แต่งกลอนพรสวรรค์ หรือพรแสวง ..?

อัสสุ

การแต่งกลอนหรือบทกวี ใช่ว่าทุกคนจะแต่งได้
แต่คนที่แต่งกลอนเป็น (เชี่ยวชาญแล้ว)สามารถจะแต่ง
กวีอย่างอื่นได้  ถ้าจะหัอแต่ง ผิดกับใครบ้างคน กลอนง่ายๆ ๆ 
ก็แต่งไม่ได้
การแต่งกวี เป็นพรสวรรค์จะใช่ไหมนะ
นักเขียนบางท่าน บอกว่าแต่งกลอน แต่งกวีไม่เป็นยังมีเลย
การแต่งกลอนฝึกบ่อยๆ ๆ จะดีเท่านักกวีที่มีชื่อเสียงหรือป่าว
ใครช่วยตอบหน่อยว่ามันเป็นพรสวรรค์หรือพรแสวงกันแน่
สำหรับอัสสุ แต่งบ้างไม่แต่งบ้าง				
comments powered by Disqus
  • อัสสุ

    17 พฤษภาคม 2549 20:41 น. - comment id 14287

    อ่านกลอนในเว็บนี้ เจอทุกกวี
    
    แม้แต่หาอ่านได้ยาก
    
    เลยอยากถามผู้รู้นะครับ 
    
    เป็นเพราะการฝึกหนัก  หรืออารมณ์ศิลป์
    
    ในตัวกันแน่
  • ปราณรดี

    17 พฤษภาคม 2549 21:14 น. - comment id 14294

    อาจจะอยู่ที่ วิธีคิด ก็ได้นะ
    ถ้าเขามีวิธีคิดแบบกวี เขาก็เรียนรู้การเขียนกวีไม่ยาก
    
    แต่ถ้าเขาคิดแบบกวีไม่เป็น ก็เรียนรู้ยาก
    
    ศาสตร์ทุกศาสตร์ จะเรียน ต้องเรียนให้เป็น ต้องรู้จักวิธีการเรียน ถึงจะสำเร็จได้
    
    ถ้าเราเรียนวิชาเลข แต่เอาวิธีคิดแบบศิลปะไปใช้ในวิชาเลข ก็ไปไม่รอด
    
    หรือถ้าเราเรียนวิชาภาษา แต่เราไม่รู้วิธีเรียนเลย เราก็สื่อสารอย่างไม่เป็นธรรมชาติ
    
    ก็คิดอยู่เหมือนกันว่า การสร้างสรรค์บทกวี ต้องศึกษาวิธีคิดแบบบทกวี แล้วจึงคิดบทกวีได้ ละมัง
    
    ถ้าไม่ถนัดคิดแบบบทกวี ก็เป็นกวีไม่ได้
    
    อย่างมีของชนิดเดียวกัน เราจะจำแนกคนๆ นั้นว่า เขาเป็นใครนั้น .... ง่ายนิดเดียว
    
    แจกันใส่ดอกไม้วางอยู่บนโต๊ะ
    คนหนึ่งบอกว่า สวย - เขามีมุมมองทางศิลปะ
    อีกคนบอกว่า ราคาเท่าไหร่ - เขาคิดแบบนักเศรษฐศาสตร์
    อีกคนถามว่า เอามาได้ยังไง- เขาคิดแบบนักประวัติศาสตร์
    
    แค่สิ่งเดียวกัน .... วิธีการมอง วิธีการคิดก็ต่างกัน สิ่งเหล่านี้ก็บ่งบอกความเป็น \"ตัวตน\" ของคนๆ นั้นได้ดีเหมือนกัน
    
    ถ้าไร้ซึ่งความศรัทธา จินตนาการ และความคิดฝันเสียแล้ว บทกวีที่กลั่นออกมา ก็มีค่าเพียงตัวอักษรเอามาวางเรียงกันเท่านั้นเอง
    
    ถ้าถามว่า กวีต้องคิดแบบไหน
    พี่ปราณคิดว่า กวีต้องใช้ประสาทสัมผัสให้ครบทุกส่วนเลย ตา หู จมูก ลิ้น กาย และใจ แล้วละเอียดอ่อนต่อการรับรู้ (ที่เขาเรียกว่า อ่อนไหวนั่นแหละ แต่พี่ปราณว่า ไม่น่าจะอ่อนไหว น่าจะมั่นคงและละเอียดอ่อนกับการรับรู้มากกว่า) แล้วมั่นคงเพียงพอที่จะ \"สื่อสาร\" ออกมา รวมถึงมีทักษะในการใช้คำ
    
