหลังคา ชาวบ้านเขาเรียกว่า เถียงนา ไม่ใช่บ้านหรอก ผมบอกว่าใช่ มันบ้านของผม ไม่ใช่บ้านเจ้านาย ราคาหนึ่งหมื่นสองพันบาท อยู่ได้ครับ มันกันแดด-กันฝนได้ แค่นั้นผมก็รวยแล้ว ๒.มีที่ดินแค่ ๖ ไร่เท่านั้นเอง ที่นั่นเขาบอกว่ากระจอก มีนิดเดียว แต่สำหรับฝรั่งมันเยอะมาก จริงๆผมคิดว่ามันเป็นเรื่องสำคัญ เป็นพื้นฐานของชีวิตเราต้องมีที่อยู่อาศัยเป็นของเรา ไม่ใช่ของเจ้านาย เพราะว่าถ้ามันเป็นของเจ้านาย เราต้องไปหาเงินให้เขา ถ้าเราไม่มีเงินเขาก็ไล่เราออก เราไม่มีที่อยู่นะ เพราะฉะนั้น ต้องมีบ้านเป็นของตัวเองไว้ก่อน ซึ่งผมก็มีบ้าน คิดว่าลูกของผมจะต้องมีบ้านแน่ๆด้วย เรื่องเกษตรผมทำไม่เก่ง แต่ที่ทำได้ง่ายคือปลูกต้นไม้ ไม้ประดู่ ไม้สะเดา ไม้ยาง ปลูกไว้ให้ลูกสร้างบ้าน ประเทศไทยอุดมสมบูรณ์ ต้นไม้โตเร็วมาก แค่ ๒๕-๓๐ ปี ตัดได้แล้ว ไม่เหมือนอังกฤษ ๒๐๐ ปี ได้เท่านี้เอง เพราะอากาศเย็น เป็นเรื่องแปลกที่คนไทยจะบ่น โอ๊ย....มันร้อนๆ ผมว่ากลับเป็นเรื่องดี แสงแดดเยอะจะทำการเกษตรได้ตลอดเวลา ๑ ปี ทำได้ทุกวัน แต่คนไทยจะบ่นว่าร้อนๆๆ ไม่เอา...ไม่เอา..อยากเป็นคนผิวขาวดีกว่า แต่คนอังกฤษเขาถือคนผิวขาวเป็นคนจน เพราะว่ามันไม่มีปัญญาจะไปเมืองนอก ซึ่งกลับกันเลย แม้แต่พ่อของผม เขาก็ยังมีเครื่องอาบแดดเพื่อให้ผิวเป็นสีแทน ให้ดูแบบคนมีสตางค์ แต่คนไทยกลับอยากมีผิวขาว (ยิ่งขาวอมชมพูด้วยยิ่งดี ไม่มองข้อเท็จจริงที่ว่า เราเป็นชาวผิวคล้ำเพราะธรรมชาติ ที่ร้อนและแสงแดดจัด กลับไปฝืน ไปพอก ไปทา หมดเท่าไรไม่ว่า โฆษณากันดื่นจอทีวีเกือบตลอดเวลา ธรรมชาติไม่โกหกหรอกครับ สักวันหนึ่งจะเห็นผลของการที่พยายามต่อต้าน-ฝ่าฝืน-ขัดขืนธรรมชาติในข้อนี้-ผู้คัดลอก) o วิธีคิดไม่ธรรมดาของมาร์ติน วีลเลอร์ ผมมีลูก ๓ คน ชาย ๒ หญิง ๑ สิ่งสำคัญที่สุด ๒ เรื่องในชีวิตของเราคือ ๑. ต้องมีบ้านเป็นของตนเองให้ได้ จึงจะถือว่าชีวิตประสบความสำเร็จ ๒. ต้องมีงานทำทุกวัน ไม่ได้จำกัดว่าเป็นงานอะไร แต่ขอให้มีงานทำทุกวัน ชีวิตจึงจะไม่สูญเปล่า วิธีเดียวที่รับประกันได้ว่าลูกมีงานทำ คือการมีที่ทำกินให้เขา และเราต้องช่วยให้เขาทำเป็น