เกิดมาเป็นอย่างนี้ได้อย่างไร (คัดลอก)
ยัยแว่นน้ำเงิน
เพื่อเผยแพร่เป็นความรู้และเป็นข้อคิด แก่ชีวิต
ไม่ได้มีเจตนาใดอันเป็นเครื่องหม่นหมองใจ
บางคนใช้ชีวิตกว่าครึ่งชีวิต หมกมุ่นอยู่กับคำถามซ้ำๆ เช่น ทำไมเกิดมาพ่อแม่ฐานะความเป็นอยู่อัตคัดขัดสน ทำไมต้องเกิดมาเป็นหญิงเสียเปรียบเขาอยู่ร่ำไป ทำไมรูปไม่งามแถมนามยังตลก ไม่มีอะไรเป็นที่เชิดหน้าชูตาสักอย่าง
หรือบางคนแม้เหมือนมีพร้อมทั้งสมบัติ รูปสมบัติ และคุณสมบัติ ก็ต้องทรมานใจกับข้อบกพร่องเล็กใหญ่ในชีวิต เช่นฐานะร่ำรวยแต่เต็มไปด้วยฐานะหนักอก เป็นชายแต่ใจแอบเป็นหญิงสวยหล่อแต่ตัวเตี้ยขาสั้นเต่อ เรียกว่าเจอปัญหารบกวนจิตใจเดิมๆได้ตลอด มองคนอื่นรอบตัวเขาไม่เห็นต้องทนทุกข์ทรมานกับปัญหาเช่นตนกันเลย
หากเคยน้องใจกับชะตากรรมของตนเองมาก่อน คนที่คงโดนเรากล่าวโทษมากที่สุดเห็นจะได้แก้บุพการีผู้ให้เฃกำเนิด ให้เราเกิดมาแล้วไม่รู้จักเลี้ยงให้ได้ดีมีความสุขสมบูรณ์อย่างลูกคนอื่น อันดับต่อมาน่าจะได้แก่เทวดาฟ้าดิน อุตส่าห์ทำดีเหตุใดจึงไม่แลเห็นและตกรางวัลแก่เรามากๆ
และแม้คนไทยบางส่วนถูกสอนมาถูกทาง คือให้หมั่นท่องติดปากว่าเรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้ "มันเป็นกรรมเก่าของเราเอง" แต่ก็มักเป็นการท่องแบบนกแก้วนกขุนทอง เอาไว้ปลอบใจตนเอง มากเสียกว่าที่จะตระหนักว่านั่นเป็นความรู้อันควรลงให้ลึกและเข้าใจลึกซึ้ง จำแนกละเอียดเป็นเรื่องๆว่าที่กำลังเป็นอยู่ ที่กำลังพอใจหรือไม่พอใจมาจากการกระทำแบบไหน เพื่อความรู้แจ้ง เพื่อความสังวรระวังและเพื่อความเร่งรัดให้ตนพัฒนาต่อๆไป ทั้งในด้านที่ดีอยู่แล้วและในด้านที่ยังบกพร่องอยู่
พระพุทธองค์ตรัส คือสัตว์ทั้งหลายมีกรรมเป็นของตัวเอง มีตนเป็นทายาทแห่งกรรม มีกรรมเป็นกำเนิด มีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์ มีกรรมเป็นที่พึ่งอาศัย กรรมย่อมจำแนกสัตว์ให้เลวและประณีตได้
ผู้ที่เชื่อความจริงนี้ย่อมเลิกเรียกร้องสิ่งใดจากผู้อื่น แล้วหันมาเรียกร้องเอาสิ่งที่ตนปรารถนาจากปัจจุบันกรรมของตัวเอง และต่อไปหากน้อยใจชะตาหรือสภาพความเป็นอยู่ต่างๆ ก็คงน้อยใจตนเองในอดีต ไม่น้อยใจ "ผิดตัว" อย่างที่แล้วๆมา กับทั้งตระหนักในสิ่งที่ควรตระหนัก เช่นโดยธรรมชาตแล้วเราควรกราบกรานแทบเท้าขอบพระคุณพ่อแม่ ไม่ว่าท่านจะเลี้บงดูเรามาอย่างไร หรือแม้กระทั่งกระทำต่อเราเช่นไรก็ตาม เหตผลหลักคือ พวกท่านเป็นประตูนำเราเข้าสู่เส้นทางมนุษย์ อันเป็นที่สุดแห่งศักยภาพการพัฒนาตนเองรวมทั้งตระหนักว่าเทวดานางฟ้าท่านเคยทำดีมาสมควรไปเสวยสวรรค์เพื่ออยู่เล่นเป็นสุข ไม่ใช่ต้องมาคอยสอดส่องมนุษย์ตั้งเกือบหมื่นล้านคนบนโลกทุกวัน หากรางวัลแห่งการทำความดีต้องขึ้นสวรรคไปคอยสอดส่องดูแลมนุษย์ราวกับเป็นขี้ข้าสิ่งมีชีวิตในภูมิต่ำกว่าไปทั้งชาติ ซึ่งอย่างนี้อย่าทำความดีหวังสวรรค์กันเลยดีกว่า เอาแค่ครึ่งๆกลางๆพอได้กลับมาเป็นมนุษย์อีกที แล้วงอมืองอเท้ารอรับความช่วยเหลือจากเบื้องบนเป็นพอ
พระพุทธเจ้าตรัสว่า ผู้สามารถมีตนเป็นที่พึ่งแห่งตนนั้น นับได้ว่าได้ที่พึ่งอันหายาก และในแง่ของการเป็นที่พึ่งแห่งตนระยะยาว ก็ควรต้องรู้จักกรรมฝ่ายดีและฝ่ายชั่ว รู้ว่ากรรมอันใดดีจะได้ทำให้มากเพื่อเป็นเรือใหญ่อาศัยแล่นไปในมหาสมุทรแห่งภพภูมิรวมทั้งรู้ว่ากรรมอันใดชั่วจะได้หลีกเลี่ยงให้ห่างเพื่อไม้ต้องโดนมันโยนลงน้ำไปลอยคอลำบากลำบน