    มาถึงบรรทัดนี้แล้วรู้สึกว่า เส้นทางของเรายังอีกยาวไกลแฮะ ... เลยไม่ปรารถนาจะเป็น กวี ดีกว่า แต่ปรารถนาสร้างสรรค์งานจากความจริงที่เรารับรู้ได้  
    
    นี่คือความคิดของพี่ปราณนะ ... อัสสุ
    คนอื่นจะคิดเช่นไรอีก ก็แล้วแต่การหล่อหลอมและประสบการณ์ที่สั่งสมมาของแต่ละคน ใช่ไหมคะ 55.gif
  • อัสสุ

    17 พฤษภาคม 2549 21:19 น. - comment id 14295

    หลิวยังอยู่แถวนี้อยู่  เห็นพี่แสดงความเห็น
    
    เลยตอบก่อน
    
    ตอบเสร็จค่อยอ่านนะ
    
    แปบนึ่ง
  • อัสสุ

    17 พฤษภาคม 2549 21:29 น. - comment id 14296

    อ๋อออออออออ
    
    โทษทีความเห็นที่ 3 ยังไม่ได้อ่านตอบไปก่อน
    
    ของหลอวเองก็คิดเนื้อเรื่องก่อนนะ
    
    แบบนวนิยายละมั้ง
    
    แค่เอามาจัดวางก่อนว่าจะเอาอันไหน
    
    ขึ้นก่อน
    
    แต่ส่วนมาก จะเอาอารมณ์ของตัวเป็นส่วนใหญ่
    
    เช่นกลอนล่าสุด ที่โพสไว้วันนี้
    
    มันก็เป็นความรู้สึกส่วนหนึ่ง
    
    และจินตนาการ
    
    ยอมรับก็ได้ว่า กลอนล่าสุด แอบคิด 
    
    รู้แค่นี้ก็พอ ส่วนเหตุผลใหญ่ 
    
    ขอปิดไว้แล้วกัน
    
    ช่วงนี้กลอนหลิวจะเป็นแนวนี้นะ
    
    ไม่รู้จะยังเป็นแบบนี้อีกนานมั้ย
    
    ไม่อยากรู้เรื่องของเขาหรอก
    
    เดี๋ยวเสียใจก่อน
    
    รู้แค่นี้ก็พอ  จะได้ไม่คิดมาก  แค่นี้ยัง
    
    เท่านี้ ถ้าแค่นี้น จะแค่ไหน  
    
    ยิ่งคิดเอาเองบ่อยนัก 
    
    อิอิอิอิอิอิอิอิอิ
    
    ขอบคุณสำหรับคำแนะนำนะครับ
    
    31.gif31.gif31.gif31.gif31.gif31.gif31.gif
  • rain..

    17 พฤษภาคม 2549 22:39 น. - comment id 14303

    11.gif..
  • เรไร

    17 พฤษภาคม 2549 23:11 น. - comment id 14304

    
    ผมว่าส่วนสำคัญของพรสวรรค์ คือพรแสวงครับ
    แสวงหาที่จะอ่านบทกวีเพื่อดูพรสวรรค์ ของผู้แต่ง
    แสวงหาจังหวะ และทำนอง ในบทกวีนั้นๆ
    แสวงหาสัมผัสคำ ที่สัมผัสใจ
    สู้พรแสวงไม่ได้หรอกครับ
  • เมฆฟ้า