ผมคิดว่าคนชนบทจริงๆ ใครมีที่ดินทำกินแล้วจะไม่ตกงาน เว้นแค่คนขี้เกียจ ซึ่งบางคนมีที่ดินเยอะ แต่ไม่ยอมทำ ถ้าเราสั่งสอนให้ลูกรู้จักทำมาหากิน เขาก็ไม่ตกงาน ผมถือว่างานที่อิสระและมีประโยชน์มากที่สุดคืองานเกษตร ซึ่งช่วยให้เรากินอิ่มทุกวัน คนอังกฤษกินไม่อิ่มเยอะมากนะ ผมไม่อยากให้ลูกของผมอดอาหาร อยากให้ลูกกินอิ่มในลักษณะที่ส่งเสริมสุขภาพด้วย กินอาหารที่ไม่มีสารพิษ กินอาหารแบบเรียบง่ายก็ได้ แต่อิ่มทุกวัน เมื่อมีบ้าน มีงาน มีอาหาร ลูกของผมก็จะรวยที่สุด....ฯลฯ (คนไทยกี่คนครับ ที่คิดๆได้อย่างนี้..ผู้คัดลอก) § จุดอ่อน-จัดแข็งของคนไทย ผมคิดว่าคนไทยส่วนมากยังไม่เข้าใจระบบทุนนิยม เห็นฝรั่งที่ไหนก็คิดว่ารวยหมด คิดว่าการพัฒนาในระบบทุนนิยม จะทำให้ทุกคนมีเงิน ไม่เข้าใจว่าประเทศที่พัฒนาระบบทุนนิยมนานแล้ว เช่น อังกฤษ สหรัฐ มีปัญหาเยอะมาก แต่คนไทยก็คิดว่าเมืองนอกดีกว่า อันนี้จุดอ่อนครับ คือคนไทยสนใจเมืองนอก ไม่ได้สนใจประเทศไทย ผมเป็นฝรั่ง คุณเลยนั่งฟังผม ถ้าผมเป็นชาวบ้าน คุณจะไม่สนใจผม อันนี้เป็นจุดอ่อน(ตรงและถูกใจผมจังเลย...ผู้คัดลอก) แต่จุดแข็งคือ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ แผ่นดินประเทศไทยอุดมสมบูรณ์มากๆ มีดินเยอะมาก น้ำเยอะมาก แสงแดดเยอะมาก ทำเกษตรอยู่รอดแน่ ใครๆก็อยากได้ประเทศไทย ผมก็ได้ถึง ๖ ไร่ คนไทยโชคดีมากๆ ที่ได้ในหลวงเป็นผู้นำ พระองค์ท่านเป็นคนที่ทำงานหนักมาก เพื่อช่วยให้คนได้คิด ช่วยให้คนอยู่ได้ จะหากษัตริย์ในประเทศอื่นไม่ค่อยมีแบบนี้ ปัญหาคือคนไทยส่วนมากนับถือในหลวง แต่ไม่ยอมปฏิบัติตามคำสอนของในหลวง พระองค์ท่านบอกว่า ๒๗ ปี ถึงเศรษฐกิจพอเพียง แต่คนไทยไม่รู้จักพอเพียง เอาอย่างเดียว ถึงยกมือไหว้ในหลวง แต่เวลาดำรงชีวิต ไม่ได้ทำตาในหลวง ก็ในหลวงบอกไว้แล้วว่าไม่จำเป็นที่จะต้องเป็นเสือ ขอให้มีอยู่มีกินไว้ก่อน ถ้าทุกคนเริ่มคิดจริงๆถึงสิ่งที่ในหลวงพูด เราน่าจะช่วยให้ประเทศไทยอยู่ได้ เพราะความคิดของในหลวงเรื่องเศรษฐกิจพอเพียง ต้องอาศัยพลังแผ่นดิน ทำได้เฉพาะประเทศไทยนะ เศรษฐกิจพอเพียง ที่อื่นทำไม่ได้หรอก เพราะเขาไม่มีที่ดิน