    18 พฤษภาคม 2549 08:20 น. - comment id 14307

    ผมว่ามันคงเกี่ยวกับจิตนาการ อารมณ์ ความรู้สึก ที่สำคํญความเป็นตัวเขานั่นว่าเป็นเช่นไร
    ผมไม่ไช่กวี และแต่งกลอนได้ แต่ไม่เคยได้ดีจนตัวเองพอในสักที
    มันเหมือนกับขาดอะไรบางอย่างที่กวีเขามีแต่ผมไม่มี
    ผมเป็นอย่างนี้ก็เลยเขียนกลอนออกมาได้แบบนี้มันคงเป็นอย่างที่ผมเป็น
    แต่สำหรับอีกบางคนผมไม่รู้ว่าเขามีพรสวรรค์หรือได้พรแสวงมาเช่นไร
    เขากับมีจินตนาล้ำเลิศสามารถที่แต่งกลอนจนเรามีมโนภาพขึ้นในใจได้และรู้ได้เลยว่ามันสวยงามยิ่งนัก  เสาวรสจนี นารีปราโมทย์ พิโรธวาทัง สันลาปังคพิสัย ทุกอย่างช่างได้อรรถรสยิ่งนัก
    ผมคิดว่านะความมีศิลปินความมีพรสวรรค์ย่อมมาก่อน
    แล้วค่อยแสวงหาความรู้ในการที่จะนำมาเรียงรอยถ้อยคำแห่งบทกวี
  • อัสสุ

    18 พฤษภาคม 2549 09:32 น. - comment id 14308

    เรนสาวน้อยยยย
    
    ไม่กล้าออกความเห็นนนนนน
    
    พี่ก็ใช่เก่งหรอก
    
    ถามคนรู้เดี่ยวเขาแนะนำเอง
    
    อ้ำอึ้งอยู่นั้น  เขาไม่รู้ว่าเราเป็นไง
    
    เลยแสดงออกบ้าง
  • อัสสุ

    18 พฤษภาคม 2549 09:37 น. - comment id 14309

    พี่เรไร.............
    
    อย่างที่พี่ว่า  ผมก็หัดมาพอควร
    
    แม้ว่าจะไม่ถึงกับว่าหนักหนา
    
    แต่ก็หัดแต่งบ้าง  ยามอารม์มันมา
    
    มีอารมณ์แต่ง  บางทีไม่ได้แต่งเป็นสอง
    
    สามเดือน ยังเหมือนกับว่าดีขึ้นกว่าเก่า
    
    ความเป็นจริง ไม่แต่งติดต่อกันน่าจะฝือฝื่อ
    
    แต่งไม่ค่อยออก  กลับกัน มันดีกว่าอันเก่า
    
     แต่พอแต่งทุกวันๆ ๆ เริ่มจะฝืด มันเหมือนจะ
    
    หมดเรื่องจะแต่ง
    
    อิอิอิอิอิอิอิอิอิอิอิ
  • อัสสุ

    18 พฤษภาคม 2549 09:43 น. - comment id 14311

    คุณเมฆฟ้า..........
    
    ผมก็ว่าอย่าง ที่คุณว่าแหละ
    
    พรสวรรรค์มาก่อน  บางคนฝึกแต่งกลอน
    
    เท่าไหร่ก็ไม่ได้
    
    แม้แต่นักเขียน บางคนนะครับ  ออกตัวเลย
    
    ว่า แต่งกลอนไม่เป็น  ไม่ดี ทั้งที่นักเขียน
    
    มีจินตนาการ ความคิดสูงอยู่แล้ว
    
    แต่ก็แต่งกลอนไม่เป็น  มันน่าแปลกนะครับ
    
    เห็นด้วยครับ  พรสวรรค์มาก่อน ในการแต่ง
    
    บทกวีต่างๆ ๆ
  • กุ้งหนามแดง

    18 พฤษภาคม 2549 10:18 น. - comment id 14313

    จะรู้ได้อย่างไรว่ามันเป็นพรสวรรค์ ถ้าไม่แสวงซะก่อน..
    
    โดยส่วนตัวคิดว่าต้องชอบก่อน จึงมีการแสวงหา แล้วอาจจะนำไปสู่การค้นพบที่ยิ่งใหญ่ว่า ตัวเองมีพรสวรรค์หรือไม่.. ก็เป็นได้.. แต่ถ้าใจไม่ชอบต่อให้มีพรสวรรค์ ก็เปล่าประโยชน์..
    
    :)
  • ห้วงคำนึง

    18 พฤษภาคม 2549 11:10 น. - comment id 14315

    http://www.thaipoem.com/forever/ipage/poem88531.html
    
    แต่งได้ไม่ดีหรอกครับ
    นี่ไม่ใช่ ฉันท์บทแรกๆที่ข้าพเจ้าแต่งได้
    ยังมี ฉันท์อีกเป็นกระบุง ที่ไม่ได้นำมาลงในเว็ป นี้
    คำประพันธ์ลักษณะอื่นก็พอได้เช่นกัน
    
    หลายคนบอกว่า ข้าพเจ้ามีพรสวรรค์
    เพราะว่า  การที่ นักเรียนคนหนึ่ง ที่เรียนแค่ระดับมัธยมนั้น  แต่งกวีได้ไพเราะเพราะพริ้งขนาดนี้ ถือว่าไม่ธรรมดา
    ถูกต้องแล้วครับ ผมเป็นนักเรียนอยู่
    
    แต่ผมก็ไม่ได้สนใจเรื่องพรสวรรค์เท่าใด  และไม่คิดว่าตนเองจะมีเช่นนั้น ก็ยังพยายามศึกษาเรื่องบทกวีเหมือนเดิม
    
    ทั้งสองอย่างคงจะมีส่วนช่วยผมล่ะมั้งครับ 
    ..พรสวรรค์ มักคู่ กับ พรแสวง..
    ขึ้นอยู่กับว่า อย่างไหนมากกว่ากัน?1.gif
  • ..สีน้ำฟ้า..

    18 พฤษภาคม 2549 12:28 น. - comment id 14319

    ขอบใจนะ อัสสุ ที่ตั้งกระทู้เปิดประเด็นไว้ให้ได้อ่าน
    
    ของพี่.. เห็นด้วยกับคุณเรไรมาก
    
    พรสวรรค์เป็นแรงบันดาลใจ  แต่ในแรงบันดาลใจจะต้องอาศัยองค์ประกอบของพรแสวง ที่เก็บเกี่ยวมารวมกัน
    
    คนที่เป็นนักเขียน  คนที่ถูกเรียกว่านักเขียน ฟังดู \"ศักดิ์สิทธิ์\"  มากสำหรับพี่ 
    
    ปกติไม่เคยเรียกตัวเองว่านักเขียนเลย นับตั้งแต่เคยถูกท้วงติง เรื่องสมัยเด็กที่ใช้นามปากกว่า \"นักกวีห่วย\"  ตอนนั้นพี่จุ้ย \"ศุ  บุญเลี้ยง\"  เขากล่าวถึงบทกวี ว่ามันไม่ได้ห่วย และนักกวีก็ไม่เคยห่วย  แต่ถ้าจะห่วยเป็นที่ตัวเราทำให้ภาพพจน์มันเสีย หรืออะไรประมาณนั้น  นานมาแล้วค่ะ  ซึ่งนานจนพี่เขาก็คงจำไม่ได้ ว่าได้สร้างความประทับใจให้เด็กผู้หญิงอายุ 16-17 มาจนถึงทุกวันนี้ นำความและคำ เท่าที่พอจะจับใจความแล้วจำได้ มาเป็นบรรทัดฐานในการเขียนงานเขียนบางชิ้น
    
    หลายครั้งค่ะ ที่ใช้อารมณ์และภาษาเป็นสิ่งจูงใจให้งานเขียนเสร็จ 1 ชิ้น แต่พอเราได้ไปอ่านงานเก่า ๆ จะทำให้รู้ผิด รู้ถูก และปรับปรุงตัวเอง
    
    เขียนไปเถอะค่ะ เมื่ออยากเขียน แต่ถ้ารู้จักจะนำงานเก่า กับงานใหม่มาเปรียบเทียบกัน จะทำให้ฝีมือเราพัฒนาขึ้น
    
    อันนี้ความเห็นส่วนตัวนะ  ไม่ใช่เคล็ดลับอะไรหรอก ตามประสาคนชอบอ่านและเขียนค่ะ
    
    62.gif
  • รุ้งสวรรค์

    18 พฤษภาคม 2549 17:27 น. - comment id 14323

    นักเขียน 
    กับนักกวี 
    ต่างกันที่
    ว่านักเขียนไม่ต้องใช้คำคล้องจอง
    แต่นักกวี ต้องหาคำที่คล้องจองกัน
    และทำตาม โครงสร้างของกลอนต่างๆ 
    เช่นกลอนแปด  กลอนสุภาพ ฯลฯ
    
    ผมคิดว่า การแต่งกลอน
    เป็นพรสวรรค์ เนื่องจาก
    คนที่ไม่มีพรสวรรค์ทางด้านนี้
    จะไม่สามารถที่จะแต่งกลอน
    หรือคิดถึงสิ่งที่จะแต่งและแต่งให้สอดคล้องกัน
    ได้ตลอดของกลอนแต่ละบท แต่ละเรื่องได้
    