ไม่มีทรัพยากรธรรมชาติเยอะเหมือนประเทศไทย พวกคุณโชคดีที่ได้แผ่นดินดีๆ ได้ผู้นำ(ในหลวง)ที่ดีด้วย และเรื่องที่ ๓ เรื่องศาสนาผมคิดว่า ศาสนาพุทธมีความสำคัญมากๆ สำหรับคนไทย ไม่ใช่แค่นับถือไหว้พระ แค่นั้นไม่พอ แต่อยู่ที่การปฏิบัติด้วยนะ มักน้อย สันโดษ พอเพียง ธรรมะคือธรรมชาติ เป็นเรื่องง่ายๆ พึ่งตนเองก็ได้ ปรัชญาของศาสนาพุทธ ทำได้นะ แต่คนไทยจำนวนน้อยที่เข้าใจ (เราท่านเห็นอย่างที่ฝรั่งท่านนี้เห็นกันบ้างไหมครับ-ผู้คัดลอก) จริงๆ แล้วศาสนาพุทธเป็นศาสนาที่ออกแบบให้เหมาะสมสำหรับคนบ้านนอก ให้ใช้ชีวิตร่วมกับธรรมชาติ โดยไม่ทำลาย ไม่เอาเปรียบ แต่ให้เราเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ (ขออนุญาตเห็นเพิ่มเติมว่า ไม่เฉพาะแต่ชนบท แต่เหมาะกับมนุษย์ทุกคน ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน ก็สามารถที่จะไม่ทำลาย ไม่เบียดเบียนธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม รวมทั้งเพื่อนมนุษย์ ซึ่งก็เป็น ธรรมะ-ธรรมชาติในตัวเองด้วยเหมือนกันครับ-ผู้คัดลอก) § อยากบอกอะไรคนไทย คุณโชคดีมากๆที่เกิดในประเทศไทยที่อุดมสมบูรณ์ ไม่ต้องไปรบกับใคร ไม่ต้องไปเอาน้ำมันจากใคร ไม่ต้องไปเบียดเบียนคนอื่น ประเทศไทยอยู่ได้ กินอิ่ม มีเหลือแจกด้วย อย่าไปคิดเรื่องเงินอะไรมาก อย่าลดคุณค่าความเป็นไทยของตัวเองลง คนไทยส่วนมากนิสัยดีจริงๆ คนไทยมีน้ำใจ หายากนะ คนไทยมีพระเจ้าอยู่หัว มีแผ่นดินที่อุดมสมบูรณ์ มีศาสนาพุทธที่ดีมาก ทั้ง ๓ อย่างนี้ พยายามรักษาเอาไว้ให้ได้ ชีวิตที่ไม่ทะเยอทะยานเกินไป คือชีวิตที่มีคุณภาพ ชาวบ้านทุกคนทำได้ ผมเองถึงยังทำไม่สำเร็จ แต่มั่นใจว่าจะทำได้แน่ในอนาคต ถ้าผมทำได้ คนอื่นก็คงทำได้ง่ายกว่าผมเยอะ ทุกอย่างอยู่ที่เรา ถ้าเราไม่อยากได้อะไรมากเกินไปในชีวิต ชีวิตมันก็ง่าย พยายามทำชีวิตให้มันง่ายขึ้น อย่าให้มันสับสน อย่าให้มันลำบาก พยายามรักษาสิ่งแบบนี้ให้ดี และอย่าเชื่อฝรั่งมากเกินไป............. ครับ....