    จึงขอฟันธงครับ
    
    ส่วนนักเขียน ก็อาจจะเป็นพรสวรรค์
    กับพรแสวง เนื่องจากเรื่องอาจจะหักมุมได้
    แต่กลอนถ้าหักมุม มันจะไม่งดงามครับ
    
    ฟันธง
  • อัลมิตรา

    18 พฤษภาคม 2549 19:06 น. - comment id 14326

    แต่งกลอนได้บ้างนิดหน่อย ไม่รู้ว่าเป็นพรสวรรค์หรือพรแสวง
    หรืออาจจะไม่มีเลยทั้งสองอย่าง
    หรืออาจจะมีเพียงอย่างละหน่อยน้อยนิด
    
    ป้วนเปี้ยนเขียน .. อัลมิตรายังไม่รู้จุดของตัวเองเลย
    
    นักเขียนเหรอ .. ก็ไม่มั๊ง
    กวีเหรอ .. ยิ่งไม่ต้องกล่าวถึง ฝีมือยังไม่ถึง
    
    อ่านคอมเม้นท์ของหลายคน 
    โดยขณะที่พยายามไม่เอาข้องเกี่ยวกับสิ่งที่อัลมิตราจะตอบ
    แต่ก็ชอบอยู่ประโยคหนึ่งที่ว่า ต้องชอบก่อน
    
    หากถูกใจคำตอบ ทิปงาม ๆ ให้คุณกุ้งหนามแดงละกัน ..
    เพื่อนย่อมรู้ใจเพื่อน เนอะ ..
  • อัสสุ

    18 พฤษภาคม 2549 19:10 น. - comment id 14327

    กุ้งหนามแดง.................
    
    ไม่รู้จะเป็นไงแน่นะครับ
    
    พรอันใดจะสมเหตุสมผล
    
    คุณว่ามันก็ถูกนะ
    
    แต่เขา ที่ว่าๆ ๆ มา 
    
    ข้างบนว่าพรสวรรค์นะครับ
    
    แต่ไม่ค้านคุณนะครับ
    
    36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif
    
    ห้วงคำนึง..........
    
    อืมทั้งสองอย่างที่คุณว่าละครับ
    
    แต่ผมค่อนข้างล้ำไปทางพรสวรรค์มากว่านะ
    
    ครับ  อย่างไงก็ดี
    
    มันเชื่อมโยงกันล่ะนะ
    
    ถ้าไม่ฝึกใยจะดีได้
    
    แต่ส่วนมาก
     
    นักกวี ถ้าเน้นกวีแล้ว ไม่ค่อยเห็น
    
    นักเขียนท่านไหนเปลี่ยนไปแนวอื่น  
    
    แต่งกวีก็จะกวี  น้อยนักจะเปลี่ยนแนว
    
    แล้วจะดีกว่าเดิม
    
    ส่วนนักเขียน ก็ไม่แต่งกวี จนดีกว่าการเขียน
    
    ไม่ว่าอย่างไร
    
    การทำเป็นประจำ มันทำให้คล่องครับ
    
    36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif
    
    พี่สีน้ำฟ้า............
    
    ผมก็ชอบอ่านหนังสือเหมือนกัน
    
    แต่อ่านแล้วไม่ดี ไม่ชอบก็จะหยุด
    
    ส่วนมากจะชอบแนวสะท้อนสังคม
    
    อิงประวัติศาตร์  อะไรทำนองนี้
    
    แต่ช่วงนี้ไม่มีตังค์ซิ้อหนังสือ  เลยพักอ่านนวนิยาย
    
    และเรื่องเรียน มันบีบรัดจนทำอะไร
    
    ที่ชอบๆ ๆ ไม่ได้
    
    ชื่นชมนักเขียนหลายท่านเหมือนกัน
    
    36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif
    
    รุ้งสวรรค์............
    