เมื่อไหร่ล่ะ ที่คนไทยจะเปลี่ยนพฤติกรรม เคารพในหลวง ด้วยปาก มาเป็น เคารพในหลวง ด้วยการปฏิบัติตามคำสอนของพระองค์ท่าน เพื่อนร่วมโลกทุกท่านครับ ผมใช้เวลา ๑ ชั่วโมง ๓๐ นาที ในการพิมพ์ข้อความข้างต้น และได้ให้ลูกกับภรรยาอ่านบทความนี้ด้วยแล้ว หลังจากนี้ จะนำข้อความบางส่วนที่ทำตัวหนาไว้ จัดทำเป็นแผ่นใส เพื่อบรรยายตามชั้นเรียนต่างๆ ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ตั้งแต่วันที่ ๙ มิ.ย.นี้เป็นต้นไป ด้วยหวังจะช่วยกันปลุกคนไทยบางคนที่ยังหลับใหล ยังไม่เป็น พุทธ คือ ไม่ตื่น ไม่รู้ ไม่เบิกบาน แต่ตรงกันข้าม กลับบานและเต็มไปด้วยหนี้สิน ความทุกข์ ตัณหา ๑๐๘ อย่างทุกวันนี้ (คำว่าตัณหา ๑๐๘ นี้ ไม่ใช่สำนวนเขียนเล่นโก้ๆนะครับ เมื่อวานเพิ่งอ่านเจอว่า ตัณหาในทางพุทธศาสนา มี ๑๐๘ อย่างจริงๆ และเราท่านก็ต้องเจอะเจอกับมันทุกวัน มากบ้างน้อยบ้าง แล้วจะไม่เป็นทุกข์ได้อย่างไรกันครับ
12 ธันวาคม 2549 15:48 น. - comment id 16140
ผมเป็นอีกคนที่อยุ่ต่างประเทศผมอยุ่ที่สวีเดนได้อ่านเรื่งนี้รุ้สึกมีกำลังใจมากเลยคับขอบคุณคับälskathailand
15 ธันวาคม 2549 11:39 น. - comment id 16157
เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาช่อง9 ได้ทำรายการ***วิถีแห่งความพอเพียง***แล้วพาไปรู้จักพูดคุยกับชาวบ้านที่ดำเนินชีวิตตามคำสอนของในหลวงและมีตอนหนึ่งสัมภาษณ์ คุณ มาร์ติน วิลเลอร์ เราได้ฟังแล้วยังทึ่งว่าเค้าคิดได้กว่าคนไทยอีกหลายคนในประเทศเราเยอะ ถ้าคนไทยเราคิดได้และปกบัติตามแนวทางของในหลวงประเทศเราคงมีความสุขมากกว่านี้
15 ธันวาคม 2549 15:49 น. - comment id 16163
ใช่ค่ะ เป้ก็ว่างั้น แต่เงินทองอำนาจบารมีมันล่อหูล่อตา ตราบใดที่เรายังมีตัวตัณหาที่มันใหญ่กว่าตัวหิริโอตัปปะบ้านเมืองก็คงจะวุ่นวายแบบนี้
13 ธันวาคม 2549 00:25 น. - comment id 16168
ไม่เป็นไรค่ะ แต่คนไทยมานั่งคิดๆดูก็น่าอิจฉากว่าหลายๆชาติจริงๆนะคะ แต่คำว่า...พอเพียง..มันไม่มีลิมิตสิน๊ะ ตัณหาจริงๆ ความอยากทั้งหลายแหล่
12 มกราคม 2550 15:06 น. - comment id 16399
ชาวต่างชาติที่เข้ามาอยู่เมืองไทยก็มาก แต่มีไม่มากที่เป็นเหมือนคุณมาร์ติน ติดตามเรื่องของคุณตั้งแต่ สวท.11 พาเที่ยวชมสวนและคุยกับคุณมาร์ติน เป็นตัวอย่างที่น่าเอาเยี่ยงอย่างมาก