    มันก็จริงนะครับ
    
    นักเขียนถึงจะแต่งไม่ต้องอาศัยกฏเกณฑ์
    
    มาบังคับ  แต่สำนวน และการบรรยาย
    
    ที่สวยหรู่ อ่านเพราะ  ให้ติดใจ นั่น
    
    ผมว่านวนิยาย จะให้บรรยากาศอย่างนั้น
    
    มากว่าบทกลอนครับ
    
    แต่งนักกวีจะเขียนให้ดีเท่านักเขียน
    
    มีน้อยนะครับ
      
    เท่าที่อ่าน ๆ ๆ มา  แต่งกลอน เยี่ยมแล้ว
    
    แต่สำนวนการเขียนเหมือนเริ่มใหม่เลย
    
    (เคยอ่านของนักกวีท่านหนึ่งที่หันไปเขียนนวนิยาย)
    
    
    อย่างว่าละครับ
    
    มันคนละด้านกัน
    
    36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif
    
    ผมก็ไม่เก่งอะไรหรอกครับ
    
    แต่ชอบ  ชอบจริงๆ ๆ 
    
    36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif
    
    ขอบคุณที่ทักทายกันนะครับ
  • อัสสุ

    18 พฤษภาคม 2549 19:17 น. - comment id 14328

    พี่อัลมิตรา...............
    
    แหมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม
    
    ไม่ต้องถ่อมหรอกมั้ง
    
    ดูจากบทกลอนและการเขียนอย่างอื่น
    
    ผลงานพิสูจน์อยู่ครับ
    
    โดยเฉพาะบ้านธรรมะ................
    
    เคยเข้าไปอ่านอยู่เยอะนะครับ
    
    ขอบคุณนะครับ
    
    ที่เข้ามาอ่าน
    
    ไม่เคยเห็นทักทายอัสสุสักที
    
    36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif
  • อัลมิตรา

    18 พฤษภาคม 2549 23:30 น. - comment id 14337

    โดยเฉพาะบ้านธรรมะ..............??? 
    
    บ้านไหนเหรอ .. โดยปกติ ก็เขียนที่บ้านกลอนไทยที่เดียวนะ นานๆ จะแว๊ปไปเยือนเพื่อนที่เวปอื่นบ้าง แต่ก็น้อยเต็มทน
  • อัสสุ

    19 พฤษภาคม 2549 09:07 น. - comment id 14339

    พี่อัลมิตรา.............
    
    ไม่ต้องทำไกค์เลยครับ ลานกวีธรรมไงครับ
    
    ไปสืบไว้หมดแล้ว
    
    อืออือือือือือือ
    
    สายสือบสะดือ นะครับน่ะ
    
    20.gif20.gif20.gif20.gif20.gif20.gif
    
    ไปทำอะไรไว้ นึกว่าใครจะไม่รู้หรอ
    
    แต่อัสสุ คงไม่มีใครรู้หรอกมั้ง
    
    เพิ่งเล่นเน็ตไม่ได้นาน
    
    (ไม่ต้องค้นหาข้อมูลนะครับ)
    
    อิอิอิอิอิอิ
    
    ขอบคุณที่ทักทายอีกรอบครับ
    
    เดี๋ยวไปเจาะข้อมูลก่อน
    
    74.gif74.gif74.gif74.gif74.gif
  • แดดเช้า

    19 พฤษภาคม 2549 09:22 น. - comment id 14340

    ลานกวีธรรม ... ของพี่ดอกแก้วไม่ใช่เหรอ
    
    สืบข้อมูลมายังไงอะ เด็กน้อยอัสสุ
    
    ฮา ... ตามมาแกล้งเด็ก คริ คริ
  • อัสสุ

    19 พฤษภาคม 2549 09:47 น. - comment id 14342

    พี่แดดเช้า...............
    
    อ่าวหรอ............
    
    แต่เห็นชื่อพี่เขาอยู่นะครับ
    
    อย่างว่าละครับ
    
    ชื่อพี่ดอกแก้วเยอะกว่า
    
    เดี๋ยวไปสืบใหม่ครับ
  • อัลมิตรา

    19 พฤษภาคม 2549 10:44 น. - comment id 14344

    สืบให้ชัดเจนด้วยนะ ว่าอัลมิตราเอาไปลงเอง
    หรือคนอื่นช่วยเอาไปลง
    
    ถ้าลอง search google .. แล้วจะพบว่า
    ในเวปอื่น ๆ ก็มีอีกแยะ ที่มีกลอนของอัลมิตรา
    แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่า อัลมิตราไปลงกลอนเองทั้งหมดนะ
    บางเวปลงรูปด้วยอีกต่างหาก ยังนึกขำเลย
    ตัวจริงของอัลมิตราน้ำหนักแค่ 55 กก. 
    แต่ในรูปดูแล้วน้ำหนักไม่น่าจะต่ำกว่า 90 กก.
    
    อัลมิตรากำลังคิดว่า จะเลือกทำน้ำหนักให้ได้เท่านั้น ดีหรือเปล่าหนอ ?
  • อัสสุ

    19 พฤษภาคม 2549 12:40 น. - comment id 14353

    พี่อัลมิตรา.............
    
    ผมสืบมาแระ
    
    ส่วนมากคนอื่นเอาไปลงอย่างว่าล่ะ
    
    ไปเจอทุกที่เลย ชื่อพี่นี่ ทั้งเว็บ คนเข้าน้อย
    
    แต่คนเข้ามากกกกกกกกก
    
    ไม่ว่าที่ไหน  มีคนยินยอ ยกย่องทั้งนานนะ
    
    ครับ  ก็ไปสืบทาง google นั่นแหละ
    
    มันเยอะมากกกกกกก
    
    เดี๋ยวไปเจาะต่อ
    
    รู้สึก แค่นี้ยังไม่ลึกพอครับ
    
    46.gif46.gif46.gif46.gif46.gif46.gif46.gif
  • พุด

    19 พฤษภาคม 2549 20:57 น. - comment id 14361

    16.gif
    สำหรับพี่พุด
    เกิดมาก็กับใจดวงนี้
    รักที่จะอ่าน
    และ
    สะสมประสบการณ์นานมาก
    จาการอ่านจึงมาเขียนค่ะ
    และ
    ทุกอย่างทำด้วยความรักความสุขค่ะ36.gif
  • น้องกูซ่าคัฟ (แดนไกล)

    20 พฤษภาคม 2549 00:03 น. - comment id 14365

    การแต่งกลอน......
    ตามที่ผมคิดนะครับ มันก็ต้องมีพรสวรรค์
    จะมีมากหรือน้อยก็อีกเรือง
    แต่ที่สำคัญที่สุดคือ จะต้องมีพรแสวง
    ไม่งั้นเราก็จะไม่มีกำลังพอที่จะดึงเอาพรสวรรค์มาใช้อย่างเต็มที่ที่สุด
  • อัสสุ

    20 พฤษภาคม 2549 07:10 น. - comment id 14368

    พี่พุด..............
    
    ใช่ครับ  ถ้าขาดการอ่าน
    
    จะไม่มีข้อมูลและหลั่นความรู้สึกออกมาได้
    
    ผมก็ชอบอ่านหนังสือครับ
    
    เห็นด้วยอย่างยิ่งครับ  แต่ที่ผมอ่าน มาอ่าน
    
    ช่วง  ม.ปลาย ไม่กี่ปีนี่เอง
    
    และแล้วมา ก็ไม่ค่อยได้อ่าน  
    
    มัวแต่สอบ o-net  a-net  
    
    ..................................................
    
    น้องกูซ่าคัฟ..............
    
    คับก็เห็นด้วยอย่างที่ว่า
    
    ยังไงถ้าไม่ฝึก
    
    มันก็ไม่เป็น
    
    ต้องมีพรอย่างว่าด้วย
    
    ..................
  • พระจันทร์เศร้าฯ

    20 พฤษภาคม 2549 08:55 น. - comment id 14369

    ไม่รู้นะ ว่า พรสวรรค์หรือพรแสวง
    รู้แต่มีอารมณ์ก็เขียน ไม่มีก็ไม่เขียน
    ง่าย ๆ แค่นี้แหละ น้องเอ๋ย
    และกลอนใครเพราะกว่าใคร ก็ไม่ใช่ประเด็นอีก ขึ้นกับคนอ่านนะ คนอ่านชอบก็คือชอบ มันอาจไปตรงใจเขา ตรงกับความรู้สึกเขา ก็แค่นั้น
    อย่าคิดมากเลยนะ อยากเขียนก็เขียน ไม่อยากก็อย่าฝืน
  • ดอกข้าว

    20 พฤษภาคม 2549 14:53 น. - comment id 14372

    คุณน้องอัสสุจิ ปุริ คุณพี่ดอกข้าวไม่มีพรแสวง ไม่มีพรสวรรค์ มีแต่พวงสรรค์อันเดียวครับ..
    
    71.gif
  • อัสสุ

    23 พฤษภาคม 2549 19:30 น. - comment id 14398

    พี่พระจันทร์เศร้า...............
    
    ครับ
    
    ความคิดย่อมแตกต่าง
    
    แต่ตอนนี้ผมไม่มีเวลา
    
    และคอมก้มีปัญหา
    
    เลยไม่มาโพสอย่างเก่า
    
    ....................................
    
    ดอกข้าว....................
    
    แหม..................
    
    พี่ชั่งอารมณืขันจังนะครับ
    
    .....................................
    
    ขอโทษนะครับ
    
    ผมตอบกระทู้ยาวๆ ๆ ไม่ได้อย่างที่แล้วๆ ๆ มา
    
    ใช้คอมคนอื่น
    
    คอมพังครับ
    
    36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif29.gif29.gif29.gif29.gif29.gif29.gif
  • nongart

    5 พฤศจิกายน 2551 04:10 น. - comment id 21887

    เป็นคำถามที่ต้องการรู้คำตอบ
    หรือชอบที่จะรู้คำตอบหลังจากที่ได้ถาม
    ทุกสิ่งทุกอย่างมีคำว่าความพยามอยู่ที่ไหน
    ความสำเร็จอยู่ที่นั้น
    ฉะนั้นถามตัวเองดูก่อนว่าเราพยายามพอหรือยัง
  • Engineering machinery fittings

    21 สิงหาคม 2552 05:57 น. - comment id 23707

    Engineering machinery fittingsศหย�ฬณน๚ผสEngineering machinery fittingsศหIADerย�ฬณท�ฮ๑ำฺึะน๚Engineering machinery fittingsศหกขสภฝ็Engineering machinery fittingsศหกขEngineering machinery fittingsนซหพฬ์ฝ๒eq2 platษ่ผฦฬ์ฝ๒eq2 platึฦื๗ฬ์ฝ๒eq2 platทขฒผฬ์ฝ๒eq2 platบฤฒฤตฤฯเนุืษัถ.ึะน๚eq2 platอ๘,บฃฤฯศ�ัวeq2 platตศตุeq2 platะลฯข,พฐตใฝ้ษ�,,ื้อลeq2 platท�ฮ๑,eq2 platฯ฿ยทฑจผ�,eq2 platิคถฉ, CHINA eq2 platึะน๚eq2 platะญปแ, ึะปชeq2 platะลฯขอ๘, น๚ผสeq2 platศห, ึะน๚รฝฬๅeq2 platฟฏภ�อ๘. ึะน๚eq2 platรฝฬๅอ๘,eq2 platinum ปงอโeq2 platinum ณตฬๅeq2 platinum รฝฬๅี�ฟ�eq2 platinum ฑจผ�มะณตeq2 platinum eq2 platinum ึฦื๗eq2 platinum ภ๑ฦทดูฯ๚ป๎ถฏeq2 platinum ำกหขeq2 platinum  escort beijingนซหพ-ถซทฝังธฎescort beijingนซหพสวำษฒฉสฟบ๓ดดฐ์ตฤืจาตะิescort beijingนซหพกฃescort beijingนซหพษฝฮ๗escort in beijing,ึะน๚escort in beijing,ึะน๚escort in beijingอ๘,escort in beijing,ึะปชescort in beijing,ฬซิญescort in beijing,ษฝฮ๗,escort in beijingพฐตใ,escort in beijingอผฦฌศีีีevaporative coolingะยฮลฑ๖น�ศ๗ต๊ยระะษ็evaporative coolingพฐตใะลฯขกฃ
  • พระมหาร้อยเอ็ด

    3 มกราคม 2553 12:02 น. - comment id 26761

    ทุกท่านมีพรสวรรค์อยู่ในตัว  และพรสวรรค์เกิดดับเป็นช่วงๆ แล้วแต่เหตุปัจจัย  การจะแต่งกลอน กวี ได้ดีนั้น พรสวรรค์คู่พรแสวงแต่คือแสวงหาคำที่เหมาะสมถูกต้อง ..เบื้องต้นนักกวีแต่กวีด้วยใจ..แต่เมื่อชำนาญแล้ว..อย่าพึ่งเชื่อว่าเขาจะแต่งด้วยใจ....
    ความรักทำให้คนเป็นกวี
    ความรู้ดีทำให้คนมีคุณค่า
    ความทุกข์ทำให้คนเป็นปรัชญา
    ความชั่วช้าทำให้คนเป็นสัตว์

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน